ดวงใจภวินท์ - บทที่ 330 เริ่มง้อก่อน
บทที่ 330 เริ่มง้อก่อน
คิรินมองเธอพลางหัวเราะเยาะ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็กลั้นยิ้ม เลิกคิ้วมองเธอ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “วันหลังผมจะนัดเวลาและพาพี่เอไปด้วย เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแบรนด์ redeur”
ได้ยินคิรินพูดแบบนี้ ญาธิดาซึ่งเดิมทีกำลังไม่สบายใจก็ได้ผ่อนคลายเวลานี้เอง
ในเมื่อคิรินยอมผ่อนให้ หมายความว่าสิ่งที่เธอทำนั้นคุ้มค่า
แม้หลังจากที่เธอออกจากสโมสรแข่งรถแล้ว ขาของเธอก็ยังอ่อนแรงอยู่เล็กน้อยก็ตาม
จากสโมสรกลับถึงบริษัทเป็นช่วงพักเที่ยง ญาธิดาแทบไม่ทานอะไรเลย พักอยู่ที่โต๊ะนานกว่าหนึ่งชั่วโมง ถึงค่อยรู้สึกว่าจิตใจค่อยๆ ฟื้นตัว
ตอนเช้าแข่งรถไปรอบเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้เธอพะอืดพะอมตลอดทั้งวัน
ชมพู่ที่ทานอาหารเสร็จกลับมาอดไม่ได้ที่จะถามว่า “ธิดา เธอไม่กินอะไรเลยจริงๆ เหรอ ฉันมีแซนด์วิชอยู่นะ หรือว่าเธอจะ…”
ญาธิดาส่ายหน้าอย่างอ่อนแรงและพูดเบาๆ “ไม่ต้องหรอก ฉันไม่อยากทานจริงๆ”
ชมพู่เกลี้ยกล่อมอยู่หลายครั้ง แต่เมื่อเห็นว่าอย่างไรเธอก็ไม่ยอมทาน จึงจำต้องยอมแพ้
ในเวลาเดียวกัน ฝั่งลิฟต์ผู้บริหาร ร่างบอบบางร่างหนึ่งเดินออกมา ในมือถือกระติกเก็บความร้อนขนาดใหญ่อยู่ด้วย
นิวราเดินไปที่ห้องทำงานของภวินท์ ความทรงจำที่น่าอับอายเมื่อคืนหวนกลับมาหลอกหลอนเธอดั่งน้ำท่วมท้น
เธอกำที่จับของกระติกเก็บความร้อนไว้ในมือ รู้สึกไม่เต็มใจระคนโกรธเคือง เมื่อไปถึงห้องทำงานประธาน อารมณ์เหล่านี้ก็หายไปในทันใด
นิวรารีบเดินไปที่ประตูห้องทำงานประธาน ยกยิ้มและยกมือขึ้นเคาะประตู เดิมทีเธอคิดว่าจะรอให้ภวินท์มาง้อเธอ แต่เธอคิดไม่ถึงว่าหลังจากนั้นเขาจะเงียบหายไปเลย
แบบนี้ไม่ได้ กลัวว่าระหว่างทั้งสองจะเกิดความแตกแยก เธอจึงขอให้ป้าแม่บ้านทำซุปปลาทันที และเริ่มง้อเขาก่อน
เวลานี้ต่อให้ตัวเองต้องเสียศักดิ์ศรี แต่จะเปิดโอกาสให้ผู้หญิงคนอื่นไม่ได้!
ทันทีที่คิดแบบนี้ นิวรารู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย จึงยกมือขึ้นแล้วปิดประตูอีกครั้ง
เมื่อได้ยินเสียงตอบจากชายหนุ่มด้านใน นิวราถึงได้โล่งอก ผลักประตูเดินเข้าไป
ทันทีที่เดินเข้าไป เธอยิ้มกว้างให้ภวินท์ “พี่วิน ยุ่งอยู่หรือเปล่า นิวให้เชฟต้มซุปปลามาให้พี่เป็นพิเศษเลยนะ”
ภวินท์กำลังเซ็นเอกสาร ได้ยินเสียงจึงมองตามเสียงไป เมื่อเห็นเธอ สายตาเขาพลันขุ่นมัวลงพอสมควร
เขายังคิดว่าเธอจะโกรธสักสองสามวันถึงจะหาย แต่คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะเข้าหาเขาก่อน
นิวราเดินตรงไปที่โซฟา วางกล่องอาหารกลางวันในมือลง มองภวินท์แล้วพูดอย่างโกรธๆ “พี่วิน ยังไม่มากินอีก นิวอุตส่าห์เอามาให้พี่ทันทีเพราะกลัวว่าซุปจะเย็นเลย”
ภวินท์ได้ยินดังนั้นพลันเลิกคิ้ว ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยืนขึ้นแล้วเดินไปหาเธอ
ตอนนี้นิวราเริ่มง้อก่อนแล้ว เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะดึงดันต่อไป
นิวราแบ่งซุปปลาในกระติกเก็บความร้อนออกเป็นสองส่วน ดันส่วนหนึ่งไปตรงหน้าภวินท์และพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ลองชิมเร็ว”
ภวินท์หยิบซุปปลาขึ้นมาจิบ แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย
เขาชอบซุปปลา และยิ่งชอบดื่มเวลาอารมณ์ไม่ดี
“เป็นยังไงบ้าง อร่อยไหมคะ”
นิวราถามด้วยดวงตาเป็นประกาย
ภวินท์พยักหน้า “ไม่เลว”
อย่างน้อยมันก็ดีกว่าซุปปลาที่ญาธิดาทำให้เขาก่อนหน้านี้มากนัก
นึกถึงผู้หญิงคนนั้นโดยไม่รู้ตัว ผ่านไปสองวินาทีภวินท์ถึงได้สติกลับมา อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
ในตอนนี้ นิวราที่อยู่ข้างๆ ไม่ได้สังเกตเลย เธอมองเขาและถามพลางกะพริบตา “พี่วิน ถ้าพี่ชอบ นิวจะมาส่งให้พี่ทุกวันนะ”
“ไม่ต้องลำบากขนาดนั้น” ภวินท์สีหน้าอ่อนลงเล็กน้อย หันไปมองที่เธอและพูดเสียงเบา “แบบนี้เธอจะเหนื่อยเกินไป”
นิวราหน้าแดงและก้มหน้าอย่างเขินอาย หลังจากนั้นสักพัก จู่ๆ เธอก็ยื่นมือมาคล้องแขนภวินท์ พูดอย่างงอนๆ กึ่งขอโทษ “พี่วิน…เรื่องเมื่อวานนี้ นิวไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”
ภวินท์นิ่งไปครู่กนึ่งก่อนจะพูดเสียงเบา “ไม่เป็นไร”
เธอไล่ถามต่อ “พี่ไม่โกรธเหรอ”
ภวินท์ส่ายหน้าและกระตุกยิ้มมุมปาก “เธอกับพี่มีเรื่องอะไรที่ต้องโกรธ”
เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด นิวราถึงโล่งใจในที่สุด โอบกอดแขนเขาพร้อมกับยิ้มหวาน
ทันทีที่เธอก้มหน้า ก็เห็นซุปปลาอีกชามบนโต๊ะ ทันใดนั้นก็นึกอะไรขึ้นมาได้ จึงรีบพูดว่า “ใช่สิพี่วิน ซุปอีกชามที่เหลือนิวเอามาให้ธิดา พี่เรียกให้เธอมาดื่มนะ”
นิวราพูดพลางสังเกตการแสดงออกของภวินท์
ชายหนุ่มมีสีหน้าเย็นยะเยือกฉับพลันก่อนจะหายวับไป เขานิ่งก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ถ้านิวอยากให้เธอดื่ม พี่จะโทรเรียกเธอเข้ามา”
นิวราเขย่าแขนเขาพร้อมกับพูดว่า “เพื่อนกันทั้งนั้น! พี่โทรไปเรียกเธอมาเถอะ ไม่อย่างนั้นซุปชามนี้จะเสียของ”
ภวินท์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเรียกพายุ บอกเขาให้โทรเรียกธิดาขึ้นมา
ในออฟฟิศของผู้ช่วยบริหารแผนกธุรการ ท่าทีของญาธิดาเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อได้รับแจ้งจากพายุ หัวใจตึงกระชับขึ้น เธอสูดหายใจเข้าลึกแล้วลุกขึ้นยืน
เมื่อถึงห้องทำงานประธาน เพิ่งเดินไปหน้าประตู เธอก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของผู้หญิงคนหนึ่งจากห้องทำงาน ยกมือขึ้นเคาะประตู ผลักเปิดมันแล้วเข้าไปข้างใน อย่างที่คาดเมื่อเห็นนิวรากับภวินท์นั่งอยู่บนโซฟา
เวลานี้เธอพลันรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ
ทั้งสองคนรักกันมากก็ดี ผูกพันหวานซึ้งก็ช่าง แล้วจะเรียกเธอมาทำไม
เธอฝืนเดินเข้าไปและถามเสียงเบา “คุณภวินท์ มีอะไรจะสั่งเหรอคะ”
ภวินท์ยังไม่ทันพูด นิวราก็ยิ้มพลังกวักมือให้เธอ “ธิดามาเร็ว ฉันเอาซุปปลามาให้เธอ มาลองชิมเร็วสิ!”
ญาธิดาได้ยินคำพูดนั้นแล้วถึงได้เห็นซุปปลาบนโต๊ะน้ำชา
เธอยกมุมปากยิ้มสุภาพให้นิวราแล้วปฏิเสธ “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันทานข้าวมาแล้ว”
นิวรายิ้มและพูดต่อ “ลองชิมดูหน่อย ฉันตั้งใจเอามาเผื่อ”
ญาธิดาไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร จึงเลื่อนสายตาไปมองภวินท์
ชายหนุ่มเย็นชาเช่นเคย ชำเลืองมองเธอและพูดด้วยเสียงต่ำว่า “มีคนตั้งใจเอามาให้คุณ อย่างน้อยก็ควรลองหน่อยตามมารยาท”
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึก กัดฟันฝืนยิ้มให้นิวรา “โอเคค่ะ ฉันจะลองชิม”
เธอหยิบชามซุปขึ้นมา เพิ่งเอามันมาจ่อริมฝีปาก ได้กลิ่นคาวแล้วพลันรู้สึกมวนท้อง เธอกัดฟันฝืนดื่มซุปปลา แต่พอเข้าปาก ลำคอก็เกร็งรู้สึกคลื่นไส้
วินาทีถัดมา เธอยกไหล่กำลังจะอาเจียน
นิวรากับภวินท์ซึ่งนั่งอยู่บนโซฟาต่างอึ้งเมื่อเห็นปฏิกิริยาของเธอ
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึก พยายามระงับความรู้สึกพะอืดพะอม แล้วยิ้มขอโทษพวกเขา “ขอโทษนะ วันนี้ฉันไม่ค่อยสบาย”
ภวินท์แววตาสั่นไหว ริมฝีปากเหยียดเป็นเส้นตรง เหมือนอยากพูดอะไรแต่ไม่พูด
ส่วนนิวราที่อยู่ข้างๆ สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย แววตาเกิดประกายเย็นชาวาบขึ้นมา
ภวินท์น้ำเสียงเคร่งขรึม “ในเมื่อไม่สบาย งั้นก็ไม่ต้องดื่ม ออกไปเถอะ”
เมื่อได้ยินดังนั้นญาธิดาก็โล่งใจ โค้งคำนับเขาแล้วหันหลังเดินออกจากห้องทำงานไป
นิวราหน้าบึ้ง จ้องไปที่แผ่นหลังของญาธิดา สายตายิ่งเย็นชาลงเรื่อยๆ
ซุปปลานี้เธอก็ชิมแล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่ได้คาวขนาดนั้น หรือว่าญาธิดากำลังซ่อนความลับบางอย่าง…