ซ่อนรักเคียงบัลลังก์ - ตอนที่ 95-2 การประชุมของราชวงศ์
“อาจเป็นเพราะกระหม่อมเข้าออกพระราชวังตะวันออกอยู่บ่อยๆ เนื่องจากกระหม่อมเป็นพ่อทูนหัวของแทฮวางกุน โดฮวาน…จึงคงเกิดเรื่องซุบซิบนินทาขึ้นพ่ะย่ะค่ะ”
แม้เขาจะพูดออกมาอย่างสุขุม แต่น้ำเสียงของรูแฮนั้นสั่นเทาเล็กน้อย ออฮยูลเจขมวดคิ้ว
“ฮวางแทจา! จงอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างละเอียดที”
บีพาอันแอบหลับตาลงก่อนที่จะลืมตาขึ้นอีกครั้ง ด้วยเพราะเสียงตะคอกของออฮยูลเจ
“ขอโปรดทรงให้ความกรุณาด้วยพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าพระบาท กระหม่อมไม่มีสิ่งใดจะพูดอย่างละเอียด กระหม่อมมั่นใจแน่ว่าโดฮวานคือสายเลือดของกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ”
มันเป็นน้ำเสียงที่เยือกเย็น แต่ออฮยูลเจที่รู้อยู่แล้วว่าบีพาอันนั้นเป็นคนที่เยือกเย็นได้ทุกสถานการณ์ จึงไม่ปักเชื่อในคำพูดของบีพาอัน ออฮยูลเจลุกขึ้นจากบัลลังก์ เดินออกไปทางประตูด้านหลังพร้อมกับตะโกนว่า
“จงเรียกรวมตัวเชื้อพระวงศ์ทุกคนให้มารวมกันที่ท้องพระโรงหลังมือเย็นนี้ จะต้องไม่ขาดไปแม้แต่คนเดียว ไม่ว่าจะกุงบอน หรือนางสนมคนใด”
ทุกคนพยักหน้าขานรับกับคำสั่งนี้ ส่วนเหล่าขันทีต่างพากันก้มลงไปที่พื้น
“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าพระบาท”
ขันทีประสานเสียงพร้อมกัน ส่วนดึกวอลนั้นดวงตาของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ก้อนหินที่เขาโยนลงไปนั้นได้สร้างแรงกระทบอย่างใหญ่หลวง ตอนนี้ไม่รู้ว่าน้ำในบ่อจะปั่นป่วนเพียงใด ทว่าแค่เกิดการเรียกรวมประชุมของราชวงศ์ทุกคนก็เป็นที่น่าพึงพอใจแล้ว
ในพระราชวังได้มีการเรียกรวมประชุมราชวงศ์ทุกคนรวมถึงกุงบอน และนางสนมทุกคนด้วย
***
บรรยากาศอึมครึมเย็นยะเยือกปกคลุมไปทั่วพระราชวัง แสงไฟยังคงส่องไสวไปทั่วทุกที่แม้ในเวลามืดค่ำเช่นนี้ ทุกคนกำลังเดินอยู่บนทางที่มีแสงสว่างมุ่งหน้าไปยังท้องพระโรง ฮวังฮู และฮวังบี ผู้ปกครองพระราชวังทั้งสี่ทิศ รวมถึงภรรยาของพวกเขา และเหล่ากุงบอน และนางสนมทั้งหลายที่ไม่ขาดไปแม้แต่คนเดียวต่างรวมตัวมุ่งตรงไปยังท้องพระโรง เหล่าสตรีที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนั้นต่างพากันเดินก้มหน้าทำตามคำสั่ง และมีสตรีนางหนึ่งท่ามกลางสตรีทั้งหลายแอบยิ้มเล็กๆ นางดูเหมือนกำลังพยายามกลั้นยิ้มเดินอยู่ข้างๆ ดึกวอล
ตอนนี้ในท้องพระโรงเต็มไปด้วยเหล่าเชื้อพระวงศ์
ออฮยูลเจนั่งอยู่บนบัลลังก์สูงสุด ส่วนพระที่นั่งด้านข้างที่มีขนาดเล็กรองลงมานั้นฮวังฮู แทรยองนั่งอยู่ ต่ำลงมาอีกขั้นในด้านซ้ายและด้านขวา มีฮวังบี เย กับฮวังบี ซูนั่งอยู่ตามลำดับ ด้านล่างมีผู้ปกครองพระราชวังทั้งสี่ เหล่ากุงบอน และนางสนมนั่งเรียงไปตามลำดับ แทฮวางกุนและแทฮวางจูนั้นไม่ได้เข้าร่วม แต่อยู่ในการดูแลของแม่นมและเหล่าซังกุง
ภายในท้องพระโรงเต็มไปด้วยบรรยากาศตึงเครียด หลังจากที่ทุกคนเข้าไปนั่งที่ของตน และเวลาผ่านไปได้ระยะหนึ่งแล้ว ออฮยูลเจก็ลุกขึ้นจากที่นั่ง
“การที่ข้าพเจ้าเรียกทุกคนมารวมตัวกันในวันนี้ เป็นเพราะข้าพเจ้าได้ยินคำพูดสะเพร่าซึ่งอาจจะต้องใช้กฎหมายของบ้านเมืองเข้าจัดการ”
ออฮยูลเจกวาดตามองไปที่ทุกคน แล้วชี้ลงไปที่ด้านล่างพร้อมกับตะโกนว่า
“ฮวางแทจา พระชายาฮวางแทจา และฮวางเซจา จงออกมาคุกเข่าที่ด้านหน้านี้!”
เกิดเสียงซุบซิบกันระหว่างสตรีทั้งหลายที่อยู่ในท้องพระโณง
หากเทียบกับบีพาอันที่สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลงและทำตามคำสั่งอย่างนิ่งๆ แล้วนั้น รูแฮกับกโยซึลมีสีหน้าซีดเผือด ทั้งสามคนคุกเข่าก้มหัวอยู่ที่ด้านล่างของบัลลังก์ ในขณะที่ออฮยูลเจกำลังจะเปิดปากพูดนั้น บีพาอันก็เงยหน้าขึ้นแล้วเปล่งเสียงเอ่ยออกไปว่า
“กระหม่อมขอแจ้งให้ฝ่าพระบาททราบว่า กระหม่อมกังวลว่าฝ่าพระบาทผู้ทรงปัญญาจะหลงกลกับคำโกหกหลอกลวงของแทจาพ่ะย่ะค่ะ สงสัยในการกำเนิดของแทฮวางกุน โดฮวานเยี่ยงนั้นหรือ กระหม่อมกลับสงสัยในเจตนาที่แท้จริงของแทจาที่ได้พ่นคำโกหกพวกนี้ออกมาพ่ะย่ะค่ะ”
แม้จะเป็นการกระทำที่ไร้มารยาท แต่ออฮยูลเจก็ไม่ได้ตำหนิเขา ออฮยูลเจที่ฟังสิ่งที่บีพาอันพูดด้วยสีหน้านิ่งสนิท และพยักหน้าให้กับเขานั้นทำให้ทุกคนที่รวมตัวกันอยู่ในท้องพระโรงเข้าใจได้ว่าถูกเรียกมาด้วยเหตุใด คำพูดเกี่ยวการถือกำเนิดของแทฮวางกุน โดฮวานที่บีพาอันพูดออกมา กับท่าทีของรูแฮที่ถูกเรียกออกมานั้น ทำให้พอจะคาดเดาเรื่องราวได้ จึงทำให้เหล่าเชื้อพระวงศ์ต่างพากันตกใจ
พระชายาฮวางแทจา กับฮวางเซจาอย่างนั้นหรือ
ส่วนคนที่สีหน้าไม่เปลี่ยน ไม่ตกใจเลยนั้นคือดึกวอลกับภรรยาของเขา และยอมิน ความวุ่นวายเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ออฮยูลเจโบกมือบอกให้ทุกคนเงียบแล้วเรียกดึกวอลออกมา
“แทจาก้าวออกมาข้างหน้า”
ดึกวอลลุกขึ้นจากที่นั่ง โอรันที่ไม่ได้ถูกเรียกก็เดินตามหลังสามีของตนออกมา ออฮยูลเจไม่ได้กล่าวห้ามนางแต่อย่างใด ดึกวอลกับโอรันคุกเข่าลงแล้วนั่งอยู่ด้านหลังของบีพาอัน กโยซึลและรูแฮ ความเงียบปกคลุมอยู่ครู่หนึ่ง อยู่ดีๆ ก็เกิดเสียงดังโครม ออฮยูลเจทุบลงไปที่พนักเก้าอี้ของบัลลังก์พร้อมกับตวาดออกมา
“กล้าดีอย่างไรถึงพูดออกมาอย่างมิยั้งคิด กล้าเอ่ยเรื่องราวที่ไม่ดีเช่นนั้นในพระราชวังที่เข้มงวดเช่นนี้ได้อย่างไร แม้ว่าเจ้าจะเป็นบุตรชายคนโตของข้า เจ้ามิรู้หรือว่าที่เจ้าเป็นแทจาเจ้าควรจะต้องระวังนิสัยที่ไม่รอบคอบเช่นนี้”
“โปรดเมตตากระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าพระบาท ทว่านี่มิใช่ข่าวลือไร้สาระที่ไม่มีเหตุผลนะพ่ะย่ะค่ะ”
“ยังตั้งสติมิได้อีกหรือ!”
การตวาดของออฮยูลเจไม่สามารถระงับท่าทีของดึกวอลได้ แม้จะก้มหัวตอบอย่างถ่อมตน แต่คำพูดที่พูดต่อหน้าองค์จักรพรรดิที่กำลังโกรธเกรี้ยวอยู่นั้น ถือเป็นท่าทีที่มั่นอกมั่นใจยิ่งนัก
แม้แต่ดึกวอลเองก็ไม่คิดว่าออฮยูลเจจะเรียกเชื้อพระวงศ์ทุกคนมารวมตัวกัน และแสดงอาการโกรธต่อหน้าทุกคนเช่นนี้ ดึกวอลรีบใช้หัวคิด เขาคิดว่าหากพูดถึงเรื่องราวที่ไม่ยุ่งยากเสียก่อนน่าจะเป็นการง่ายกว่าที่จะเริ่มด้วยเรื่องที่มีความวุ่นวายสูง ดึกวอลจึงล้มเลิกแผนที่จะบอกว่าบิดาของโดฮวานคือรูแฮไปก่อน แต่จะเริ่มจากการวิพากษ์ความน่าสงสัยของรูแฮกับกโยซึล
“ทว่าโปรดตรัสถามพระชายาฮวางแทจา กับฮวางเซจาด้วยพระองค์เองเถิดพ่ะย่ะค่ะ ไม่มีทางที่จะไม่มีมูลเหตุให้ข่าวลือเหล่านี้หลุดออกมาพ่ะย่ะค่ะ
ดึกวอลเล็งลูกศรไปยังกโยซึลกับรูแฮ ตัวของกโยซึลสั่นอย่างแรง บีพาอันขมวดคิ้วเล็กน้อย
“พระชายาฮวางแทจา! ฮวางเซจา!”
“ฝ่าพระบาท ความบุ่มบ่ามของแทจานั้น…”
“ฮวางแทจา หุบปากไปเสีย!”
ความโกรธของออฮยูลเจพุ่งถึงขีดสุด บรรยากาศรอบๆ นั้นเงียบกริบ มีเพียงเสียงของออฮยูลเจที่ดังก้องไปทั่วท้องพระโรง
“ฝ่าพระบาท”
ในที่สุดรูแฮก็เอ่ยปากขึ้น มืองของเขากำหมัดอยู่ แม้สีหน้าจะซีดเผือด แต่ดูเหมือนว่าเขาได้ตัดสินใจบางอย่างอย่างแน่วแน่แล้ว สายตาของเข้าฉายแววอย่างไม่สั่นไหว
สายตาของทุกคนในท้องพระโรงจ้องมองไปที่รูแฮ และรูแฮก็พูดออกมา
“…พ่ะย่ะค่ะ”
คำพูดคำเดียวที่ออกมาจากปากของเขานั้นทำให้ท้องพระโรงเย็นยะเยือก แม้กระทั่งเสียงลมหาย ออฮยูลเจเอ่ยปากพูดทำลายความเยือกเย็นนี้
“จงพูดอีกครั้ง”
บรรยากาศในท้องพระโรงเย็นเยียบ
“กระหม่อมหลงรักพระชายาฮวางแทจา ไม่สิ มกฮวา อูรึมพ่ะย่ะค่ะ”