ดวงใจภวินท์ - บทที่ 1 นัดบอด
ดวงใจภวินท์ บทที่ 1 นัดบอด –
ร้านกาแฟที่โอ่อ่าใหญ่โต เงียบสงบแบบนี้หาได้ยาก
ญาธิดาก้มหน้าคนกาแฟที่อยู่ตรงหน้าของเธอด้วยความตื่นเต้น
บรรยากาศตกอยู่ในสภาวะที่อึดอัดทำตัวไม่ถูก
“นัดบอดครั้งแรก?”
ชายหนุ่มได้กล่าวขึ้นเบา ๆ หลังนั่งลงที่นั่งได้ครึ่งนาที
ออร่าของเขานั้นเปล่งปลั่งมาก เพียงประโยคคำถามง่าย ๆ กลับทำให้ญาธิดายิ่งตื่นเต้นมากกว่าเดิม
วันนี้เป็นการนัดบอดครั้งแรกในชีวิตของญาธิดา ภายใต้การบังคับและชักนำของคุณแม่ เธอมาถึงที่ร้านกาแฟตามที่นัดไว้อย่างไม่เต็มใจ จนหาเจอที่นั่งโต๊ะที่ได้จองไว้
วันนี้เดิมคิดว่ามาเพื่อให้มันผ่าน ๆ ไป แต่ใครจะไปรู้ว่าชายหนุ่มที่นั่งลงนั้น กลับเป็นภวินท์ สถิรานนท์ ประธานแห่ง STN Group
ชายผู้ที่เพียงมือเดียว ก็สามารถทำให้เมือง J สั่นสะเทือนได้!
อึดอัดสุด ๆ ญาธิดานั้นทำงานอยู่ที่ STN Group เธอเป็นเพียงเสมียนเล็ก ๆ ในแผนกธุรการ
บุคคลเช่นภวินท์ ย่อมไม่รู้จักเธออย่างแน่นอน แต่ญาธิดาคงยากที่อยากจะแสร้งทำเป็นไม่รู้จักเขา
ดังนั้น เธอจึงตื่นเต้นจนพูดตะกุกตะกักไปหมด “ค่ะ เป็น เป็นครั้งแรก……”
แววตาของภวินท์เย็นชา กวาดมองตัวของญาธิดารอบหนึ่ง แล้วกล่าวต่อ “จบมหาวิทยาลัยหรือยัง”
“จบแล้วค่ะ” ญาธิดากลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัวแล้วกล่าวเสริม “จบมาสองปีแล้วค่ะ”
เมื่อได้ยินคำตอบ ภวินท์เงียบไปครู่หนึ่ง ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ บนใบหน้าหล่อเหลาอันเงียบสงบ
แต่ในใจของญาธิดากลับปั่นป่วน ขณะที่เธอพลางครุ่นคิดว่าคุณแม่ของเธอนั้นไปขอพรเจ้าแม่องค์ใด ถึงได้ประทานคู่นัดบอดระดับสูงเช่นนี้มาให้ เธอก็ได้พลางคิดว่าภวินท์นั้นนั่งผิดโต๊ะหรือเปล่า
หรือว่าเป็นตัวเองนั้นนั่งผิดโต๊ะ?
หางตาเหลือบดูหมายเลขโต๊ะ ก็เป็นหมายเลข 18
“เอ่อคือ ……คุณนั่งผิดโต๊ะหรือเปล่าคะ” ญาธิดารวบรวมความกล้าแล้วกล่าว
“เอาบัตรประจำตัวมาด้วยไหม” ภวินท์กล่าว
ทั้งคู่กล่าวขึ้นพร้อมกัน และก็หยุดชะงักในเวลาเดียวกัน
ญาธิดาได้ยินคำพูดของภวินท์ จึงเงยหน้าด้วยความตกใจ
ภวินท์ที่ใบหน้ารูปไข่อันหล่อเหลาที่อยู่แค่เอื้อม ทำให้แก้มของญาธิดาแดงระเรื่อขึ้นอย่างฉับพลัน จนสมองเต็มไปด้วยความว่างเปล่า
ภวินท์ที่มีผิวพรรณเนียนผ่องเปล่งปลั่งแต่กำเนิด ที่ดีกว่าดาราชายสุดฮอตในตอนนี้ถึงสามเท่า แต่ด้วยความเป็นนักธุรกิจ มาดความเข้มในตัวของเขามักทำให้คนไม่กล้าสบตา
ญาธิดาเข้ามาที่ STN Group ช่วงฝึกงานตอนสมัยเรียน เมื่อฝึกงานผ่านจึงได้อยู่ทำงานต่อ อยู่จนเวลาล่วงเลยมาสองปี
สองปีที่อยู่ที่นี่ เธอเจอภวินท์น้อยครั้งมาก ถึงแม้ว่าจะเจอ ก็เจอแต่เงาแบบไกลริบหรี่ วันนี้ได้เจอแบบอยู่ตรงหน้า รู้สึกยิ่งกว่าฝันเสียอีก
“คุณยังมีคำถามอะไรอีกไหม” ภวินท์มองใบหน้ารูปไข่ของญาธิดาที่แดงระเรื่อ ความเย็นชาในดวงตาได้จางลงเล็กน้อย
ญาธิดาส่ายหน้า เธอจะกล้ามีคำถามกับเจ้านายตัวเองได้อย่างไร!
ระหว่างนั้น โทรศัพท์ของภวินท์ได้ดังขึ้น และเขาก็กดรับสาย หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนเขาก็ตอบกลับเพียงสั้น ๆ ว่า “เข้าใจแล้ว”
จากนั้นก็วางสายโทรศัพท์ แล้วก็เงยหน้าขึ้นมาองญาธิดา “ไปกันเถอะ”
ท่าทางการลุกขึ้นของเขาเหมือนกับท่าทางการทำงาน ที่กระชับรวดเร็ว
ญาธิดาราวกับถูกครอบงำ ลุกขึ้นอย่างเชื่อฟัง แล้วเดินตามหลังภวินท์ออกไปจากร้านกาแฟ
ภวินท์ที่สูงร้อยเก้าสิบเซนติเมตร ญาธิดาที่สูงร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรเดินตามหลังของเขาต้อย ๆ จึงดูตัวเล็กมากในเวลานี้
ญาธิดาตามภวินท์ขึ้นรถไป เป็นรถไมบัคคันดำที่เขาใช้เป็นประจำ
ญาธิดานั่งอยู่ในรถที่หรูหราเช่นนี้ รู้สึกเหมือนนั่งอยู่บนเข็มบนหมุด จิตใจไม่สุขขยับนิ้วมือทั้งสองข้างไม่หยุด ถามตัวเองในใจตลอดเวลาว่าตอนนี้กำลังฝันอยู่ใช่ไหม
แต่แล้วปฏิกิริยาทั้งหมดของเธอก็ได้อยู่ภายใต้สายตาของภวินท์
“ทางบ้านบังคับให้ผมนัดบอด ผมไม่อยากจะเสียเวลาไปกับเรื่องแบบนี้สักเท่าไหร่ รูปลักษณ์ของเธอสะอาดสะอ้าน ดูแล้วสบายตา แต่งงานด้วยไม่มีปัญหา”
ในรถที่เงียบสงัด ภวินท์ได้กล่าวขึ้นฉับพลัน
น้ำเสียงทุ้มต่ำของเขาดังก้องอยู่ข้างใบหูของญาธิดา
ญาธิดามองภวินท์ด้วยความประหลาดใจ ถึงแม้ว่าเธอจะมานัดบอดกับเขา แต่ดูเหมือนก็ยังไม่น่าจะถึงขั้นแต่งงานกระมัง
“คุณ ลองคิดดูก่อนไหมคะ พวกเราดูเหมือนยัง ยังไม่ค่อย……” รู้จักกันเท่าที่ควร
“ไม่จำเป็น” ภวินท์ขัดจังหวะคำพูดของญาธิดา บรรยากาศรอบข้างเต็มไปด้วยความเย็นชา กล่าวแกมบังคับ “เป็นภรรยาของผม ผมจะให้ทุกสิ่งที่คุณต้องการ”
ญาธิดาไม่รู้ว่าความจริงแล้วก่อนที่จะมานัดบอดนั้น ภวินท์รู้เรื่องเธอดีทุกประการ