ซูเปอร์หมอเข็ม/หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) - บทที 195 หมกมุ่นจนเป็นมาร
บทที 195 หมกมุ่นจนเป็นมาร
การเคลื่อนไหวของหนานกงหยูนนั้นรวดเร็วมาก ราวกับเสือชีต้าตัวเมีย
ว่าด้วยการต่อสู้ หลินหยางไม่กลัวที่จะเผชิญกับใคร แต่ไม่ใช่สำหรับหนานกงหยูน เธอเป็นผู้หญิง!
“คุณบ้าไปแล้วเหรอ?” หลินหยางถามด้วยความงุนงง ในขณะที่ยังถือเข็มเงินอยู่ในมือ
ไม่มีคำตอบ แต่ใช้การกระทำของตัวเองแสดงให้เห็นท่าทีโดยตรง ริมฝีปากของหลินหยางถูกปิดไว้แล้ว ลิ้นนุ่มลื่นดันทุรังเลื้อยเข้ามา หลินหยางรีบโยนเข็มเงินในมือออกไปข้างๆ กอดเสือชีตาห์ตัวเมียนี้ไว้ เริ่มกลืนกิน
หนานกงหยูนมีอารมณ์แล้ว เธอต้องการที่จะปลดปล่อยคลื่นความร้อนที่แผดเผาในร่างกาย หลินหยางสัมผัสถึงความเร่าร้อนของเธอ ต้องการนำทางการเคลื่อนไหวของเธออย่างช้าๆ แต่เสือชีต้าตัวเมียก็มีความสามารถไม่น้อยไปกว่าเขา อยากจะทำให้เธอเชื่อง ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก
แม้ว่าหนานกงหยูนต้องการระบายความรู้สึกของตัวเอง แต่ก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย พยายามฝืนในครั้งที่แล้ว เกือบทำให้ตัวเองบาดเจ็บ คราวนี้เธอรู้เพียงว่า กอดหลินหยางไว้แน่น แสดงออกด้วยการจูบอย่างดื่มด่ำ
“ได้แล้ว คุณอยากจะให้ฉันขาดอากาศตายหรือไง ปล่อยออกหน่อย!” หลินหยางพูดอย่างหอบ
เมฆสีแดงระเรื่อลอยอยู่บนใบหน้า ในขณะนี้หนานกงหยูนรู้สึกเขินอายยิ่งนัก แต่ความละอายก็ค่อยๆจางหายไป ปรารถนาโหยหาให้ร่างกายของตัวเอง
ผสานเข้ากับเขา
หลินหยางบริหารพลังมังกรและหงส์ในทันที ฝ่ามือที่ร้อนรุ่ม ลูบผิวเนียนนุ่มละมุนของเธอ เกิดคลื่นกระเพื่อม หนานกงหยูนถึงได้รู้ว่า ทำไมตัวเองถึงได้มีอารมณ์มากขนาดนี้
“คนเลว มือของคุณกำลังเล่นกลอุบาย!” หนานกงหยูนพูดแก้มป่อง
หลินหยางปฏิเสธ “คุณกำลังปรักปรำฉันแล้วนะ กำลังภายในของพลังมังกรและหงส์ของฉัน สามารถเร่งการฟื้นตัวในร่างกายของคุณได้ หากไม่เชื่อ คุณใช้เจินชี่เพื่อสำรวจดูว่า เส้นลมปราณได้ไหลเวียนคล่องแล้ว”
คำพูดนี่ไม่ได้โกหก พลังมังกรและหงส์ เป็นทักษะวิเศษมหัศจรรย์ ที่สามารถปรับหยินและหยางได้ หนานกงหยูนก็รู้ว่า ต้นตอของความหลงใหลนี้ ยังคงอยู่ที่ตัวเอง ถ้าไม่ได้ชอบหลินหยาง มือปลาหมึกนี้กล้าที่จะแตะต้องตัวเธอ คงถูกตัดให้หมาแทะกินแล้ว
“ถ้าอย่างนั้นคุณ……ห้ามใช้มือแตะต้องฉัน!” หนานกงหยูนพูดอย่างสับสน
“ไม่ใช้มือ? ก็ได้ ถ้าอย่างนั้น คุณมาเลย!” หลินหยางพูดราวกับกำลังดูเรื่องสนุก
หนานกงหยูนเริ่มสับสนมากขึ้น แต่มาถึงจุดนี้แล้ว
เธอปลดเข็มขัดของหลินหยางออก โดยไม่พูดให้มากความ เสื้อผ้าของหลินหยางถูกหนานกงหยูนฉีกเป็นชิ้นๆ อย่างกระดาษบางเบา สาวคนนี้รุนแรงจริงๆ!
ร่างกายที่ร้อนผ่าวแนบเนื้อหลินหยาง กอดเขากลิ้งเข้าไปบนเตียงสีแดงสด หนานกงหยูนพยายามนึกทบทวนขั้นตอนในครั้งที่แล้ว ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าตัวเองควรจะทำอย่างไร น่องขาที่ตึงแน่น เกี่ยวเอวของหลินหยางไว้ ดวงตาจ้องมองเขาอย่างไม่ละสายตา แล้วค่อยๆนั่งลงไป
ความพยายามของสาวคนนี้ แพร่กระจายไปให้หลินหยางด้วย ใช้ความดื้อรั้นสามส่วน ความรักแท้สามส่วน ความไร้เดียงสาสามส่วน เสน่ห์ที่เย้ายวนใจหนึ่งส่วน ห่อหุ้มหัวใจของหลินหยางไว้แล้วเขากระซิบข้างหูของหนานกงหยูนว่า “อย่าขยับไปเรื่อย ไม่งั้นจะบาดเจ็บอีก ปล่อยให้ฉันทำ!”
คำพูดของหลินหยาง เป็นเหมือนวิชาสะกดตัว สะกดหนานกงหยูนไว้ ปล่อยให้เขาวางเธอนอนอย่างงุนงง เมื่อหลินหยางอยู่กับหนานกงหยูน ร่างกายชอบอยู่ในภาวะเต่งตึง เพราะเขาไม่รู้ว่า สาวคนนี้จะระเบิดเมื่อไหร่ ออกมาอย่างกะทันหัน แต่ในขณะนี้ หนานกงหยูนเหมือนดั่งดินน้ำมัน หลินหยางอย่าจะบีบเคล้นยังไงก็ได้
หลินหยางควบคุมจังหวะของตัวเอง บริหารพลังมังกรและหงส์ เจินชี่ปกคลุมเต็มที่นอน อารมณ์ของคนทั้งสองวาบหวามเสียวซ่านในทันที หลินหยางทรมานซ้ำซากด้วยท่าทีที่ดุเดือด แต่ในไม่ช้า เขาก็พบว่าตัวเองเริ่มมีสัญญาณที่เสียการควบคุมเล็กน้อย การเคลื่อนไหวของเจินชี่ หนีจากการควบคุมของตัวเอง
กระแสความร้อนไหลจากแขนขาของตัวเอง ไปยังหัวใจ การเต้นของหัวใจของหลินหยาง ได้เร็วขึ้นกะทันหัน เขาอยากจะหยุดพักหน่อย แต่ร่างกายไม่สามารถควบคุมได้อย่างสมบูรณ์แล้ว
ปรากฏการณ์นี้ เคยปรากฏขึ้นในห้องน้ำครั้งที่แล้วเหมือนกัน ในตอนนั้นหนานกงหยูนใช้เจินชี่ของตัวเอง เพื่อช่วยหลินหยางผ่านด่านที่ยากลำบากได้ทันเวลา ในเวลาเดียวกัน ให้พลังมังกรและหงส์ของเขา ขึ้นไปอีกระดับ คราวนี้ หนานกงหยูนก็ไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของตัวเองได้แล้ว ทั้งสองคนเหมือนควบม้า ที่วิ่งอย่างบ้าคลั่งตามอำเภอใจ แทบอยากจะบีบทุกความแข็งแกร่งออกจากร่างกายให้หมด!
เสมือนว่าร่างกายกำลังจะลุกไหม้ หน้าผากของหลินหยางร้อนผ่าว หยดเหงื่อเท่าเม็ดถั่ว หยดลงบนแก้มของหนานกงหยูน ทำให้เธอมีสติทันที
หนานกงหยูนเกี่ยวขาไว้แน่นทันที กอดเขาอย่างแรง แล้วพูดว่า “อย่าขยับ คุณจะหมกมุ่นจนเป็นมารเลยนะ!”
“นี่มัน……เกิดอะไรขึ้น?” หลินหยางถามด้วยท่าทางร้อนใจ
“ไม่……รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ครั้งที่แล้วก็เป็นเหมือนอย่างนี้ เจินชี่เพิ่มมากขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล และความเร็วนั้นรวดเร็วมาก ร่างกายของคุณไม่สามารถรับได้!” หนานกงหยูนพูด
หลินหยางเลียริมฝีปากเล็กน้อย ถึงได้พบว่า แตกแห้งเล็กน้อยแล้ว โชคดีที่หยุดทันเวลา มิฉะนั้นหลังจากที่เจินชี่ไม่อยู่ในการควบคุม ความอันตรายยากที่จะจินตนาการ!
หนานกงหยูนวางศีรษะไว้บนไหล่ของหลินหยาง พูดด้วยท่าทางที่กระวนกระวายใจ “คุณฝึกพลังวิชามหัศจรรย์อะไร ฉันรู้สึกว่า เจินชี่ของตัวเองไหลออกมาจากด้านล่าง แล้วส่งไปให้คุณ จากนั้นก็ไหลกลับมา สบายมากเลย ……”
นี่อาจเป็นการหลอมรวมแล้วบรรจบกัน ที่วิชาจิตพูดถึง
แต่อัตราการเพิ่มขึ้นนี้เร็วมากเกินไปแล้ว หลุดออกไปจากขอบเขตการควบคุมโดยสิ้นเชิง หรืออาจเป็นเพราะว่า ร่างกายของหนานกงหยูนมีเป็นพิเศษ?
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ หลินหยางก็บีบชีพจรของเธอไว้ พูดด้วยความตกใจ “ก๊าซพิษของคุณ ลดลงอย่างมาก หรือก๊าซพิษถูกกลั่นออกมาแล้วจริงๆ?”
หนานกงหยูนก็บริหารเจินชี่เหมือนกัน พบว่าพิษได้ลดลงอย่างมากจริงๆด้วย แต่พลังของตัวเองกลับเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย!
“จริงนะ กำลังภายในของคุณ ช่างมหัศจรรย์จริงๆ!” หนานกงหยูนพูด
มองใบหน้าที่แดงระเรื่อของเธอ หลินหยางรู้สึกประหลาดใจและพอใจมาก แต่แล้วก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย ไม่สามารถควบคุมเจินชี่ที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้
ได้อย่างสมบูรณ์!
ที่แท้ทำแบบนี้ ยังสามารถช่วยคุณล้างพิษได้!” หลินหยางยิ้มพูด
หนานกงหยูนใจหวั่นไหว อารมณ์ลุ่มหลงที่พลุ่งพล่านในเมื่อกี้ ยังไม่จางหายไปทั้งหมด ทั้งคู่ยังอยู่ในภาวะที่ตื่นเต้น ในขณะนี้ยังสามารถรู้สึกได้ว่า อาวุธใหญ่ของหลินหยาง ยังคงติดอยู่ภายในอย่างชูชัน
“แล้ว……ตอนนี้ฉันควรทำอย่างไร?” หนานกงหยูน พูดพลางก้มหน้าเหลือบมอง
“ลองดูก็ดูเถอะ ได้เป็นแบบนี้แล้ว!” หลินหยางพูดหยอกล้อ
หนานกงหยูนรีบดึงสายตากลับทันที กอดเขาไว้อย่างเขินอาย ยังกล้าดูต่อเสียที่ไหนล่ะ นี่เลยทำให้หลินหยางได้เปรียบ ร่างกายที่นุ่มละมุนและเต่งตึงแนบตัวเองไว้ สบายจริงๆ!
หลินหยางพยายามปรับลมปราณภายใน พูดยิ้มว่า “อาจเป็นเพราะความเคลื่อนไหวในเมื่อกี้รุนแรงเกินไป เราทำช้าหน่อยนะ!”
ช้าหน่อยก็ช้าหน่อยเถอะ รสชาตินี้สุดยอดมากจริงๆ หนานกงหยูนรู้สึกหลงใหลเล็กน้อย ตามที่คาด
หลังจากที่การเคลื่อนไหวของหลินหยางช้าลง แม้ว่าเจินชี่ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ค่อยๆอยู่ในการควบคุมแล้ว
ขยับตัวช้าๆ หนานกงหยูนก็สามารถสัมผัสและเรียนรู้ได้ดีมากขึ้น เธอแอบจำจังหวะไว้ในใจ ตัดสินใจทำด้วยตัวเองในครั้งหน้า!
แต่หลังจากที่ฝ่ามือใหญ่ที่น่าเกลียดของหลินหยาง
แนบเข้ามา จับเนินเนื้อของเธอไว้ หนานกงหยูน
ก็ล้มเลิกความคิดที่จะเรียนรู้แล้ว แสนดีขนาดนี้ สนุกเพลิดเพลินเกับมันดีกว่า!”
ความแข็งแรงของทั้งสองล้วนดีมาก ทรมานซ้ำซากแบบนี้มาจนถึงเวลาเที่ยงคืน หนานกงหยูนหลังจากสั่นกระตุกเป็นครั้งที่สาม ก็เริ่มร้องขอความเมตตา
“ไม่ไหวแล้ว……ไม่ไหวแล้ว……” คำพึมพำของหนานกงหยูน ทำให้หลินหยางมีแรงผลักดันอย่างเต็มที่
โชคดีที่เขายังถือว่ารู้จักทะนุถนอมกับผู้หญิง หลังจากปะทุคลื่นความร้อนออกมา หลินหยางก็กอดเธอไว้แน่น หยุดการเคลื่อนไหว
“คุณยอดเยี่ยมมากจริงๆ!” หนานกงหยูนพูดด้วยแววตาล่องลอย
คำชมของเสือชีตาห์ตัวเมียตัวนี้ ทำให้หลินหยางรู้สึกตัวลอยเล็กน้อย แต่นี่ก็เป็นเพราะว่า การออกกำลังกายและฝึกฝนพลังมังกรและหงส์ของตัวเอง
“ครั้งหน้ายังมีที่ยอดเยี่ยมมากกว่านี้อีก!” หลินหยาง ยิ้มเจ้าเล่ห์
ทั้งสองกอดกันไว้แน่น แล้วนอนหลับไป
วันรุ่งขึ้น อารมณ์ของหลินหยางพลุ่งพล่านมาก
เจินชี่ที่เพิ่มขึ้นในร่างกาย เป็นเสมือนสมบัติที่เก็บได้จริงๆเลย! ขับรถแลนด์โรเวอร์ฮัมเพลงเบาๆ หลินหยางก็ไปทำงานแล้ว
ในระหว่างทาง ความเร็วของเขาไม่ได้เร็วมาก เพราะเขาสังเกตเห็นว่า เหมือนมีคนสะกดรอยตามเขา สายตาของหลินหยาง จับจ้องไปที่รถบีเอ็มดับเบิลยูสีดำที่อยู่ห่างจากเขาประมาณห้าสิบเมตรอย่างรวดเร็ว
หลินหยางตัดสินใจที่จะพาเขาไปอ้อมโลก ในเวลาเดียวกันก็โทรหาไป๋เซียนเฉ่า ว่าวันนี้จะไม่ไปทำงานแล้ว
หลังจากที่ไป๋เซียนเฉ่าได้รับสาย แอบตำหนิในใจ กำลังครุ่นคิดว่า เขาต้องไปเที่ยวสำเริงสำราญที่ไหนทั้งคืน จนหมดแรงแล้ว เมื่อคืนเธอไปช็อปปิ้งกับจางเยว่จนถึงสี่ทุ่มถึงได้แยกกัน หรือจางเยว่สาวคนนี้ ยังกลับไปหาเขาอีก?
หลังจากโทรหาจางเยว่ ไป๋เซียนเฉ่าก็ถามว่า “เยว่เยว่ กระเป๋าจองหลินหยางทำหล่นหายที่คุณไหม? ฉันกำลังหาเอกสารฉบับหนึ่งอยู่!”
จางเยว่รู้สึกสับสนเล็กน้อย ถามเธอว่าหายที่เธอเมื่อไหร่ เธอไม่ได้ไปพักในหอพักมาหลายวันแล้ว
ไป๋เซียนเฉ่าใช้เพียงประโยคเดียว ก็หยั่งท่าทีพบแล้วว่า เมื่อคืนหลินหยางไม่ได้อยู่กับจางเยว่ เลยบอกเธอโดยตรง ว่าเช้านี้วันนี้หลินหยางลางาน!”
จางเยว่ถึงได้เข้าใจว่า เซียนเฉ่าสาวคนนี้ กำลังหยั่งท่าทีเธอ เธอก็ไม่โกรธ ขบขันแล้วพูดว่า “นี่ก็ไม่ค่อยรู้แล้ว ไม่แน่ใจอาจเป็นสาวน้อยหลินที่ตกลงมาจากสวรรค์ก็ได้!
ไป๋เซียนเฉ่าวางสายอย่างหงุดหงิด ตัดสินใจถามให้รู้เรื่อง หลังจากที่หลินหยางมาทำงาน แต่เธอก็รอจนทั้งวันทั้งคืน วันรุ่งขึ้นไป๋เซียนเฉ่าจงใจนอนดึกเป็นพิเศษ
เมื่อตื่นขึ้นมา ยังได้ทำสปาด้วย ตอนที่ไปทำงาน เป็นเวลาสิบโมงเช้าแล้ว เธอค่อยๆมาที่ห้องทำงานของหลินหยาง กลับพบว่าประตูล็อคไว้!
“ไอ้สารเลวนี่ หรือว่าออกไปเสเพลทั้งวันทั้งคืน แล้วก็ไปต่ออีกรอบ?” ไป๋เซียนเฉ่าโมโหกระทืบโดยตรง
เรียกหลินชิงเข้ามา ไป๋เซียนเฉ่าถามว่า “วันนี้ประธานโจวมาหรือยัง?”
“ห๊ะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน! เมื่อวานเหมือนเขาจะไม่ได้เข้ามา!” หลินชิงพูดพลางกะพริบตาปริบ
“เขาได้หาคุณหรือเปล่า?” ไป๋เซียนเฉ่าถามไปอย่างนั้น
สีหน้าของหลินชิงเคร่งเครียด พูดอย่างประหม่า “ไม่…… ประธานโจวไม่เคยหาฉัน!”
ไป๋เซียนเฉ่าเงยหน้าขึ้น มองพิจารณาเลขาของตัวเองอย่างจริงจัง ดูท่าทีที่เธอจับแฟ้มเอกสารไว้อย่างประหม่า อดไม่ได้ที่จะนึกถึงสาวน้อยหลินที่จางเยว่พูดถึง ทำให้ความหึงหวงที่เก็บอยู่ในใจหลายสิบวัน ปะทุขึ้นทันที
“เลขาหลิน คุณสุดยอดมากเลย บอกฉันมาตรงๆ เขาไปหาคุณตั้งแต่เมื่อไหร่!” ไป๋เซียนเฉ่าซักถาม
หลินชิงเกือบจะร้องไห้ออกมาแล้ว พูดสาบาน “ประธานไป๋ ช่วงสองสามวันนี้ประธานโจวไม่ได้มาหาฉันจริงๆ!”
“แล้วก่อนหน้านั้น เจาไปหาคุณเมื่อไหร่?” ไป๋เซียนเฉ่าสอบถามอีก
“ครั้งที่แล้ว หลังจากที่เขาช่วยฉันไว้……คือฉันที่ไปหาเขา คุณอย่าโทษประธานโจว คือฉัน……เป็นคนเริ่ม!” หลินชิงจะใช่คู่ต่อสู้ของไป๋เซียนเฉ่าที่ไหนกัน
เมื่อเห็นเลขาของตัวเอง ถูกบีบจนเป็นแบบนี้ ไป๋เซียนเฉ่ากลับหายโกรธแล้ว ยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้เธอ ยิ้มพูดขึ้น “เอาล่ะๆ ดูออกตั้งนานแล้ว ไอ้สารเลวนั่น จะอดใจไหวได้อย่างไร อย่าร้องแล้ว เรารีบไปหาไอ้สารเลวนั่นเถอะ! ก็ไม่รู้ว่าไปมั่วสุมอยู่ที่ไหน!”
เมื่อเห็นว่าไป๋เซียนเฉ่าไม่ได้ตำหนิเธอ หลินชิงก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ใช้สมองนึกคิด และพูดคาดเดา “เป็นไปได้ไหม……ที่จะเป็นคุณชายที่มาในวันนั้น? คนที่หัวสกินเฮด!”
“จ้าวกางเถียน ใช่ ต้องเป็นเขาแน่นอน สมองฉันนี่ ทำไมถึงได้ลืมเขาไปได้!” ไป๋เซียนเฉ่าพูดอย่างหงุดหงิด
ว่ากันว่าผู้หญิงที่มีความรัก ไอคิวจะติดลบ ทันทีที่เกี่ยวข้องกับหลินหยาง ไป๋เซียนเฉ่าก็เริ่มโง่เง่า คิดเพียงแต่ว่าไอ้หมอนี่ไปลักกินขโมยกินไหม ไม่คิดว่าเขาอาจจะโดน จ้าวกางเถียนไอ้สารเลวนั่นแก้แค้น!
“เยว่เยว่ หลินหยางอาจจะเกิดเรื่องแล้ว คุณรีบสืบหน่อย ช่วงนี้เหลยหยุนมีความเครื่องไหวที่ผิดปกติอะไรไหม!” ไป๋เซียนเฉ่ารีบโทรหาจางเยว่
จางเยว่ก็รู้สึกตกใจเช่นกัน เริ่มทำการตรวจสอบอย่างรวดเร็ว สายลับแต่ละคนที่อยู่ในมือเธอ ถูกเธอสั่งให้ไปสืบหาข้อมูล ในไม่ช้าพวกสายลับก็รายงานให้สถานที่แห่งหนึ่ง โกดังในชานเมือง รังเก่าของโจวจู้ในเมื่อก่อน