ดวงใจภวินท์ - บทที่ 30 คุณย่าอยากเจอคุณ
บทที่ 30 คุณย่าอยากเจอคุณ
เมื่อเห็นผู้หญิงคนนั้นจ้องมาที่เขาด้วยความตื่นตระหนก ภวินท์ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่คิดว่าเธอจะมีปฏิกิริยารุนแรงเช่นนี้
ภวินท์เลิกคิ้วขึ้น “บ้านของผม ผมไม่อยู่ที่นี่ จะให้ไปอยู่ที่ไหนครับ?”
ขณะที่พูด เขาก็ก้มลงหยิบเอกสารที่กระจัดกระจายขึ้นมาอย่างสบายๆ หลังจากอ่านตัวอักษรขนาดใหญ่บนนั้นแล้ว เขาก็เข้าใจสิ่งที่เธอทำในที่สุด
“ฉัน…ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น” แก้มของญาธิดาแดงก่ำ “ก็จู่ๆ คุณมาตรงนี้ จะไม่ให้ฉันตกใจได้ยังไงคะ”
ภวินท์วางเอกสารในมือลงบนโต๊ะ มองดูท่าทางตื่นกลัวของหญิงสาว เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขบขันเล็กน้อย “ขี้กลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?”
ญาธิดาชะงัก หน้าแดงและพูดอย่างเขินอาย “ฉันไม่ได้…ขี้กลัวขนาดนั้น แต่แค่ตกใจง่ายเท่านั้น”
“งั้นคราวหน้าผมจะระวัง” ภวินท์เอ่ยขึ้น “เรื่องงานเป็นอย่างไรบ้าง ทำได้ไหม ให้ผมช่วยอะไรไหม?”
ญาธิดาตกตะลึงครู่หนึ่ง เมื่อเห็นภวินท์ชี้ไปที่เอกสารบนโต๊ะด้วยคางของเขา ถึงค่อยได้สติกลับมา
“ไม่เป็นไรค่ะ” เธอส่ายหัวไปมา “ฉันอยากใช้ความสามารถของตัวเองทำงานให้สำเร็จ ถือว่า……ว่าใช้โอกาสนี้เพื่อพิสูจน์ตัวเองด้วยค่ะ”
เธอรู้ดีว่าเพียงคำพูดของภวินท์อาจจะสามารถแก้ปัญหาที่เธอกำลังเจอตรงหน้าได้ แต่เธอไม่ต้องการทำ เธอต้องการพิสูจน์ความสามารถของตัวเองกับทุกคน
เมื่อเห็นดวงตาที่แน่วแน่ของหญิงสาว หัวใจของภวินท์ก็โล่งใจเล็กน้อย เขายกยิ้มด้วยความพึงพอใจและพูดเบาๆ ว่า “ถ้าอย่างนั้นก็แล้วแต่คุณ”
หลังจากหยุดไปสองสามวินาที เขาเริ่มจริงจังอีกครั้งและพูดเบาๆ ว่า “ผมมาที่นี่เพื่อบอกอะไรคุณ ผมจะพาคุณกลับไปที่บ้านเก่าในวันเสาร์นี้ คุณย่าต้องการพบคุณ”
“คุณย่า?”
ญาธิดาเคยได้ยินเกี่ยวกับคุณย่าของภวินท์จากคุณหญิงปภาวีมาก่อน นอกจากนี้การดูตัวเป็นการเจรจาโดยคุณหญิงปภาวีและคุณย่าของภวินท์ แต่พวกเขาไม่เคยได้พบกัน
ตอนนี้อยู่ๆ ภวินท์พูดขึ้นว่าคุณย่าของเขาต้องการพบเธอ เธอรู้สึกประหม่าเล็กน้อยอย่างอธิบายไม่ได้
“อืม คุณย่าได้ยินเรื่องที่เราจดทะเบียนสมรสแล้ว เลยอยากให้ผมรีบพาคุณไปหา ให้เธอเห็นหน้าหน่อย”
สองมือญาธิดาจับกันแน่น “แต่ฉัน……” ฉันยังไม่พร้อม
ก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอนึกถึงฉากที่ภวินท์ไปฉลองวันเกิด ดร.ยติภัทรกับเธอเมื่อสองสามวันก่อน เธอก็ไม่สามารถพูดในสิ่งที่เธอต้องการปฏิเสธได้
ไม่ว่ายังไง เธอและภวินท์เป็นสามีและภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว คงพูดยากหากเธอจะปฏิเสธที่จะพบผู้ใหญ่
ญาธิดามองขึ้นไปที่ภวินท์ และพูดเบาๆ ว่า “ฉันจะไปกับคุณค่ะ”
ภวินท์พยักหน้าเล็กน้อย “โอเคครับ คุณก็รีบพักผ่อนนะ”
พูดจบเขาก็หันหลังเดินออกจากห้องไป
ขณะที่ประตูปิดลง ความประหม่าของญาธิดาก็ถูกปลดปล่อยออกมาทันที เธอหมุนตัวไปรอบๆ อย่างร้อนใจ
เธอเคยมีความรักมาไม่กี่ครั้ง นับประสาอะไรกับการพบปะผู้ใหญ่ล่ะ และคราวนี้เธอต้องไปพบผู้ใหญ่ของภวินท์ เธอจะไม่ประหม่าได้อย่างไรกัน!
ถ้าไปพบผู้ใหญ่ ก็ต้องนำของขวัญเพื่อแสดงความจริงใจ แต่เธอไม่รู้จะเลือกของขวัญอะไรเลย!
ญาธิดาผู้ไม่มีความคิดดีๆ อะไรเลย เดินเตร่ไปทั่วห้องอย่างกังวล ในท้ายที่สุด เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและโทรหาเพื่อนสนิทของเธอที่อยู่ห่างไกลถึงประเทศอังกฤษ
“ฮัลโหล อันอัน!”
อัญมณีพูดขึ้นจากปลายสายด้วยเสียงค่อนข้างแปลกใจ “ธิดา? ทำไมเธอถึงคิดที่จะโทรหาฉันในเวลานี้!”
“ช่วยฉันก่อน! อย่าเพิ่งถามอะไร เธอบอกฉันก่อน ถ้าต้องไปพบผู้ใหญ่ อย่างเช่นคุณย่า ต้องหาของขวัญแบบไหนที่เหมาะสมกัน?”
“คุณย่า?” อัญมณีอึ้ง “คุณย่าอะไรกัน? เธอจะไปเยี่ยมคนชราผู้โดดเดี่ยวในบ้านพักคนชราเหรอ?”
“ฉันจริงจังนะ คือ……”
เสียงของญาธิดาหยุดลง และเธอก็กลืนคำว่า “สามี” ลงไป
อัญมณีไปเรียนดนตรีที่ต่างประเทศ ไม่ได้เจอกันเกือบครึ่งปี เรื่องที่เธอจดทะเบียนสมรสอย่างกะทันหัน เลยไม่มีเวลาได้บอกเธอ
ถ้าอัญมณีรู้ว่าเธอกลายเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้วก้าวนำหน้าเธอไปหนึ่งก้าว เกรงว่าเธอคงจะบินกลับมาจากประเทศอังกฤษเพื่อสอบปากคำเธอทันที
เรื่องจดทะเบียนสมรส เป็นการดีกว่าที่จะรอจนกว่าเธอจะกลับมาที่ประเทศจีนแล้วค่อยบอกเธอ
ญาธิดาหยุดและพูดอย่างรวดเร็วว่า “เป็นคุณย่าของเพื่อนน่ะ? ฉันจะไปเยี่ยมเธอสุดสัปดาห์นี้”
“ย่าของเพื่อน?” อัญมณีตระหนักถึงความแปลกๆ “เพื่อนคนไหน แฟนเหรอ?”
“เปล่า เป็น…เพื่อนร่วมงานในบริษัท” ญาธิดารู้สึกประหม่าเล็กน้อย “เธอบอกมาเร็วๆ ว่าให้ของขวัญอะไรดี?”
“ฉันขอคิดก่อนนะ……ถ้าเป็นคุณย่า ยิ่งมีประโยชน์ก็ยิ่งดี พวกเครื่องนวด ผ้าไหม อะไรที่ดีต่อร่างกายพวกนั้นน่ะ!”
เมื่อได้ยินคำพูดของอัญมณี ดวงตาของญาธิดาก็เป็นประกายขึ้นมาทันใด และเธอก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “นั้นสิ ทำไมฉันถึงคิดไม่ถึงนะ!”
“ถ้าไม่รู้ว่าจะเอาอะไรจริงๆ ก็ให้อุปกรณ์ครอบแก้วสิ! คนชราจะต้องชอบอย่างแน่นอน!”
ญาธิดาพยักหน้าอีกครั้ง “ดีๆ”
ทั้งสองพูดคุยกันมากมายโดยไม่รู้ตัว ญาธิดาวางสายไปกว่าหนึ่งชั่วโมงแล้ว เธอจดรายการของขวัญที่เธอเพิ่งนึกออก และความตื่นตระหนกที่เธอรู้สึกเมื่อครู่ก็คลายลง
สิ่งสุดท้ายที่ต้องทำในตอนนี้คือเตรียมของขวัญเหล่านี้ให้พร้อมก่อนสุดสัปดาห์ แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้ว!
ญาธิดาดูเครื่องนวดทุกแบบบนอินเทอร์เน็ตจนดึกดื่นถึงจะเข้านอน ใครจะไปรู้ว่าเช้าวันรุ่งขึ้นจะตื่นสาย เธอรีบออกจากบ้านพักมาที่บริษัทอย่างเร่งรีบ และเกือบจะสาย
ประชุมตอนเช้าสิ้นสุดลง ญาธิดากลับมาที่ห้องทำงานและเพิ่งวางแผนที่จะติดต่อบริษัทที่ผลิตของขวัญสองสามรายที่ดูไว้เมื่อวานนี้ แต่ก่อนที่เธอจะมีเวลากดหมายเลข โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“สวัสดีค่ะ? ฝ่ายธุรการค่ะ”
“สวัสดีค่ะ คุณญาธิดาใช่ไหมคะ ฉันเป็นพนักงานฝ่ายต้อนรับ มีคนต้องการพบคุณค่ะ”
“พบฉันเหรอคะ?” ญาธิดาตกใจ “ใครเหรอคะ?”
“คุณธมน โชติอภิจินดา และคุณจิณณ์ เตชะโสภาค่ะ”
ถ้าเป็นคุณธมนหรือคุณจิณณ์ เธอก็ยังคิดไม่ออกว่าเป็นใคร แต่เมื่อพูดถึงนามสกุลพร้อมกันขนาดนี้ล่ะก็ ญาธิดาก็รู้ทันทีว่าใครต้องการพบเธอ
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ญาธิดาก็พูดอย่างเคร่งขรึม “ให้พวกเขารอสักครู่ ฉันจะลงไป”
ครั้งก่อนที่ Amaya Hotel ก็ครั้งหนึ่งแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะการปรากฏตัวของภวินท์ได้ทันเวลาในตอนนั้น เกรงว่าเธอคงถูกสบประมาท หลังจากนั้นเธอก็ได้รู้ความจริงจากพายุ เป็นธมนที่ยุยงน้ำเพชรลูกพี่ลูกน้องของเธอ และยังสมรู้ร่วมคิดกับประธานจิมมี่เพื่อทำเรื่องนี้
คิดไม่ถึงว่าวันนี้ธมนและจิณณ์จะกล้ามาหาเธอ!
ญาธิดาถอนหายใจด้วยความโล่งอก วางโทรศัพท์โดยไม่ลังเล และเดินตรงออกจากห้องทำงานไปที่ชั้น 1 จากระยะไกล เธอเห็นธมนและจิณณ์นั่งอยู่ในบริเวณโซฟาด้านหน้า
ทันทีที่ธมนเห็นญาธิดา เธอดึงจิณณ์ขึ้นมาทันที เดินไปมาหาเธอ
ก่อนที่จะเข้ามาใกล้ เธอยิ้มให้ญาธิดาและพูดว่า “ธิดา ในที่สุดเธอก็มา เรารอเธอตั้งนานแล้ว!”
เมื่อเห็นว่าธมนที่ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ญาธิดาก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อมองดูรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของหญิงสาว เธอก็ขมวดคิ้วอย่างไม่สบายใจ “พวกคุณมาหาฉัน มีธุระอะไรเหรอ?”