ดวงใจภวินท์ - บทที่ 271 ก็แค่ทำให้เธอรู้สึกผิด
บทที่ 271 ก็แค่ทำให้เธอรู้สึกผิด
ญาธิดาเงยหน้ามอง เป็นจังหวะที่หันไปสบตากับนิวราพอดี
ต่างก็ไม่ได้พูดอะไร สื่อสารผ่านสายตาซึ่งกันและกัน เหมือนจะเข้าใจฝ่ายตรงข้ามเป็นอย่างดี
ญาธิดาจึงรีบหลบสายตาก่อน นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ทำให้รู้สึกปวดหัวเล็กน้อย
เมื่อคืนเธอเหมือนจะไม่สบาย คิดไม่ถึงว่าภวินท์จะไปหาเธอ และไม่คิดว่าเขาจะค้างที่นั่นหนึ่งคืนเพื่อดูแลเธอ
หญิงโสดชายโสดอยู่ห้องเดียวกัน ยังไงก็แก้ตัวไม่ได้ ญาธิดารู้ดีว่า ตอนนี้ ถึงแม้ว่านิวราจะไม่พูดอะไร แต่ก็รับรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับภวินท์ว่าเป็นอย่างไร
เจสซี่ที่อยู่ข้างๆก็อดไม่ได้ที่บ่นพึมพำ นิวราขมวดคิ้ว เหมือนเธอจะโกรธเล็กน้อย หันไปอย่างเย็นชาว่า “ พอได้แล้ว เจสซี่ แกไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ” เมื่อพูดประโยคนี้ เจสซี่จึงจะปิดปากเงียบ
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึกๆ มองดูเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า มือสองข้างก็ประกบกันแน่น ไม่รู้จะทำยังไงดี
แต่ถึงแม้อธิบายไม่ชัดเจน ตอนนี้เธอก็พยายามอธิบายไปแล้ว
เธอกัดฟัน เงยหน้ามองนิวรา พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ คุณนิว ความจริงเมื่อคืนที่คุณภวินท์ไปหาฉัน เพราะว่าฉันป่วยค่ะ ไข้ขึ้นสูง ไม่มีใครจะไหว้วานได้ ดังนั้นฉันจึงโทรศัพท์หาเขา ให้เขาเอายาลดไข้มาให้ค่ะ”
“ ตอนหลังไข้ของฉันก็ยังไม่ลด คุณภวินท์กลัวจะแย่ไปกว่านี้ จึงอยู่เฝ้าที่นั่นค่ะ ” ญาธิดาได้สูดหายใจลึกๆ “ ฉันรับรองกับคุณได้ค่ะ ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย เป็นเพราะฉันลืมสถานะของคุณภวินท์ และมองข้ามความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคุณภวินท์ ต้องขอโทษด้วยนะคะ”
ตอนนี้ เธอพยายามที่จะเอาความผิดใส่ตัวเอง ถ้าไม่อย่างนั้น ภวินท์กับนิวราต้องทะเลาะกันเพราะเธอ กระทบถึงเรื่องการแต่งงานของตระกูลวรโชติและSTNGroup พนักงานบริษัทตัวเล็กๆอย่างเธอไม่มีทางจะรับผิดชอบได้
ณ ตอนนี้ นิวราก็เอ่ยขึ้นว่า “ ไม่เป็นไร ฉันเชื่อใจพี่วิน ฉันกับเขาจะหมั้นกันแล้ว เขาไม่ทำอะไรให้ฉันเสียใจแน่ ๆ”
ญาธิดารู้สึกสะเทือนใจ มีเหงื่อออกที่ฝ่ามือ
ต่อมา นิวราได้พูดต่ออีกว่า “ แล้วก็ ธิดา ฉันเห็นคุณเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน ฉันรู้ว่าคุณไม่ทำอะไรอย่างนั้นหรอก ”
ญาธิดาเงยหน้าขึ้นมา สบตาหล่อน หยักหน้า “ คุณนิว ฉันจะรักษาระยะห่างกับคุณภวินท์ คุณวางใจได้เลย ”
เมื่อได้ยินดังนั้น นิวราก็หัวเราะ ยื่นมือไปจับแขนของเธอ พูดเบาๆว่า “ ขอบใจนะ”
เมื่อคุยต่อสองสามประโยค ญาธิดาอ้างว่ามีงานในบริษัท และขอตัวกลับจากนิวรา เดินออกจากร้านกาแฟ
ญาธิดาเพิ่งจะก้าวเดินไปข้างหน้า สีหน้าของนิวราก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันที หล่อนจ้องมองเงาผอมเพรียวนอกหน้าต่าง สายตามืดสลัว
เจสซี่ที่อยู่ข้างๆถึงกับถอนหายใจ เอ่ยปากพูดว่า “ เป็นไงละนิว การแสดงของฉันเมื่อกี้เป็นยังไงบ้าง”
Smart address bar. th.readeraz.com ดวงใจภวินท์ บทที่ 271 ก็แค่ทำให้เธอรู้สึกผิด – th.readeraz
นิวราหันมามอง กระตุกมุมปาก “ ฝีมือการแสดงของแกแบบนี้ ต้องได้รับรางวัลแล้วละ”
เจสซี่ยักไหล่ดีใจ ขยับมาถามใกล้ๆว่า “ แต่นิว ฉันยังคิดไม่ออกเลยว่า ที่แสดงต่อหน้านางผู้หญิงคนนั้น จะมีประโยชน์อะไรเหรอ”
นิวราถอนหายใจ “ ตราบใดที่เธอยังมีจิตสำนึกอยู่ ก็คงจะไม่ใกล้ชิดสนิทสนมกับพี่วินแล้วแหละ และหลังจากเรื่องนี้ หล่อนรู้สึกละอายกับฉันแน่ ๆ ถึงตอนนั้น ค่อยคิดกลั่นแกล้งหล่อน ก็ง่ายขึ้นเยอะเลย ”
หล่อนรู้จักนิสัยของญาธิดาเป็นอย่างดี แค่ให้เธอเชื่อใจตัวเอง เรื่องหลังจากนี้ก็จะคุยง่ายขึ้น สั่งสอนให้หลาบจำ ไม่ใช่ว่าหล่อนพูดอะไรแล้วจะเป็นยังนั้น
เป็นไปอย่างที่คิด ในช่วงบ่ายวันนั้น ญาธิดารู้สึกหมกมุ่นกับความผิดที่ทำต่อนิวรา เธอไม่คิดเลยว่านิวราจะใจดีขนาดนี้ ในทางกลับกันถ้าเป็นเธอ คู่หมั้นของตัวเองไปค้างคืนที่บ้านผู้หญิงคนอื่น เธอคงรับไม่ได้แน่ ๆ
เมื่อถอนหายใจ ก็ได้ยินเสียงเคาะประตู เธอจึงมีสติขึ้นอีกครั้ง
“ คุณญาธิดา มีเอกสารต้องการให้คุณภวินท์เซ็นค่ะ”
ญาธิดาหยิบเอกสารมาดู พยักหน้า “ อีกสักพักฉันไปหาคุณภวินท์ให้เขาเซ็นเอกสาร คุณกลับไปทำงานก่อนได้เลย เซ็นเสร็จแล้วฉันจะแจ้งให้คุณมารับ”
“ ค่ะ”
ญาธิดานำเอกสารในมือที่ต้องการให้คุณภวินท์เซ็นแยกออกมา ลุกขึ้นเดินไปที่สำนักงาน เคาะประตู เมื่อได้ยินเสียงขานรับจากด้านใน เธอจึงผลักประตูเข้าไป
เธอเดินไปข้างหน้า วางเอกสารลงบนโต๊ะ “ คุณภวินท์ มีเอกสารที่คุณต้องเซ็นค่ะ รบกวนดูอีกครั้งนะคะ”
เมื่อภวินท์ได้ยินดังนั้น จึงหยิบเอกสารขึ้นมา เปิดดูทีละฉบับ สายตาเขาดูตั้งใจมาก เมื่อดูเนื้อหาในเอกสารแล้ว จึงหยิบปากกามาจดบันทึก
ในไม่ช้า เอกสารสองฉบับก็ได้เซ็นเรียบร้อยแล้ว ยังมีอีกหนึ่งฉบับจำเป็นต้องแก้ไข
ญาธิดารับเอกสาร และกำลังจะเดินไป กลับถูกเรียกให้หยุด
ภวินท์ยืดตัวตรง เอนตัวไปพิงด้านหลัง หยิบปากกาขึ้นมาปิดฝา แสดงสายตาที่ไร้ความรู้สึกมองดูเธอ
ญาธิดารู้สึกเกร็งเล็กน้อย หัวใจเต้นเร็วยิ่งขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ภวินท์เรียกให้เขาหยุด จะมอบหมายงานแต่ก็ไม่พูด เป็นช่วงเวลาที่ทำให้คนรู้สึกทรมานไม่น้อยเลย
ตอนที่ญาธิดาทนไม่ได้และกำลังเอ่ยปาก น้ำเสียงเยือกเย็นของชายหนุ่มก็พูดออกมาว่า “ คืนนี้มีงานเลี้ยง คุณต้องไปกับผม”
“ ฉัน….”
ญาธิดาคิ้วขมวด อยากจะคัดค้านเล็กน้อย
พอนึกถึงเรื่องเมื่อตอนเที่ยงวันนี้ เธอก็ไม่รู้ว่าจะควรจะรับปากดีหรือไม่ ถ้ารับปาก และนิวรารู้เรื่องนี้ ไม่ใช่ว่าเธอตบหน้าตัวเองเหรอ ถ้าปฏิเสธ ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของงาน
เมื่อสังเกตการปฏิเสธของเธอ ภวินท์ขมวดคิ้ว เงยหน้ามองเธอ “ ทำไม ไม่สะดวกเหรอ”
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึกๆ กัดฟัน ตอบตรงไปตรงมาว่า “ วันนี้ฉันอยากจะกลับเร็วไปพักสักหน่อยค่ะ อีกอย่างมีแผลที่ศีรษะ กลัวว่าจะไม่เหมาะสมค่ะ”
เมื่อได้ยิน ภวินท์หยุดสายตา กวาดดูหน้าผากหญิงสาว พูดว่า “ อืม รู้ละ ”
เมื่อญาธิดาได้ยิน สีหน้าถึงกับดีใจ รีบพูดว่า “ ขอบคุณค่ะคุณภวินท์”
เมื่อพูดจบ เธอจึงเดินออกจากห้องสำนักงาน
ภวินท์มีสีหน้าแววตาแอบประหลาดใจเล็กน้อย ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว ถ้าเมื่อกี้เขาดูไม่ผิดละก็ ญาธิดามีสีหน้าแววตาเหมือนจะดีใจ
หรือเป็นเพราะว่าเธอไม่อยากไปงานเลี้ยงกับเขา หรือว่า พอเลื่อนให้หล่อนมาเป็นเลขาส่วนตัว หล่อนเลยไม่เต็มใจ
ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่สบายใจ จนกระทั่งพายุมาเคาะประตู
“ คุณภวินท์ แผนธุรกิจความร่วมมือกับทางไทเฮงกรุ๊ปจัดทำเรียบร้อยแล้วครับ ”
ในขณะที่พายุกำลังพูด ก็ได้ยื่นเอกสารที่อยู่ในมือ
เมื่อได้ยินเป็นการร่วมงานกับไทเฮงกรุ๊ป ภวินท์ที่มีสีหน้าอารมณ์ไม่ดีก็จางหายไป สีหน้าเขาเริ่มดูจริงจัง จึงรับแผนธุรกิจมาเปิดอ่าน
การร่วมมือกับไทเฮงกรุ๊ปในครั้งนี้ถือเป็นอีกโครงการใหญ่ เป็นการลงทุนที่สูงถึง700 ล้าน สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ได้มีการออกข่าวบ่อยครั้งเกี่ยวกับความร่วมมือกับทางไทเฮงกรุ๊ป แวดวงธุรกิจในเมือง J ต่างก็รู้กันดี
โครงการนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการของSTN Group ที่ใหญ่ที่สุดในรอบครึ่งปี ภวินท์ใส่ใจกับเรื่องนี้มาก
เมื่อเปิดอ่านดู ภวินท์ได้ขมวดคิ้ว “ แผนธุรกิจในช่วงหลังส่วนนี้ต้องปรับแก้อีกครั้งนะ”
“ ครับ”
เมื่อเห็นพายุหันหลังจะเดินออก ภวินท์ก็เอ่ยปากพูดว่า “ เออใช่ ช่วงนี้บรัทวรโชติมีความคืบหน้ายังไงบ้าง ”
พายุได้หยุด พูดเบาๆว่า “ คนฝั่งนั้นส่งข่าวมาบอกว่า ทางนั้นเตรียมนัดนักข่าวเพื่อทำการชี้แจง”
ภวินท์พยักหน้าเล็กน้อย ค่อยๆ พูดว่า “ อืม เข้าใจละ ”
เดาไม่ผิด ชนัดพลได้ทำตามที่เขาบอก
ที่จริง ถึงอย่างไร การขอโทษต่อสาธารณะไม่ได้มีวิธีเดียว และเขาไม่ใช่ว่าจะไม่มีความสามารถที่จะช่วย ยังไงเขาแค่ไม่อยากจะช่วยก็เท่านั้น
แต่เขายิ่งชอบ จากมุมมองที่เป็นผู้ชม เห็นบริษัทวรโชติค่อยๆพินาศไปทีละเล็กทีละน้อย