ดวงใจภวินท์ - บทที่ 110 ใบลาออกเป็นโมฆะ
“ธิดา เรื่องนี้เธออย่ายุ่ง ที่ฉันมาในวันนี้ก็เพื่อมาชำระความแค้นให้เธอ!”ระหว่างที่อัญมณีพูด ก็ได้ถกแขนเสื้อทั้งสองข้างขึ้น ท่าทางเหมือนจะชกต่อยกัน
ภวินท์ขมวดคิ้วแน่น เขาหันไปมองพายุด้วยสายตาเย็นชา พร้อมออกคำสั่งด้วยเสียงเคร่งขรึม “เอาตัวเธอออกไป”
สีหน้าพายุลำบากใจ เขาย่อมดูออกอยู่แล้วว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่มีเรื่องด้วยไม่ได้ แต่เขาก็ไม่กล้าขัดคำสั่งของท่านประธาน ได้แต่จำใจก้าวไปข้างหน้า
“คุณครับ รบกวนคุณออกไปกับผมก่อน”
อัญมณีเชอะด้วยเสียงเย็นชา “ออกไป ทำไมฉันต้องออกไป ”
เธอมาครั้งนี้ ก็เพื่อจะมาด่าไอ้สารเลวที่รังแกธิดาของเธอ
ญาธิดาเห็นอัญมณีไม่ยอมหายโกรธ ได้รีบเกลี้ยกล่อม “อันอัน เธอออกไปรอฉันก่อนนะ ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยกับเขา”
เห็นได้ชัดว่าอัญมณีไม่อยากออกไป แต่นาทีนี้พายุที่อยู่ข้างๆได้ยื่นมือมาจับข้อมือขอวเธอเอาไว้แล้ว บีดไปด้านหลังพร้อมกดไหล่ของเธอไว้
อัญมณีถูกเขากดไว้แบบนี้ ทั้งโกรธทั้งโมโหจนหน้าแดงก่ำ “นาย…นายปล่อยมือ!”
“พายุ” เห็นพายุลงมือกับอัญมณี ญาธิดาได้ขมวดคิ้วแน่น “นายระวังขอบเขตด้วย ”
พายุยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย แล้วผลักอัญมณีออกไปข้างนอกเบาๆ พร้อมตอบเสียงเบาว่า “วางใจครับ คุณญาธิดา ผมจะระมัดระวังครับ”
ตามด้วยเสียงปิดประตูดัง“ปัง”ทีนึง ไม่นานก็ได้ตัดเสียงดุด่าของอัญมณีและเสียงโน้มน้าวของพายุไว้นอกห้อง ทันใดนั้นในออฟฟิศเหลือแค่เธอกับภวินท์ บรรยากาศกลายเป็นอึดอัดขึ้นมาทันที
ญาธิดากัดฟัน รวบรวมความกล้าเดินไปข้างหน้าสองก้าว แล้วเงยหน้ามองสายตาของผู้ชาย เธอสูดหายใจลึกๆแล้วพูดว่า “เราคุยกันหน่อยค่ะ”
“คุยอะไร ”ภวินท์เดินมาหาเธอด้วยสีหน้าสงบ ลมหายใจนิ่ง แต่มีเพียงแววตานั้นที่เย็นชาจนทำให้คนกลัวจนตัวสั่น
ในที่สุดเขาก็ได้หยุดลงในระยะทางที่ห่างกับเธอครึ่งเมตร โน้มตัวเล็กน้อยเข้าใกล้มาที่เธอ ลมหายใจของผู้ชายก็ค่อยๆห้อมล้อมเธอไว้
แววตาของเขาลุ่มลึกแต่สดใส เหมือนสามารถมองทะลุใจเธอ เขาอ้าปากเล็กน้อยพร้อมพูดชิวๆว่า “ญาธิดา ผมเคยพูดเมื่อไหร่ว่าไม่รับผิดชอบคุณ ”
เห็นๆอยู่ว่าเธอหนีหน้าเขาตลอด ปฏิเสธเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
เสียงของเขาเหมือนยาแฝด หล่นอยู่ที่ข้างหูเธอแล้ว ทำให้เธอชาไปทั้งตัว
เธอถอยหลังด้วยจิตใต้สำนึก ตีตัวให้ออกห่างจากเขา บังคับให้ตัวเองมีสติเอาไว้
เมื่อครู่เขาใกล้ชิดเธอขนาดนี้ ทำหัวใจเธอว้าวุ่นไปหมด คำพูดที่เดิมทีเตรียมเอาไว้ว่าจะพูดอะไรก็ได้ลืมไปหมด สมองว่างเปล่า
“ฉัน…ฉันมาลาออกค่ะ”
ไม่กล้ามองหน้าเขา เธอล้วงใบลาออกออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นไปให้เขา
ภวินท์ก้มหน้า เห็นตัวหนังสือใหญ่ๆที่หน้าซองแล้วขมวดคิ้วแน่นทันที แววตามีแสงมืดมนที่ไม่ชัดเจนแวบผ่าน
เขายื่นมือใหญ่รับจดหมายซองนั้นมา หลังจากสายตาได้หยุดอยู่ที่ซองจดหมายชั่วขณะ ก็ได้ฉีกซองจดหมายทิ้งโดยตรงโดยที่ไม่เปิดอ่าน
“คุณ!”ญาธิดามีสีหน้าตกตะลึง “คุณทำอะไร ”
เขาพูดจาเรียบเฉย เสียงไม่มีแรงกระเพื่อมเลยสักนิด “ใบลาออกฉบับนี้เป็นโมฆะ”
ได้ยินคำพูดของเขา ความสงบที่ญาธิดาพยายามรักษาเอาไว้ได้จางหายไปในพริบตา เธอเปิดปากเค้นถาม “ทำไมถึงเป็นโมฆะ ”
ภวินท์มองเธอแวบนึงแล้วไม่ได้พูดอะไรมาก แค่หันหลังเดินไปที่หน้าโต๊ะทำงาน แล้วเอาเอกสารชุดนึงออกมาจากลิ้นชัก
เขาเดินมาข้างหน้า เอาเอกสารโยนไปที่บนโต๊ะน้ำชา “สัญญาว่าจ้างฉบับนี้ ด้านในได้เขียนไว้อย่างชัดเจนว่าฝ่ายที่ผิดสัญญาจะต้องจ่ายอีกฝ่ายหนึ่งล้าน ชื่อที่อยู่ในนี้ คุณเป็นคนเซ็นเอง”
ญาธิดาหยิบเอกสารขึ้นมาอย่างเหลือเชื่อ เห็นชื่อที่ลงนามเอาไว้ในด้านหลังสุดแล้ว เธอทั้งทึ่งและทั้งแปลกใจ
นั่นเป็นลายเซ็นของเธอจริง
หลายวันก่อน พี่แนนบอกว่าจะปรับเงินเดือนให้เธอ ได้เอาเอกสารมาให้เธอเซ็นหลายฉบับ แถมยังบอกว่าได้ต่อสัญญาอีกสามปี ตอนนั้นเธอไม่ได้คิดอะไรมาก และไม่ได้ดูเงื่อนไขต่างๆอย่างละเอียดก็เซ็นโดยตรงเลย คิดไม่ถึงว่านี่จะเป็นกับดักของภวินท์!
หัวใจญาธิดาเจ็บแปล๊บๆ เธอเค้นถาม “ทำไม……ทำไมคุณต้องทำกับฉันแบบนี้ ”
เธอไม่เคยขัดใจเขามาก่อน
แค่เพราะเธอไม่ได้บริจาคไตให้นิวรางั้นเหรอ เขาก็เลยแก้แค้นเธอแบบนี้
เธอกระหืดกระหอบ กำสัญญาเอาไว้จะฉีกให้แหลก ภวินท์ขมวดคิ้วแล้วเดินไปจับมือของเธอเอาไว้ “ถึงคุณฉีกทิ้ง สัญญาก็ยังคงมีผลอยู่!”
เรื่องมาถึงวันนี้ เธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
“นี่คุณ!”ญาธิดาโกรธจนกัดฟันแน่น ยกหมัดขึ้นมาจะชกไปที่ทรวงอกของภวินท์ ก็ไม่คำนึงถึงว่าแขนของเธอมีแผลอยู่หรือเปล่า
เห็นผ้าพันแผลบนแขนของเธอแล้ว ภวินท์ขมวดคิ้วและจับมือของเธอไว้ พร้อมกับพูดจาเคร่งขรึม “คุณสงบสติอารมณ์หน่อย ”
ญาธิดาพยายามขัดขืนสุดฤทธิ์ น้ำตาไหลพรากออกมาอย่างไม่รู้ตัว เธอคลุ้มคลั่งใส่เขา “ทำไม…ทำไมคุณต้องทำกับฉันแบบนี้!ทำไมต้องทรมานฉัน!ฉันคิดดีแล้วว่าจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ ทำไมคุณถึงไม่ยอมปล่อยฉันไป!”
แววตาของภวินท์มีแรงกระเพื่อมแวบผ่านเสี้ยวนึง ร่างกายเกร็งขึ้น เพื่อเลี่ยงไม่ให้เธอขยับไปมั่วแล้วทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บ เขาได้ยื่นมือโอบเอวเธอไว้โดยตรง
เขาก้มศีรษะเล็กน้อย แววตามีไฟลุกไหม้อยู่ พูดด้วยเสียงเคร่งขรึม “เพราะคุณเป็นผู้หญิงของผม!”
หลังจากมีอะไรกับเธอครั้งแรก เขาก็คิดว่าจะรับผิดชอบต่อเธอ เรื่องที่หย่าร้างกันภายหลังก็เหนือความคาดหมายของเขาโดยสิ้นเชิง
ข้างหูของญาธิดาดังบึ้ม เธอสงบนิ่งไปสองวิ จากนั้นได้ตามด้วยการส่ายหน้าปฏิเสธ “ฉันไม่ใช่!”
เขามีผู้หญิงคนอื่นอยู่ ยังมาบอกว่าเธอเป็นผู้หญิงของเขาอีก เขานึกว่าเธอหลอกง่ายขนาดนี้เลยเหรอ!ดูท่าอันอันพูดถูก เขาคือไอ้สารเลวชัดๆ!
ตอนที่ขัดขืน ร่างกายของเธอได้เอนตัวไปด้านหลัง คนทั้งคนเสียศูนย์พร้อมกับได้ดึงภวินท์ล้มไปยังโซฟาที่อยู่ด้านหลังด้วย
ญาธิดาถูกเขาทับอยู่ด้านล่าง ร่างกายยิ่งขยับเขยื้อนไม่ได้ ร่างกายของทั้งคู่แนบชิดกัน มีแค่ผ้าบางๆกั้นเอาไว้ชั้นนึง เธอแทบจะสามารถรู้สึกได้ว่าอุณหภูมิร้อนระอุได้ส่งผ่านมาจากบนตัวเขา
กล้ามเนื้อช่วงท้องและกล้ามเนื้อช่วงขาอ่อนของเขาหดเกร็ง แนบอยู่บนตัวเธออย่างแน่นปึก ส่วนมือทั้งสองข้างของเธอก็ถูกเขากดอยู่บนโซฟา ไม่มีแรงต่อต้านเลย
นี่อยู่ในออฟฟิศนะ ถ้ามีคนมาส่งเอกสารในเวลานี้ แค่ผลักประตูก็สามารถมองเห็นพวกเขาแล้ว!
ความคลุมเครือที่บอกไม่ถูกพุ่งขึ้นมา แก้มของญาธิดาแดงก่ำ เธอทั้งโกรธทั้งอาย ได้พูดจาโกรธเนื่องจากเขินอาย “ภวินท์ คุณลุกเดี๋ยวนี้!”
มองใบหน้าที่แดงก่ำและโกรธเล็กน้อยของผู้หญิง เขาเข้ามาใกล้แก้มของเธอ ลมหายใจที่เร่าร้อนพ่นอยู่ที่ข้างหูเธอ จากนั้นได้ถามด้วยเสียงเคร่งขรึม “ญาธิดา ในใจคุณไม่มีผมจริงเหรอ ”
ญาธิดากัดฟันแน่น และพูดด้วยความโกรธ“ไม่มี!ไม่เคยมีเลย!”
ตอนที่ขัดขืน ร่างกายของเธอได้เอนตัวไปด้านหลัง คนทั้งคนเสียศูนย์พร้อมกับได้ดึงภวินท์ล้มไปยังโซฟาที่อยู่ด้านหลังด้วย
“จริงอ่ะ ”สีหน้าของภวินท์สงบนิ่ง แววตามีแสงเฉียบคมแวบผ่าน
“จริงที่สุด!”
แววตาของภวินท์เศร้าหมองทันที เขาใช้มือข้างนึงกดมือสองข้างของเธอเอาไว้ มืออีกข้างเฉียดหัวไหล่ของเธอลงไปเบาๆพร้อมกุมเอาไว้แน่น
ม่านตาของญาธิดาหดตัว ร่างกายแข็งทื่อไว้ จู่ๆมีไฟลุกไหม้ขึ้นมา หน้าของเธอแดงจนสามารถระเบิดออกมาได้ ปากก็พูดไม่รู้เรื่องแล้ว “คุณ……คุณปล่อยมือนะ ไอ้สารเลว!”
ภวินท์เข้าใกล้เธอ แล้วกระซิบที่ข้างหูเธอด้วยเสียงเคร่งขรึม “ไหนบอกในใจไม่มีผมไง แล้วทำไมถึงหน้าแดงล่ะ ”
ผ็หญิงคนนี้ ปากแข็งตั้งแต่ไหนแต่ไรเลย
ถูกเขาว่าแบบนี้ ญาธิดายิ่งอายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนีไปเลย “ภวินท์ คุณ……”
เธอไม่คิดเลยว่าเขาจะทำแบบนี้กับเธอที่ออฟฟิศ!
ภวินท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย น้ำเสียงมั่นใจ “ญาธิดา คุณหลอกผมไม่ได้หรอก!”
เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไม่มีใจให้เขาเลย!
ระหว่างพูด เขาได้ยกคางเธอขึ้นจะจูบลงไป ญาธิดาใช้แรงหันหน้าไปอีกทาง พร้อมกัดฟันพูดว่า “ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรกับคุณ!”
เธอยังพูดไม่จบ มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของภวินท์ก็ได้ดังขึ้น
ได้ยินริงโทนพิเศษนี้ สีหน้าของภวินท์ซีเรียสขึ้นมาทันที จากนั้นได้ยื่นมือหยิบมือถือขึ้นมา
นิวราโทรมา
ลังเลอยู่เสี้ยววินาที สุดท้ายเขาได้กดปุ่มรับสาย แล้วเอามือถือแนบไปที่หู “ฮัลโหล ”
แต่มือที่กดข้อมือของญาธิดาเอาไว้ ยังคงไม่คิดที่จะปล่อยอีกเช่นเคย