ดวงใจภวินท์ - บทที่ 108 ทวงความยุติธรรม
หน้าเรียวเล็กสะสวยของอัญมณีมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป “ไม่เกี่ยวกับพี่ชายฉัน แล้วแผลของเธอคือ……”
ญาธิดาสูดหายใจลึกๆ ก็ไม่รู้จะพูดเรื่องนี้กับเพื่อนรักยังไง เพราะเธอได้ปิดบังอัญมณีเกี่ยวกับเรื่องของเธอกับภวินท์ตั้งแต่แรกแล้ว
“อันอัน ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว……”ญาธิดาเช็ดน้ำตา จากนั้นได้ฉีกรอยยิ้มออกมาเสี้ยวนึง พร้อมกับเปลี่ยนประเด็น “ไหนบอกว่าให้เราไปรับเธอที่สนามบินไง ทำไมเธอถึงกลับมาเอง ”
อัญมณีพูดอย่างร้อนรนใจสุดขีด “เมื่อกี๊พี่ทัตส่งข้อความมาให้ฉัน บอกว่าเธอเกิดเรื่องตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล พอฉันลงจากเครื่องเห็นข้อความปุ๊บ ก็รีบมาที่นี่ทันทีเลย ไหนเธอพูดมาซิว่าไอ้สารเลวคนไหนกันแน่ที่รังแกเธอ!”
ธีทัตที่อยู่ข้างๆเห็นญาธิดามีสีหน้าลำบากใจก็พอจะเดาได้แล้ว เขาทำสีหน้าให้จริงจังขึ้น กระแอมเบาๆแล้วพูดว่า “อันอัน พี่ว่าธิดาก็เหนื่อยแล้ว เธอพาธิดากลับไปพักผ่อนที่คอนโดเธอก่อน มีเรื่องอะไรเดี๋ยวว่างแล้วค่อยว่ากัน”
อัญมณีฟังคำพูดนี้แล้ว ได้พยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นได้หันไปมองญาธิดาพร้อมถามว่า“งั้น…ธิดา เธอไปที่คอนโดฉันก่อน โอเคมั้ย ”
ญาธิดาลังเลอยู่ครู่นึง จากนั้นได้พยักหน้าพร้อมตอบว่า “โอเค”
เวลานี้เธอเพิ่งหาห้องเช่าเสร็จ ข้าวของก็ยังไม่ทันได้ย้ายเข้าไป อีกทั้งเธอยังได้รับบาดเจ็บอีก บ้านก็ไม่กล้ากลับไป ตอนนี้อันอันกลับมาพอดี เธอไปพักที่คอนโดเธอสักสองสามวันดีที่สุดแล้ว
ธีทัตขับรถส่งทั้งสองมาถึงหน้าตึกคอนโดของอัญมณีแล้ว ได้กำชับว่า“ถ้าขาดเหลืออะไรก็บอกพี่นะ เดี๋ยวพี่ซื้อมาให้”
“ไม่ต้องแล้ว พี่กลับไปก่อนเลย ฉันกับธิดามีเรื่องจะเม้าท์กัน เดี๋ยวค่อยนัดกันวันหลังนะ ”
ในใจเธอเต็มไปด้วยคำถาม แทบอยากถามญาธิดาให้รู้เรื่องไปเลย แต่เนื่องจากพี่ชายตัวเองยังอยู่ตรงหน้า เธอได้แต่กลืนความสงสัยทั้งหมดกลับไปใหม่
ระหว่างพูด เธอได้เปิดประตูแล้วดึงญาธิดาเดินไปที่ประตูทางเข้า
ญาธิดาหันหน้า ธีทัตลงจากรถส่งพวกเธอพอดี ทั้งสองมองหน้า ต่างก็ยิ้มมุปากและพยักให้แก่กัน
ในใจเธอรู้ดีว่าเธอกับธีทัตยังไม่ถึงขั้นที่คุยกันได้ทุกเรื่อง
เมื่อเทียบกันแล้ว เธอยอมพูดกับเพื่อนรักตัวเองมากกว่า
สังเกตเห็นสายตาของญาธิดาแล้ว อัญมณีได้แซวเล่น “แหม ไม่ต้องมองแล้ว ขืนมองอีกเธอก็ไม่ต้องไปกับฉันแล้ว กลับบ้านกับพี่ชายฉันโดยตรงเลยดีกว่า!”
ญาธิดาทั้งโกรธทั้งหัวเราะ “อันอัน อย่าพูดมั่วนะ”
ตอนนี้เธอกับธีทัตมากสุดก็เป็นได้แค่เพื่อนกัน ยังไม่ได้พัฒนาความสัมพันธ์เป็นอย่างอื่น
“เอาล่ะ ไม่แกล้งเธอแล้ว ” อัญมณีเก็บสีหน้า จู่ๆจริงจังขึ้นมา เธอได้ยื่นมือดึงมือซ้ายที่ไม่ได้รับบาดเจ็บของญาธิดาไว้ น้ำเสียงค่อนข้างจริงจัง “ธิดา ฉันรู้ว่าเธอมีเรื่องปิดบังฉันอยู่ ”
พวกเธอรู้จักกันมานานขนาดนี้แล้ว แค่เห็นสีหน้าของญาธิดาเธอก็สามารถเดาได้เลยว่าหมายความว่ายังไง
“ฉันมีเรื่อง…ปิดบังเธอจริงๆ”ญาธิดาละอายใจ “เดี๋ยวกลับไปค่อยว่ากัน”
คอนโดนี้อยู่ละแวกใจกลางเมืองนี้เอง เป็นคอนโดที่อัญมณีได้ซื้อเอาไว้ก่อนหน้านี้เพื่อหนีการพบปะหาคู่ครอง และตอนที่ทะเลาะกับพ่อหนีออกจากบ้าน ต่อมาเธอไปต่างประเทศ คอนโดนี้ก็ปล่อยทิ้งไว้ตลอด หลายวันก่อนธีทัตเพิ่งเรียกแม่บ้านทำความสะอาดมาเก็บกวาดและซื้อของมายัดตู้เย็นจนเต็มตู้เอง เธอกลับมาก็สามารถเข้าอยู่ได้เลย
มาถึงคอนโด อัญมณีได้ถอดเขวี้ยงรองเท้าส้นสูง จากนั้นได้หยิบน้ำผลไม้มาสองขวด แล้วทรุดตัวลงบนโซฟา พร้อมแค้นถามว่า “พูดมาเลย ญาธิดา เธอไปทำอะไรลับหลังฉันกันแน่ ”
ญาธิดาสูดหายใจลึกๆและค่อยๆผ่อนคลายอารมณ์ “นี่……ต้องเริ่มพูดจากคุณปภาวีเร่งรัดให้ฉันไปนัดบอดก่อน……”
เธอเล่าไปเรื่อยๆ อัญมณีที่อยู่ข้างๆเหมือนกำลังฟังนิทานอยู่ สีหน้าตื่นเต้น ตอนที่ได้ยินเธอกับภวินท์จดทะเบียนสมรสกัน อัญมณีตะลึงจนอ้าปากค้าง
“ญาธิดา เธอจดทะเบียนสมรสก็ไม่บอกฉันเลยนะ อ๊า!”
เห็นปฏิกิริยานี้ของอัญมณีแล้ว ญาธิดายกมุมปากขึ้นอย่างจนปัญญา “ตอนนั้นฉันก็ไม่ได้คิดอะไรมาก……”
“จากนั้นล่ะ รีบเล่าเรื่องต่อจากนั้นให้ฉันฟังเร็ว ”
ญาธิดาสูดหายใจลึกๆ ได้เล่าประสงการณ์ความรักของเธอกับภวินท์ให้อัญมณีฟังอย่างตรงไปตรงมา
พูดถึงตอนท้าย อัญมณีทั้งโกรธทั้งโมโห ใช้มือข้างเดียวบีบกระป๋องน้ำผลไม้ให้แบน แล้วพูดด้วยความโกรธ “ไอ้ภวินท์คนนี้ มันคิดว่ามันเป็นใคร!แต่งงานกับเธอมีจุดประสงค์ที่ไม่บริสุทธิ์พวกนี้ยังไม่พูดถึง หย่ากันแล้วก็ยังมาก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของเธออีก ”
ญาธิดาฟังแล้วเกิดความเศร้าใจ
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่มีใจให้เธอ แต่ทำไมวันนี้ต้องทำแบบนั้นกับเธอ
เธอเพิ่งรวบรวมความกล้าและตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาดว่าจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เขามาก่อกวนแบบนี้ ได้ทำให้เธอตกอยู่ในสภาพที่อึดอัด
พอนึกถึงตรงนี้ เธอเริ่มคัดจมูกและน้ำตาคลอ
อัญมณีแค้นเคืองใจเป็นอย่างมาก “ธิดา ถ้าให้ฉันพูดนะ เธออ่อนแอและถูกรังแกง่ายเกินไป ภวินท์คนนี้มันเป็นไอ้สารเลวชัดๆ อย่างเรื่องหย่า เขาจะต้องให้ความยุติธรรมกับเธอสิ เธอจะให้เขาเอาเปรียบไม่ได้เด็ดขาด!”
ระหว่างที่เธอพูด ก็ได้หันไปเห็นญาธิดาน้ำตาคลอ ได้หยุดชะงักคำพูดและทำน้ำเสียงซอฟลงทันที “ที่รัก เธอ…เธอร้องไห้ทำไม อย่าร้องสิ ”
ระหว่างที่พูด เธอก็ได้ยกมือขึ้นมาใช้หลังมือเช็ดหน้าญาธิดามั่วซั่วอย่างโผงผาง “เธอนี่…จะทำฉันบ้าตายอยู่แล้ว ”
ถ้าเธออยู่ในประเทศ เธอช่วยญาธิดาจัดการไอ้ผู้ชายสารวเลวนั่นไปตั้งนานแล้ว ไม่ปล่อยให้เธอถูกรังแกจนถึงตอนนี้หรอก!
“อันอัน ไม่เกี่ยวกับเธอ”ญาธิดาสูดหายใจลึกๆ ปรับอารมณ์แล้วพูดว่า “ฉันแค่คิดไม่ถึงว่าสักวันตัวเองจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้……”
อัญมณีถอนหายใจแล้วพูดเสียงเบา “ธิดา ถ้าให้ฉันพูดนะ เธอควรลาออก ตอนนี้เธอทำงานอยู่ที่STN Group ยังไงก็ต้องเจอหน้ากันทุกวัน เลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการพัวพัน ”
ญาธิดาฟังแล้วอึ้ง รู้สึกที่เธอพูดมาก็ถูก
ถ้าเธออยากเริ่มต้นชีวิตใหม่จริงๆ ก็ควรจะเปลี่ยนงามใหม่ แบบนี้ก็จะจบกับภวินท์โดยสิ้นเชิง ขอแค่ไม่เห็นก็จะไม่ต้องกลุ้มใจ แบบนี้ดีกว่าเสียอีก
“อันอัน เธอพูดถูก……”
เธอกัดริมฝีปากและพูดอย่างค่อนข้างลังเล “แต่ว่าฉันไม่มีเหตุผลลาออก อีกอย่างถ้าฉันลาออกแล้วฉันตกงานจะทำยังไง……”
อัญมณีโกรธที่เธอไม่เอาไหน “ยัยโง่ ลาออกยังต้องมีเหตุผลด้วยหรอ ถ้าให้ฉันพูดนะ พรุ่งนี่เราไปที่STN Group เลย ฉันช่วยเธอด่าไอ้สารเลวนั่นเอง และถือโอกาสลาออกด้วย งานค่อยหาใหม่ก็ได้ ถ้าไม่ไหวจริงๆฉันเลี้ยงเธอเอง!”
ดูสีหน้าท่าทางที่เหมือนชายเลือดร้อนของอัญมณีแล้ว ญาธิดาได้แต่หัวเราะดังๆ กลั้นขำไว้ไม่อยู่
เธอไม่ได้มีเพื่อนสนิทอะไร แต่กลับมีเพื่อนรักที่ปกป้องเธอคนนึง ก่อนหน้านี้ทุกครั้งที่เธอเจอปัญหา อัญมณีล้วนเป็นคนแรกที่ออกมาช่วยเธอ
ญาธิดาอบอุ่นหัวใจ เธอยื่นมือไปกอดอัญมณีพร้อมกับพูดเสียงเบาว่า “อันอัน ขอบใจมากนะ”
อัญมณีหัวเราะแหะๆ ยกมือลูบแผ่นหลังเธอ “น้ำเน่าจังเลย วันหลังเลี้ยงข้าวฉันเลยนะ จะให้ทำอะไรก็ได้หมดเลย ”
เช้าวันรุ่งขึ้น ญาธิดาถูกอัญมณีปลุกแต่เช้า และลากเธอไปที่STN Groupโดยตรง
มาถึงหน้าบริษัท ญาธิดาเงยหน้ามองตึกที่อยู่ตรงหน้า จู่ๆในใจก็รู้สึกกลัวขึ้นมา“อันอัน เราว่าเราวางใบลาออกเสร็จก็กลับเลยดีกว่า”
“ไม่ได้ ไหนๆ ก็มาแล้ว ลืมไปแล้วเหรอว่าเมื่อวานฉันพูดว่ายังไง ฉันจะทวงความยุติธรรมกับเธอแน่นอน ”
ระหว่างที่พูด อัญมณีได้ดึงมือของญาธิดาเอาไว้ แล้วเดินเข้าไปในบริษัท
พวกเธอเพิ่งเดินมาถึงหน้าลิฟต์ ในขณะที่กำลังรอลิฟต์อยู่ จู่ๆข้างกายมีเสียงคุ้นเคยก้องมา
อัญมณีแค้นเคืองใจเป็นอย่างมาก “ธิดา ถ้าให้ฉันพูดนะ เธออ่อนแอและถูกรังแกง่ายเกินไป ภวินท์คนนี้มันเป็นไอ้สารเลวชัดๆ อย่างเรื่องหย่า เขาจะต้องให้ความยุติธรรมกับเธอสิ เธอจะให้เขาเอาเปรียบไม่ได้เด็ดขาด!”
“แหม ญาธิดา เธอยังกล้ามาบริษัทอีกเหรอ ”