ดวงใจภวินท์ - บทที่ 101 กลับบ้านคุณหรือว่ากลับบ้านผม
แอบถ่ายรูปที่ความสัมพันธ์คลุมเครือไม่ชัดเจนได้หลายรูปติดต่อกัน นีราภาเก็บกล้องถ่ายรูปด้วยความพึงพอใจแล้วจากไปอย่างรวดเร็ว
อีกฝั่งนึง ญาธิดาใช้แรงประคองมาร์ตินขึ้นรถ หลังจากทักทายกับคนขับรถเสร็จ มองดูพวกเขาจากไป
ตอนมาเธอได้นั่งรถของมาร์ตินมา แต่เวลานี้ เธอก็ไม่สะดวกที่จะขึ้นรถของเขา ให้คนขับรถของเขาส่งเธอกลับอีก สู้โบกรถกลับบ้านเองดีกว่า
สูดหายใจลึกๆทีนึง มองดูรถที่ขับจากไป ญาธิดาที่เดิมทีตึงเครียดได้ผ่อนคลายลงทันที แอลกอฮอล์ออกฤทธิ์ เธอยืนอยู่กลางสายลมหนาวไปครึ่งค่อนวัน แต่ของที่อยู่ตรงหน้ายังคงเกิดภาพซ้อนอยู่ดี
ญาธิดากัดฟันแล้วก้าวเท้าเดินไปข้างหน้า ทันใดนั้นขาได้เกิดการอ่อนแรง ร่างกายได้ล้มไปข้างๆอย่างควบคุมไม่ได้
จู่ๆ แขนกำยำข้างนึงได้ประคองไหล่ของเธอไว้โดยตรง ช่วยเธอทรงตัวให้ได้
ญาธิดารู้สึกเวียนหัว เธอพยายามตั้งสติหันหน้าไป พอหันไปก็เห็นใบหน้าที่เย็นชาและเคร่งขรึม
สีหน้าของภวินท์บึ้งตึงสุดขีด สายตาเฉียบคมจ้องอยู่ที่ใบหน้าของญาธิดา “ใครใช้ให้คุณดื่มเหล้า ”
เขาเข้าสังคมเสร็จ ออกมาจากโรงแรม เพิ่งมาถึงหน้าโรงแรมก็เห็นร่างเงาที่คุ้นเคย สาวน้อยเซไปมาอยู่ท่ามกลางสายลม ราวกับนาทีต่อมาก็จะล้มลงไปที่พื้น
ญาธิดาอึ้งอยู่ครู่นึง จากนั้นได้มองสีหน้าเคร่งขรึมของผู้ชาย จู่ๆเกิดความรู้สึกน้อยใจขึ้นมา เบ้าตาแดงก่ำ น้ำตาไหล“พรากๆๆ”ลงมา
“คุณดุฉัน…ทำไม ”
เธอทรมานจะแย่อยู่แล้ว อาเจียนไม่ออก แถมยังเวียนหัวอีก……
เห็นเธอบ่นจะร้องก็ร้องออกมาเฉยเลย ภวินท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ทีนี้คำพูดตำหนิก็พูดไม่ออกแล้ว “ร้องไห้ทำไม ”
“……ใครร้องไห้ ”
ญาธิดาทำจมูกฟุดฟิด ไหล่ก็กระตุกไปด้วย พึมพำน้อยใจก็ไม่ยอมรับ
ระหว่างเธอพูดก็ได้ก้าวเท้าเดินไปข้างๆ ร่างกายเซไปเซมา ซบไปบนตัวผู้ชายข้างๆอย่างแม่นยำไม่มีผิดพลาด
“ปัง”เสียงนึง ศีรษะน้อยๆได้ซบไปที่ทรวงอกของภวินท์โดยตรง เธอหลับตาลงพร้อมพึมพำ “พาฉันกลับบ้าน……พาฉันกลับบ้าน”
ภวินท์มองผู้หญิงในอ้อมอกแล้วกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เห็นได้ชัดว่ากิริยาท่าทางของเธอคือดื่มเยอะเกินไป
ภวินท์ใจอ่อนลงเยอะเลย เขาก็ตัดใจทิ้งเธอไว้ที่นี่ไม่สนใจไม่ได้ จึงได้ถามเสียงเบาว่า “กลับบ้านคุณหรือว่ากลับบ้านผม ”
แอลกอฮอล์ออกฤทธิ์ สมองของญาธิดาเกิดความสับสน เธอหลับตาไว้พร้อมพูดพึมพำ “กลับ……บ้านพี่คนหล่อ แหะๆ บ้านพี่คนหล่อ……”
ภวินท์ได้ยินแล้วสีหน้าบูดบึ้งขึ้นมาทันที
พี่คนหล่อ พี่คนหล่อมาจากไหนกัน หรือว่าเธอไปคุยกับผู้ชายอะไรอีก
ภวินท์คิดถึงตรงนี้ก็ยิ่งอารมณ์ไม่ดีเข้าไปใหญ่ เขายื่นมือจับหัวไหล่ของญาธิดาไว้แน่น และได้เพิ่มแรงขึ้นหลายระดับโดยที่ไม่รู้ตัว พร้อมกับย้อนถามด้วยเสียงเคร่งขรึม“พี่คนหล่อคนไหน ”
ญาธิดาเจ็บไหล่จนหน้าบูดเบี้ยวขึ้นมา เธอหัวตัวเอาไว้ ยื่นมือกอดคอของภวินท์ไว้ด้วยสัญชาตญาณ “เจ็บ……”
ภวินท์ดึงสติกลับมา ได้รีบปล่อยมือ แล้วยื่นมือโอบเอวของเธอไว้ เพื่อไม่ให้เธอล้ม
ซบอยู่ที่อกของเขาแล้วถูไถไปมา ทีนี้ญาธิดาถึงรู้สึกสบายใจขึ้นเยอะ พร้อมกับกอดคอเขาไว้ไม่ยอมปล่อยมืออีก
ภวินท์ถามอย่างมีความอดทน “กลับที่ไหน ”
ผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมอกขยับร่างกาย และลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ มองไปที่ภวินท์แล้ว ได้เตะตากับหน้าตาเขา แววตาเปล่งประกาย พร้อมกับยื่นมือออกไปค่อยๆพรรณนาตามคางของเขา
พูดพึมพำอย่างลิ้นแข็ง “พี่คนหล่อ……หล่อจังเลย……”
แผ่นหลังของภวินท์แข็งทื่อ เขาที่แต่ไหนแต่ไรภาคภูมิใจกับการควบคุมตนเอง ไม่นึกเลยว่าในใจจะมีความหงุดหงิดโผล่ขึ้นมา
ภวินท์ขมวดคิ้ว มือที่โอบเอวผู้หญิงไว้ได้ค่อยๆโอบแน่นขึ้น เสียงทั้งต่ำทั้งแหบ“อย่าโวยวาย ผมส่งคุณกลับบ้าน”
ถ้าเธอขยับไปมั่วอีก มีท่าทางอะไรที่น่าตกใจอีก กลัวก็แต่เขาจะทำอะไรออกมาโดยที่ไม่สนใจและไม่คำนึงถึง
แต่ยิ่งไม่ให้ผู้หญิงเมาเหล้าทำอะไร เธอดันยิ่งทำอย่างนั้น ญาธิดาบิดตัวไปมาอยู่ที่อ้อมอกเขาอย่างไม่กลัวตาย พร้อมพูดเสียงเบาว่า “ฉันหิวน้ำ……”
เสียงที่แฝงด้วยความแหบพร่าก็เหมือนมือน้อยๆข้างนึง คอยเกาหัวใจของภวินท์เบาๆ เขาก้มหน้ามองผู้หญิงที่หน้าแดงก่ำในอ้อมอก ความหงุดหงิดนั้นยิ่งเพิ่มมากขึ้น
เขาขมวดคิ้วไว้แน่น ก็ไม่มีเวลามาสนใจเยอะแยะขนาดนั้นแล้ว ได้โน้มตัวอุ้มญาธิดาขึ้นมาโดยตรง แล้วเดินไปที่รถอย่างเร็ว
เปิดประตูรถก็เห็นแววตาที่สืบหาความจริงและลังเลของพายุ ภวินท์ได้เอาญาธิดาไปวางที่เบาะนั่งหลังโดยตรง พอปิดประตูรถ“ปัง” แล้วสั่งการด้วยเสียงทุ้มต่ำ“ส่งเธอกลับบ้าน”
ถ้าเขาพาเธอกลับไปที่บ้านตัวเอง เขาจะไม่สามารถรับประกันว่าตนเองจะทำอะไรบ้างหรือเปล่า
พายุตอบทันทีแล้วสตาร์ทรถยนต์
ญาธิดาพิงอยู่ที่พนักพิง ไม่รู้เป็นอะไร รู้สึกไม่สบายไปทั้งเนื้อทั้งตัว จึงได้ค่อยๆเขยิบมาพิงที่บนตัวภวินท์อีก
เธอเหมือนกำลังฝันอยู่ มือข้างนึงได้ยื่นไปลูบจับไปมาอยู่ที่ทรวงอกของภวินท์ ในปากยังคอยพึมพำว่า “สบายจังเลย……”
พูดคำนี้ออกมาปุ๊บ บรรยากาศในรถเปลี่ยนไปทันที สีหน้าของภวินท์ห้อยลงมาทันที แม้แต่พายุก็ยังเงยหน้ามองกระจกหลังโดยการหยั่งความคิดเห็น
ภวินท์ขมวดคิ้วพร้อมพูดเสียงเคร่งขรึมว่า “ขับรถของนายดีๆ ”
พายุเสียวสันหลัง เขารีบดึงสายตากลับ “ครับ ”
สาวน้อยในอ้อมอกยังคงไม่รู้ตัวเลย มือขาวเนียนคลำไปมา ฉวยโอกาสแต๊ะอั๋งเขา แถมในปากยังพึมพำไม่หยุด “แข็งจังเลย……อืมมมมม หมอนใบนี้แข็งจังเลย……”
ความโกรธที่ภวินท์เพิ่งกดลงไปในเมื่อครู่ได้คืบคลานมาหาใหม่ในพริบตา เขายื่นมือออกไปจับมือน้อยๆของญาธิดาไว้ ทั้งโกรธทั้งโมโห “ญาธิดา คุณรู้หรือเปล่าว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ ”
อยู่ตรงหน้าเขา ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าทำแบบนี้มาก่อน แต่เธอกลับท้าทายขีดความอดทนสูงสุดของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
“โอ๊ยเจ็บ…มีแมลงกัดฉัน ”
ทันใดนั้นญาธิดาได้ดึงมือกลับทันที แล้วยื่นมือกอดภวินท์ไว้แน่น แทบจะห้อยโหนอยู่บนตัวเขาทั้งคน เหมือนกับโคอาลาที่เมาเหล้าตัวนึง
ภวินท์ขมวดคิ้ว อดหัวร้อนไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเมาเหล้า เขาจะจัดการเธอแน่นอน
ไม่นาน รถก็ได้จอดลงที่หน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ภวินท์ดูญาธิดาที่หมอบอยู่ที่ทรวงอกตัวเองกำลังหลับสบายอยู่ เขาได้อุ้มเธอลงมาจากรถ
สายตากวาดผ่านพายุทีนึง แล้วสั่งการด้วยเสียงทุ้มต่ำ“นายรอฉันอยู่ที่นี่แหละ ฉันส่งเธอเข้าไปก่อน”
พอพูดจบ เขาก็ได้อุ้มญาธิดาเดินเข้าไปหมู่บ้านโดยตรง
ก่อนหน้านี้เคยมาหลายครั้ง จึงค่อนข้างคุ้นกับเส้นทางแล้ว ภวินท์มุ่งหน้าไป เดินผ่านถนนที่มีต้นไม้ปกคลุมแน่นหนา จู่ๆผู้หญิงในอ้อมอกได้ขยับ ละเมอพร้อมครวญคราง “สารเลว……ไอ้คนชั่ว…ภ……ภวินท์…”
ภวินท์ได้ยินแล้วก็ได้หยุดชะงักไป พร้อมหลุบตาลงอย่างค่อนข้างประหลาดใจ
เธอด่าเขาแม้กระทั่งในความฝัน หรือเป็นเพราะเรื่องที่เมื่อวานเขาทิ้งเธอไว้กลางทาง
ในใจมีอารมณ์ที่ซับซ้อนโผล่ขึ้นมา ภวินท์มองใบหน้าด้านข้างของสาวน้อยในอ้อมอกแล้วค่อนข้างละอายใจ
จู่ๆ นึกถึงผู้หญิงอีกคนที่ตอนนี้ยังนอนเจ็บปวดยากลำบากอยู่บนเตียง แววตาของภวินท์มีแสงมืดมนแวบผ่าน ความละอายใจที่เดิมทีโผล่ขึ้นมาก็ได้จางหายไปในพริบตา เขาก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าอย่างไว เดินเข้าไปคอนโดที่ญาธิดาอยู่โดยตรง
มาถึงหน้าห้อง เขาได้กดกริ่ง ไม่นานก็มีคนมาเปิดประตูให้
คุณปภาวีเปิดประตูปุ๊บ เห็นภวินท์ที่ยืนอยู่หน้าห้องกับญาธิดาที่เมามายอยู่ในอ้อมอกเขา ทันใดนั้นได้ตกใจใหญ่เลย
“พวกคุณ……”
ภวินท์ไม่ได้มาอธิบายอะไรเยอะแยะ แค่พูดจาเรียบเฉยคำนึงว่า“ธิดาเมา ผมก็เลยส่งเธอกลับมาครับ”