ดวงใจภวินท์ - บทที่ 207 ร้องเพลงบนเวที
ภวินท์ได้ยินดังนั้น แววตาก็ขุ่นมัวเล็กน้อย หันกลับมาและเดินไปหาเธอ หลังจากเข้าใกล้แล้วจึงจ้องมองเธอและถามว่า “ทำไม”
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึก พูดเน้นคำต่อคำ “นี่ไม่ใช่โบนัส ฉันไม่เอา”
เมื่อได้ยินคำตอบของหญิงสาว ภวินท์ค่อนข้างแปลกใจ คิดไม่ถึงว่าจะถูกเธอมองออก
ภวินท์เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยและพูดเสียงอ่อน “นี่ถือว่าเป็นการให้ยืม คุณใช้มันไปก่อน ผมจะหักออกจากโบนัส”
เรื่องการผ่าตัดของดร.ยติภัทรโดยธรรมชาติแล้วเขาต้องจัดการ เงินหลายแสนนี่ก็แค่ให้เธอไปช่วยเหลือครอบครัว คิดไม่ถึงว่าเธอกลับไม่รู้สึกซาบซึ้งเลยงั้นเหรอ
ญาธิดากัดฟัน เลื่อนสายตาขึ้นมองภวินท์และพูดเน้นคำต่อคำ “ตอนนี้ฉันยังไม่ต้องการ รอเงินเดือนเดือนหน้าก็พอ ขอบคุณสำหรับความหวังดีของท่านประธานค่ะ ”
เธอพูดอย่างนั้นแล้วโค้งคำนับให้ด้วยความเคารพ
ไม่ใช่ว่าเธอไม่ขาดเงิน แต่แค่ไม่ต้องการเงินที่เขาให้ ราวกับว่าทันทีที่เธอรับเงินของเขา ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองก็ไม่ถูกต้องอีกต่อไป
เงินนี่ สำหรับเธอแล้ว มันเป็นภาระทางจิตใจ
ภวินท์มองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า พลันขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกแปลกๆ ไปชั่วขณะ
ก่อนหน้านี้ช่วงที่เธออาศัยอยู่ในบ้านพักของเขา เขาไม่เคยเห็นด้านที่ดื้อรั้นและเด็ดเดี่ยวของเธอเลย ราวกับว่าตอนนี้เขาเพิ่งรู้จักตัวจริงของญาธิดา
เมื่อเห็นว่าภวินท์ไม่มีคำพูดหรือคำแนะนำใดๆ ญาธิดาจึงลดสายตาลงและพูดว่า “ถ้าไม่มีเรื่องจะพูดแล้ว ฉันขอตัวก่อนค่ะ”
เมื่อพูดจบ เธอก็หันหลังกลับและเดินออกจากห้องทำงานไปโดยไม่หันกลับมามอง
ทันทีที่ประตูปิด ภวินท์ถึงได้สติกลับมา
ผู้หญิงคนนี้ ดื้อรั้นจริงๆ
กลับถึงห้องทำงาน ญาธิดาค่อนข้างมึนเบลอ
ทำไมภวินท์ต้องให้เงินเธอ หรือว่ารู้ว่าเธอขาดเงิน
ความสงสัยผุดขึ้นในใจของเธอ ไม่ทันที่เธอจะคิดได้ชัดเจน ก็มีสายเรียกเข้า
ญาธิดาเหลือบมองหน้าจอ เห็นว่าอัญมณีโทรมา จึงรับสายโดยไม่ลังเล “ว่าไงอันอัน”
เสียงของอัญมณีจากปลายสายไม่มีชีวิตชีวาเช่นปกติ แต่ค่อนข้างเหนื่อยล้าอ่อนแรง “ธิดา คืนนี้ไปเที่ยวกันไหม ฉันอารมณ์เสียนิดหน่อย……”
เมื่อได้ยินเสียงเธอเป็นแบบนี้ ญาธิดาก็แอบแปลกใจ “เกิดอะไรขึ้นเหรอ”
เท่าที่เธอจำได้ อัญมณีมักจะกระตือรือร้นและมองโลกในแง่ดี น้อยมากที่จะเป็นแบบนี้ เว้นแต่จะเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ
เมื่ออัญมณีที่อยู่ปลายสายถูกถามแบบนี้ขึ้นมากะทันหันก็ค่อนข้างรู้สึกผิด คิดครู่หนึ่งก่อนจะพูดอย่างลังเลว่า “ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่ฉันนึกถึงพายุผู้ชายเลวคนนั้น เธอว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น……”
ญาธิดาได้ฟังแล้วตกใจเป็นอันดับแรก จากนั้นก็ยิ้มอย่างอดไม่ได้ “อันอัน เธอคงจะไม่……”
ยังพูดไม่ทันจบ เสียงของอัญมณีก็ดังมาจากอีกฝั่ง “นี่ๆๆ อย่าคิดลึกนะ! ฉันอาจจะผีเข้าก็ได้!”
ญาธิดายิ้มบางและพูดว่า “โอเค ฉันไม่คิดลึก”
“งั้นคืนนี้ออกไปเที่ยวกันนะ ฉันอารมณ์ไม่ค่อยดีเลย……”
ญาธิดาลังเลครู่หนึ่งก่อนจะตอบตกลง “โอเค”
เพราะก่อนหน้าทุกครั้งที่เธอมีเรื่องเศร้า อัญมณีจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ ยากนักที่อัญมณีจะอารมณ์ไม่ดี แน่นอนว่าเธอก็ต้องยืนหยัดเคียงข้างด้วยเช่นกัน
หลังจากเสร็จงานในมือ หายากที่ญาธิดาจะไม่ทำงานล่วงเวลาหนึ่งวัน หลังจากเก็บของเสร็จก็ตรงไปหาอัญมณี
เธอรออยู่ที่ทางเข้าคอนโดของอัญมณีนานมากก็ไม่เห็นใครออกมา ญาธิดากำลังจะเอาโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหา แต่ทันทีที่เงยหน้าขึ้นก็เห็นอัญมณีในเสื้อครอปกับกางเกงยีนเอวสูงเดินออกมา
เมื่อเห็นอัญมณีแต่งตัวแบบนี้ ญาธิดาก็อดจะยิ้มและพูดหยอกไม่ได้ “ถ้าไม่รู้มาก่อน คงคิดว่าเธอจะไปแดนซ์นะ”
อัญมณีขยิบตาให้เธอ ยื่นมือไปจับข้อมือของเธอ “ไม่ไปแดนซ์ ไปดื่ม! ยังจำครั้งล่าสุดที่ฉันบอกเธอเรื่องบาร์ที่เพื่อนฉันเปิดใหม่ได้ไหม พวก เขาเพิ่งเปิด ไปกันเถอะ!”
ญาธิดาได้ยินดังนั้นก็พลันนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุดตอนที่เธอไปWesker Nightclubกับอัญมณี ตอนนั้นไปเจอเข้ากับแองจี้ พวกเขาแทบจะปลีกตัวไม่ได้……
ญาธิดารู้สึกขยาด “ฉันไม่กล้า……”
อัญมณีมองออกว่าเธออยากพูดอะไร จึงขัดจังหวะเธอทันที แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “มันจะไม่เกิดเรื่องอย่างคราวที่แล้วแน่นอน! นี่คือบาร์ของเพื่อนของฉัน มีแค่ร้องเพลงและพวกเครื่องดื่ม ไม่ใช่แหล่งมั่วสุมแน่นอน วางใจได้!”
ได้ยินเธอพูดขนาดนั้น ญาธิดาก็ยังไม่ค่อยวางใจ แต่ต้านทานอัญมณีที่ทั้งลากทั้งดันไม่ไหวเลยได้แต่ตามไป
ทั้งสองไปที่ร้านอาหารเพื่อทานอาหารก่อนแล้วจึงไปที่บาร์ เมื่อไปถึง ญาธิดาถึงได้รู้ว่าที่อัญมณีบอกว่าบาร์นี้มันแตกต่างนั้นแตกต่างกันอย่างไร
ผนังห้องเป็นสีเทาโทนเย็น และป้ายสีเดียวกันมีตัวอักษรเล็กๆ ไม่กี่ตัว เมื่อเดินเข้าไปจะเป็นไฟสีโทนอุ่น เหนือบาร์มีไฟกระจกที่มีความยาวแตกต่างกันส่องแสงสีเหลืองอบอุ่น เมื่อมองไปโดยรอบ ให้ความสดใสแต่ไม่เจิดจ้า
มีเวทีสี่เหลี่ยมอยู่ด้านในสุด แสงไฟมืดสลับอบอุ่น มีวงดนตรีต่างชาติกำลังเล่นอยู่ เพลงละตินแจ๊สที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
เป็นบาร์ริมถนนที่ค่อนข้างมีสไตล์นอร์ดิก
“เป็นยังไง ฉันไม่ได้โกหกเธอใช่ไหม” อัญมณีแตะข้อศอกของญาธิดา ส่งยิ้มและขยิบตาให้เธอ
ญาธิดาอมยิ้มและตอบว่า “จ้าๆๆ”
สถานที่แบบนี้มีสไตล์มากกว่าWesker Nightclubจริงๆ
ทั้งสองคนยังเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ชายในเสื้อเชิ้ตสีเทาที่มีผมยาวเล็กน้อยก็เดินเข้ามา “อันอัน! มาแล้วเหรอ!”
อัญมณีเลื่อนสายตาไปมองแล้วยิ้มพร้อมกับตอบทันที “แมทธิว!”
“มาจนได้นะ คิดว่าจะต้องไปอัญเชิญเธอมาซะอีก!”
อัญมณียิ้ม ยกมือขึ้นกระแทกหมัดอย่างสนิทสนม “วันเปิดร้านฉันไม่ได้มา แต่ทันทีที่ว่างฉันก็พาเพื่อนรักของฉันมาอุดหนุนเลยนี่ไง!”
แมทธิวได้ยินดังนั้นจึงมองไปที่ญาธิดา แล้วรอยยิ้มก็ยิ่งสดใสขึ้น “สาวสวยทุกคน ยินดีต้อนรับๆ”
หลังจากทักทายแล้ว แมทธิวก็พาพวกเขาไปที่บาร์ และให้บาร์เทนเดอร์ผสมเครื่องดื่มให้พวกเธอสองคน
แมทธิวเป็นคนตรงไปตรงมาและไม่มีการสร้างภาพวางท่าใด ๆ หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ญาธิดาก็คุ้นเคยกับเขา
“จริงสิอันอัน ครั้งก่อนเธอบอกฉันว่ามีเพื่อนที่ร้องเพลงได้ หรือว่าจะเป็นธิดา”
“นายดูคนแม่นมาก! เป็นเธอจริงๆ!” อัญมณีพูดแล้วหันไปหาญาธิดา พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ธิดา เดี๋ยวขึ้นไปร้องสักเพลงไหม บรรยากาศดีมากเลยนะ”
ญาธิดายิ้มอย่างเขินอายและพูดเสียงเบาว่า “อันอันอย่าหาเรื่องน่า เรื่องมันตั้งหลายปีก่อน ตอนนี้ไม่ได้ร้องเพลงมานานมากแล้ว”
ตอนนั้นเธอเข้าร่วมประกวดนักร้องที่มหาวิทยาลัย คิดไม่ถึงว่าอันอันยังจำได้
อัญมณีไม่เชื่อ “เธออย่าถ่อมตัวเลยธิดา เธอเคยได้รางวัลนะ!”
แมทธิวก็ยิ้มเห็นด้วย “ธิดา เดี๋ยวร้องสักเพลงนะ ยังไงก็เป็นของเราเอง”
ถูกทั้งอัญมณีและแมทธิวคะยั้นคะยอ ญาธิดาจึงปฏิเสธไม่ได้ พูดไปพูดมาจึงได้แต่ตอบตกลง “ก็ได้ งั้นร้องเพลงภาษาอังกฤษสักเพลงแล้วกัน”
พอดีกับที่วงดนตรีบนเวทีกำลังพักครึ่ง ถึงเวลาร้องเพลง แมทธิวจึงนำญาธิดาตรงไปบนเวที
เดินขึ้นเวที ญาธิดาถือไมโครโฟน แล้วมองไปยังผู้คนที่นั่งอยู่ด้านล่าง ถือไมโครโฟนด้วยความประหม่าอย่างอธิบายไม่ถูก
เมื่อเสียงดนตรีของเพลง “My Love” เริ่มดังขึ้น เธอถึงได้ค่อยๆ ผ่อนคลายลงเล็กน้อย
เสียงเพลงที่ผ่อนคลายไหลออกมาราวกับน้ำไหล เมื่อญาธิดาเริ่มอ้าปาก น้ำเสียงที่นุ่มนวลและไพเราะเจืออารมณ์ความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้
ทั้งบาร์ ราวกับว่าแสงทั้งหมดรวมไปที่ตัวญาธิดา ทำให้ผู้คนไม่สามารถละสายตาได้
ที่มุมห้อง หลุยส์มองผู้หญิงที่ร้องเพลงบนเวทีพร้อมกับยิ้มมุมปาก
คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเธอ
มุมปากของเขากดยิ้มลึก เอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมา กดเปิดกล่องแชตของภวินท์“วิน ออกมาดื่มไวน์ด้วยกันไหม”