ดวงใจภวินท์ - บทที่ 282 อาจจะเป็นเพราะเธอคิดมากไป
บทที่ 282 อาจจะเป็นเพราะเธอคิดมากไป
ภวินท์ขมวดคิ้วหยุดครู่หนึ่งก่อนจะหันมา
เมื่อเห็นดวงตาสีดำสดใสของชายหนุ่มที่มองมาที่ตน อารมณ์ประหม่าของญาธิดาก็ยิ่งวุ่นวายมากขึ้นไปอีก
ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงในช่วงเช้า ตั้งแต่ข่าวฉาวถูกเผยแพร่ออกไปจนถึงตอนนี้ เรื่องก็ไปกันใหญ่อย่างรวดเร็วเกินว่าจะคาดคิด แม้แต่เธอเองก็รู้สึกได้ถึงความเร่งรีบความกดดัน
สองปีที่ทำงานที่ STN มา นี่เป็นครั้งแรกที่เธอประสบกับช่วงเวลาที่ตึงเครียดแบบนี้
“มานี่หน่อย”
เสียงแผ่วเบาดังมาจากชายหนุ่ม ญาธิดากลับมามีสติ สบตาเขาแล้วก้าวไปข้างหน้า
เมื่อเข้าไปใกล้ เธอก็ถามว่า “คุณภวินท์ จะสั่งอะไรคะ”
ชายหนุ่มสั่งทีละอย่างว่า “ปฏิเสธคำขอทั้งหมด รวมทั้งผู้ถือหุ้นใหญ่ด้วย แล้วบอกว่า ผมกำลังคิดหาทางแก้ไขปัญหา จะอยู่แต่ในห้องประธาน เข้าใจไหม”
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึกๆ มีความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้เล็กน้อยอยู่ในใจ
ภวินท์พูดแบบนี้แสดงว่ายังไว้ใจเธออยู่
เธอเงยหน้าขึ้นสบตาเขาและพยักหน้าอย่างจริงจัง “โอเคค่ะ คุณภวินท์”
ถ้าเขาเชื่อในตัวเธอ เธอก็จะอยู่ช่วยเหลือเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข
เพียงแค่สบตา ก็ดูเหมือนทั้งสองจะเข้าใจกันอย่างดี หลังจากญาธิดาออกจากออฟฟิศ ภวินท์ก็หันไปมองที่พายุแล้วสั่งว่า “ไปสืบดูสิว่าใครกันแน่ที่แอบจุดชนวนเรื่องนี้ รอฟังฉันว่าจะทำอะไรต่อ”
พายุเยืนตั้งสติ แล้วรีบพูด “รับทราบครับ”
ภวินท์พูดจบ แต่พายุก็ยังไม่ออกไป เขายืนอยู่ที่เดิม ดูเหมือนว่ามีอะไรจะพูด
ภวินท์มองมาที่เขา “เป็นอะไรไป”
พายุลังเล คำพูดวนเวียนอยู่ที่ปลายลิ้น ในที่สุดก็พูดว่า “ท่านประธานครับ ผมอยากจะขอลา”
อัญมณีมีงานแสดงการกุศลวันเสาร์ที่เมืองY เขาอยากจะไป พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ อย่างช้าที่สุดเขาต้องเดินทางคืนนี้
ภวินท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย “จะไปไหน”
พายุทำงานให้เขามาตลอด แทบจะไม่เคยขอลา ตอนนี้สถานการณ์ของSTN Group ย่ำแย่ ถ้าไม่มีพายุตอนนี้ก็เท่ากับการตัดแขนขวาของเขาทิ้ง
ดูเหมือนเขาจะพูดไม่ออก พายุเงียบไปแล้วพูดเบาๆว่า “อัญมณีจะไปเมืองYพรุ่งนี้แสดงงานการกุศล..”
นึกว่าภวินท์จะไม่ให้เขาไปแน่ถ้าเพราะเหตุผลนี้ แต่ใครจะรู้ หลังจากได้ยินแค่สองวิ น้ำเสียงต่ำของชายหนุ่มก็ดังขึ้นมา “ไปสิ”
พายุเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ มองภวินท์ “จริงเหรอครับ”
ริมฝีปากของภวินท์เปิดออก พูดเบาๆ “นานๆทีนายถึงจะขอลา ฉันมีเหตุผลอะไรที่จะไม่อนุญาตล่ะ”
“คุณภวินท์ ถ้าบอกให้ผมอยู่ต่อ ผมก็โอเคนะครับ…”
ถ้าภวินท์ต้องการเขา เขาก็จะอยู่ แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะรับปากง่ายๆ
ภวินท์เงยหน้าขึ้น นัยน์ตาเป็นประกาย ดูเหมือนเขาจะยิ้มด้วยนิดหน่อย “ไปเถอะ อย่าทำให้ผมผิดหวัง”
พายุได้ยินคำพูดนั้น ก็สีหน้าประหลาดใจ พยักหน้า แล้วก็ออกจากห้องไป
ทันทีที่ประตูปิด ภวินท์ก็ยิ้มกว้างขึ้น ถ้าเป็นเขาเพื่อผู้หญิงที่เขารักแล้วเขาก็จะต้องไปอย่างแน่นอน
แวบหนึ่ง ความคิดหนึ่งก็เข้ามาในหัวของเขา ไม่รู้ทำไม จู่ๆเขาก็นึกถึงญาธิดา แก้มสีชมพูของสาวน้อย แล้วก็แวบหายไป
ไม่กี่วินาทีต่อมาภวินท์ก็ขมวดคิ้ว
ทำไมเขาถึงคิดถึงเธอในเวลาแบบนี้กัน
ยังไม่ทันจะคิด โทรศัพท์มือถือบนโต๊ะก็ดังขึ้น ภวินท์ยกขึ้นมาดู ดวงตาของเขาก็ชะงักลงชั่วครู่
เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วรับสาย “ฮัลโหลครับ พ่อ”
ในวินาทีต่อมา เสียงของปกรณ์ก็ดังมากมาจากปลายสาย “วิน ทางนั้นมีอะไรกัน เรื่องใหญ่ขนาดนั้นทำไมไม่บอกอะไรพ่อเลย! หุ้นตกจนจะไม่เหลือแล้ว แกคิดวิธีแก้ไขอะไรหรือยัง
คำถามมากมายพุ่งเข้ามาหาเขา ภวินท์ขมวดคิ้วอย่างไม่สบายใจ สุดท้ายก็ตอบอย่างใจเย็นว่า “พ่อครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง”
เขาไม่มีอะไรจะพูดเกี่ยวกับพ่อ
แม้ว่าเขาจะพูดว่าให้พวกเขาไปใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างสงบสุข สบายใจที่ต่างประเทศ แต่ใครจะไม่รู้ว่าอำนาจใหญ่ในบริษัทยังไงก็อยู่ในมือของเขาอยู่ดี
ผลประโยชน์ของหุ้นในมือของเขา เป็นเหมือนตัวกำหนดชีวิตเลย
ดังนั้นเมื่อSTNเกิดเรื่องขึ้น ขาไม่สามารถที่จะนิ่งเฉยได้
ภวินท์ยกมือขึ้นกดหัวคิ้ว ภวินท์พยายามระงับความหงุดหงิดในใจ “พ่อครับ ไม่ต้องห่วง ผมจัดการได้”
ถึงมียาครอบจักรวาลก็ไม่มีผลกับปกรณ์ เขาฮึมอย่างเย็นชา แล้วพูดว่า “พ่ออดเป็นห่วงไม่ได้จริงๆ น้าผิงกับพ่อก็เลยตัดสินใจกลับประเทศสักพัก”
ภวินท์ตกใจเล็กน้อย “พวกพ่อจะกลับเมื่อไหร่ครับ”
“จองตั๋วเครื่องบินแล้ว รอบพรุ่งนี้เช้า ตอนเย็นถึงเมืองJ
ได้ยินแบบนั้น ภวินท์ก็ขมวดคิ้ว
ตั๋วเครื่องบินถูกจองไว้ล่วงหน้าแล้ว เพิ่งจะโทรหาเขาตอนนี้ นี่ไม่ใช่การโทรมาคุย แต่เป็นการบอกให้รู้ชัดๆ
แม้ว่าเขาจะรู้สึกอึดอัดอยู่ในใจ แต่เขาก็ยังตอบอย่างดีว่า “ได้ครับ ส่งข้อมูลเที่ยวบินมาให้ผม พรุ่งนี้ผมจะไปรับ”
ปกรณ์ดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ดี และทนไม่ไหว เขาออกคำสั่งอย่างเย็นชา “รีบจัดการเรื่องให้ได้ซะ แล้วเรื่องชีวิตที่ยุ่งเหยิงของลูกอีก จัดการให้เรียบร้อยให้หมด!” เข้าใจไหม!
ได้ยินน้ำเสียงโกรธของปกรณ์ ภวินท์ก็รับปากซ้ำๆ จนสายจากอีกฝ่ายถูกตัดไป
ภวินท์มีลางสังหรณ์ว่าคราวนี้ที่ปกรณ์กลับมา อาจจะไม่ใช่แค่เพราะเรื่องที่เกิดตอนนี้แน่ คราวนี้เขาจะพาผู้หญิงคนนั้นกลับมาด้วย ดูท่าว่าจะไปยอมกลับไปง่ายๆแน่
จะมีอะไรรออยู่กันนะ เขาเดาไม่ถูกเลย
หลังจากยุ่งอยู่นานกว่าชั่วโมง ในที่สุดญาธิดาและผู้ช่วยในห้องประธานก็ถอนหายใจกันได้แล้ว นับตั้งแต่เช้า โทรศัพท์ก็ไม่หยุด ดังเลย ตอนนี้เรื่องถึงจะสงบลงครู่หนึ่ง
“คุณธิดา มาดื่มน้ำหน่อยเถอะ”
ลูกเกดก็เหนื่อยมาก แต่ก็ยังไม่ลืมรินน้ำให้ญาธิดา
“ขอบคุณค่ะ”
ญาธิดายิ้มให้เธอ แล้วหยิบถ้วยขึ้นมาจิบให้ชุ่มคอ โทรศัพท์ที่โต๊ะก็ดังขึ้นอีกครั้ง
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วยกมือขึ้นรับ “สวัสดีค่ะ ออฟฟิศประธานค่ะ”
“โทรจากแผนกต้อนรับนะคะ คุณญาธิดา คุณนิวเพิ่งขึ้นไป ตอนนี้มีเรื่องอยู่ ฉันคิดว่าควรจะแจ้งคุณหน่อย”
ญาธิดาได้ยินเสียงแล้ว ขมวดคิ้วแน่น เธอก็พูดเบา ๆ ว่า “รับทราบค่ะ”
เช้าวันนี้มีนักข่าวจากสื่อหลายแห่งมาที่บริษัทเพื่อจะขอสัมภาษณ์ เธอขอให้แผนกต้อนรับหยุดพวกเขาไว้ ไม่นึกเลยว่าจู่ๆ นิวราจะมาในเวลาแบบนี้ มันทำให้เธอแปลกใจเล็กน้อย
เธอลุกขึ้นออกจากออฟฟิศเดินไปที่ประตู สักครู่ก็เห็นนิวราออกมาจากลิฟต์
อันที่จริง เธอยังสงสัยอยู่บ้างเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งก่อน
ตอนที่เธออยู่ในภวังค์ นิวราก็ได้เข้ามาแล้ว โบกมือให้เธอแล้วยิ้ม “ธิดา!”
ญาธิดายิ้มๆแล้วพูดเบา ๆ “คุณนิวมาหาคุณภวินท์ใช่ไหมคะ ฉันต้องไปรายงานเขาก่อน คุณถึงจะเข้าไปได้”
นิวราเอียงหน้าแล้วยิ้มด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนและน่ารัก “โอเค ไปรายงานเถอะฉันให้ความร่วมมือเต็มที่”
เห็นว่าใบหน้าของเธอไม่มีความผิดปกติอะไรเลย สายตาที่มองเธอก็สดใสร่าเริง ญาธิดาดับความสงสัยในใจ แล้วหันหลังเดินไปที่ออฟฟิศ
การรั่วไหลของแผนงานจะเกี่ยวข้องกับนิวราได้ไงกัน บางทีเธออาจจะคิดมากเกินไป