ดวงใจภวินท์ - บทที่ 272 ไม่ควรให้โอกาสเขานานขนาดนั้น
บทที่ 272 ไม่ควรให้โอกาสเขานานขนาดนั้น
อีกด้านหนึ่ง ปริญที่นั่งอยู่ในห้องอาหารจู่ ๆก็เริ่มรู้สึกเย็นวาบด้านหลัง เขาเงยมองดูแอร์ บ่นพึมพำว่า “ อุณหภูมิก็ไม่ได้ปรับไว้ต่ำนี่”
“ ใช่เหรอ ” ภูผาที่นั่งอยู่ข้างๆ หัวเราะคิกๆพูดแซวว่า “ไม่ใช่ว่าช่วงนี้นายตัณหาเยอะเกินไปเหรอ ร่างกายอ่อนแอนะซิ ”
“ ไปไหนก็ไป” ปริญหัวเราะพร้อมกับด่าออกมา ยกมือดื่มเหล้าที่อยู่ในแก้ว“ แต่จะพูดไปแล้ว ช่วงนี้โคตรกวนใจเลย เดิมเพื่อนสนิทเหล่านั้น สองสามวันนี้ทำไมนัดยากนัดเย็น หาข้ออ้างไปเรื่อย ไม่ใช่ช่วงนี้ตระกูลวรโชติอยู่ในช่วงวิกฤต แต่ละคนเลยต้องหลีกเลี่ยงไม่มาเจอหน้ากัน”
ภูผายิ้มมุมปาก จิบเหล้าแล้วพูดว่า “ พอหมดอำนาจหมดอภิสิทธิ์ก็เป็นแบบนี้ เป็นเรื่องธรรมของคนเรา”
ปริญทำเสียง “ ถุย” ไปหนึ่งครั้งนำแก้วเหล้าที่อยู่ในมือเขวี้ยงลงโต๊ะ หมดอารมณ์จะดื่มต่อ
“ เมื่อวานพ่อฉันอุตส่าห์ไป STN Group หาภวินท์ สุดท้ายก็ถูกโน้มน้าวให้กลับมา ภวินท์นั่น ไม่ช้าก็เร็วฉันจะเอาให้ตายเลย”
นั่งฟังที่เขาบ่นด้วยความโกรธอยู่พักใหญ่ ในที่สุดภูผากระตุกมุมปาก แต่ไม่พูดอะไร รอให้เขาอารมณ์เย็นลง ถึงจะพูดเบาๆว่า “ปริญ ยังไงที่ภวินท์ให้คุณลุงกล่าวขอโทษต่อสาธารณะ ความจริงก็เป็นอีกวิธีที่ดีนะ แต่เขาพูดไม่ครอบคลุม ตระกูลวรโชติอยากจะพ้นวิกฤตไปเร็วๆ ไม่เพียงแต่จะขอโทษต่อสาธารณะ ความคิดเห็นของฝั่งนั้นก็ต้องจัดการให้เรียบร้อยไปด้วย ต้องหยุดกระแสไว้ ”
จู่ ๆ ปริญก็ได้สติขึ้นมา จ้องมองไปที่ภูผาอย่างมีหวัง “ ควรจะทำยังไงดีละ ”
ภูผาได้หัวเราะ “หาข่าวที่กระแสแรงกว่านี้ เพื่อกลบกระแสข่าวตระกูลวรโชติ เหมาะที่สุดแล้วกับการซุบซิบข่าวบันเทิง ”
เมื่อปริญได้ฟัง สายตาก็มีประกายขึ้นทันที เอามือตบที่สมองหนึ่งครั้ง “ ใช่ ทำไมฉันไม่คิดถึงกันนะ”
ในไม่ช้า เขาก็คอตกอีกครั้ง “ แต่เวลาน้อยยนิดแบบนี้จะไปหาเรื่องซุบซิบบันเทิงที่น่าตื่นเต้นได้จากที่ไหน ไม่ใช่ว่าจะหาก็หาได้เลยนะ ”
เมื่อภูผาได้ยิน จึงยิ้มแหยๆที่มุมปาก พูดต่ออีกว่า “ปริญ ฉันช่วยนายได้นะ ”
เมื่อปริญได้ยิน ประกายเต็มไปด้วยความสุข “ นายมีข่าวอะไร”
พายุหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโดยไม่ลังเล เปิดอัลบั้มรูป และส่งให้เขาดู
“ นี้คือเพื่อนนักข่าวที่ฉันรู้จักถ่ายไว้ได้ และเป็นดาราสาวที่มีชื่อเสียง หากข่าวนี้หลุดไป พอจะเป็นกระแสไม่น้อยเลย นอกจากนี้ พระเอกคนนี้ ก็เป็นคนที่นายเกลียดที่สุดไม่ใช่เหรอ”
ปริญรู้สึกมีความสุข ดูภาพคนสองคนที่กำลังกอดกัน ส่งสายตาที่เยือกเย็นออกมา
เขารีบหันไปมองภูผา “ภูผา รูปนี้ นายจะขายให้ฉันเหรอ ”
ภูผาส่ายหน้า หัวเราะเบาๆว่า “ คนกันเองจะคุยเรื่องเงินให้รู้สึกแย่ทำไม แต่เดิมฉันคิดว่าคงช่วยนายไม่ได้ ครั้งนี้ถือว่าฉันได้ลงแรงช่วยก็แล้วกัน”
ปริญมีสีหน้าดีใจ จึงยกมือขึ้น ค่อยๆตบที่ไหล่ของภูผาเบาๆ “ สมกับที่เป็นเพื่อนดีจริงๆ ส่งรูปมาให้ฉัน ฉันจะไปหาวิธีดู”
เมื่อกี้เขาเพิ่งจะพูดว่าจะเอาภวินท์ให้ตาย ไม่คิดว่าโอกาสจะมาเร็วขนาดนี้
ภูผาได้หัวเราะ แต่ไม่พูดอะไร และส่งรูปภาพให้ภวินท์
หลังจากรอให้ปริญเดินออกไปด้วยความตื่นเต้น ครามก็เปิดประตูเข้ามา
ภูผาก็พูดอย่างเยือกเย็นว่า “ ส่งคนไปจับตาดูเขา”
“ ครับ”
“ไทเฮงกรุ๊ปสถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง”
ครามรายงานตามความจริง “ ได้ส่งคนของพวกเราไปเข้าร่วมแล้ว แต่จะสำเร็จหรือเปล่ายังไม่แน่ใจเลยครับ”
ภูผากำหมัดแน่น น้ำเสียงฟังดูเหน็บหนาวยิ่งนัก “ไม่ว่าจะใช้วิธีอะไร ไม่ควรจะให้STN Groupร่วมมือกับทางไทเฮงกรุ๊ปได้อย่างราบรื่น ”
โครงการ700 ล้าน STN Groupจะได้รับผลประโยชน์มากน้อยแค่ไหน เขาก็ไม่กล้าคิด แต่ถ้าภวินท์มีอำนาจขึ้นมา แผนการของเขาก็จะยากขึ้นกว่าเดิม
ทำไมเขาต้องให้โอกาสเขานานขนาดนั้นละ
ญาธิดาไม่คิดว่าตัวเองจะเจอกับนิวราอีกครั้งได้เร็วขนาดนี้ วันก่อนเพิ่งจะเจอกับเขาในร้านกาแฟ ไม่คิดว่าเช้านี้ ตอนที่เธอกำลังคุยงานกับลูกเกด นิวราก็ถือกล่องเก็บความร้อนเดินออกมาจากลิฟต์
เมื่อเธอหันไปมอง เห็นคนเดินมา ก็รู้สึกประหลาดใจ
นิวราได้มองดูเธอ สีหน้าเริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อย
หล่อนเดินมาด้านหน้า เอ่ยถามด้วยความสงสัย“ธิดา ทำไมคุณมาอยู่ตรงนี้ละ ”
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึกๆ ตอบอย่างหนักแน่นว่า “ ฉัน….ฉันโดนย้ายมาทำงานที่สำนักงานCEOชั่วคราวค่ะ คุณนวิยาลาไปแต่งงาน ฉันเลยต้องมาทำงานแทนหล่อนค่ะ”
เมื่อนิวราได้ยิน สายตาเย็นยะเยือก หายวับไปทันที “ พี่วินอยู่ที่ห้องทำงานหรือเปล่า ฉันมากินข้าวมื้อเที่ยงเป็นเพื่อนเขา”
“ คุณภวินท์อยู่ค่ะ เชิญตามฉันมาได้เลยค่ะ ”
ในขณะที่ญาธิดากำลังพูด ก็เดินไปข้างหน้า เดินถึงหน้าประตูห้องทำงาน จึงเคาะประตู เมื่อได้ยินเสียงขานรับจึงผลักประตูให้นิวราเข้าไป
นิวราหัวเราะ และพูดเบาๆว่า “ ขอบใจ”
ในขณะที่พูด หล่อนก็เดินเข้าไปข้างใน เมื่อเห็นภวินท์ ก็เอ่ยปากพูดด้วยความดีใจว่า “ พี่วิน ดูนี่ซิว่านิวเอาอะไรมาให้พี่”
เสียงหวานๆของหญิงสาว ที่มีความเขินอายเล็กน้อย คงเป็นน้ำเสียงที่ใช้พูดกับแฟนหนุ่มเท่านั้น
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึกๆ ปิดประตู เดินไปหาลูกเกดอีกครั้ง
ลูกเกดมองดูเธอด้วยความตื่นเต้น พูดเบาๆว่า “คุณญาธิดา คุณรู้จักแฟนของคุณภวินท์ด้วยเหรอ ”
ญาธิดารู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก ตอบเบาๆว่า “ อืม เคยเจออยู่สองสามครั้ง”
ลูกเกดผู้หญิงตัวเล็กๆ พูดอย่างตื่นเต้นว่า“ พระเจ้า อิจฉาหล่อนจริงๆ ไม่พูดไม่ได้แล้ว คุณภวินท์กับแฟนเขาเหมาะสมกันมากๆ ได้ยินมาว่าเขาสองคนจะหมั้นกันแล้วด้วย โชคดีจริงๆ……… ”
ญาธิดายืนอยู่ข้างๆ ฟังที่หล่อนพูด รู้สึกหม่นหมองบอกไม่ถูก รู้สึกเหมือนมีอะไรมากดทับ
แต่เธอก็ไม่ควรไปดีใจแทนนิวรากับภวินท์ถึงจะถูกใช่ไหม
ทันใดนั้น ประตูห้องสำนักงานได้เปิดออก ภวินท์ยืนอยู่หน้าประตู ส่งสายตาเยือกเย็นมองมาที่เธอ “ คุณญาธิดา ชงชาอู่หลงพีชมาหนึ่งกา”
ญาธิดากลับมามีสติ และรีบตอบรับว่า “ ค่ะ”
ประตูห้องสำนักงานได้ปิดอีกครั้ง
ภายในห้องทำงาน นิวรานั่งอยู่หน้าโซฟา ดูเหมือนเด็กที่ทำผิดอะไรบางอย่าง ก้มหน้าก้มตานั่งอยู่ตรงนั้น ไม่กล้าแม้แต่ขยับ
ภวินท์ได้เหลือบมองหล่อน มานั่งข้างๆ สีหน้าจืดชืด ไม่พูดอะไร ได้แต่เปิดอ่านเอกสารบนแท็บเล็ต
ผ่านไปชั่วครู่ สุดท้ายนิวราก็หมดความอดทน หล่อนค่อยๆยื่นมือ แตะเบาๆที่ข้อมือของภวินท์ “ พี่วิน อย่าโกรธเลยนะ ครั้งก่อนนิวเองที่ทำผิด……..”
ภวินท์ไม่เห็นด้วย
เมื่อนิวราเห็นสถานการณ์ จมูกเริ่มแดง พยายามบีบน้ำตาให้ไหลออกมา “ พี่วิน นิวเป็นห่วงพี่เหลือเกิน ดังนั้นจึงคิดการที่พี่วินไม่ยอมช่วยนิวก็เท่ากับไม่เป็นห่วงเป็นใยนิว นิวรู้สึกไม่ปลอดภัย……”
หญิงสาวได้ก้มหน้าลง ไหล่สั่นตลอดเวลา และร้องไห้ไม่หยุด ดูแล้วช่างน่าสงสารจริงๆ
ภวินท์ได้ขมวดคิ้ว หันไปมองหล่อน เริ่มใจอ่อนลงเล็กน้อย จึงรีบหยิบกระดาษทิชชูส่งให้ “ อย่าคิดมากสิ”
เมื่อนิวราเห็นดังนั้น รีบยื่นมือไปกอดแขนของเขา ซบที่ไหล่อย่างน่าสงสาร “ พี่วิน ถ้าเราสองคนหมั้นกันได้เร็วกว่านี้จะดีมากเลย นิวก็ไม่คิดอะไรเพ้อเจ้อแบบนี้หรอก…….. ”
เมื่อได้ยิน ภวินท์มีสีหน้าเคร่งขรึม ปากซีดขาว ไม่พูดอะไร
นิวราก็แค่ทดสอบภวินท์เบื้องต้น เลยเปลี่ยนหัวข้อทันทีว่า “ พี่วิน ไม่โกรธแล้วใช่ไหมคะ”
“ อืม ” ภวินท์ตอบเบาๆ
เมื่อนิวราได้ยิน ขยับมุมปากทันที เงยคางเอนไปด้านหน้า และจูบเบาๆตรงแก้มของภวินท์
ภวินท์ตกใจเล็กน้อย ไม่ตั้งใจเงยหน้า ก็เห็นญาธิดาถือถาดยืนอยู่ตรงประตู
ความจริง เธอเห็นหมดแล้ว