ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) - บทที่170มุ่งหน้าไปที่บริษัทตัวเอง
บทที่170มุ่งหน้าไปที่บริษัทตัวเอง
เช้าวันรุ่งขึ้น หลินหยางได้ถามที่อยู่บริษัทอย่างชัดเจน ก็ได้ขับออดี้ของตัวเองมุ่งหน้าไปที่บริษัท
หลินหยางก็ไม่รู้ว่าวันนี้ไป๋เซียนเฉ่าได้เรียนเชิญใครบ้าง แต่ว่าลองเดาดู ก็น่าจะเป็นผู้หญิงซะส่วนใหญ่
เดิมทีที่ตั้งของบริษัทไม่เหมาะที่จะอยู่ใจกลางเมือง แต่ภายใต้ไป๋เซียนเฉ่าที่ร่ำรวยเงินทอง ได้จ่ายเงินอย่างมือหนักโดยตรง ซื้อที่ๆรุ่งเรืองที่สุดของใจกลางเมืองไว้
แถมเมื่อคืน ไป๋เซียนเฉ่าได้บอกกับหลินหยางโดยตรง เพราะซื้อตึกและตกแต่งบริษัท เงินของเธอแทบจะไม่เหลือแล้ว ครีมแผลลายห้าร้อยขวดนี้ เป็นขั้นที่สำคัญมากของการหมุนเวียนเงินของบริษัท
ก่อนมาถึงบริษัท หลินหยางก็ยังถูกภาพที่อยู่ตรงหน้าทำเอาตกใจ
ที่ๆสี่แยกของใจกลางเมือง ด้านบนของตึกสูงหกชั้น ป้ายโฆษณาที่เขียนคำว่า“เซียนเฉ่าเซวียน”อย่างยิ่งใหญ่อลังการ เผยให้เห็นถึงความมีอำนาจและโดดเด่นของบริษัท
ตึกที่กว้างเกือบจะหมื่นตารางเมตร ทำเอาหลินหยางมองจนแปลกใจ ตึกๆนี้ประเมินราคาขั้นต่ำ ก็ต้องสองร้อยล้านขึ้นไป ไม่นึกเลยว่าไป๋เซียนเฉ่าจะซื้อไว้โดยตรงเลย ฝีไม้ลายมือนี้ ถึงเป็นหลินหยางก็ตื่นตะลึงมาก
แน่นอน ถึงแม้ความยิ่งใหญ่ของตึกบริษัทจะทำให้คนสั่นสะเทือน แต่ผู้คนที่พลุกพล่านไปมาหน้าบริษัท ยิ่งทำให้หลินหยางแปลกใจสุดๆ
ที่จอดรถของหน้าบริษัทได้จอดเต็มแล้ว อีกอย่างลานจอดรถของรอบๆ ดูเหมือนล้วนไม่มีที่พื้นที่ว่างแล้ว ยังมีรถไม่น้อยที่ยังไม่มีที่ให้จอด ใจกลางเมืองเหมือนจะมีสัญญาณว่ารถติด
“ไม่นึกเลยว่าจะฮอตขนาดนี้ ไป๋เซียนเฉ่าเชิญคนมาเยอะมากแค่ไหนกันแน่?” หลินหยางแอบเดาอยู่คำนึง ยิ่งรู้ฐานะของไป๋เซียนเฉ่าลึกขึ้นอีกขั้น
เข้ากันกับไป๋เซียนเฉ่ามานานขนาดนี้ หลินหยางไม่รู้เบื้องหลังของไป๋เซียนเฉ่า รู้เพียงเธอรวยมาก สำหรับสถานการณ์ของทางบ้าน เขาไม่รู้อะไรเลย
มองดูบริษัทมีความอลังการขนาดนี้ หลินหยางส่ายหัวอย่างจนปัญญา กว่าจะหาที่เจอและจอดรถให้เรียบร้อยไม่ใช่ง่ายๆ ผลักผู้คนที่พลุกพล่านออกแล้วเดินเข้าไปด้านใน
ถึงแม้คนพวกนี้เยอะมาก แต่ไม่ได้เข้าบริษัทหมด คนส่วนใหญ่แค่แปลกใจก็เลยมามุงดู
หลินหยางได้ฟังเนื้อหาการพูดคุยสนทนาของคนที่อยู่รอบๆครู่นึง ต่างก็พูดถึงเซียนเฉ่าเซวียนโดยไม่มีข้อยกเว้นเลย
“ได้ยินหรือยัง เซียนเฉ่าเซวียนนี้คือขายครีมบำรุง พวกนายรู้มั้ยว่าขวดละเท่าไหร่?” คนๆนึงถามเสียงดัง
“ครีมบำรุง? จะแพงสักเท่าไหร่เชียว? จะขายขวดละหมื่นหรือไง?”คนจำพวกนึงแบะปากเมินใส่
“หนึ่งหมื่น? ซื้อแค่ขวดคนอื่นก็ยังไม่ขายเลย! ครีมบำรุงนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างเราๆจะมีปัญญาซื้อนะ ช่วงก่อนลูกพี่ลูกน้องฉันซื้อมาขวดนึง เสียเงินไปตั้งห้าแสนเต็มๆแน่ะ!”
“ห๊ะ อะไรนะ? ห้าแสน? แบ็งค์กงเต็กมากกว่ามั้ง?” คนที่อยู่รอบๆนึกว่าเขากำลังโม้ทันที
“เย็ดแม่ง กูเหมือนคนที่พูดมั่วอย่างงั้นหรอ? ห้าแสนยังแพง? ลูกพี่ลูกน้องฉันบอกแล้วครีมแผลลายนี้เป็นของวิเศษ ขอแค่เป็นแผลที่ผิวหนัง หลังจากได้ทาครีมนี้แล้วไม่นานก็จะจางหายไป แถมยังดูร่องรอยบาดแผลใดๆไม่ออก ปกติถ้าใช้ล่ะก็ ผิวพรรณ์จะขาวเนียนไร้ที่ติ นี่มันยาวิเศษชัดๆ! อีกอย่างได้ยินมาว่าครีมแผลลายมีสินค้าขาดแคลน ยากมากที่จะซื้อได้ ห้าแสนถือว่าราคาต่ำสุดแล้ว”
“เย็ดแม่ง! นี่ไม่ใช่การปล้นเหรอ? มีคนซื้อจริงๆหรอ?”
“ไร้สาระ มีคนซื้ออยู่แล้ว ถึงแม้เมืองเจียงหลิงของเราเป็นแค่เมืองชั้นสอง แต่คนรวยไม่น้อยเลย ห้าแสนก็มีคนมากมายมีปัญญาซื้ออยู่ อีกอย่างต้นทุนของครีมแผลลายนี้ก็สูงลิ่วเลย……..”
ไป๋เซียนเฉ่าน่าจะปล่อยโฆษณาไปไม่น้อยแล้ว คนที่อยู่ระดับปานกลางกับระดับสูง ส่วนมากต่างก็พอรู้แบรนด์ครีมแผลลายนี้แล้ว
หลินหยางถอนหายใจกับความสามารถในการทำงานของไป๋เซียนเฉ่า ยกเท้าเดินเข้าไปด้านใน
ชั้นหนึ่งของบริษัทเป็นที่ๆขายครีมแผลลาย ไม่นึกเลยว่าชั้นหนึ่งที่กว้างขวางห้อมล้อมด้วยผู้คน
หลังจากหลินหยางเดินเข้าไปมองดูไปรอบนึงก็หาไป๋เซียนเฉ่าไม่เจอ ด้วยความจนปัญญาจึงต้องโทรหาไป๋เซียนเฉ่า
“โทรหาคุณๆก็ไม่รับสาย ตอนนี้คุณอยู่ไหน? ครีมแผลลายเอามาหรือยัง?” หลินหยางยังไม่ได้พูด โทรศัพท์ก็มีเสียงของไป๋เซียนเฉ่าก้องมา
“ผมเพิ่งถึงชั้นหนึ่ง คนเยอะมากเลย คุณปล่อยข่าวอะไรออกไปถึงได้ดึงดูดคนมามากขนาดนี้? ครีมแผลลายก็เอามาแล้ว ผมใช้กล่องลากไว้ คุณอยู่ไหนครับ ทำไมไม่เห็นคุณเลย?”หลินหยางถาม
“ไม่ได้ทำอะไรค่ะ แค่ทุ่มเงินทำโฆษณาที่ฟอรัมในเมืองเดียวกันกับและโคฆณาต่างๆที่ตัวเลขเยอะ บวกกับในแวดวงของตัวฉันเองก็มีคนอยู่บ้าง มาอุดหนุนก็ปกติมาก ตอนนี้คุณรีบไปที่ลิฟท์โซนA1เลย ฉันให้เลขาลงไปรับคุณ”
เสียงที่รีบร้อนของไป๋เซียนเฉ่าก้องมา ไม่นานก็ได้วางสายทิ้ง
หลินหยางหัวเราะอย่างข่มขื่น เดินมาถึงหน้าลิฟท์A1 ไม่นาน สาวสวยที่สวมชุดทำงานก็ได้เดินลงมา
“ฉันชื่อหลินชิงค่ะ คุณคือประธานหลินหรือเปล่าคะ?” เห็นหลินหยาง สาวสวยได้ตามที่ไป๋เซียนเฉ่าบรรยายแล้วถามด้วยความตื่นตะลึง
“อืม ขึ้นไปเถอะครับ” หลินหยางพยักหน้าแล้วเดินเข้าลิฟท์
ถึงแม้ก่อนกน้านั้นไป๋เซียนเฉ่าได้บรรยายหน้าตาของหลินหยางอย่างชัดเจน แต่พอเห็นหลินหยาง หลินชิงก็ยังตื่นตะลึงมาก หลินหยางยังหนุ่มมากเลย!
“ประธานหลิน ขอละลาบละล้วงถามคำถามส่วนตัวคุณหน่อยได้มั้ยคะ?”หลินชิงทนไม่ไหวจริงๆ มองหลินหยางอย่างสวยงามทีนึงแล้วถาม
“คำถามอะไรครับ?” หลินหยางถามด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น
“ปีนี้คุณอายุเท่าไหร่แล้วคะ?”หลังจากหลินชิงถามเสร็จก็รู้สึกเสียใจ ปกติตัวเองเป็นคนใจเย็นมาก วันนี้ทำไมถึงเสียมารยาทขนาดนี้? มองหลินหยางอย่างระมัดระวังทีนึง พบว่าฝ่ายตรงข้ามไม่ได้โกรธ จิตใจถึงสงบลงนิดหน่อย
“ยี่สิบเอ็ด ใกล้ยี่สิบสองแล้วครับ”หลินหยางพูดด้วยรอยยิ้ม
อายุยี่สิบสอง?
ทันใดนั้นในใจของหลินชิงได้พลิกคลื่นมหึมาขึ้นมา
ก่อนที่ไป๋เซียนเฉ่าจะก่อตั้งบริษัท เธอก็รับหน้าที่เป็นเลขาของไป๋เซียนเฉ่าแล้ว ถึงแม้เธอไม่รู้ต้นทุนสินค้าของบริษัท แต่ก่อตั้งบริษัทใช้ไปทั้งหมดสองร้อยกว่าล้านหยวน อันนี้เธอรู้ดี!
เธอเคยถามไป๋เซียนเฉ่าเป็นการส่วนตัว บริษัทยังไม่มีหุ้นส่วนอื่น ปรากฏก็แจ้งให้ทราบว่า ยังมีคนที่ไม่ออกตังค์สักแดงเดียว ถือหุ้นของบริษัทไว้50%!
ดังนั้นกับเจ้านายที่ไม่เคยเจอหน้าคนนี้ หลินชิงแฝงด้วยความแปลกใจที่รุนแรง เยาวชนที่อายุเพิ่งจะยี่สิบเอ็ด อาศัยอะไร ไม่ต้องควักตังค์สักบาทก็สามารถครอบครองหุ้นครึ่งนึงของบริษัทได้
“ประธานหลิน คุณหนุ่มจังเลยค่ะ! นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นประธานที่หนุ่มขนาดนี้ค่ะ!” หลินชิงชื่นชมจากจริงใจ
“เหอะๆ โชคดีที่มีการร่วมทำค้าขายกับไป๋เซียนเฉ่าบ้าง ก็ได้พิจารณาว่าจะเปิดบริษัท เดิมทีผมเอาหุ้น20%ก็ไม่เลวแล้ว แต่ผลปรากฏว่าได้ให้หุ้นกับผมครึ่งนึงโดยตรงเลย”
ฟังคำพูดของหลินหยาง หลินชิงก็ยังรู้สึกไม่น่าเชื่อ บริษัทอย่างนี้ ครีมกระปุกนึงก็ยังต้องห้าแสนหยวน อีกอย่างยอดขายก็ฮอตระเบิดมาก ผลประโยชน์ของหุ้นแค่10%ก็เยอะมากแล้ว ไม่นึกเลยว่าหนุ่มคนนี้จะมีความเชื่อใจเต็มเปี่ยมว่ามูลค่าของตัวเองมีค่า20%ของหุ้น ผลงานแบบนี้ปรากฏอยู่บนตัวของเยวชนที่ยังหนุ่มขนาดนี้ อยู่ในใจของหลินชิง หลินหยางได้กลายเป็นหนุ่มโสดที่รวยมากเต็มตัวแล้ว
แต่หลินชิงไม่รู้เลยว่าสินค้าทุกอย่างของบริษัทตัวเอง ทั้งหมดล้วนเป็นการผลิตของหลินหยาง บางทีให้หุ้น50%แก่เขาอาจจะเยอะไป แต่ค่าตัวของหลินหยาง ให้หุ้น40%แก่เขาไม่มากเลยสักนิด
สาเหตุที่ให้หุ้นครึ่งนึงแก่หลินหยาง ก็เป็นวิธีที่ไป๋เซียนเฉ่าดึงพันธมิตรวิธีนึง
บางทีคนอื่นร่วมงานกับหลินหยาง อาจจะพยายามขูดรีดหุ้นของหลินหยาง แต่ไป๋เซียนเฉ่ามีตาที่แหลมมาก มูลค่าที่หลินหยางปรุงยาไม่ได้สำคัญมากเป็นพิเศษ เพราะเธอไม่ขัดสนเงิน และไม่ขัดสนลู่ทางการมาของเงิน ขอแค่เธออยากก้าวเข้าสู่อาชีพไหน ก็กำหนดไว้แล้วจะทำให้อาชีพนั้นเกิดคาวเลือดอันคละคลุ้ง
ที่เธอชอบคือคุณสมบัติประจำตัวและฝีมือทางการแพทย์ของหลินหยาง สมัยนั้นขอร้องให้รักษาไปทั่วทุกที่ก็หาวิธีการรักษาแผลบนใบหน้าที่ดีไม่ได้ แต่ปรากฏหลินหยางใช้เวลาแค่หนึ่งสัปดาห์ ก็ไม่มีอาการของโรคที่แสดงออกมาภายหลังเลย รักษาหายอย่างง่ายดายและสะดวกสบาย!
ระดับการรักษาที่น่ากลัวของหลินหยาง แค่เห็นส่วนน้อยก็สามารถคาดการณ์ได้ทั้งหมดแล้ว
ส่วนมีฝีมือการรักษาอย่างนี้ มูลค่าของหลินหยางมหาศาลอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
ชั่วชีวิตของคนเราต่างก็ต้องมีอาการป่วยไม่เบาก็หนัก เจ้าหน้าที่ระดับสูงบางคนถึงจะให้ความสำคัญกับการบำรุงรักษามากแค่ไหน บางทีก็อาจจะมีโรคที่สลับซับซ้อนได้
ชื่อเสียงที่อยู่ในวงการแพทย์ของหลินหยาง จะยิ่งอยู่ยิ่งโด่งดังอย่างไม่ต้องสงสัยเลย ถึงเวลาเจ้าหน้าที่ระดับสูงพวกนี้ป่วยขึ้นมา ต้องขอรับการรักษากับหลินหยางแน่นอน พอเป็นแบบนี้ หลินหยางก็สร้างความสัมพันธ์ที่ใหญ่โตโดยที่มองไม่เห็นเลย
ถ้าเวลาเชื่อมความสัมพันธ์กับหลินหยางไว้ ต่อไปตัวเองเจอปัญหาอะไร ไปขอความช่วยเหลือจากหลินหยางก็ใช่ว่าจะไม่ได้
แน่นอน ในใจของไป๋เซียนเฉ่าก็มีความรู้สึกดีกับหลินหยางคนๆนี้เหมือนกัน
คุยกับหลินชิงไปไม่กี่คำ ลิฟท์ได้มาถึงที่ชั้นหก นี่ก็คือออฟฟิศของไป๋เซียนเฉ่าเช่นกัน
“ประธานหลิน นี่คือออฟฟิศของประธานไป๋ ประธานไป๋ให้คุณเข้าไปค่ะ” หลินชิงพูดด้วยความเกรงใจ
หลินหยางพยักหน้า เคาะประตูทีนึงก็ได้เดินเข้าไปเลย
หลังจากเห็นไป๋เซียนเฉ่า หลินหยางเอ๋ออย่างควบคุมไม่ได้ กระโปรงยาวสีขาวพลิ้วไหว บนตัวไม่มีเครื่องประดับใดๆเลย ยืนอยู่ตรงหน้าของหน้าต่างที่เงียบสงบและมองดูทางไกล
เสี้ยววินาทีนี้ หลินหยางเหมือนได้เห็นเจ้าหญิงในเทพนิยาย หัวใจก็ถูกสะกิดอย่างแรงทีนึง
“สิบโมงตรง มาได้เวลาพอดีเป๊ะๆเลย” รู้ว่าหลินหยางมา ไป๋เซียนเฉ่าหันมาพร้อมรอยยิ้ม
มองดูใบหน้าที่เหมือนเซียนของไป๋เซียนเฉ่า หลินหยางหายใจลึกๆสะกดความตื่นเต้นของในใจไว้แล้วพูด: “หน้าบริษัทรถเยอะเกิน ผมหาสถานที่จอดไม่เจอ ก็เลยเสียเวลาไปหน่อยครับ”
“ฮ่าๆ อยู่บริษัทของพวกเราเอง ไม่นึกเลยว่าประธานหลินจะหาสถานที่จอดรถไม่เจอ?” ทันใดนั้นไป๋เซียนเฉ่าหัวเราะอย่างสวยงาม
ได้ยินคำพูดของไป๋เซียนเฉ่า หลินหยางรู้สึกอึดอัด ตอนนี้ตัวเองเป็นประธานของเซียนเฉ่าเซวียนเชียวนะ แม้แต่ที่ๆจอดรถก็ไม่มี ถ้าพูดออกไปเกรงว่าคงจะถูกคนหัวเราะเยาะไม่น้อยเลย
“เอาล่ะ ใต้ตึกมีที่จอดรถเฉพาะ นี่คือกุญแจของโรงจอดรถ กุญแจอีกดอกคือกุญแจของออฟฟิศคุณ ออฟฟิศของคุณอยู่ห้องติดกับออฟฟิศฉัน”ไป๋เซียนเฉ่าโยนกุญแจมาพวงนึงแล้วพูด
ทีนี้หลินหยางถึงได้สำรวจออฟฟิศของไป๋เซียนเฉ่าขึ้นมา พอมองไป หลินหยางเกือบจะล้มลงพื้น สถานที่ๆกินพื้นที่เป็นพันตารางเมตร ไม่นึกเลยว่าจะเป็นออฟฟิศของไป๋เซียนเฉ่าคนเดียว?
“ออฟฟิศของผม…….”
เห็นหน้าตาที่ตื่นตะลึงของหลินหยาง ไป๋เซียนเฉ่าก็ได้กลั้นขำไม่อยู่หัวเราะออกมาอีก นิ้วมือเรียวสวยจิ้มอยู่ที่บนหน้าผากของหลินหยาง เสียงที่ไพเราะดังขึ้น: “ออฟฟิศของคุณใหญ่พอๆกับของฉัน การจัดวางก็พอๆกันค่ะ”
หลินหยางได้ยินแล้วหัวเราะขมขื่นทีนึง ไม่นึกเลยว่าในออฟฟิศนี้จะมีพื้นที่ออกกำลังกาย มีชั้นวางหนังสืออยู่ไม่น้อย มีโต๊ะทานข้าว มีโซฟา แถมยังมี……เตียง เตียงขนาดใหญ่มาก!
“เอาล่ะ สิบโมงแล้ว เอาครีมแผลลายของนายออกมาให้พี่ดูหน่อยซิ”คอยมองดูกระเป๋าหนังที่หลินหยางลากอยู่ด้านหลัง แววตาของไป๋เซียนเฉ่ามีความดีใจแว๊บผ่าน
หลินหยางก็ไม่ชักช้า ได้ลากกระเป๋าหนังมาและเปิดโดยตรง
มองดูครีมแผลลายขวดนึง รอยยิ้มบนใบหน้าของไป๋เซียนเฉ่าล้นออกมา เธอยิ้มอย่างสวยงามและพูด: “ฮ่าๆ ไม่เลวเลยนี่ ออกไปให้เสี่ยวชิงเอาไว้ เราลงไปด้านล่างด้วยกัน ฉันคาดว่าคนพวกนั้นคงรอไม่ไหวตั้งนานแล้ว”
หลินหยางพยักหน้า เดินเคียงไหล่ออกไปพร้อมไป๋เซียนเฉ่า หลินชิงได้รออยู่ที่ด้านนอกตั้งนานแล้ว เห็นทั้งสองเดินออกมา รีบรับกระเป๋าหนังจากมือของหลินหยางมา และลงลิฟท์พร้อมทั้งสอง