ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes - ตอนที่ 68
เป็นเวลาอาหารเย็น และสัตว์ทุกตัวก็ได้รับอาหารที่มีมานาหลายชนิด
เจสันต้องรอให้คนอื่นๆ และสัตว์ทั้งหลายกินอาหารเสร็จ เขาจึงเข้าโลกวิญญาณเพื่อฝึกเทคนิคนรรสวรรค์อย่างขยันขันแข็งเหมือนทุกวัน
หลังจากที่ทำเสร็จ คนอื่นๆ ก็ทำเสร็จเช่นเดียวกัน สัตว์ทุกตัวอยู่ด้านนอกยกเว้นลิงของมาร์คที่ชอบอยู่ใกล้ๆ กับมาร์ค
การรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย ภายในใจของเจสันนั่นครุ่นคิดเกี่ยวกับเทคนิคศิลปะการต่อสู้ของเขากับการปรับเปลี่ยนอย่างที่เขาควรจะทำ ตามคำแนะนำของเกร็ก
เจสันถอนหายใจและไม่ได้สังเกตุว่าเกร็กนั้นได้ปัญหาของเจสันเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ให้ครอบครัวได้ฟัง ด้วยความรู้พื้นฐานของเจสันที่ไม่เลยเกี่ยวกับสภาพความแข็งแกร่งของร่างกาย เจสันเพียงรู้แค่วิธีการและลำดับของศิลปะการต่อสู้ สายตาของเจสันนั้นยอดเยี่ยม สามารถมองดูการโจทมตีได้ทั้งหมด แต่เพียงร่างกายของเจสันนั้นไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ทันตามใจคิด
เกร็กยกย่องความสามารถเหล่านี้ แต่เขาเองก็เข้มงวดกับความสามารถที่ขาดหายไปของเจสัน ที่เจสันนั้นต้องเติมเต็มช่องว่างต่างๆ เหล่านี้
ถ้าเจสันรู้พื้นฐานมากขึ้น เจสันจะต้องสามารถเคลื่อนไหวหลายๆ แบบร่วมกันแทนที่จะทำตามลำดับง่ายๆ ของเทคนิคการต่อสู้
ปัญหาหลักๆ ของเจสันคือ เจสันจะใช้เทคนิคสำหรับการต่อสู้มือเปล่ามาใช้ควบคู่กับอาวุธและดัดแปลงเทคนิค ทำให้ความแข็งแกร่งของมันหายไป และสิ่งสำคัญต่างๆ เองก็ถูกลดลงด้วยเช่นกัน
สิ่งนี้ทำให้ศักยภาพของเทคนิคและขีดจำกัดต่างๆ ถดถอยลง ซึ่งเจสันเองก็ไม่รู้เลย
กาเบรียลลาและมาร์คมีเทคนิคการเชี่ยวชาญอาวุธพื้นฐานทุกประเภทที่ซื้อมาก่อนที่ลูกๆ ของพวกเขาจะเกิด เพราะพวกเขาต้องเตรียมพร้อมสำหรับการดูแลครอบครัว
แต่ในที่สุดมันก็ไร้ประโยชน์เพราะมาเลียไม่ได้ใช้อาวุธใดๆ และสามารถโจมตีได้ด้วยการควบคุมไฟและน้ำ ในขณะที่เกร็กอาศัยการเคลื่แนไหวและร่างกายที่แข็งแกร่งและทนทาน มากกว่าการใช้อาวุธใดๆ
กาเบรียลลาและมาร์คนั้นรู้สึกเสียดายที่สิ่งที่เขาได้เตรียมไว้นั้นไร้ประโยชน์ แต่ตอนนี้ด้วยเหมือนว่ามันจะมีประโยชน์แล้ว
กาเบรียลลามองเข้าในช่องเก็บของที่มีขนาดใหญ่ของเธอ และค่อยๆ หยิบหนังสือออกมาทีละเล่ม ในตอนแรกเจสันไม่ได้สังเกตุว่ามีหนังสือมาวางอยู่บนโต๊ะ จนกระทั่งมันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนกองเป้นพะเนินอยู่บนโต๊ะ ความคิดฟุ้งซ่านของเจสันก็หายไปขณะที่มองไปที่กองหนังสือ
แต่เมื่ออ่านชื่อข เจสันก็เริ่มสงสัย
‘คู่มือกริชพื้นฐาน, คู่มือกริชคู่พื้นฐาน, คู่มือการยิงธนูขั้นพื้นฐาน, คู่มือการต่อสู้ระยะใกล้ขั้นพื้นฐาน ….. , การออกกำลังกายขั้นพื้นฐาน, การออกกำลังกายมานาขั้นพื้นฐาน, คู่มือการจัดการมานาขั้นพื้นฐาน, คู่มือการรวบรวมมานาพื้นฐานแบบพาสซีฟ, คู่มือท่าทางการต่อสู้ขั้นพื้นฐาน, มือใหม่ เชี่ยวชาญอาวุธมีดสั้นมือใหม่… ..`
มีหนังสืออย่างน้อย 50 เล่มต่อหน้าเจสันและแต่ละเล่มมีชื่อที่น่าสนใจ …
เมื่องมองไปที่กาเบรียลลาและมาร์ค กาเบรียลลาพยักหน้าและมาร์คได้พูดว่า
“ใช้พวกมันซิ”
มาร์คยังคงคงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเมื่ออยู่กับเจสัน แต่มาร์คก็มีความรู้สึกอบอุ่นขึ้นเล็กน้อยอย่างช้าๆ เจสันกระโดดขึ้นและขอบคุณกาเบรียลลาและมาร์คอย่างดีใจ
“ขอบคุณครับคุรน้าคุณลุง…. อ๊ะ….. เอ๊ะ ผมขอโทษ”
เจสันพูดไปโดยไม่รู้ตัว แต่สังเกตุได้ว่าพวกเฟลเลอร์นั้นมีท่าทางตกใจทันที่ที่เจสันเรียกเขาว่า คุณลุง คุณน้า
ในยุคนี้เป็นเรื่องไม่เหมาะสมที่จะเรียกผู้อื่นว่า ลุง น้า ป้า อา โดยไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นเรื่องที่หยาบคาย
แม้ว่าเจสันจะคิดได้ว่ามันหยาบคายเพราะไม่ค่อยสุภาพและถูกมองว่าเป็นวิธีที่จะพยายามใกล้ชิดกับใครสักคนซึ่งใช้เรียกแทนชื่อของคนเหล่านั้น
ที่สำคัยเจสันเจสันไม่เคยคุยกับใครอย่างสนิทสนมมาก่อน ยกเว้นแม่ของตัวเองในขณะที่เขาคิดว่าตัวเองนั้นมีความคิดโง่ๆ
ทั่วทั้งห้องปกคลุมไปด้วยความเงียบสงบชั่วขณะ จนกาเบรียลลายิ้มออกมาและขบขันเพื่อสลายความอึดอัดในสถานการณ์นี้ ก่อนที่เธอจะพูดกับเจสัน
“ฉันไม่เคยถูกใครเรียกว่าน้า แต่ถ้าเธอเรียกแบบนั้น ฉันก็จะมองว่าเธอเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวของเรา ตั้งแต่นี้เธอสามารถเรียกว่าคุณลุงคุณน้าอย่างสาบยใจได้เลยนะ “
เธอพูดขณะหัวเราะเบา ๆ
มาร์คมองเจสันอย่างหงุดหงิดเล็กน้อยก่อนจะหันไปหาภรรยาด้วยสายตาแปลก ๆ
`ฉันตัดสินใจอะไรที่สำคัญแบบนั้นไม่ได้เหรอ!?! ฉันก็เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้ด้วย !!! “
มาร์คได้คิดในใจ จนกระทั่งเกร็กกระโดดกอดเจสัน….
“ฮ่าๆๆๆ ฉันอยากมีน้องชายมาตลอด และตอนนี้นายต้องเป็นน้องชายของฉันไม่ว่านายจะชอบหรือไม่ก็ตาม ฮิฮิ”
แม้แต่มาเลียก็ยังคงนั่งยิ้มอย่างสดใส แสดงสัญลักษณ์มิตรภาพออกมา ทำให้มาร์คได้รับรู้และมาร์คก็คิดได้
`อย่างน้อยเขาก็จะไม่ไล่ตามเจ้าหญิงที่มีค่าของฉัน! ฮ่าฮ่า ‘
หลังจากนั้นกาเบรียลลาก้หันมาอย่างจริงจังและออกคำสั่ง
“ตอนนี้เธอเองก้เป้นส่วนหนึ่งของครอบครัวแล้ว ถึงแม้จะไม่มีพันธะอย่างเหมาะสม แต่เธอก็ต้องมีหน้าที่รับผิดชอบบางอย่าง โรงเรียนจะเริ่มขึ้นใน 9 วัน พื้นฐานของเธอก็ยังไม่แข็งแรงพอ งานในวันนี้ก็คือ เธอจะต้องอ่านหนังสือทุกเล่มบนโต๊ะและทบทวนพวกมันให้หมด ถึงสิ้นสัปดาห์นี้ เธอจะต้องจำลายละเอียดต่างๆ ของหนังสือเหล่านี้ และตัดสินใจเลือกอาวุธที่เธอจะใช้ และใช้มันเป้นอาวุธหลัก ฉันจะมุ่งเน้นไปที่อาวุธนั้นเพื่อฝึกฝนเธออย่างถูกต้อง เราจะเตรียมการออกกำลังกายสำหรับเธอ และเตรียมอาหารเพื่อให้เธอได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ เธอจะไม่สามารถลดผ่อนการทำหน้าที่ต่างๆ นี้ได้ ฉันได้ยินมาว่าเธอฉลาดและการสอบทางทฤษฎีของเธอค่อนข้างดีเยี่ยม….. แต่ในเมืองไซโรนั้นแตกต่างเล็กน้อย คำถามที่ทดสอบนั้นตื้นและไม่มีคำถามที่ถามถึงความรู้ที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับทางโลก เพียงคำถามเดียว”
เมื่อฟังกาเบรียลลา เจสันพบว่ามันตื่นเต้นที่มีตารางงานที่แน่น มันไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลยที่จะสามารถดูดซับมานาตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน การกินและการฝึกเทคนิคนรกสวรรค์นั้นเป็นข้อยกเว้น
ก่อนหน้านี้เจสันไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรในอีก 7 วัน ที่เหลือเพราะเขาค่อนข้างอ่อนแอเกินกว่าที่จะเข้าไปในเขตป่า 2 ดาวเพียงลำพัง
เมื่อมีหนังสือตรงหน้า ตอนนี้เจสันรู้ว่าควรทำอย่างไร การเก็บมันไว้ในสร้อยข้อมือ และได้แสกนหนังสือเพื่อมันเนื้อหาภายในแสดงบนโฮโลแกรม เจสันเกือบจะขอบคุณพวกเฟลเลอร์อีกครั้ง เพราะความตื่นเต้นเกินกว่าจะอ่านหนังสือกว่า 50 เล่มนี้
กาเบรียลลายิ้มให้เด็กหนุ่มที่วิ่งออกจากบ้านไปที่สวนหลังบ้าน ขณะที่ที่มาร์คเปิดหน้าจอโฮโลแกรมขึ้นมา
“ฉันจะเตรียมแผนการออกกำลังกายของเจสันให้”
มาเลียและเกร็กมองหน้ากันและสงสัยว่าเจสันจะสามารถอ่านหนังสือทั้ง 50 เล่ม ได้หรือไม่เพราะแต่ละเล่มนั้นมีเว็บไซต์เพิ่มเติมอีก 50 กว่าเว็บ และภาษทางเทคนิคที่ยากที่จะทำความเข้าใจ
เพียงไม่กี่นาทีต่อมาเจสันกลับเข้ามาด้วยสีหน้าสับสน …. และระดมยิงคำถามมากมาย มาเลียจึงช่วยเจสันในขณะที่เธออ่านหนังสือของเธอไปด้วย
เกร็กเบื่อกับการอ่านหนังสือคนเดียว เขาต้องอ่านทฤษฎีขั้นสูงเกี่ยวกับการผ่าวงล้อมมานาซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเบื่อสำหรับเกร็ก
ทั้งสามคนนั่งพิงต้นไม้หนาทึบ ภายใต้เงาของมันและอ่านหนังสือของพวกเขาอย่างเงียบ ๆ