ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) - บทที่203สระว่ายน้ำ
บทที่203สระว่ายน้ำ
คนที่ลอยอยู่ในน้ำได้อาศัยความหนาแน่นของร่างกายที่ต่ำกว่าน้ำ ปกติคนที่อ้วนจะสามารถทำได้โดยการฝึกฝน แต่ร่างกายของ หลินหยางมีปริมาณไขมันในร่างกายต่ำมาก เขานอนลอยตัวอยู่บนน้ำได้ยังไงกัน
ฉีเยนเอ๋อร์กระโดดลงไปในน้ำอย่างสวยงาม และว่ายน้ำไปที่หยุดลงข้างๆ หลินหยาง แล้วเฝ้าดูเขาอย่างเงียบ ๆ
หลินหยางลืมตาขึ้นและจ้องมองมาที่เธอ เขามองสายตาคู่นั้นออก สายตาของเธอแสดงถึงความหลงใหล!
ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ดูน่ารักและเจ้าเล่ห์มาว่ายน้ำวนเวียนอยู่ข้าง ๆ ทำให้หลินหยางสะดุ้งตกใจ เรื่องรูปร่างของเธอฉีเยนเอ๋อร์ก็ถือว่าโดดเด่นมาก รวมไปถึงชุดว่ายน้ำที่ไม่สามารถปกปิดอะไรได้เลยนี้ก็ยิ่งทำให้คนที่เห็นแล้วเลือดกำเดาไหล
หลินหยางเอ่ยถาม “ทำไมถึงไม่นอนอาบแดดต่อ”
“ฉันอยากมาหาคุณ” ฉีเยนเอ๋อร์พูดอย่างตรงไปตรงมา
หัวใจของหลินหยางเต้นแรง ก่อนจะพูดว่า “ผมไม่ใช่แพนด้า มีอะไรน่ามองกัน”
“หายากยิ่งกว่าแพนด้าอีกค่ะ คนที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่ตอนอายุยี่สิบเอ็ดปี ร้ายกาจกว่าฉันมาก ฉันมีพื้นฐานครอบครัวที่เกิดมาพร้อมกับช้อนทอง! พูดตามตรงคนที่ฉันอิจฉาที่สุดก็คือไป๋เซียนเฉ่า คนที่สามารถทำในสิ่งที่คุณต้องการได้โดยไม่ต้องยับยั้งชั่งใจอะไร “ฉีเยนเอ๋อร์กล่าวอย่างจนใจ
“ปู่ฉีจะไม่ปล่อยให้คุณทำในสิ่งที่คุณต้องการทำเหรอ” หลินหยางเอ่ยถามอย่างสงสัย
ฉีเยนเอ๋อร์พูดอย่างจนใจ “คุณปู่เป็นคนแก่ที่นิสัยน่ารัก เรื่องที่เขาไม่ชอบให้ฉันออกมาทำอะไร ให้ฉันได้เป็นเจ้าหญิงตัวน้อยที่มีความสุขไปตลอดชีวิต ตั้งแต่ฉันไม่สบายมาตั้งแต่เด็ก ทำให้ตอนนี้ความคิดของเขาก็ยังไม่มีพลิกผัน ”
“ไม่ใช่เรื่องยากอะไรครับ คุณสามารถบอกกับปู่ฉีเรื่องเข้ามาทำงานในบริษัทของเรา หรือคุณสามารถร่วมลงทุนใน เซียนเฉ่าเก๋อของเราได้ นี่เป็นการร่วมงานที่ทรงพลัง หากคุณคิดจะร่วมงานกับเรา!”หลินหยางเอ่ยแนะนำ
ดวงตาของ ฉีเยนเอ๋อร์เป็นประกาย และเอ่ยถามด้วยท่าทางตื่นเต้นเล็กน้อย: “ได้เหรอคะ แน่นอนฉันต้องการที่จะสู้ไปกับ … คุณ พวกคุณ”
ดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกดีขึ้นมากในชั่วพริบตาเดียว ฉีเยนเอ๋อร์กำลังว่ายน้ำอย่างมีความสุข ร่างที่น่าดึงดูดของเธอขยับตัวไปมาในน้ำ จนทำให้หลินหยางแทบไม่เคลื่อนสายตาหนีไปไหนได้เลย
ฉีเยนเอ๋อร์สังเกตเห็นการจ้องมองที่ตกตะลึงของหลินหยางได้นานแล้ว ทำให้เธอว่ายน้ำได้อย่างสนุกสนานมากขึ้น เธอเปลี่ยนท่าว่ายน้ำจากท่ากรรเชียงเป็นท่าฟรีสไตล์ ต้องยอมรับว่า ฉีเยนเอ๋อร์ แสดงให้เห็นถึงท่าว่ายน้ำที่สวยงามและท่าว่ายน้ำอีกแบบหนึ่งที่สามารถดึงดูดสายตาของหลินหยางเป็นพิเศษ
หลินหยางชื่นชมมันอย่างเงียบ ๆ ดวงตาของเขาสบตาเข้ากับฉีเยนเอ๋อร์ ก่อนที่ฉีเยนเอ๋อร์จะส่งเสียงร้องออกมา เธอยืดตัวตรง และจมลงไปในน้ำโดยไม่ขยับ หลินหยางรีบลงไปในน้ำทันที ก่อนจะอุ้มเธอขึ้นมา เขาตรวจชีพจรที่ข้อมือของเธอ โชคดีที่การหายใจของเธอยังคงที่ ชีพจรค่อนข้างอ่อนแอ ลมหายใจติดขัด
อาการแบบนี้ถือว่าค่อนข้างแย่ การเป็นลมในน้ำเกิดจากหลายสาเหตุ หลินหยางรีบอุ้มเธอแล้วว่ายกลับเข้าหาฝั่ง เมื่ออุ้มฉีเยนเอ๋อร์มาถึงห้องแต่งตัว หลินหยางก็หยิบเข็มเงินออกมา และในขณะที่เขากำลังจะทิ่มลงไปฉีเยนเอ๋อร์ก็ลุกขึ้นนั่งแล้วกอดหลินหยางไว้แน่น
ร่างกายที่ร้อนรุ่มของทั้งสองแนบชิดกัน โดยมีผ้าแค่ไม่กี่ชิ้นขวางกั้นไว้ หลินหยางใจเต้นแรง ก่อนจะพูดด้วยสีหน้าที่พยายามควบคุมให้เรียบนิ่ง “คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม ตกใจหมดเลย”
“คุณเป็นห่วงฉันเหรอคะ” ฉีเยนเอ๋อร์พูดยิ้มๆ
“คนเป็นลมไปกะทันหัน ผมก็ต้องเป็นห่วงเป็นเรื่องธรรมดา คุณ…” หลินหยางพูดได้แค่ครึ่งก็ถูกฉีเยนเอ๋อร์ปิดปาก
ริมฝีปากสีชมพูประกบริมฝีปากของหลินหยางไว้ ฉีเยนเอ๋อร์ปิดตาลง ภายในใจเต้นแรง เมื่อตะกี้เธอว่ายน้ำเร็วเกินไป ทำให้รู้สึกวิงเวียนศีรษะ แต่ก็แค่หมดแรงไปชั่วขณะหนึ่ง ไม่นานเธอก็ได้สติกลับมา การแก้ไขสถานการณ์แบบฉุกเฉินของหลินหยางทำให้เธอไม่กล้าลืมตาขึ้นมอง ปล่อยให้เขาอุ้มเธอไว้
พอเข้ามาถึงในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉีเยนเอ๋อร์ก็ไม่อยากปกปิดไว้อีก อารมณ์ที่เธอพยายามควบคุมไว้ปะทุออกมา ผู้หญิงที่กล้าหาญแบบนี้ ถ้าเกิดความรู้สึกที่ร้อนแรงขึ้นมา ไม่ว่าใครก็ขัดขวางเธอไม่ได้
หลินหยางใกล้จะควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว สาวสวยมีเสน่ห์ ซบอยู่ในอ้อมกอดของตนเอง และกำลังจุมพิตเขาอย่างดูดดื่ม ใครจะกล้าต้านทานได้ ยิ่งต้องเจอเข้ากับลิ้นหวานของฉีเยนเอ๋อร์ ตอนที่สอดแทรกเข้ามา หลินหยางก็แทบทรุด เขาโอบกอดฉีเยนเอ๋อร์ไว้ ให้ร่างกายของเธอกับเขาแนบชิดกัน
การจุมพิตในครั้งนี้ใช้เวลานานมาก นานจนฉีเยนเอ๋อร์แทบหายใจไม่ทัน เพราะนี่ถือเป็นครั้งแรกของเธอ ทำให้เธอค่อนข้างแปลกใหม่ และควบคุมจังหวะการหายใจ
หลินหยางใช้สายตาที่ร้อนแรงมองไปที่เธอ ก่อนจะพูด “ถ้าจูบต่อไป คุณคงจะสลบแน่ๆ”
“ฉันชอบ ฉันเต็มใจ” ฉีเยนเอ๋อร์ยิ้มก่อนจะขยับหน้าเข้าหา
ครั้งนี้เป็นการจุมพิตที่ค่อนข้างอ่อนโยน ทั้งสองคนแทะเล็มริมฝีปากอีกฝ่าย แต่ก็ยังทำให้อีกฝ่ายได้รู้ถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย
“คุณชอบจริงๆเหรอ” หลินหยางอยากจะถามให้มั่นใจอีกครั้ง
“ไม่ใช่แค่ชอบนะคะ ที่จริงแล้วคุณเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตฉันไว้ด้วย แต่ตอนที่ฉันตื่นขึ้นมาแล้วเห็นคุณกำลังช่วยฉันฝังเข็ม ฉันก็ตกหลุมรักคุณแล้ว ไม่เคยมีใครเคยแตะต้องตัวฉันแบบนี้มาก่อน แต่ฉันกลับไม่เคยรู้สึกรังเกียจเลย หลังจากที่ฉันอาการดีขึ้น ฉันก็อยากจะไปหาคุณ อยากจะบอกกับคุณ ตรงนี้ของฉันถูกคุณขโมยไปแล้ว เอากลับมาไม่ได้อีกแล้ว”ฉีเยนเอ๋อร์จับมือของหลินหยางขึ้นมาวางลงบนตำแหน่งหัวใจของเธอ
พอมือสัมผัสโดนความนุ่มนิ่มทำให้หลินหยางใจไขว้เขว จนควบคุมตัวเองไม่ได้ ฉีเยนเอ๋อร์ยิ้มหวานก่อนจะพูด “คุณรู้ไหมคะ ตอนที่ฉันไปหาพวกคุณที่เซียนเฉ่าเก๋อ ฉันกับไป๋เซียนเฉ่าคุยกันอยู่นาน พูดถึงเรื่องของคุณ ความรักที่เธอมีให้คุณมันฝังลึกเข้าไปในกระดูกของเธอแล้ว ถึงแม้ปากเธอจะไม่พูดอะไร แต่เธอบอกกับฉันว่าคุณจะเป็นคนที่เธอไปตลอดทั้งชีวิต ดังนั้น ฉันรู้สึกอิจฉามาก ในตอนนั้นฉันรู้สึกว่าเปลวไฟแห่งความอิจฉาแทบจะแผดเผาเธอกับฉันจนตายถึงจะพอใจ แต่ว่า คุณเข้ามาซะก่อน ได้เห็นหน้าคุณ ได้คุยกับคุณ ถึงแม้คุณกับไป๋เซียนเฉ่าจะเหมาะสมกันถึงขนาดนั้น รู้ใจกันมากถึงขนาดนั้น แต่ฉันก็ยังรู้สึกหึงหวงอย่างรุนแรง เพราะการที่พวกคุณเดินมาถึงจุดนี้ได้ก็เพราะพรหมลิขิตและความรักที่พวกคุณสองคนมีต่อกัน”
สักพัก ฉีเยนเอ๋อร์ก็พูดยิ้มๆ “ที่จริงแล้วอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นที่ซื่อนูเก๋อ ทำให้ฉันรู้ว่าตัวเองควรจะไปทำอะไร หัวใจของฉันบอกกับฉันว่าฉันต้องขโมยคุณมา แต่ฉันก็รู้ ว่าฉันสามารถขโมยตัวคุณมาได้ แต่หัวใจของคุณฉันไม่มีทางแย่งมาได้แน่นอน”
หลินหยางส่ายหน้าแล้วพูด “นี่…มันเป็นเพราะตัวผมคนเดียว”
“ไม่ใช่ค่ะ…ไม่ใช่ความผิดของคุณ คุณเป็นผู้ชายที่น่าหลงใหลมาก ฉันไม่ได้จะพูดเพื่อเอาใจคุณนะคะ การแสดงออกของคุณเพียงพอที่จะทำให้ทุกคนตกหลุมรัก ดังนั้น…ไม่ต้องไปคิดเรื่องอื่น ตอนนี้ อย่างน้อยๆตอนนี้คุณเป็นของฉันแค่คนเดียว จริงไหมคะ งั้นคุณก็กลืนกินฉันเถอะนะคะ “ฉีเยนเอ๋อร์พูด ก่อนจะเริ่มดึงสายเดียวชุดว่ายน้ำออก
พื้นที่ภายในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้ามีขนาดที่ใหญ่มาก ฉีเยนเอ๋อร์นอนแผ่หราอยู่บนโซฟา เหมือนดอกกุหลาบที่กำลังบานเปล่งปลั่งอย่างงดงาม
หลินหยางกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ภาพงดงามตรงหน้า จะให้เขาห้ามใจตัวเองได้อย่างไร หลินหยางทับตัวลงไป ก่อนจะมองหน้าเธอแล้วพูด “คุณนี่ช่างเป็นปีศาจสาวเจ้าเสน่ห์จริงๆ”
ถูกต้องแล้ว เป็นปีศาจสาว ปีศาจที่ยั่วยวนทุกคนให้ลุ่มหลง หลินหยางวางมือลงบนจุดอ่อนไหวของฉีเยนเอ๋อร์ แล้วเริ่มขยับนิ้วมือสร้างความหฤหรรษ์ให้กับเธอ
ความรู้สึกสุดหฤหรรษ์แบบนี้ฉีเยนเอ๋อร์เพิ่งเคยได้ลิ้มลองเป็นครั้งแรก และคงไม่มีทางลืมไปตลอดชีวิต ความรู้สึกดีที่ปะทุขึ้นมา ทำให้เธอมีน้ำตาไหลลงมา
“เป็นอะไรไป” หลินหยางเอ่ยถามอย่างอ่อนหวาน
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉัน…ดีใจมาก มาสิคะ…ช่วยทำให้ฉันรู้สึกมีความสุขที” ฉีเยนเอ๋อร์ยกมือคล้องคอเขาไว้แล้วพูด
การสร้างความสุขให้ผู้หญิงมีหลายรูปแบบ แต่วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือทำให้เธอได้เสพสุข สายผูกกางเกงว่ายน้ำของฉีเยนเอ๋อร์ถูกผูกเป็นลายผีเสื้อแสนสวย หลินหยางค่อยๆดึงมันออก จนผ้าผืนน้อยหลุดลงด้านข้าง พอเปิดออกดู บริเวณจุดอ่อนไหวของฉีเยนเอ๋อร์สีชมพูเปล่งปลั่ง
“สวยไหมคะ เมื่อคืนฉันทำความสะอาดอย่างตั้งใจมากเลยนะคะ” ฉีเยนเอ๋อร์พูดด้วยสีหน้าเอียงอาย
แต่นอนว่าต้องสวยอยู่แล้ว หลินหยางรีบถอดกางเกงว่ายน้ำของเขาทิ้งโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง ถึงแม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้เห็น แต่ฉีเยนเอ๋อร์ก็ยังรู้สึกตะลึงเหมือนเดิม เพราะมันมีขนาดที่ใหญ่โตมากจริงๆ
พอเห็นท่าทางตกตะลึงของเธอ หลินหยางก็พูดหยอกล้อ “กลัวแล้วเหรอ”
“ไม่ได้กลัวสักหน่อย ฉัน…อยากได้ค่ะ”สุดท้ายเธอก็ครวญครางอย่างสุขสม
หลินหยางไม่รีบร้อน เขาไม่อยากให้ความสุขสมครั้งนี้เหลือข้อบกพร่องไว้แม้แต่น้อย เขาขยับนิ้วมือต่อไป แล้วใช้นิ้วมือร้อนสร้างความสุขสมให้ฉีเยนเอ๋อร์จนเธอรู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัว
“คุณ…จะทรมานฉันให้ตายเลยหรือไง” ฉีเยนเอ๋อร์พูดประท้วง
หลินหยางจุมพิตริมฝีปากของเธอ ก่อนจะพูด “เรื่องแบบนี้…คุณจะใจร้อนไม่ได้นะ”
หลินหยางใช้ริมฝีปากคลอเคลียตั้งแต่ใบหู ลงมาที่ลำคอ แล้วดูดเม็ดตูมสีองุ่นบริเวณกลางหน้าอกเธอ พร้อมทั้งเม้มเบาๆ ทำให้ฉีเยนเอ๋อร์เสียวซ่าน เธอรู้สึกเหมือนมีของเหลวไหลออกมาจากจุดอ่อนด้านล่างของเธอ
พอยื่นมือไปลูบ หลินหยางก็พูดยิ้มๆ “ตอนนี้น่าจะกำลังพอดีแล้ว”
ฉีเยนเอ๋อร์หน้าแดงก่ำ เธอเงยหน้าขึ้นมากัดบนตัวของหลินหยางจนหลินหยางรู้สึกเจ็บ และทนไม่ไหวอีกต่อไป หลินหยางจ่อด้ามดุ้นของตัวเองเข้าไปในร่างของเธอ
ก่อนจะอุทานออกมาอย่างสุขสม ดวงตาของฉีเยนเอ๋อร์ปรากฏแววตาแห่งความสุขออกมาเธอกอดเขาไว้แน่น ก่อนจะพูด “เอาล่ะ ตอนนี้คุณหนีไปไหนไม่รอดแล้ว ฉันจะตามติดคุณไปตลอดชีวิตเลย”
หลินหยางรู้สึกซาบซึ้งใจ เขาพยายามพยายามปลุกปลอบเธอ พร้อมกับค่อยๆขยับตัวสอดใส่ช้าๆ
ถึงแม้จะเป็นครั้งแรก แต่ร่างกายของฉีเยนเอ๋อร์ปรับสภาพได้เร็วมาก สมแล้วที่เป็นปีศาจสาวจอมยั่วยวน
ความรู้สึกที่แสนสุขสม เสียงครางที่แสนอ่อนหวาน ทำให้ฉีเยนเอ๋อร์ลืมความรู้สึกเจ็บในตอนแรกไปจนหมด สองขารัดเอวหลินหยางไว้แน่น บรรยากาศภายในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าร้อนระอุด้วยเปลวไฟแห่งความต้องการ จนได้ยินเสียงกรีดร้องอย่างสุขุม ก่อนที่ภายในห้องจะตกอยู่ในความเงียบ
หลังจากทุกอย่างจบลง ฉีเยนเอ๋อร์ถึงได้ลืมตาขึ้นมอง แล้วพูด “เมื่อตะกี้…คุณทำให้ฉันรู้สึกเหมือนจะลอยขึ้นไปบนฟ้าซะแล้ว”
“เอาเถอะ ผมจะคิดซะว่าคุณกำลังชมผมอยู่ก็แล้วกัน” หลินหยางพูดยิ้มๆ
“นี่คุณ…คนบ้า” ฉีเยนเอ๋อร์พูดด้วยท่าทางเขินอาย
หลินหยางกอดเธอไว้แน่น ก่อนจะช่วยเธอผูกสายชุดว่ายน้ำกลับตามเดิมฉีเยนเอ๋อร์พูดพึมพำ “ฉันหมดแรงแล้ว คุณแบกฉันซะดีๆ”
เธอกอดคอเขาไว้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง หลินหยางแบกเธอขึ้นหลังก่อนจะพูด “นั่งให้ดีนะ แลนด์โรเวอร์เรนจ์โรเวอร์จะออกเดินทางแล้ว”
แต่ก่อนที่แลนด์โรเวอร์เรนจ์โรเวอร์คันนี้จะออกเดินทาง ก็ชนกำแพงซะแล้ว ไป๋เซียนเฉ่าจ้องมองพวกเขาสองคนด้วยสีหน้างุนงง
หลินหยางมือสั่นจนเกือบจะปล่อยฉีเยนเอ๋อร์หล่นลงพื้น ก่อนที่เขาจะพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “ตื่นแล้วเหรอครับ เมื่อตะกี้ฉีเยนเอ๋อร์เป็นลมหมดสติไป ผมกำลังจะพาเธอไปโรงพยาบาลพอดีเลย”
“เป็นลมเหรอคะ เกิดอะไรขึ้นคะ” ไป๋เซียนเฉ่าถามติดต่อกัน
“คงจะเป็นเพราะเหนื่อยจนหมดแรงครับ ก็เลยหมดสติไป” หลินหยางพูด
ไป๋เซียนเฉ่ามองไปทางด้านหลัง ในตอนนี้ฉีเยนเอ๋อร์ทำทีเป็นหมดสติอยู่บนหลังเขา
“งั้นเรารีบไปโรงพยาบาลกันเถอะค่ะ” ไป๋เซียนเฉ่าถลึงตามองหลินหยางแล้วพูด
ในตอนนี้เองฉีเยนเอ๋อร์ก็ลืมตาตื่น ก่อนจะย่นคิ้วแล้วพูด “ไม่ต้องค่ะ ฉัน…ฉันแค่หมดแรง รบกวนพวกคุณพาฉันไปส่งที่บ้านหน่อยได้ไหมคะ”
หลินหยางรีบเดินออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว เขาเปิดประตูเบาะหลังแล้ววางเธอลง ไป๋เซียนเฉ่านั่งอยู่ตำแหน่งข้างคนขับ จ้องเขม็งไปมองหลินหยางทางกระจกมองหลัง
หลินหยางมีสีหน้าเรียบนิ่ง ทำการขับรถมุ่งตรงไปที่บ้านของฉีเยนเอ๋อร์ ในขณะนี้เองฉีเยนเอ๋อร์ก็เริ่มมีแรงกลับมา เธอเอ่ยขอโทษพวกเขาทั้งสองคน “ขอโทษด้วยนะคะ ที่ทำให้พวกเขาต้องเสียเวลามาส่ง ครั้งหน้าเราค่อยนัดกันไปอีกนะคะ”
รีบหันหลังแล้วเดินเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว ไม่แม้แต่จะชวนพวกเขาเข้าไปในบ้าน
หลินหยางถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะพูด “เอาล่ะ พวกเราเองก็กลับบ้านกันเถอะ”
“ไม่ต้องรีบร้อนค่ะ ให้ฉันตรวจก่อนดีกว่า ลองดูว่าคุณเองก็เหนื่อยเหมือนกันหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นถ้าหมดแรงไปอีกคนจะทำยังไง” ไป๋เซียนเฉ่าพูดเจาะตรงประเด็น