ดวงใจภวินท์ - บทที่ 201 บุกรุกบ้านคนอื่น
นิวราตื่นตระหนก เห็นได้ชัดว่าไม่ได้คาดหวังว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้ เธอรีบวิ่งตามไป “พี่วิน พี่โมโหเหรอ”
พี่ชายโง่เขลานั่นทำอะไรก็ไม่ได้เรื่อง แล้วยังมายั่วโมโหพี่วินของเธออีก!
“นิว พี่ไม่ได้โมโห”
ภวินท์หยุดฝีเท้า มุมปากยกยิ้มอ่อนโยน ยกมือขึ้นลูบศีรษะของเธอ และพูดเสียงอ่อนว่า “พี่มีธุระด่วนที่ต้องจัดการจริงๆ”
ได้ยินเขาพูดอย่างนั้น นิวราจึงสบายใจขึ้นมานิดหน่อย เงยศีรษะเล็กขึ้นถามอย่างอ้อนๆ “จริงเหรอคะ”
ภวินท์ยิ้มบาง “จริงสิ ผมกลับก่อนนะ เสร็จงานแล้วผมจะโทรหาคุณ”
นิวราจับมือเขาแล้วพูดอย่างไม่เต็มใจ “ได้ค่ะ งั้นพี่ก็อย่าหักโหมเกินไปนะคะรู้ไหม”
ทั้งสองคุยกันอีกไม่กี่คำก็แยกกัน
หลังออกจากคฤหาสน์ตระกูลวรโชติภวินท์ก็แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไร เวลาเขาปฏิบัติต่อนิวรากลับมีความรู้สึกฝืนใจเหมือนที่ทำกับคนตระกูลวรโชติคนอื่นด้วย
เขายกมือขึ้นกดระหว่างคิ้ว ขึ้นรถและบอกคนขับให้ขับรถออกไป ก่อนจะเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาพายุ
“คุณภวินท์ คุณญาธิดาอยู่กับคุณอัญมณีเพื่อนสนิทของเธอครับ ผมเห็นพวกเขาออกจากโรงพยาบาลไป จึงไม่ได้ติดตามต่อครับ”
ภวินท์นั่งฟังรายงานจากปลายสายแล้วนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดเสียงเบาว่า “อืม กลับบริษัทได้”
พูดจบเขาก็วางสาย
แม้ในสายเมื่อครู่พายุเหมือนอยากจะพูดอะไรแต่ไม่พูด เขาก็รู้สึกได้ว่าพายุมีเรื่องต้องการพูดกับเขา
กลับมาที่STN Group ภวินท์เพิ่งมาถึงบริษัท หลังจากนั้นไม่นานพายุก็เข้ามา
“คุณภวินท์”
ภวินท์เอ่ยปากถามโดยไม่รู้ตัว “เธอเป็นยังไงบ้าง”
ทันทีที่พูดออกไปเขาก็ค่อนข้างแปลกใจตัวเอง ตั้งแต่เมื่อไรกันที่เขาใส่ใจเรื่องของญาธิดาขนาดนี้
พายุรายงานตามความจริง “ดูเหมือนสภาพจิตใจไม่ค่อยดีครับ ผมได้ยินเธอคุยกับคุณอัญมาณี เธอกังวลว่าเรื่องที่เธอบาดเจ็บจะถูกพ่อรู้เข้า และเหมือนเธอกำลังรวบรวมเงินเป็นค่าผ่าตัดให้พ่ออยู่ครับ……”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา แววตาของภวินท์ก็หม่นลงฉับพลัน
ไม่น่าที่ช่วงนี้เธอดูเหมือนจะขาดเงิน ทั้งทำงานล่วงเวลาทุกวันและยังรับทำงานส่วนตัว……
เขามองออกว่าเธอขาดเงิน แต่เขาไม่เคยคิดให้ละเอียดเลยว่าทำไมเธอถึงขาดเงิน
ไม่รู้ทำไม ใจภวินท์รู้สึกผิดเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะญาธิดาหรือว่าดร.ยติภัทร
หลังจากนิ่งไปครู่หนึ่งภวินท์ก็สั่งเสียงเย็นว่า “ให้คนระงับคลิปวิดีโอถ่ายทอดสดบนอินเทอร์เน็ตให้หมด”
“แต่คุณภวินท์ครับ การปล่อยคลิปวิดีโอพวกนั้นสามารถพิสูจน์ได้ว่าผลิตภัณฑ์ของโบรุยไม่มีปัญหาและเป็นประโยชน์ต่อเรา……”
ภวินท์พูดอย่างไม่ลังเล “มีความโปร่งใสไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ เรื่องผลิตภัณฑ์ฉันจะให้คนตรวจสอบ นายให้คนไปลบวิดีโอก่อน”
ตอนนี้วิดีโอถูกอัปโหลดบนอินเทอร์เน็ตจนเป็นกระแส และทุกคนก็รู้แล้วว่าผลิตภัณฑ์ของโบรุยถูกดัดแปลง จึงไม่จำเป็นต้องเก็บวิดีโอไว้บนอินเทอร์เน็ต
เห็นภวินท์ยืนยันหนักแน่น พายุจึงได้แค่ตอบรับ
หลังจากนิ่งไปครู่หนึ่งภวินท์ก็ถามต่อไปอีกว่า “ญาธิดากลับบ้านแล้วเหรอ”
พายุพยักหน้า “น่าจะเป็นอย่างนั้นครับ”
เมื่อได้ยินดังนั้นภวินท์จึงลุกขึ้นและเดินออกไป “ไป ไปหาเธอหน่อย”
เรื่องค่าผ่าตัดทั้งหมดเธอสามารถมาหาเขาได้ ต่อให้พวกเขาทั้งคู่จะไม่ค่อยลงรอยกัน แต่ดร.ยติภัทรก็เป็นอาจารย์ของเขา เขาไม่มีเหตุผลที่จะยืนดูอยู่เฉยๆ ไม่ยื่นมือเข้าช่วยในเวลาที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือ
เหตุผลข้อนี้ เมื่อไรญาธิดาถึงจะเข้าใจ
ด้วยหัวใจที่มีความไม่พอใจอยู่รางๆ ภวินท์จึงตรงไปที่คอนโดของญาธิดาพร้อมกับพายุ
รถหยุดนิ่งอยู่ที่ชั้นล่างในคอนโด ภวินท์เหลือบมองพายุและสั่งว่า “ฉันจะขึ้นไปครู่หนึ่งแล้วเดี๋ยวจะรีบลงมา”
พูดจบเขาก็เปิดประตูรถแล้วเดินเข้าไปในคอนโด
พายุนั่งอยู่ในรถ มองด้านหลังของภวินท์ เกิดความสงสัยขึ้นในใจ
ทำไมเขารู้สึกว่าประธานของเขาจะไม่ได้ลงมาอีกนานเลย
เมื่อมาถึงหน้าประตูห้องของญาธิดา ภวินท์ก็ยกมือขึ้นกดกริ่ง
ไม่นาน ในห้องเกิดมีเสียงดังออกมา ประตูเปิดแง้มเล็กน้อย
เมื่อเห็นคนที่อยู่ในห้องชัดๆ ภวินท์พลันชะงักไปนิดหน่อย แต่ก่อนที่เขาจะทันได้ตอบโต้ ประตูก็ปิดลงเสียงดัง “ปัง”
ทำไมเป็นเธอ
หลังจากหยุดไปครึ่งวินาที เขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาทันที โทรหาพายุและสั่งด้วยเสียงขุ่น “ขึ้นมา”
ในขณะเดียวกัน อัญมณีก็กรีดร้องด้วยความตื่นตระหนก เธอวิ่งเข้าไปในห้องนอนหน้าตาตื่นพร้อมกับตะโกนว่า “ธิดา! แย่แล้ว! ธิดา!”
ญาธิดาเพิ่งเปลี่ยนเป็นชุดนอนผ้าเย็นสบาย ยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาตอบสนอง ประตูก็ถูกผลักเปิด อัญมณีกระโดดเข้ามาเหมือนไฟฟ้าช็อต
เห็นอัญมณีมีปฏิกิริยาแบบนี้ ญาธิดาพลันงุนงง “เกิดอะไรขึ้น”
“เมื่อครู่เสียงกริ่งประตูดัง ฉันคิดว่าเป็นอาหารมาส่ง! ใครจะรู้ว่าพอเปิดประตูดู เธอทายสิว่าใคร คนนั้นคือ……ผู้ชายเฮงซวย!”
คำว่า “ผู้ชายเฮงซวย” เป็นชื่อพิเศษที่อัญมณีตั้งให้ภวินท์ ญาธิดาได้สติแล้วถามกลับว่า “ภวินท์เหรอ”
“ถูกๆๆ! เป็นเขา! เธอว่าเขามาทำไม!” อัญมณีสติหลุดไปแล้ว เดามั่วๆ ว่า “มาหาถึงบ้าน คงจะไม่มาทำมิดีมิร้ายเธอหรอกนะ……”
ดวงตาของเธอกวาดไปที่หน้าอกของญาธิดา และเธอพูดอย่างหวาดกลัว “เราสองคนสู้เขาได้เหรอ ต้องแจ้งตำรวจไหม”
ญาธิดาได้ยินคำพูดนี้ ทั้งโกรธทั้งขำ ตบๆ หน้าเธอและพูดว่า “ก็อย่างที่เธอพูด เขาอาจจะมีธุระเลยมาหาฉันล่ะมั้ง”
ถึงเธอไม่รู้แน่ชัดว่าภวินท์ที่ไปกับนิวราเหตุใดถึงวกกลับมาหาเธอ แต่ในเมื่อเขามาแล้ว เธอก็ไม่สามารถเลี่ยงไม่ออกไปพบเขาได้
ญาธิดายิ้มพลางลูบศีรษะที่มีผมหนาของอัญมณี และพูดเสียงอ่อนว่า “ฉันจะออกไปดู”
อัญมณีคว้าตัวเธอไว้ “อย่า……ทำไมฉันถึงกังวลนิดหน่อย เปลือกตาขวากระตุกหลายครั้งแล้ว……”
ขณะนั้นเอง กริ่งประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง
ทั้งสองมองหน้ากันและเดินไปที่ประตู อัญมณีพูดอย่างจริงจัง “อย่าเพิ่งเปิดประตู!”
พูดอย่างนั้นแล้วเธอก็ยืนเขย่งปลายเท้าส่องตาแมว
หน้าห้องมีเด็กหนุ่มสวมชุดพนักงานส่งเดลิเวอรี่และกล่องอาหารเดลิเวอรี่ในโทรศัพท์มือถือ นอกจากนั้นก็ไม่เห็นใคร
อัญมณีถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นจึงหันไปหาญาธิดา “เหมือนว่าจะไปแล้ว…..ข้างนอกเป็นเด็กส่งอาหาร”
ญาธิดาพูดเสียงอ่อน “งั้นก็เปิดประตูเถอะ”
อัญมณีพยักหน้าและเปิดประตู
“อาหารเดลิเวอรี่ของคุณครับ”
เด็กหนุ่มยื่นกล่องอาหารเดลิเวอรี่ขนาดใหญ่ ข้างในเป็นเมนูหม้อไฟที่อัญมณีสั่งทางโทรศัพท์มือถือไปเมื่อครู่นี้
อัญมณีเพิ่งยื่นมือจะไปรับ ทันใดนั้นข้างๆ ก็มีมือข้างหนึ่งยื่นมาคว้าข้อมือของเธอแล้วดึงเธอไป
“อ๊ะ!”
อัญมณีร้องออกมา ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ก็พลันเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของชายคนหนึ่ง
ทันทีที่เงยหน้าขึ้น ก็เห็นใบหน้าของพายุอยู่ใกล้มาก จึงตกตะลึงในทันที
เขา……โผล่มาจากไหน
ขณะเดียวกัน ภวินท์ในอีกด้านหนึ่งก็เหยียดขายาวก้าวเข้าไปในคอนโดโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง
ก่อนที่ญาธิดาจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ประตูก็กระแทกปิดดัง “ปัง” แล้ว
เห็นชายร่างสูงตรงหน้า ญาธิดาพลันถอยหลังไปสองก้าวโดยไม่รู้ตัว “คุณ……นี่คือการบุกรุกบ้านคนอื่นนะ!”
ภวินท์ได้ยินดังนั้นจึงเลิกคิ้วถามว่า “งั้นเหรอ”
ถ้าญาธิดารู้ว่าบ้านนี้เป็นชื่อของเขา และเขาเป็นเจ้าของบ้านที่แท้จริงของเธอ เกรงว่าต่อให้เธอกล้าสักแค่ไหน เธอก็คงพูดแบบนี้ไม่ออกหรอกมั้ง
“คุณทำแบบนี้……ฉันสามารถแจ้งตำรวจได้นะ……”
ญาธิดาพูดอย่างนั้นแล้วหันหลังไปอย่างตื่นตระหนก เดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะ ทันใดนั้น ข้อมือของเธอก็ถูกมือใหญ่จับไว้ และ เธอถูกชายหนุ่มโอบไว้ในอ้อมแขนอย่างง่ายดาย
ทันใดนั้น ใบหูก็ร้อนผ่าว เสียงของชายหนุ่มดังขึ้น “คุณกล้าเหรอ”
ความกล้าหาญของญาธิดาน่ะเขารู้ดี อย่างดีที่สุดก็คือกล้าที่จะหนีไปหนีมาอยู่ในสายตาเขาเท่านั้น จะกล้าแจ้งตำรวจได้ยังไง