ซ่อนรักเคียงบัลลังก์ - ตอนที่ 52-2 ความหึงหวงที่ไม่คุ้นเคย
ซ่อนรักเคียงบัลลังก์ – ตอนที่ 52-2 ความหึงหวงที่ไม่คุ้นเคย
“จะทรงทำอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ” รูแฮถามอย่างลนลาน บีพาอันพิจารณามือของรูแฮที่คว้าข้อมือของตนไว้ กับใบหน้าที่ดูโกรธของรูแฮ แล้วตอบกลับไปช้าๆ ราวกับมันเป็นเรื่องน่าขัน
“ทำอะไรอย่างนั้นหรือ มิว่าสามีจะทำอะไรกับภรรยามันก็มิใช่เรื่องที่ฮวางเซจาจะเข้ามายุ่ง”
สามี ภรรยา
คำพูดที่ออกมาจากริมฝีปากแห้งนั้นช่างไร้ความปราณี บีพาอันรู้วิธีการที่จะทำให้รูแฮเจ็บปวดได้เป็นอย่างดี รูแฮกำมือแน่นพร้อมกับความเจ็บปวดนั้น
“พระชายาทรงประชวรอยู่มิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ”
บีพาอันกระชากมือออกอย่างแรงจนมือของรูแฮถูกสะบัดหลุดออกไป เขาคว้าแขนของกโยซึลไว้แน่นแม้รูแฮจะดึงรั้งเขาไว้ก็ตาม แล้วก็กระชากข้อมือบางนั้นเข้าหาตน อยู่ดีๆ ใบหน้าของบีพาอันก็ปรากฏอยู่ตรงหน้ากโยซึลที่ถูกดึงอย่างไม่ทันตั้งตัว กโยซึลสะดุ้งเฮือกหลับตาลง ทันใดนั้นก็มีบางอย่างสัมผัสบนหน้าผากอันอบอุ่นของนาง บีพาอันเอาหน้าผากของเขาไปแตะกับหน้าผากของกโยซึล กโยซึลรู้สึกร้อนวูบวาบ นางสับสนว่านี่เป็นความร้อนจากอาการป่วยหรือจากความเขินอายกันแน่
แม้กโยซึลกับรูแฮจะตกใจในการกระทำที่ไม่ทันตั้งตัวของบีพาอัน แต่บีพาอันนั้นกลับดูสงบนิ่ง แม้หน้าผากของเขาจะสัมผัสกับหน้าผากของกโยซึล แต่สายตาของเขาก็เหมือนกับพื้นผิวของทะเลสาบที่เงียบสงบ ทว่าน้ำเสียงที่พูดออกมานั้นช่างเยือกเย็น ราวกับทะเลสาบที่กลายเป็นน้ำแข็งภายในชั่วพริบตา
“ไข้ยังมิสูงขนาดนั้น ยังมิถึงขั้นที่จะประชวรจนสิ้นลม มิต้องนอนอยู่บนเตียงก็น่าจะได้”
“เพคะ?”
“คงมิได้ทรงอ่อนแอถึงขั้นเป็นไข้แล้วขยับตัวมิได้ใช่หรือไม่”
กโยซึลยังไม่ทันเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น บีพาอันก็ไล่นางออกไปจากเตียงทันที แรงที่เขาดึงลาก
กโยซึลมันแรงถึงขนาดที่ทำให้กโยซึลเซมาแนบชิดอยู่กับต้นแขนของบีพาอัน
“ฝ่าพระบาทฮวางแทจา!” รูแฮตะโกนออกมาเมื่อเห็นการกระทำของบีพาอันที่เขาไม่พอใจ
รูแฮเข้าไปหากโยซึลเพื่อที่จะประคองนางไว้ ทว่าบีพาอันกางมือซ้ายออกมากันรูแฮเอาไว้ รูแฮที่ถูกขัดขวางเขม่นมองไปที่บีพาอัน บีพาอันที่ได้สบสายตานั้นดูไม่โกรธเลยแม้แต่น้อย ทว่าเขามองรูแฮด้วยสายตาที่คมและเยือกเย็นเหมือนปกติ
การเผชิญหน้ากันครั้งที่สองของชายทั้งสองยังคงดำเนินต่อไป
กโยซึลที่ถูกบีอาพันดึงไป เม้มปากอย่างเต็มกำลังแล้วสะบัดมือออกจากบีพาอัน เพราะว่าบีพาอันมัวแต่สนใจรูแฮเลยไม่ได้ออกแรงจับจับกโยซึลไว้ จริงๆ แล้วคือเขาไม่ได้คิดว่ากโยซึลจะสะบัดมือออกตั้งแต่แรก จากการกระทำที่ไม่คาดคิดของกโยซึลทำให้รูแฮที่กำลังจ้องมองบีพาอัน และบีพาอันที่กำลังจ้อมเขม็งไปที่รูแฮต้องหันมามองกโยซึล กโยซึลแสดงท่าทีออกมาอย่างเด็ดเดี่ยวด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว
“ฝ่าพระบาททรงมาที่ตำหนักดงบีด้วยเหตุอันใดหรือเพคะ ถ้าเป็นเยี่ยงนี้เสด็จไปหาพระสนมกโยอึลยังดีเสียยิ่งกว่าเพคะ นางกำลังรอฝ่าพระบาทอยู่ มิเหมือนกับหม่อมฉัน”
เป็นคำพูดที่บอกว่านางนั้นไม่ได้เฝ้ารอบีพาอัน และก็ไม่ได้รู้สึกยินดีที่ได้พบเขาเลย สำหรับนางแล้วบีพาอันคือคนที่น่ากลัว การกระทำนี้จึงเป็นการกระทำที่กล้าหาญมาก หลังจากที่กโยซึลพูดประโยคนั้นออกไปนางก็ไม่กล้าที่จะมองบีพาอันอีกเลย
ในห้องเต็มไปด้วยความเงียบงัน บีพาอันที่จ้องกโยซึลอยู่ได้ผลักนางไปติดกับกำแพง หลังของนางชนกับกำแพงอย่างแรง และนางไม่สามารถที่จะร้องออกมาเพราะความเจ็บปวดได้ บีพาอันคว้าคอเสื้อของนางแล้วดึงหน้านางเข้ามาประชิด
ดวงตาดั่งทะเลลึกที่อาจล่วงรู้ได้อยู่ตรงหน้ากโยซึล นางถูกสายตานั้นดึงดูดไว้จนไม่สามารถขยับตัวได้ แน่นอนว่านางไม่สามารถที่จะหันหน้าออกและก็ไม่สามารถที่จะละสายตาไปได้ มันช่างเจ็บปวดที่ไม่สามารถหลบสายตาหรือปฏิเสธเขาได้เลย แม้จะเจ็บปวดแต่ก็ยังต้องเผชิญกับมัน นิ้วเรียวยาวของบีพาอันลูบไล้กรอบหน้านาง นิ้วของเขาอบอุ่นอยู่เสมอ ในขณะที่นิ้วอันอุบอุ่นของบีพาอันกำลังลูบไล้อยู่นั้น เขาก็กระซิบที่ข้างหูชวนให้จั๊กจี้ด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
“เราเพิ่งปล่อยท่านให้เป็นอิสระมาได้มินานนัก เหตุใดจึงกระทำตัวยิ่งยโสโอหังเสียแล้ว ดูเหมือนจะลืมไปแล้วว่าฐานะของเรานั้นคืออะไร” เพราะว่าบีพาอันอยู่ใกล้เกินไป กโยซึลเลยไม่เห็นใบหน้าเฉยชาที่ชวนขนลุกนั่น สิ่งที่กโยซึลมองเห็นมีเพียงสายตาเยือกเย็นของเขาเท่านั้น
“ไม่ว่าเราไปจะที่ใด เมื่อไร มันก็มิใช่เรื่องที่ชายาจะเข้ามายุ่งเกี่ยวได้ และผู้ที่จะต้องนั่งอยู่ข้างเราก็คือชายา หาใช่สนมไม่ ดูเหมือนท่านจะเข้าใจอะไรผิดไปเสียแล้ว และจงเอาจำไว้เสมอว่าตอนนี้ที่เราอยู่ที่นี่ มิใช่เพราะว่าเราคิดถึงชายาแต่อย่างใด”
บีพาอันพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มเบา จึงมีเพียงกโยซึลที่อยู่หน้าได้ยินเพียงคนเดียว และบีพาอันที่พูดด้วยน้ำเสียงน่าหวาดกลัวที่ปักเข้าไปในหูอย่างชัดเจน ก็ปล่อยกโยซึลแล้วถอยหลังออกมาสองก้าว ทันทีที่เขาก้าวออกมารูแฮคิดที่จะรีบเข้าไปหากโยซึลแล้วถามนางว่าเป็นอะไรหรือไม่ ทว่าเมื่อรูแฮนึกขึ้นได้ว่าบีพาอันอยู่ด้วยเขาจึงทำเพียงหยุดยืนอยู่ข้างๆ แล้วส่งสายตาห่วงใยไปให้เท่านั้น
บีพาอันถอยห่างออกมาจึงมองเห็นอาการของทั้งสองคน กโยซึลที่เมื่อครู่โต้เถียงเขาอย่างไม่อ้อมค้อม ตอนนี้สีหน้าซีดเซียว รูแฮที่กำลังมองกโยซึลอย่างเป็นห่วงด้วยสายที่น่าเวทนา บีพาอันเฝ้าดูทั้งสองคนอยู่ห่างๆ อย่างเงียบๆ
“ยูอนบูอิน”
“เพคะ ฝ่าพระบาทฮวางแทจา”
บีพาอันเรียกแม่นมโดยไม่ละสายตาไปมองนาง แม่นมที่ยืนรออยู่ตรงกำแพงก้มหัวลง แล้วเดินเข้ามาอย่างระมัดระวัง เขาออกคำสั่งอย่างช้าๆ บีพาอันจ้องมองไปที่กโยซึล แล้วหลับตาลง ในขณะเดียวกันก็หันตัวกลับไป เขาก้าวออกมาจากห้องด้วยท่าทีเยือกเย็นดุจน้ำค้างแข็ง แล้วพูดออกไปว่า
“เตรียมชุดของพระชายาให้เรียบร้อย วันนี้ครบสิบวันแล้วที่พระชายาเซจาได้ให้กำเนิดบุตร”