ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) - บทที่155 ทำให้หลงเฉียนตะลึงตะลาน
บทที่155 ทำให้หลงเฉียนตะลึงตะลาน
“เสื้อผ้าร้านนี้คงจะแพงน่าดูสินะ แค่ดูก็พอ”กั่วเหมิงจ้องเขม็งไปชุดที่อยู่ในตู้แล้วพูดขึ้น
“ลองดูก็ไม่เสียเงินนี่นา คุณครับ รบกวนหยิบชุดนั้นออกมาให้ลองหน่อยครับ”หลินหยางยิ้มให้พนักงานขาย
พนักงานขายพินิจดูหลินหยาง แม้ว่าจะแต่งตัวธรรมดา หน้าจืดๆ แต่ก็ไม่มีท่าทีลนลาน กลับดูเงียบสงบ คิดอยู่ในใจว่าไม่น่าจะใช่คนจน จึงยิ้มเล็กน้อยแล้วเปิดตู้ออก หยิบชุดสีน้ำตาลในตู้ออกมา
เมื่อหยิบชุดเข้าไปในห้องลองชุด ผ่านไปห้านาที กั่วเหมิงจึงออกมาจากห้องลองชุด
พอเห็นกั่วเหมิงเดินออกมา หลินหยางตาเป็นประกายไม่หยุด ปกติกั่วเหมิงแต่งตัวทันสมัย แต่ว่าก็แต่งตัวแนววัยรุ่น ชุดทำงานชุดนี้ เอวคอด บ่าเรียบ ใส่แล้วดูเหมือนผู้บริหาร
“ไม่เลวนี่นา หมุนสองรอบให้ผมดูหน่อย”หลินหยางมองดูกั่วเหมิงพลางพูด แววตาก็คอยจ้องเธอไม่กระพริบ เสื้อผ้าที่รัดรูปทำให้อกเธอดูเด่นชัด แม้ว่าจะไม่ได้กระเพื่อมใหญ่โต แต่ก็ดูเข้ารูปดี
“คุณผู้หญิงสวมชุดนี้แล้วดูดีมากค่ะ ถ้าใส่กับแลคกิ้งสีดำ รองเท้าส้นสูงหนึ่งคู่ จะยิ่งออกมาดูดีค่ะ”พนักงานขายมีพรสวรรค์ในการแนะนำมาก เมื่อเห็นกั่วเหมิงสวมใส่ จึงรีบหยิบแลคกิ้งกับรองเท้าส้นสูงที่เข้าคู่กันออกมา
เมื่อเห็นตัวเองในกระจก เธอดูเป็นผู้ใหญ่และมีประสบการณ์ ดูมีเสน่ห์เย้ายวน กั่วเหมิงดีใจจนไม่ได้ดูราคา หยิบชุดที่พนักงานเตรียมให้ แล้วกลับไปที่ห้องลองชุดอีกครั้ง
รอจนกั่วเหมิงออกมา สายตาของหลินหยางมองตรง กางเกงแลคกิ้งสีดำดูเข้าชุด แนบเนื้อเล็กน้อย ทำให้บั้นท้ายดูงามงอน เรียวขาท่อนยาวสวมใส่รองเท้าส้นสูง ยิ่งทำให้เธอดูสะโอดสะองขึ้น พนักงานขายเองก็มองอย่างตกตะลึง
“คุณผู้ชายคะ แฟนคุณสวมแล้วดูสวยมากเลย ชุดนี้เหมาะมากเลยค่ะ ราวกับตั้งใจทำออกมาให้เธอก็ไม่ปาน”พนักงานสาวกล่าวชม
ในเมืองซินไห่ เป็นเมืองท่าน้ำของประเทศ เป็นเมืองที่พัฒนาแล้ว ตอนกลางคืนผู้คนพลุกพล่าน ร้านนี้เองก็มีคนเข้ามาดูชมไม่น้อย
เมื่อเห็นรูปร่างที่สะกดตา หน้าตาหมดจด ผู้ชายทุกคนในร้านต่างก็หันมามองกันเป็นแถว
“มองอะไร คนเขามีเจ้าของแล้ว!”พวกผู้หญิงต่างส่งเสียงระงม ดึงดูดสายตาผู้คนไม่น้อย
หลินหยางหันหน้าไปมอง ที่ไม่ไกลออกไปมีผู้ชายคนหนึ่งมองมาที่กั่วเหมิงอย่างลามก แต่ก็โดนผู้หญิงข้างๆอบรม ส่วนสายตาที่หญิงคนนั้นมองมาที่กั่วเหมิง ก็มีแต่ความอิจฉาริษยา
“ฉันก็อยากจะได้ชุดแบบนั้นบ้าง นี่คุณ เอามาให้ฉันชุดนึง”ผู้หญิงคนนั้นเดินมาพูดเสียงดัง
“คุณผู้หญิงท่านนี้ขอโทษนะคะ ในร้านเรามีแบบนี้แค่ชุดเดียวค่ะ เป็นรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น”พนักงานขายยิ้มอย่างถ่อมตน
“ว่าไงนะ มีชุดเดียวเหรอ ไม่มีของแล้วยังจะมาเปิดร้านอะไรอีกล่ะ”พอผู้หญิงคนนี้ได้ยินว่าไม่มีของ จึงรีบพูดออกมาอย่างไม่พอใจ
“ขอโทษนะคะ มีชุดเดียวจริงๆ ทั้งเมืองซินไห่หาชุดที่สองไม่ได้แล้วล่ะค่ะ”พนักงานขายกล่าวขอโทษ
กั่วเหมิงที่กำลังสวมชุดอยู่พอได้ยินจึงอ้าปากค้าง ร้านนี้เดิมทีก็เป็นแบรนด์ต่างประเทศอยู่แล้ว ไม่มีชุดไหนที่ราคาถูกเลย ยิ่งชุดนี้เป็นรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นด้วย ราคาไม่สูงทะลุฟ้าไปแล้วเหรอ
“ชุดนี้รวมทั้งชุดราคาเท่าไหร่คะ”กั่วเหมิงถามเสียงค่อย
“ตัวบนแปดหมื่นแปด กางเกงแปดพัน รองเท้าหกพันหก รวมทั้งสิ้นหนึ่งแสนสองพันหกร้อยหยวนค่ะ ถ้าซื้อทั้ง เซ็ตลดเหลือหนึ่งแสนสองพันถ้วนค่ะ ”พนักงานขายยิ้มกล่าว
“แพงขนาดนี้ ไว้คราวหน้าฉันค่อยมาดูใหม่นะคะ”หลังจากที่ได้ยินจำนวนตัวเลขมหาศาล กั่วเหมิงตกตะลึง จึงคิดจะไปถอดชุดที่ห้องลอง
“ไม่มีเงินแล้วจะมาลองชุดอะไรล่ะ ลองจนสกปรกแล้วคนอื่นจะใส่ต่อยังไงล่ะ”หญิงคนนั้นพอได้ยินคำพูดของกั่วเหมิงจึงตาเป็นประกายขึ้นมาทันที เพลิงริษยาในตอนแรก กลายเป็นการโจมตี
กั่วเหมิงแม้ว่าจะไม่มีเงิน แต่ก็ใช่ว่าจะไร้ศักดิ์ศรี พอได้ยินผู้หญิงคนนั้นว่าแบบนั้นจึงหันหน้ากลับไป“ฉันไม่มีเงินซื้อแล้วยังไง คุณมีเงินเหรอ”
“ใช่สิ ฉันมีเงินซื้อ ผัวคะ จ่ายเงินค่ะ พูดตามตรงนะ เธอลองใส่มันแล้วน่ะ ฉันก็ไม่ค่อยอยากซื้อหรอก”หญิงสาวที่แต่งหน้าจัดเบ้ปาก แววตาที่สามีของหล่อนจ้องกั่วเหมิงเมื่อครู่ ทำให้เธอไม่สบอารมณ์
“ชุดนี้ผมเอา รูดบัตร”เห็นกั่วเหมิงมีท่าแข็งๆ หลินหยางก็รู้สึกหวั่นไหว จึงพูดขึ้นเสียงเรียบ แล้วหยิบบัตรเครดิตออกมาจากกระเป๋าตังค์
พนักงานสาวพอเหลือบไปเห็นบัตรที่ส่งให้ ดวงตาเป็นประกายขึ้น บัตรทองคำขาว วงเงินบัตรอยู่ที่สิบล้าน หรือไม่ก็ต้องวีไอพีจริงๆเท่านั้นถึงจะมี ชายหนุ่มตรงหน้า กลับมีบัตรนี้ด้วยหรือ
“คุณผู้ชายรอสักครู่นะคะ จะรีบจัดการให้ค่ะ”พนักงานสาวรีบเก็บบัตรอย่างดี แล้วสาวเท้าไปที่แคชเชียร์ พูดอย่างรวดเร็วสองสามคำ แล้วรีบเก็บบัตรในขณะที่พิมพ์ใบเสร็จ ยื่นส่งบัตรคืนให้หลินหยาง
“ใช่ว่าเห็นคนอื่นใส่แล้วสวย ตัวเองใส่แล้วก็จะสวยด้วย”เขาเบ้ปาก หลินหยางฉีกป้ายราคาบนชุดกั่วเหมิงออกแล้วพูดว่า“ใส่ออกไปเลย”
กั่วเหมิงพยักหน้าอย่างงุนงง ตอนนี้เธอราวตกอยู่ในห้วงความฝัน ก่อนหน้าเธอเคยได้ยินจ้าวจินฟ่งบอกว่าหลินหยางพอมีเงิน แต่ว่าควักเงินแสน เพื่อตนเอง ทำให้ครูมหาวิทยาลัยตัวเล็กๆคนหนึ่งอย่างกั่วเหมิงรู้สึกสะเทือนใจ
“หลินหยาง เมื่อกี้ขอบคุณนายมากนะ”กั่วเหมิงมองดูหลินหยาง ดวงตาเป็นประกาย
“ขอบคุณอะไรเล่า ก็แค่ไม่อยากเห็นครูที่ผมเคารพโดนรังแก”หลินหยางพูดเล่น
“แม้ว่าขอบคุณ แต่ชุดนี้ครูรับไว้ไม่ได้จริงๆ เราเอาไปคืนดีไหม”กั่วเหมิงชี้นิ้วพูด
เห็นแววตาสับสนของกั่วเหมิง หลินหยางใจอ่อน พูดขึ้นอย่างอ่อนโยน“ก็แค่เสื้อผ้าชุดเดียวไม่ใช่เหรอ คิดเสียว่าผมให้ของขวัญครูก็แล้วกัน”
“ได้ยังไงกันเล่า ครูยังไม่ได้ช่วยอะไรนายเลย ให้ของขวัญแบบนี้ก็ยัดใต้โต๊ะน่ะสิ แล้วแถมยังเป็นของราคาแพงขนาดนี้ด้วย ”กั่วเหมิงรีบปัดมือพูด
“สุภาษิตว่าสมกับความงาม เหมิงเหมิงคุณสวยขนาดนี้ ดูแล้วสบายตา ผมยังไม่ได้จ่ายค่าดูคุณเลย ชุดนี้ผมถือเป็นค่าชดใช้แล้วกัน แต่ว่าซื้อให้คุณแล้วก็ต้องไม่ลืมคนอื่นด้วย ผมจะหาอีกร้านซื้อให้จ้าวจินฟ่งกับหนานกงหยูนคนละชุดแล้วกัน”
พอได้ยินว่าหลินหยางจะซื้อให้อีกสองสาวด้วย กั่วเหมิงก็รู้สึกผ่อนคลายลง รีบดึงมือหลินหยางไปดูตามร้านต่างๆ ใช้เวลาไปสองชั่วโมงในที่สุดก็ได้มา ส่วนในมือของหลินหยางก็มีถุงเพิ่มมาอีกสองสามใบ
“เอาล่ะ กลับได้แล้ว”หลินหยางเห็นเวลาสามทุ่ม จึงรีบเอ่ยปากเร่ง
กั่วเหมิงเองก็เริ่มเหนื่อย ทั้งสองคนโบกรถกลับโรงแรม แล้วแยกย้ายกลับห้อง
เช้าวันรุ่งขึ้น พอหลินหยางตื่นก็ไปหาสวนสาธารณะสักสวนหนึ่ง หลังจากที่รำมวยไทเก๊กเสร็จแล้ว ก็ค้นพบว่าทุกคนกำลังกินข้าวอยู่ที่ชั้นล่าง
พอหลินหยางเดินไปกินข้ากับคนอื่นๆ ผู้อำนวยการเถาจึงยิ้มและพูดขึ้น“เดี๋ยวเราไปงานสัมมนามหาวิทยาลัยซินไห่กัน ทุกคนจะต้องเตรียมบทสุนทรพจน์ของตัวเองไว้ให้ดี ทุกคนคงเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วใช่ไหม”
“พวกเราเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว”หลงเฉียนพยักหน้าหลังจากพูดจบ หันไปกวาดตามองหลินหยางพูดว่า“แต่ไม่รู้ว่าแพทย์แผนจีนเป็นยังไงบ้าง”
“ต้องให้เป็นห่วงแล้ว ผมเตรียมเรียบร้อยแล้วล่ะ”หลินหยางตอบรับ เรื่องพวกนี้เขาเองไม่ต้องเตรียมอะไรเลยด้วยซ้ำ แค่พูดในสิ่งที่ตัวเองรับรู้เข้าใจออกมาก็พอ
“งั้นเราออกเดินทางกันเถอะ”หลังจากที่ทุกคนกินข้าว ภายใต้การนำของผู้อำนวยการเถา คนกลุ่มนี้ได้มุ่งหน้าไปยังมหาวิทยาลัยซินไห่
เก้าโมงครึ่ง ในห้องโถงของมหาวิทยาลัยซินไห่ คนได้อยู่เต็มห้องหมดแล้ว หลินหยางเดินเข้าไปดูในห้องโถง แถวหน้าสุดสองแถวเป็นแถวของผู้เชี่ยวชาญ คิดว่าน่าจะเป็นที่นั่งของกรรมการ ส่วนที่นั่งที่เหลือ ก็เป็นที่นั่งของนักเรียนบางส่วน
“อาจารย์กั่วเหมิง เดี๋ยวผมพากลุ่มนักเรียนไปฝั่งโน้น คุณดูนักเรียนสามคนอยู่ทางนี้ การจัดการทุกอย่างคุณคงคุ้นเคยดีแล้วนะ”ผู้อำนวยการเถาถาม
“สบายใจได้ค่ะ ฉันคุ้นเคยทุกอย่างดี”กั่วเหมิงทำท่ามือ
“หลินหยาง เดี๋ยวนายจะพูดเรื่องอะไรเหรอ แพทย์แผนจีนหรือเปล่า”โจวโต่เด็กสาวที่นั่งเงียบๆพูดขึ้น หันมามอง หลินหยางอย่างกังขา
“ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดคงพูดเรื่องแพทย์แผนจีน อย่างไรเสียก็เป็นสาขาที่ผมถนัด”หลินหยางพูดเสียงเรียบ
“นายจะพูดด้านไหนเหรอ เดี๋ยวฉันจะพูดเรื่องการวิเคราะห์ก้อนนิ่วในปอด”โจวโต่ยิ้มให้
“ผมยังไม่ได้คิดเลย ก็ดูก่อนว่าคนอื่นพูดกันขนาดไหน ผมค่อยแสดงความสามารถแล้วกัน จริงสิ ในมือเธอถือบทสุนทรพจน์อยู่ใช่ไหม”หลินหยางขี้ไปที่เอกสารในมือโจวโต่
“อืม เตรียมมานานแล้วล่ะ ที่ควรเขียนก็เขียนลงไปแล้ว ไม่รู้ว่าจะได้รางวัลหรือเปล่า”โจวโต่ยิ้มอย่างสดชื่น
หลินหยางรับเอกสารจากมือโจวโต่ไปดู เขากวาดตามองเนื้อหาสุนทรพจน์ อดอุทานไม่ได้ ยัยหนูนี้เรียบเรียงข้อมูลได้ไม่เลวทีเดียว อายุน้อยแค่นี้ก็สามารถแสดงความเห็นเรื่องก้อนนิ่วในปอด ก็นับว่าเก่งมากแล้ว
“ดูไม่รู้เรื่องสักหน่อย วางท่าอะไรล่ะ”หลงเฉียนที่นั่งข้างๆ เห็นหลินหยางหยิบเอกสารของโจวโต่พยักหน้าไม่หยุด ก็รู้สึกไม่สบอารมณ์
“ใครว่าดูไม่รู้เรื่อง”หลินหยางมองหลงเฉียนอย่างเย้ยหยัน ชี้ไปที่บทพูดของโจวโต่พูดว่า“ดูตรงนี้สิ เธอเขียนถึงตรงนี้ แต่ว่ามีเนื้อหาที่ควรเพิ่มอีกนะ ปอดเป็นเครื่องในที่สำคัญของมนุษย์ เป็นอวัยวะที่ต่อลมหายใจ แต่ตอนนี้ติดขัด เลือดลมไหลเวียนไม่ออก……”
หลินหยางพูดน้ำไหลไฟดับ โจวโต่ที่อยู่ด้านข้างดวงตาเป็นประกาย หลินหยางชี้แสดงสองสามจุด ล้วนเป็นปัญหาที่เธอคิดไม่ตก คิดไม่ถึงว่าภายในเวลาสิบนาทีสั้นๆ หลินหยางสามารถแก้ปัญหาได้
หลงเฉียนที่นั่งข้างๆได้ยินหลินหยางอธิบาย จึงแสดงสีหน้าประหลาดใจ“นายรู้แพทย์แผนฝรั่งด้วยเหรอ”
“เวลาเรียนเบื่อๆก็เอาตำราแพทย์ฝรั่งมาดูบ้าง แต่ถ้าเทียบกับแพทย์แผนจีน แพทย์แผนจีนมีเสน่ห์กว่า”หลินหยางยิ้มอย่างมั่นใจ
พื้นฐานของหลงเฉียนไม่เลวอยู่แล้ว แค่ไม่ชอบใจที่มีแพทย์แผนจีนมาร่วมงานด้วย พอได้ยินหลินหยางพูดปกป้องแพทย์แผนจีนจึงเถียงกลับ“แพทย์แผนจีนมีดีอะไร ไม่ต้องพูดอย่างอื่น คนท้องคนไส้ก็ต้องหาหมอฝรั่งอยู่ดี หาหมอจีนดูได้เหรอ”
“ดูได้สิ ขอแค่เป็นอาการป่วย แพทย์แผนจีนรักษาได้ สิ่งที่แพทย์แผนตะวันตกรักษาได้ แพทย์แผนจีนก็รักษาได้”หลินหยางเน้นย้ำ
“นายโม้ไปเถอะ”หลงเฉียนเบ้ปากไม่ชอบใจ
“ไงล่ะ นายไม่เชื่อเหรอ ลองยื่นแขนออกมาสิ จะจับชีพจรให้ จะตรวจหาสิ่งผิดปรกติในร่างกายให้”หลินหยางยิ้มให้หลงเฉียน แสดงให้เห็นฟันขาวสองแถว
“แกสิถึงมีสิ่งผิดปรกติ กูตรวจอยู่ทุกเดือน ไม่มีปัญหาอะไรเลย จับชีพจรตรวจอะไรได้”หลงเฉียนเบนหน้าออกไม่มองหลินหยาง。
“ถ้าดูไม่ผิด หมู่นี้ตอนที่นายนอน มักจะรู้สึกเย็นสันหลังใช่ไหม”หลินหยางพูดลอยๆ หลงเฉียนที่อยู่ข้างๆสะดุ้ง