ดวงใจภวินท์ - บทที่ 106 เราหย่ากันแล้ว!
ตอนที่มาถึงจุดหมายปลายทาง ญาธิดาพบเห็นอย่างน่าทึ่ง ตำแหน่งที่ตั้งของคอนโดนี้อยู่ใกล้กับบริษัทมาก จากชุมชนถึงบริษัท เดินเท้าเปล่าสิบห้านาทีก็ถึงแล้ว
มาถึงใต้ตึก ญาธิดาได้โทรหานายหน้าทันที ไม่นานก็มีผู้ชายใส่ชุดสูทเดินมา
หลังจากคอนเฟิร์มแล้วว่าเป็นนายหน้า เขาได้พาญาธิดากับธีทัตขึ้นไปดูห้องทันที
“ถึงแม้เป็นตึกสูง แต่มีลิฟต์ สะดวกมากครับ ใกล้กับซุปเปอร์มาร์เก็ตของประตูทางเข้าในชุมชนมากด้วยครับ”
นายหน้าเดินไปด้วยและคอยแนะนำไปด้วย ออกมาจากลิฟต์ ก็เห็นคอนโดของชั้น16เลย พอเปิดประตู ญาธิดาเห็นการตกแต่งและการออกแบบของในห้องแล้ว แทบไม่แตกต่างกับในรูปเลย เธอทั้งประหลาดใจและเซอร์ไพรส์
“คอนโดห้องนี้เหมาะกับอยู่คนเดียวหรือสองคนที่สุดครับ มีห้องครัว ระเบียงเล็กๆ และห้องรับแขกเล็กๆ คู่รักอย่างพวกคุณสองคน เหมาะที่จะเช่าคอนโดขนาดเล็กแบบนี้ที่สุดเลยครับ แถมราคาก็ถูกมากด้วย……”
ได้ยินนายหน้าพูดแบบนี้ ญาธิดาหันไปมองธีทัตด้วยจิตใต้สำนึก แล้วยิ้มอย่างขัดเขิน จากนั้นได้มองไปที่นายหน้าอีกครั้ง “เรา……ไม่ใช่คู่รักกันค่ะ”
นายหน้าอึ้ง เหมือนคิดไม่ถึงว่าจะเป็นแบบนี้ ดูเหมือนว่าเขาเองก็รู้สึกอึดอัดเหมือนกัน ได้แต่หัวเราะแห้งๆสองที
ธีทัตที่อยู่ข้างๆได้ยินแล้ว แววตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “แค่ตอนนี้ยังไม่ใช่ แต่อีกไม่นานก็ไม่แน่นะ”
เดิมทีเป็นคำพูดล้อเล่นเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ แต่ญาธิดาฟังปุ๊บหูได้แดงก่ำอย่างไม่รู้ตัว
บรรยากาศผ่อนคลาย นายหน้าก็ได้หัวเราะตามด้วย “ฮ่าๆ งั้นผมก็ขออวยพรพวกคุณล่วงหน้าแล้วนะครับ”
ทั้งสามคนหัวเราะ จากนั้นได้เปลี่ยนประเด็นมาดูห้องต่อ
ทุกจุดของห้องล้วนไม่ต่างกับในรูปเลย ญาธิดายังคอนเฟิร์มราคาแล้วคอนเฟิร์มอีก หลังจากสอบถามทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ญาธิดาตัดสินใจเซ็นสัญญาเดี๋ยวนั้นเลย
จู่ๆนายหน้าได้พูดว่า“ใช่แล้วครับ ยังมีอีกอย่างนึง เจ้าของห้องได้กำชับเป็นพิเศษว่าห้องนี้ราคาถูก แต่ก็มีเงื่อนไขอยู่นะครับ ถ้าเช่าก็จะต้องเช่าหนึ่งปีเลย ค่าเช่าสามารถจ่ายแยกได้ แต่ในสัญญาจะต้องเขียนหนึ่งปีหรือหนึ่งปีขึ้นไปครับ”
ญาธิดาฟังแล้วก็อดกัดฟันอย่างข้างลังเลไม่ได้
เดิมทีเธออยากทำสัญญาแค่ครึ่งปี แต่ไม่นึกเลยว่าเจ้าของห้องจะมีเงื่อนไข
ญาธิดาค่อนข้างลังเลในชั่วขณะ
ธีทัตที่อยู่ข้างๆเห็นแล้วได้ถามเสียงเบาว่า “เธอคิดว่าห้องนี้เป็นไงบ้าง ”
“ใช้ได้เลยนะ”ญาธิดาค่อนข้างลังเล “แต่สัญญาเช่านานไปหน่อย”
ธีทัตพูดด้วยรอยยิ้ม “ถ้าถูกใจ ฉันรู้สึกว่าเวลาไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้าพลาดไป ก็อาจจะไม่มีห้องแบบนี้อีกแล้วนะ”
คำพูดของเขา ทำให้ญาธิดาตระหนักได้ทันที ไม่เพียงแค่ห้องเท่านั้น รวมทั้งคนรอบข้างด้วย บางทีเธอแค่ลังเลครู่เดียว เรื่องมากมายก็พลาดไปแล้ว
ญาธิดากัดริมฝีปากแล้วยิ้มให้กับเขา จู่ๆมีความมุ่งมั่น “โอเค งั้นฉันเซ็นเลย”
พอเซ็นสัญญาเสร็จ จ่ายค่าเช่าครึ่งปีก่อน จากนั้นนายหน้าก็ได้มอบกุญแจให้เธอ
ดูกุญแจในมือแล้ว ญาธิดาแอบโล่งอกไปที ถึงแม้ช่วงเช้าเธอวิ่งไปดูหลายที่ สถานการณ์ก็ไม่ราบรื่น แต่ดีที่สุดท้ายได้ห้องที่ตัวเองถูกใจ
ญาธิดาอารมณ์ดีสุดๆ ได้ถอดผ้าปิดปากออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ จากนั้นได้หันมายิ้มให้กับธีทัต “ขอบคุณมากนะคะ ตอนเที่ยงคุณอยากกินอะไร เดี๋ยวฉันเลี้ยงเองเลย”
“ขอบใจอะไร ”ธีทัตยิ้ม “กินอะไรก็ได้”
ญาธิดาเห็นร้านอาหารที่อยู่ฝั่งตรงนั้นแล้ว ได้เสนอว่า “ไปร้านนั้นดีมั้ย ”
เมนูของร้านอาหารร้านนั้นมีความเก๋ไก๋สวยงาม อยู่แถวบริษัทนี้เอง เธอกับเพื่อนร่วมงานเคยไปกินกันหลายครั้ง ราคาไม่ถือว่าถูก แต่ดีตรงที่การบริการและอาหาร วันนี้ได้ห้องแล้วรู้สึกมีความสุขมาก และถือโอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อธีทัตหน่อย
“โอเค ตามใจเธอทุกอย่างเลย”
ทั้งสองคนพูดคุยด้วยรอยยิ้ม เดินเคียงบ่าเคียงไหล่ข้ามถนน เดินเข้าไปประตูทางเข้าแล้วรอลิฟต์
ระหว่างที่รอลิฟต์ ธีทัตมองผู้หญิงที่อยู่ข้างกายแล้วพูดเสียงเบาว่า “เดี๋ยวเจออันอันแล้ว เธอเห็นเราสองคนมาด้วย จะต้องพูดจาเหลวไหลแน่นอน ถึงเวลาเธออย่าเอามาใส่ใจนะ”
“ไม่หรอก ฉันรู้นิสัยของเธอดี ”ญาธิดาพูด จู่ๆนึกถึงเรื่องสมัยเรียน เธอหัวเราะเบาๆและพูดว่า “คุณรู้หรือเปล่า ก่อนหน้านี้อันอันมีฉายาว่าแม่สื่อเชียวนะ เพราะเธอชอบจับคู่ให้คนอื่นมาก”
ธีทัตยกมุมปากขึ้น “ฉายานี้เหมาะกับอันอันดีนะ”
ญาธิดาได้ยินแล้วอดส่งเสียงหัวเราะออกมาไม่ได้
ทั้งสองพูดคุยด้วยรอยยิ้ม บรรยากาศดีมาก
ในขณะนี้เอง“ดิ๊ง”ดังทีนึง ลิฟต์ได้ค่อยๆเปิดออก
ญาธิดาเพิ่งได้ยินธีทัตพูดอะไรสักอย่าง กำลังหรี่ตาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม จู่ๆก็รู้สึกได้ว่ามีแววตาเย็นชาจ้องมา เธอหันไปมอง พอหันไปก็เห็นภวินท์ที่ยืนอยู่ในลิฟต์
บังเอิญจริงๆ ไม่นึกเลยว่าดันจะมาเจอเขาที่นี่!
รอยยิ้มของญาธิดาแข็งทื่อ เธอมองภวินท์ที่ยืนอยู่ในลิฟต์ ข้างกายเขามีพายุคอยติดตามอยู่ ยังมีผู้ชายอีกสองคนที่เธอไม่รู้จัก วินาทีนี้ นัยน์ตาดำเข้มที่ลึกจนไม่เห็นก้นบึ้งของเขากำลังจ้องเธออยู่
ญาธิดาเสียวสันหลัง เธอดึงสายตากลับอย่างไม่รู้ตัว
ธีทัตที่อยู่ข้างๆดูออกว่าสีหน้าของทั้งสองผิดปกติ เขาก้มหน้าเล็กน้อย กระซิบไปที่ข้างหูญาธิดาว่า “เป็นคนรู้จักกันเหรอ ”
ญาธิดากัดฟันแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไม่รู้จักค่ะ”
ภวินท์ได้ยินคำตอบของผู้หญิงแล้ว แววตาเคร่งขรึมขึ้นมาทันที มีความเย็นชาฟุ้งกระจายออกมาทั้งตัว
เขาเดินออกจากลิฟต์ แล้วยื่นมือไปจับข้อมือของญาธิดาไว้อย่างไม่ลังเล จากนั้นได้ดึงเธอเดินออกไปข้างนอกโดยตรง
ตอนที่ญาธิดาดึงสติกลับมาได้ เธอก็ถูกเขาดึงออกมาที่หน้าร้านอาหารแล้ว ฝีเท้าของเขาทั้งไวและเร่งรีบ เธอถูกฉุดดึงไว้ จำเป็นต้องวิ่งเล็กน้อยถึงจะสามารถตามเขาทัน
“ภวินท์ คุณปล่อยมือเดี๋ยวนี้นะ!”
ภวินท์ทำเหมือนไม่ได้ยิน ได้ดึงเธอเดินไปข้างหน้าอย่างไว จนกระทั่งเห็นร้านค้าไร้พนักงานที่อยู่ข้างถนน เขาดึงเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“ภวินท์ คุณจะทำอะไรกันแน่!”
ญาธิดาโกรธจนหน้าแดงก่ำ พยายามสลัดมือของผู้ชายทิ้งสุดฤทธิ์ แต่วินาทีต่อมา เธอได้ถูกกดอยู่บนประตูกระจกทั้งคน
ภวินท์ขมวดคิ้วแน่น แววตาแฝงด้วยความโกรธ ขอบปากที่แน่นตึงแสดงให้เห็นถึงความไม่รื่นรมย์ของเขา ดวงตาทั้งคู่เหมือนจะมองเธอจนทะลุ
ผ่านไปไม่กี่วิ เขาขยับริมฝีปาก เสียงเหมือนกลิ้งอยู่ในลำคอ“ญาธิดา ทำไมคุณถึงได้เก่งขนาดนี้ ”
พวกเขาเพิ่งหย่ากันไม่นานเอง เธอก็ไปไหนมาไหนกับผู้ชายอีกคนอย่างใกล้ชิดสนิทสนมกันแล้ว!
ญาธิดาทั้งโกรธทั้งโมโห “คุณกำลังพูดอะไรอยู่!”
ภวินท์ไม่ลีลาอีก ได้กดเสียงต่ำเค้นถาม “ผู้ชายคนนั้นคือใคร ”
เมื่อกี๊ลิฟต์เปิดปุ๊บ เขาก็เห็นภรรยาเก่าตัวเองกำลังพูดคุยหัวเราะกับผู้ชายอีกคนเลย เสี้ยววินาทีนั้น ขมับของเขาก็กระตุกขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งโดยที่ไม่รู้ตัวเลย
“ภวินท์ คุณลืมไปหรือเปล่าว่าเราหย่ากันแล้ว!”ญาธิดาโกรธจนยับยั้งอารมณ์ไว้ไม่ได้ แม้แต่ร่างกายก็ยังสั่นเบาๆ “ไม่ว่าฉันจะอยู่กับใคร ก็ไม่เกี่ยวกับคุณ!”
จู่ๆคำพูดที่เธอพูดเสียงสูง ได้ทำให้ภวินท์โกรธถึงสุดขีดทันที แววตาของผู้ชายมีไฟลุกไหม้อยู่ เขามองผู้หญิงดื้อด้านที่อยู่ตรงหน้าแล้วรู้สึกเจ็บปวดใจและคันยุบยิบในใจ
เสียงของเขาแหบแห้งขึ้นเยอะ “ไม่เกี่ยวกับผม งั้นหรอ ”
ญาธิดากัดฟัน “ไม่เกี่ยวเลยสักนิด……อืมมมมม……”
เธอยังพูดไม่จบ ภวินท์ก็ได้โน้มตัวมาจูบจนเธอพูดต่อไม่ได้
ญาธิดาอึ้งก่อน ตามด้วยตะลึงและวิวัฒนาการเป็นความโกรธ “ภ…ภวินท์ คุณ…ปล่อยมือ!”
แรงของผู้หญิงยังไงก็สู้ผู้ชายไม่ได้ มือเรียวเล็กที่คอยขัดขืนของเธอถูกภวินท์จับเอาไว้อย่างง่ายดาย กดมือเธอไว้ที่ประตู แถมยังไร้เรี่ยวแรงต่อต้าน
ญาธิดากระหืดกระหอบ เสี้ยววินาทีที่ลิ้นของผู้ชายจะแงะปากที่ปิดสนิทของเธอออก เธอได้อ้าปากกัดริมฝีปากของเขาแรงๆ!