ดวงใจภวินท์ - บทที่ 194 งานกิจกรรมออฟไลน์
แผนการที่ญาธิดากับออกัสทำร่วมกันถูกส่งหลายครั้งและแก้ไขหลายครั้งก่อนที่ร่างสุดท้ายจะเสร็จสิ้น วันก่อนกิจกรรมออฟไลน์ เธอและออกัสมาถึงลานกิจกรรมด้วยกันเพื่อตรวจดูแผนผังของเวทีกิจกรรมและพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ
หลังจากงานยุ่ง ทุกคนโล่งใจอย่างเห็นได้ชัด บรรยากาศก็ผ่อนคลายมากขึ้นจากความตึงเครียดในตอนแรก
“ธิดา มาดื่มกาแฟสักแก้ว”
ออกัสซื้อกาแฟมาหลายแก้วจากสตาร์บัคส์ที่อยู่ข้างๆ แบ่งพนักงานที่เข้าร่วมในการวางแผนงาน และให้แก้วหนึ่งกับญาธิดา
ญาธิดายิ้มบางให้เขา และบอกขอบคุณเสียงเบา
เธอหันหน้าไปมองเวทีที่ออนแอร์อยู่แล้วถามเสียงเบา “ได้ยินว่างานนี้จะเชิญดารามาอุ่นเครื่อง ตัดสินใจแล้วเหรอว่าเป็นใคร”
กิจกรรมจะเริ่มในวันพรุ่งนี้ จะสำเร็จหรือไม่ มันสำคัญมากสำหรับเธอ อย่างแรกคือโบนัสก้อนโต อย่างที่สองคือโอกาสในอนาคต ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้ล้วนสำคัญสำหรับเธอมาก
ออกัสมองตามสายตาของเธอ มองไปที่คำว่า “แขกรับเชิญพิเศษ” บนป้ายห้อย และพูดเสียงเบาว่า “ผมได้ยินว่าเป็นแพรวาดาราหญิงที่มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับบริษัทของเรามาโดยตลอด”
เมื่อได้ยินชื่อที่คุ้นเคยนี้ ญาธิดาก็อึ้งไปเล็กน้อย ในใจพลันปราฏผู้หญิงซึ่งมีดวงตาเยือกเย็นและเย่อหยิ่งที่เธอเห็นในห้องทำงานของภวินท์ครั้งก่อน
รู้สึกคาดไม่ถึงว่าจะเป็นเธอ แต่เหมือนมันจะสมเหตุสมผล
เธอมีความสัมพันธ์แบบนั้นกับภวินท์ ให้เธอเข้าร่วมโอกาสแบบนี้ก็เป็นเรื่องปกติ
แต่เมื่อคิดเช่นนี้ หัวใจเธอกลับมีอาการเจ็บเสียด มุมปากยกยิ้มเยาะเย้ยถากถางตัวเอง
ออกัสที่อยู่ข้างๆ เห็นเช่นนี้จึงงุนงงเล็กน้อย “มีอะไรหรือเปล่า”
“ไม่มีอะไร” ญาธิดาได้สติกลับมา เอ่ยตอบบางเบา
ตอนนี้เธอกับภวินท์ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว ทำไมต้องคิดมากด้วยล่ะ มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าดีกว่า
หลังจากจัดการทุกอย่างในสถานที่เรียบร้อยแล้ว การเตรียมการทั้งหมดจะต้องรอจนกว่าจะถึงพรุ่งนี้ ก่อนเลิกงาน ญาธิดาอารมณ์ดี ซื้อขนมที่พ่อชอบทานและตรงไปโรงพยาบาล
ใครจะรู้ว่าเมื่อถึงโรงพยาบาล เปิดประตูห้องผู้ป่วย ญาธิดาเห็นดร.ยติภัทรนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง ขณะที่ปภาวีเห็นเธอเข้ามา ก็โบกมือให้เธอเงียบๆ ส่งสัญญาณให้ออกไปคุยกันข้างนอก
เมื่อประตูปิด ปภาวีถึงได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก พูดเสียงเบา “สองคืนมานี้เขาหลับไม่ค่อยสนิท นี่เพิ่งหลับไป ฉันอยากให้เขานอนมากหน่อย”
ญาธิดาพยักหน้า ถามอย่างค่อนข้างเป็นห่วง “ช่วงนี้คุณพ่อเป็นยังไงบ้างคะ”
ปภาวีถอนหายใจแล้วพูดว่า “ยังเหมือนเดิม”
บนใบหน้าเธอปรากฏความเศร้าโศกเล็กน้อย นิ่งไปครู่หนึ่ง เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ ล้วงเอาสมุดบัญชีเงินฝากในกระเป๋าเสื้อด้านในออกมาแล้วยื่นให้ญาธิดา“นี่คือสมุดบัญชีเงินฝากของครอบครัวเรา เงินในนั้นฉันกับพ่อแกเก็บออมกันมาเกินครึ่งชีวิต เดิมทีเอาไว้เป็นสินสอดทองหมั้นให้แก…”
ปภาวียังพูดไม่จบ น้ำเสียงก็มีก้อนสะอื้นเล็กน้อย ญาธิดาจมูกแสบจะร้องไห้ รีบเอื้อมมือไปจับมือเธอ และพูดเสียงเบา “คุณแม่คะ ไม่เป็นไรค่ะ ตราบใดที่คุณพ่อสบายดี พวกเราครอบครัวก็สบายดี”
เธอไม่สนว่าจะมีสินสอดหรือไม่ ตอนนี้แค่อยากให้พ่อได้รับการผ่าตัดโดยเร็วที่สุดและร่างกายดีขึ้น
“ธิดา ฉันก็ลองโทรหาป้าของแกและญาติฝ่ายพ่อของแกแล้ว บากหน้าแก่ๆ ไปขอยืมเงินและไม่ได้ยืมมามาก ทั้งหมดอยู่ในบัตรธนาคารนี้ รหัสผ่านคือวันเกิดของคุณ”
ปภาวีพูดพร้อมยื่นบัตรธนาคารอีกใบให้
ญาธิดาหัวใจตึงแน่น มองบัตรธนาคารและสมุดบัญชีเงินฝากในมือ หัวใจก็ยิ่งฝาดเฝื่อน
ตอนนี้เพื่อการผ่าตัด เห็นได้ชัดว่าปภาวีพยายามเก็บเงินอย่างเต็มที่
เธอกัดริมฝีปาก ยกมือขึ้นลูบมือปภาวี และปลอบเสียงเบา “คุณแม่คะ นี่ก็พอแล้ว คุณอย่ากังวล ฉันจะหาทางให้ได้ พรุ่งนี้ฉันยังมีงานแล้ว หลังจบจะมีโบนัส วางใจนะคะ ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดจะเพียงพอ”
ปภาวีดวงตาพราวน้ำตา เธอพยักหน้าแล้วพูดเสียงสั่น “ฉันก็ไม่อยากทำผิดต่อแก ธิดา แต่ตอนนี้แม่ไม่มีทางเลือกจริงๆ ได้แต่พึ่งพาแกเท่านั้น”
ญาธิดายื่นมือไปกอดปภาวีพลางเอ่ยปลอบโยนเธอแผ่วเบา
หลังจากออกจากโรงพยาบาล อารมณ์ของญาธิดาทรุดลงไปอีกมาก ทันทีที่เธอคิดถึงการผ่าตัดของพ่อ มันก็เหมือนกับมีก้อนหินหนักมากดทับหัวใจของเธอ ทำให้เธอหายใจไม่ออก
กลับมาที่อพาร์ตเมนต์ ญาธิดาทานอะไรอย่างเร่งรีบ เมื่อนึกถึงกิจกรรมพรุ่งนี้เช้า จำต้องทิ้งอารมณ์ความรู้สึกทั้งหมดไว้เบื้องหลังก่อนและหลับไปโดยเร็วที่สุด
เช้าวันรุ่งขึ้นก่อนรุ่งสาง ญาธิดาลุกจากเตียง อาบน้ำแล้วรีบไปยังสถานที่จัดงานทันที เพื่อควบคุมความคืบหน้าของสถานที่
ชั้นวางและของประดับตกแต่งงานได้จัดส่งมาเมื่อวันก่อน หลังจากปรับปรุงใหม่ผลก็ออกมาแล้ว หน้าจอแสดงผลยืนยัน พิธีกร และผลิตภัณฑ์ทั้งหมดพร้อมแล้ว และหลังจากตรวจสอบอีกครั้งว่าพนักงานและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยล้วนประจำตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว ญาธิดาถึงได้โล่งใจ
ออกัสที่อยู่ข้างๆ มองญาธิดาที่ยุ่งหัวหมุนไปหมด จึงพูดอย่างอดไม่ได้ “ธิดาใกล้จะเสร็จแล้ว พักผ่อนสักหน่อยเถอะ โดยปกติแล้วมันน่าจะไม่มีปัญหาอะไรแล้ว”
เช้าวันรุ่งขึ้นก่อนรุ่งสาง ญาธิดาลุกจากเตียง อาบน้ำแล้วรีบไปยังสถานที่จัดงานทันที เพื่อควบคุมความคืบหน้าของสถานที่
ญาธิดาได้ยินดังนั้นจึงพยักหน้า แต่เธอไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดถึงรู้สึกหดหู่ เปลือกตาขวาของเธอกระตุกหลายครั้งตั้งแต่เช้า จนถึงตอนนี้ ใจเธอมีความไม่สบายใจรางๆ
“ออกัส ฉันจะไปดูทางนั้นอีกทีว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จัดวางดีแล้วหรือยัง”
ญาธิดายิ้มให้ออกัส แล้วเดินอย่างรวดเร็วไปยังพื้นที่แสดงนิทรรศการ
บริษัทเทคโนโลยีโบรุยเป็นบริษัทย่อยในเครือSTN GROUP ธุรกิจเน้นที่เทคโนโลยีอัจฉริยะ สมาร์ตโฮมที่พัฒนาในช่วงสองปีที่ผ่านมาได้รับความนิยมอย่างมาก งานนี้ยังเป็นการ warm-up สำหรับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อีกด้วย โดยงานจะจัดขึ้นในพื้นที่นี้ก่อน และจะจัดขึ้นในเขตพื้นที่อื่นๆ ต่อไปในอนาคต เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วยตนเอง และเพิ่มความนิยมและความสนใจในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่
กล่าวอีกนัยหนึ่ง งานกิจกรรมครั้งนี้จะขึ้นอยู่กับความนิยมของผลิตภัณฑ์ใหม่ในตลาดเป็นส่วนใหญ่ สื่อจำนวนมากจะเข้ามาเยี่ยมชมและกระจายข่าวออกไป ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญมากต่อการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่
หลังจากยืนยันกลับไปกลับมาอยู่หลายครั้ง ญาธิดาถึงได้โล่งใจเล็กน้อย เมื่อใกล้ถึงเวลาเริ่มงาน ผู้คนในศูนย์เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ บรรยากาศมีชีวิตชีวามากขึ้น
ออกัสเดินมาจากหน้าจอแสดงผล ทำสัญญาณมือโอเคให้ญาธิดา และพูดเสียงเบาว่า “แพรวาอยู่ในตำแหน่งแล้ว เดี๋ยวอีกสักครู่จะเริ่มงาน”
ในเวลานี้พิธีกรได้ขึ้นเวทีและเริ่มอุ่นเครื่องแล้ว
ญิดายืนอยู่ข้างๆ มองดูอยู่ห่างๆ และแอบโล่งใจ
ไม่กี่นาทีต่อมา ด้วยเสียงเชียร์ของพิธีกร ร่างที่สง่างามในชุดเดรสยาวสีฟ้าน้ำทะเลมาถึงบนเวทีที่รายล้อมไปด้วยบอดี้การ์ด โบกมือให้ฝูงชนล่างเวทีอย่างมีมนุษยสัมพันธ์
ตาใสฟันสวย ความงามเปล่งประกาย นั่นคือแพรวาไม่ผิด
ญาธิดามองหญิงสาวบนเวที และตกตะลึงเล็กน้อยครู่หนึ่ง
ตามที่คาด ผู้หญิงที่ภวินท์ให้ความสนใจนั้นสวยมากทุกคน
นิวราอ่อนหวานน่ารัก แพรวางดงามเขย่าใจคน แต่ละคนมีลักษณะเฉพาะของตัวเอง
ภวินท์ต้องการสะสมความงามทุกประเภทเลยหรือไง
เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นในใจ ญาธิดาอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะได้สติทันควัน
ทำไมเธอถึงคิดถึงภวินท์อยู่ตลอดเวลาเลยนะ ตัดสินใจว่าจะอยู่ห่างจากเขาแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่หนักแน่นได้ขนาดนี้…
เธอกัดฟันดึงสติกลับมา เลื่อนสายตาขึ้นมองอีกครั้งก็เห็นแพรวาโบกมือให้ผู้คนที่อยู่ล่างเวที แต่ดวงตาสวยของเธอกลับจับจ้องมาที่ตัวเอง
ญาธิดาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองเธออีกครั้ง แต่พบว่าเธอมองไปทางอื่นแล้ว
เมื่อครู่เธอเห็นชัดเจนว่าแพรวาใช้สายตาไม่ยินยอมและเย็นชามองเธอ เป็นไปได้ไหมว่ามันเป็นภาพลวงตาของเธอเอง