ซ่อนรักเคียงบัลลังก์ - ตอนที่ 2-1 การเริ่มต้นที่บิดเบี้ยว
ซ่อนรักเคียงบัลลังก์ – ตอนที่ 2-1 การเริ่มต้นที่บิดเบี้ยว
รูแฮได้พาอูรึมมาที่สวนหลังวังฝ่ายนอกเพื่อปลอบใจนางที่เมื่อครู่กำลังร้องไห้อยู่ สวนหลังวังที่เต็มไปด้วยดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิที่กำลังบานสะพรั่งไปทั้งสวน มันงดงามมากจนทำให้อูรึมลืมความโศกเศร้าที่ตนต้องจากฮวากุกมา และไม่นานนางก็ยิ้มแย้มออกมาจนได้
นกน้อยสองตัวบินมาหยอกล้อกันอยู่ข้างๆ อูรึมก่อนจะบินจากไปบนท้องฟ้าไกล อูรึมหัวเราะออกมาเหมือนเด็กน้อย รูแฮคอยเฝ้ามองอูรึมเดินเล่นในสวนอยู่ห่างๆ ผ่านไปไม่นานอูรึมก็นั่งลงที่ใต้ต้นไม้ใหญ่กลางสวน รูแฮจึงเดินตามไปนั่งข้างๆ และถามว่า
“กระหม่อมขอถามพระนามขององค์หญิงได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
“ขออภัยเพคะ หม่อมฉันควรที่จะแนะนำตัวเสียก่อน” อูรึมหน้าแดงพร้อมกับตอบกลับไปว่า
“หม่อมฉันมีนามว่ามกฮวา อูรึม องค์หญิงลำดับที่หนึ่งของพระราชาจองแห่งราชอาณาจักรฮวากุกเพคะ”
“อูรึม?”
“ใช่เพคะ อูรูมที่มีความหมายว่าสายฝนที่เย็นฉ่ำ อู ที่หมายถึงฝน รึม ที่หมายถึงความเย็น”
“สายฝนที่เย็นฉ่ำ ด้วยเหตุนี้พระองค์เลยทรงมีน้ำตาเยอะเช่นนี้หรือพ่ะย่ะค่ะ”
หน้าของอูรึมยิ่งแดงไปขึ้นจากการพูดหยอกล้อของรูแฮ นางคงนึกย้อนถึงสภาพอันน่าโง่เขลาของตนเองที่เอาแต่ร้องไห้ไม่หยุดหย่อนจึงได้ยกปลายแขนเสื้อขึ้นมาบังหน้าก่อนจะค่อยๆ เอาลงแล้วถามรูแฮว่า
“แต่ แต่ว่า ฝ่าพระบาท ฮวางแทจาทรงมีพระนามว่าอะไรหรือเพคะ”
รูแฮตกใจกับคำถามของอูรึม เขามองไปรอบๆ อย่างโล่งอกไปทีที่ตรงนี้มีแค่ตนกับอูรึมเท่านั้น ถ้าหากมีใครที่คิดร้ายมาได้ยินอูริมเรียกตนว่าฮวางแทจาเข้า อูรึมกับตนอาจตกที่นั่งลำบากได้ พระราชวังมกกุกคือสถานที่เช่นนั้น
รูแฮรีบแก้ไขความเข้าใจผิดของอูรึมในทันที
“กระหม่อมมิใช่ฮวางแทจาหรอกพ่ะย่ะค่ะ เป็นเพียงเชื้อพระวงศ์คนหนึ่งเท่านั้น”
รูแฮรีบยกมือบอกปฏิเสธ เมื่ออูรึมรู้ว่าตนเองพูดผิดนางก็ยกปลายแขนเสื้อขึ้นมาบังหน้าอีกครั้งราวกับเป็นเด็กน้อย รูแฮยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า
“กระหม่อมมีนามว่ายูอึลจิน ยู ที่แปลว่าเท่านั้น อึล ที่แปลว่า นก และจินที่แปลว่า ช่วยเหลือพ่ะย่ะค่ะ”
“ถ้าเช่นนั้นนามของท่านก็หมายถึงการช่วยเหลือนกหรือเพคะ”
“ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ แต่ถ้าจะให้ถูกต้องเป็นช่วยเหลือเพียงแค่นกเท่านั้น เป็นชื่อที่ตลกใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่หรอกเพคะ มีนามที่มีความหมายถึงการช่วยเหลือใครสักคนไม่ตลกเลยเพคะ แต่ว่าปกติเราไม่แปลความหมายของนามสกุลกันมิใช่หรือเพคะ”
อูรึมกลอกตาไปมาพร้อมกับถามคำถาม นางเป็นเด็กสาวที่มีคำถามมากมาย รูแฮนิ่งไปชั่วขณะก่อนที่จะยิ้มเบาๆ น่าจะเป็นเพราะว่าตนบอกอูรึมไปว่าตนชื่อยูอึลจิน อูรึมจึงคิดว่า ‘ยู’ คือนามสกุล และ ‘อึลจิน’ คือชื่อ แต่เป็นเพราะในตอนแรกตนแนะนำตัวไปแล้วว่าตนเป็นเชื้อพระวงศ์จึงมิได้บอกไปว่านามสกุล ‘ดันมก’ ของตนไปด้วยเลยทำให้อูรึมเข้าใจผิดไป รูแฮที่กำลังจะบอกอูรึมว่านางเข้าใจผิด จู่ๆ ตนก็รู้สึกอยากแกล้งนางขึ้นมาจึงไม่ได้แก้ไขความเข้าใจของนาง เมื่ออูรึมเห็นว่ารูแฮเอาแต่หัวเราะ นางจึงเอียงศีรษะเล็กน้อยแล้วพูดว่า
“เอ่อ ไม่ทราบว่าหม่อมฉันสิ่งใดผิดไป…”
“กระหม่อมจะมิพูดเรื่องนี้กับใคร ไม่ต้องกังวลพ่ะย่ะค่ะ”
“อ่า เพคะ…”
รูแฮมองอูรึมและยิ้มให้เล็กน้อยเพื่อจะสื่อว่าไม่ต้องกังวลใจ รูแฮได้ยินมาว่านางบรรลุนิติภาวะแล้ว แต่จริงๆ นางยังดูเด็กอยู่มาก เด็กน้อยคนนี้หรือที่จะมาเป็นชายาฮวางแทจา
ชายาฮวางแทจา
แปล๊บ เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ไม่คุ้นเคย ใบหน้าของรูแฮแข็งทื่อไปชั่วขณะ
อะไรกัน ทำไมนะ
รูแฮยกมือขึ้นมาจับที่หน้าอกของตน เมื่อกี้อยู่ดีๆ ก็รู้สึกเจ็บที่ตรงนี้
“เป็นอะไรหรือไม่เพคะ”
อูรึมถามรูแฮด้วยความเป็นห่วงเพราะเห็นใบหน้าที่ดูยิ้มแย้มอยู่ตลอดของรูแฮหมองลง รูแฮมองหน้าอูรึมด้วยใบหน้านิ่งเฉย ดวงตาของอูรึมเริ่มสั่นไหวเพราะไม่สามารถหลบสายตาของรูแฮได้ สายตาที่จดจ้องกันอยู่ได้หยุดลงเมื่อรูแฮละสายตาแล้วลุกขึ้นยืน
“กระหม่อมจะพาไปที่ตำหนัก เสด็จตามมาเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
น้ำเสียงของเขาฟังดูแข็งกระด้างขึ้น รูแฮลุกขึ้นมาก่อนและเดินนำไป อูรึมก็กำลังจะลุกตามไปแต่ทว่าขาของนางนั้นไม่มีแรง รูแฮที่เดินนำหน้าไปก่อนหันกลับมามองเมื่อตนไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของอูรึม
“เป็นอะไรไปพ่ะย่ะค่ะ”
“คือว่า ยูอึลจิน ขามัน…”
“ขาเจ็บหรือพ่ะย่ะค่ะ”
นางนั่งอยู่เฉยๆ ไม่น่าจะบาดเจ็บอะไรได้ เมื่อรูแฮได้ยินเสียงสั่นเครือของอูรึมก็รีบวิ่งเข้าไปหาทันที
“เปล่าเพคะ หม่อมฉันแค่ลุกไม่ได้เฉยๆ ขาไม่มีแรงเพ…”
“โล่งอกไปที ขอเสียมารยาทนะพ่ะย่ะค่ะ”
อูรึมยังพูดไม่ทันจบ รูแฮก็ตอบกลับมาเช่นนั้นแล้วอุ้มอูรึมขึ้น
“เฮือก!”
อูรึมมองไปที่รูแฮที่ยังคงหน้าตาเคร่งขรึมไร้คำพูดใดด้วยความตกใจ อูรึมลดสายตาลงและปล่อยร่างกายของตนให้อยู่อ้อมอกของรูแฮ ใบหน้าของอูรึมเปลี่ยนเป็นสีแดงแปร๊ด หูของนางได้ยินเสียงหัวใจเต้นชวนฟังของรูแฮ นี่เป็นครั้งแรกที่ตนถูกโอบกอดโดยชายอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัว
***
มหาจักรวรรดิมกกุก
ปัจจุบันอาณาจักที่เป็นจักรวรรดิ และเรียกผู้ปกครองอาณาจักรของตนเองว่าจักรพรรดินั้นมีเพียง 2 อาณาจักร ได้แก่ จักรวรรดิมกกุก ที่ตั้งอยู่เยื้องลงมาทางด้านตะวันออกเฉียงใต้จากใจกลางของแผ่นดินใหญ่ และจักรวรรดิอึลยองกุก ที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือสุด ถึงแม้จักรวรรดิอึลยองกุกจะมีแผ่นดินกว้างใหญ่ แต่เนื่องจากตั้งอยู่ทางทิศเหนือที่มีอากาศหนาวเย็นอำนาจเลยไม่มีผลกระทบต่ออาณาจักรอื่นๆ และเพราะได้ชื่อว่าเป็นจักรวรรดิจึงยังได้รับการปฏิบัติเท่าเทียมกันกับจักรวรรดิมกกุก แต่ผู้ที่มีอำนาจบนแผ่นดินใหญ่มากที่สุดนั้นคือ จักรวรรดิมกกุก ฉะนั้นมกกุกจงมิได้เป็นเพียงจักรวรรดิ แต่เป็นมหาจักรวรรดิ
ที่มหาจักรวรรดิมกกุกแห่งนี้มักมีการแย่งชิงบัลลังก์กันระหว่างทายาทผู้สืบทอดราชบัลลังก์ แต่นี่ก็เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในอาณาจักรที่มีอำนาจเยอะเช่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการขึ้นครองราชย์ของจักรวรรดิองค์ก่อนหน้าที่มีความบาดหมางกันอย่างรุนแรงระหว่างผู้มีสิทธิ์สืบทอดราชบัลลังก์ ทว่ามีเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่อยู่รอด ผู้สืบทอดนอกจากนั้นทุกคนได้ถูกสังหารไปจนหมด ทุกคนเสียชีวิตอย่างกระทันหันและเรื่องนี้ได้ถูกปกปิดไว้ แต่ว่าทุกคนนั้นย่อมรูดีอยู่แล้ว การตายของพวกเขาเหล่านั้นอาจเกิดจากการฆ่าฟันกันเอง แต่ทว่าผู้สืบทอดหนึ่งเดียวที่มีชีวิตรอดอยู่ก็กระทำอะไรลงไปไม่น้อยเช่นเดียวกัน ผู้สืบทอดราชบัลลังก์ที่เหลือชีวิตรอดอยู่คนเดียวนั้นเป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์ลำดับที่ 6 ลำดับการสืบทอดราชบัลลังก์ของเขาได้ถูกเลื่อนขึ้นมาเรื่อยๆ จากลำดับที่ 6 จนได้มาเป็นฮวางแทจา องค์รัชทายาทลำดับที่ 1 และเขาคนนั้นก็คือจักรพรรดิออฮยูลเจ จักรพรรดิองค์ปัจจุบัน
บางคนบอกว่าสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิมกกุกเกิดการทะเลาะวิวาทแย่งชิงบัลลังกันนั้น เป็นเพราะมีการแต่งตั้งตำแหน่งกุกบนเป็นจำนวนมาก ในอาณาจักรส่วนใหญ่มักจะมีแค่พระราชวังตะวันออก หรือมีพระราชวังตะวันออกและตะวันตก แต่ที่จักรวรรดิมกกุกนั้นไม่ได้มีเพียงแค่พระราชวังตะวันออก แต่กลับมีพระราชวังครบทั้งสี่ทิศ พระราชวังตะวันตก พระราชวังใต้ พระราชวังเหนือ โดยมีฮวางแทจา องค์รัชทายาทอันดับที่หนึ่งปกครองพระราชวังตะวันออก มีแทจา องค์รัชทายาทอันดับที่สองปกครองพระราชวังตะวันตก ฮวางเซจา องค์รัชทายาทอันดับที่สามปกครองพระราชวังใต้ และเซจา องค์รัชทายาทอันดับที่สี่ ปกครองพระราชวังเหนือ
ออฮยูลเจ เป็นพระราชโอรสในพระมเหสีรองขององค์จักรพรรดิ ก่อนหน้านี้เขาถูกแต่งตั้งให้เป็นเซจา แล้วภายหลังก็ได้ขึ้นเป็นฮวางแทจา องค์รัชทายาทอันดับที่หนึ่ง ส่วนในสมัยปัจจุบันองค์รัชทายาทอันดับที่หนึ่งนั้นเป็นพระราชโอรสในพระมเหสีเอกขององค์จักรพรรดิออฮยูลเจ และเป็นฮวางแทจามาตั้งแต่ต้น