ดวงใจภวินท์ - บทที่ 150 จงใจฟื้นฝอยหาตะเข็บใช่ไหม?
นึกถึงเรื่องสมัยก่อน ความคิดของญาธิดาล่องลอย ไม่นาน เธอก็ถูกเสียงของอัญมณีดึงกลับมาอีก
“ใช่แล้ว ธิดา ฉันเอาชุดมาให้เธอ เดี๋ยวทานข้าวเสร็จรีบเปลี่ยนเลยนะ”
“ชุด?”
ญาธิดาเต็มไปด้วยความสงสัย เธอก้มมองเสื้อผ้าที่ตัวเองใส่อยู่ แล้วพูดอย่างมึนงงว่า “ชุดของฉันมีปัญหาอะไรเหรอ?”
เสื้อเชิ้ตสีฟ้าครามคอVเข้าชุดกับกระโปรงลายสก็อต ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าเสื้อยืดกางเกงยีนที่เธอใส่ก่อนหน้านี้เยอะเลย
อัญมณีเหลือบมองเสื้อผ้าบนตัวเธอแวบนึงแล้วหัวเราะออกมา “ใส่ทำงานยังพอได้ แต่ใส่ไปเที่ยวไนต์คลับมันมิดชิดเกินไปแล้วมั้ง?”
ได้ยินคำว่า “ไนต์คลับ” ญาธิดาก็ตื่นเต้นขึ้นมาเลย ตั้งแต่เล็กจนโต ภายใต้การอบรมสั่งสอนของปภาวีกับดร.ยติภัทร เธอแทบจะไม่เคยไปเหยียบสถานที่แบบนั้นเลย มากสุดก็ไปแค่บาร์ แถมยังเป็นคนอื่นพาไปด้วยนะ
เห็นสีหน้าที่ตกใจใหญ่เลยของญาธิดา อัญมณีอดหัวเราะดังลั่นไม่ได้ “ธิดา ไม่ใช่ฉันว่าเธอนะ ตอนนี้ก็ศตวรรษที่ 21แล้วนะ ทำไมเธอยังอยู่สมัยร.5อยู่?”
ได้ยินคำเยาะเย้ยของเพื่อนรัก ญาธิดารู้สึกอาบอายจนหน้าแดงก่ำ “ใครบอก?ฉันแค่ไม่อยากไปเฉยๆ!”
อัญมณีหัวเราะไม่หยุด และยังไม่ลืมที่จะพนันกับเธอ “งั้นตามนี้นะ เดี๋ยวพอถึงสถานที่แล้ว เธอจะต้องขึ้นไปเต้นบนเวทีถึงจะได้นะ ไม่งั้นต้องลงโทษตัวเองสามแก้วนะ!”
พูดถึงขั้นนี้แล้ว ญาธิดาอยากปฏิเสธก็ไม่มีประโยชน์แล้ว เธอตอบเรื่อยเปื่อยคำนึง แล้วรีบเปลี่ยนประเด็น “ไปกินข้าวก่อน ฉันหิวจะตายอยู่แล้ว”
อัญมณีเหยียบคันเร่ง รถซิ่งไปอย่างไว ไม่นาน ก็มาถึงร้านอาหารที่จองเอาไว้ล่วงหน้า
ทานข้าวเสร็จ อัญมณีดันจะลากญาธิดาไปเปลี่ยนชุดที่ห้องน้ำ ญาธิดาหมดหนทาง ได้แต่เปลี่ยนมาใส่เดรสตามที่เธอต้องการ คอวีไม่ถือว่าผ่าลึกเกิน แต่ขอแค่เธอโน้มตัวเล็กน้อย ก็จะสามารถเผยเนินอกออกมา ชายกระโปรงเพรียวบางบังขาอ่อนไว้พอดี เผยขาเรียวยาวสองข้างออกมา
เดินออกมาจากห้องน้ำ ญาธิดารู้สึกอึดอัดไปทั้งตัว อยากจะยื่นมือดึงชายกระโปรงและบังทรวงอกอยู่เรื่อยเลย
ในที่สุดอัญมณีที่อยู่ข้างๆก็ทนดูต่อไปไม่ไหวอีกต่อไป เธอกุมข้อมือญาธิดาไว้แน่น ไม่ให้เธอขยับไปมั่ว “ธิดา เธอรู้หรือเปล่าว่าตอนนี้เธอมีเสน่ห์มากแค่ไหน ต้องมั่นใจ มั่นใจเข้าไว้รู้ไหม!เดี๋ยวเจอหน้าแองจี้แล้ว เราสองคนจะต้องสวยสะพรั่งจนฆ่าสยบเธอในทันที!”
ฟังน้ำเสียงของอัญมณีแล้ว ญาธิดาถูกหยอกจนหัวเราะออกมา ได้แต่รับปาก เต็มคำว่า “โอเคๆ ฟังเธอหมดทุกอย่าง”
เธอรู้ว่าอัญมณีมีความคับแค้นอยู่ในใจ ถ้าไม่ให้เธอระบายออกมา เกรงว่าจากนี้ไปก็จะไม่มีความสุขเลย
ทั้งสอง้ดินออกมาจากร้านอาหาร ในห้องโถงสายตาของผู้ชาย90%ล้วนจ้องมาที่เธอสองคนหมด สาวสวยสองคนควงคู่กันออกมา คนนึงร้อนแรงฉูดฉาด อีกคนใสๆสบายตา ก็ต้องดึงดูดสายตาอยู่แล้ว
สิบนาทีต่อมา พสกเธอสองคนได้มาถึงจุดหมายปลายทางของคืนนี้——Wesker Nightclub
นี่เป็นไนต์คลับที่ใหญ่ที่สุดในเมือง J ความบันเทิงต่างๆมีครบครันหมด เป็นแหล่งผลาญเงินที่สมชื่อจริงๆ
ญาธิดายืนอยู่หน้าห้อง มองป้ายไฟที่เด่นสะดุดตาแล้วใจเต้นตุ๊มๆต่อมๆ เพราะจะบอกว่าดื่มเหล้าเธอก็ดื่มไม่เก่งเล่นเกมก็เล่นไม่เป็น เข้าไปไม่อึดอัดแย่เลย?
อัญมณีเดินไปไม่กี่ก้าว พบหันมาพบว่าเธอไม่ได้เดินตามมาด้วย ได้รีบย้อนกลับไปลากญาธิดาพร้อมถามว่า “ธิดา เธอคงไม่ใช่มานึกเสียใจภายหลังนะ?”
“เปล่า ฉันก็แค่กระวนกระวายใจนิดหน่อย”
“กระวนกระวายใจอะไร มีฉันอยู่ทั้งคน รีบไปเถอะ พวกเขาถึงกันหมดแล้ว!”
ญาธิดาฟังแล้ว รู้ว่าปฏิเสธไม่ได้ จึงได้แต่เดินตามฝีเท้าอัญมณีเข้าไปในWesker
เข้าไปปุ๊บ พวกเธอก็ได้เข้าไปสู่สิ่งแวดล้อมที่มืดสลัว แสงสีต่างๆระยิบระยับดนตรีอิเล็กทรอนิกส์สะเทือนหู ยังมีหนุ่มหล่อสาวสวยกลุ่มนึงกำลังโยกย้ายส่ายสะโพกอยู่กลางเวที
อัญมณีดึงญาธิดาเดินผ่านโซฟาหลายแถว และได้มุ่งหน้าไปยังโซนโซฟาวงแหวนที่ใหญ่ที่สุดของด้านในสุดโดยตรง
มองจากไกลๆ ญาธิดาเห็นทางโน้นมีชายหญิงนั่งกันเป็นแถว เดินไปดูใกล้ๆ เป็นเพื่อนๆสมัยเรียนมหาลัยของเธอพอดี ในนั้น แองจี้นั่งอยู่ตรงกลาง เดรสสีแดงที่ร้อนแรงแมทช์กับสีลิปอันเร่าร้อน โอ้อวดสุดๆ เธอเชิดหน้ามองอัญมณีกับญาธิดาด้วยหางตา จากนั้นเคลื่อนย้ายสายตาออกด้วยความเย่อหยิ่ง
พอพวกเธอมาถึง ย่อมกลายเป็นศูนย์กลางของทุกคน ไม่ได้เจอมาสองปีกว่าๆเพื่อนๆต่างก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ แต่ต่างก็ได้ทักทายกับพวกเธออย่างอบอุ่นเป็นกันเอง
หลังจากทักทายกันเสร็จ อัญมณีได้ดึงญาธิดาเดินไปนั่งตรงตำแหน่งที่ยัฃว่างอยู่ บังเอิญนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของแองจี้
ญาธิดาเพิ่งนั่งลงมา ผู้ชายที่อยู่ข้างๆได้เคลื่อนย้ายที่นั่งมานั่งที่ข้างกายเธอ พร้อมกับเป็นฝ่ายพูดคุยกับเธอก่อน “ธิดา ไม่เจอกันนานเลยนะ”
ตอนที่ญาธิดาหันไปเห็นการินที่อยู่ข้างๆแล้วค่อนข้างประหลาดใจ แต่ก็ได้ตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ใช่ ไม่ได้เจอกันสองปีกว่าแล้ว”
การินใส่แว่นกรอบสีทองไว้ ดวงตาที่อยู่หลังเลนส์แว่นตาอ่อนโยนและเข้าหาง่าย เขาถามเสียงเบา “ทำไมคุณไม่ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงศิษย์เก่าของก่อนหน้านี้เลย?ต่อมาผมยังเคยหาช่องทางติดต่อของคุณ แต่คุณเปลี่ยนเบอร์ไปแล้ว……”
นึกถึงเรื่องของตอนนั้น เธอจบมหาลัยปุ๊บก็เปลี่ยนเบอร์เลยเป็นเพราะว่าเธอเลิกกับจิณณ์ เพื่อนในห้องเรียนนอกจากคนที่สนิท นอกนั้นเธอล้วนไม่ได้ติดต่อเลยกัน
ญาธิดาตอบลวกๆคำนึงแล้วไม่ได้พูดอีก การินก็ดูออกเหมือนกัน จึงไม่ได้ถามเรื่องของก่อนหน้านี้อีก
แองจี้ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเห็นญาธิดากับอัญมณีมาปุ๊บ สายตาของพวกผู้ชายก็ถูกดึงดูดไปหมด แต่งานนี้เธอเป็นคนนัดรวมตัว เธอต่างหากที่ควรจะเป็นตัวเอกของงานนี้ แต่คิดไม่ถึงว่าพวกเธอกลับแย่งซีนเธอ!
แองจี้โกรธจนสีหน้าเปลี่ยน ได้คว้าเหล้าที่อยู่บนโต๊ะแล้วกรอกใส่ปากความด้วยหงุดหงิด
อัญมณีเห็นท่าทางที่หงุดหงิดแบบนี้ของเธอ ได้ยิ้มคิ้วด้วยรอยยิ้ม แกล้งพูดเยาะเย้ย “คุณหนูแองจี้เป็นอะไรไปเหรอ?ใครยั่วโมโหเธอเหรอ?ฉันเห็นเธอโกรธจนจมูกใกล้จะเบี้ยวอยู่แล้ว”
แองจี้ฟังแล้วหน้าบึ้งทันที พร้อมจ้องเธออย่างโหดทีนึง “เกี่ยวอะไรกับเธอ?”
ทั้งสองต่างก็พูดจาแดกดัน ราวกับพอเจอหน้ากันก็จะแบ่งว่าใครแพ้ใครชนะถึงจะได้ ข้างๆมีได้คนพูดโน้มน้าวทันที “เอาล่ะๆ ทุกคนเป็นเพื่อนกันหมด ดื่มด้วยกันแก้วนึงก็ไม่มีอะไรแล้ว!”
ใครจะไปรู้ว่าไม้นี้ใช้ไม่ได้ผลกับแองจี้เลย เธอยักคิ้ว จ้องหน้าอัญมณีไว้แล้วพูดว่า “อัญมณี ฉันได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้เธอเรียนดนตรีอยู่ที่ต่างประเทศ นี่ก็สองปีกว่าแล้ว ทำไมไม่เห็นมีชื่อเสียงหน่อยเลย?อยู่ต่างประเทศเงินหายากแล้ว นี่ถึงได้หนีหัวซุกหัวซุนกลับมาในประเทศ?”
อัญมณีฟังแล้ว ได้วางแก้วในมือลงอย่างไม่เบาไม่หนัก สีหน้าบึ้งสุดๆ
เธออยู่ต่างประเทศถือว่าไปได้สวยอยู่ คอยติดตามอาจารย์อยู่สองปี ได้เข้าร่วมแสดงการแข่งขันระดับนานาชาติอยู่หลายงาน ก็ถือว่าพอมีชื่อเสียงอยู่ แต่หลังจากกลับประเทศ ภาพรวมภายในประเทศไม่ค่อยดี ช่วงนี้เธอก็ไม่ค่อยได้รับงานเท่าไหร่
ตอนนี้ถูกแองจี้เอ่ยขึ้นมาแบบนี้ อัญมณีก็ฉุนขึ้นมาทันทีเลย เธอมองหน้าตาที่ดูหมิ่นและเย่อหยิ่งของผู้หญิงคนตรงนี้แล้ว ได้ลุกขึ้นมาจ้องหน้าเธอจากสูงลงมาที่ต่ำ “แองจี้ เธอจงใจฟื้นฝอยหาตะเข็บใช่ไหม?”
บรรยากาศได้เปลี่ยนมาตึงเครียดทันที ญาธิดาที่อยู่ข้างๆเห็นแล้วได้รีบยื่นมือมาดึงมือของเธอไว้ “อันอัน เธอสงบสติอารมณ์หน่อย”
เธอกับอัญมณีมาถึงนี่ยังไม่ถึงสิบนาที ถ้าเกิดมีเรื่องกับแองจี้เข้าจริงๆ จะทำให้ทุกคนหมดสนุกกันหมด