ดวงใจภวินท์ - บทที่ 341 อยากจะลาออก
บทที่ 341 อยากจะลาออก
ในตอนนี้เอง ด้านนอกประตูมีเสียงดังจอแจ ทันใดนั้น ประตูห้องพักคนไข้ถูกผลักเปิดออก ญาธิดากับนิวราหันไปมองตามเสียงพร้อมกันโดยบังเอิญ
ภวินท์ยืนอยู่หน้าประตู สีหน้าจริงจัง ทันทีที่เห็นญาธิดา สีหน้าดูเย็นชากว่าเดิม
เขาก้าวยาวๆเข้ามา ก้มมองลงดูญาธิดา ถามด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “ คุณทำอะไรที่นี่”
ญาธิดาสูดหายใจลึกๆ ไม่ทันอ้าปากได้อธิบาย นิวราที่อยู่ข้างๆพูดว่า “ธิดามาเยี่ยมนิว ทำไมพี่วินจู่ ๆถึงมาที่นี่”
“พี่มาเยี่ยมนิว”
ขณะที่ภวินท์พูด เดินไปตรงหัวเตียง ขยับหมอนที่อยู่ด้านหลังของนิวราแต่งให้เข้าที่ดูเป็นธรรมชาติ เพื่อให้หล่อนได้พิงสบายมากขึ้น “ วันนี้นิวรู้สึกดีขึ้นหน่อยไหม”
สำหรับนิวรา น้ำเสียงและท่าทางของเขาดูอบอุ่นมากอย่างเห็นได้ชัด
ญาธิดานั่งอยู่ด้านข้าง ช่วงเวลานั้นรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน ไม่รู้จะวางตัวยังไง
ดูออกว่า ภวินท์รักนิวรามากจริงๆ
เธอยิ้มแหยๆที่มุมปาก ลุกขึ้นยืน มองไปที่นิวราพูดว่า “ คุณนิว ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้ว ฉันกลับก่อนนะ ไม่รบกวนคุณแล้วนะคะ”
เมื่อนิวราได้ยิน พยักหน้าพร้อมกับหัวเราะ “ ได้วันอื่นอย่าลืมมาเยี่ยมฉันอีกนะ”
ญาธิดาพยายามที่จะยิ้ม หันตัวเดินตรงไปที่ประตู
เมื่อออกจากห้องพักคนไข้ เธอลงลิฟต์มาที่ชั้นล่างของโรงพยาบาล เดินตรงไปข้างหน้าอย่างใจลอยเล็กน้อย แสดงความเจ็บปวดที่เศร้าโศกออกมา
เธอควรจะดูออกตั้งแต่แรกถึงจะถูก ควรอยู่ในตำแหน่งของตัวเองตั้งแต่แรก ตำแหน่งของเธอกับนิวราที่อยู่ในใจของภวินท์ ไม่มีทางที่จะเปรียบเทียบกันได้เลย
เธอเดินผ่านสวนหย่อมของแผนกแอดมิท กำลังจะเดินตรงไปที่ประตูทางเข้าโรงพยาบาล มือถือของเธอจู่ ๆก็ดังขึ้นมา
เธอสูดหายใจลึกๆ หยิบออกมาดู เห็นชื่อของ“ ภวินท์” กะพริบอยู่บนหน้าจอ ทันใดนั้นก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมา
ลังเลอยู่เล็กน้อย สามวินาทีต่อมา เธอกัดริมฝีปากล่างและตัดใจกดปุ่มปฏิเสธ
แต่ไม่คิดว่า ตัดสายไปไม่นาน มือถือก็สั่นขึ้นมาอีก ยังเป็นภวินท์ที่โทรเข้ามา
ญาธิดารู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ กัดฟันอยู่ชั่วครู่ กดปุ่มรับสาย“ ฮัลโหล นายจะทำอะไรกันแน่”
ปลายสายเงียบไปทันที ไม่นานก็มีเสียงผู้ชายที่ดูน่ากลัวจนตัวสั่นดังเข้ามา“ ฉันทำอะไร เรื่องพวกนั้นระหว่างคุณกับคิริน ความจริงมันเกิดอะไรขึ้น”
คิรินเหรอ
ญาธิดาตกใจเล็กน้อย อารมณ์โกรธก็หายไปในทันที “ฉันกับคิรินทำไมละ ”
น้ำเสียงของผู้ชายที่ซ่อนอารมณ์โกรธไว้เล็กน้อย“เป็นยังไงละคุณเองไม่รู้งั้นเหรอ ปาปารัสซี่เอารูปมาแบล็คเมล์ฉัน คุณยังไม่รู้อีกเหรอ”
ญาธิดารู้สึกประหลาดใจ สับสนงุนงง ไม่ทันรอให้เธอเอ่ยปากพูดอะไร เสียงปลายสายก็ดังขึ้นมาอีกว่า “ คุณอยู่ที่ไหน ผมจะไปหาคุณ พวกเราต้องคุยกันต่อหน้า ”
ญาธิดาลังเลอยู่ชั่วครู่มองดูรอบๆพูดเบาๆว่า “ ฉันอยู่ที่สวนหย่อมด้านหลังของแผนกแอดมิท ตรงนั้นมีรูปปั้นหนึ่งอัน”
เธอเพิ่งจะพูดจบ ไม่กี่วินาที โทรศัพท์ฝั่งนั้นก็ตัดสายไปเลย
ไม่ถึงห้านาที ภวินท์ก็ได้เดินมาถึงสวนหย่อม เห็นผู้หญิงกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ยาวที่ถนนเล็กๆที่อยู่ข้างรูปปั้น เขาก้าวขาเดินเข้าไป เมื่อนึกถึงรูปถ่ายเหล่านั้น ก็อารมณ์ฉุนเฉียวอย่างบอกไม่ถูก
ญาธิดาเงยหน้ามอง เห็นภวินท์เดินเข้ามา ลุกขึ้นยืนทันที ไม่ทันได้เอ่ยปากถาม ก็เห็นภวินท์ยื่นมือมา ยื่นซองจดหมายให้หนึ่งซอง
เธอลังเลครู่หนึ่ง ยื่นมือไปรับ
เปิดซองจดหมาย ด้านในเป็นรูปถ่ายที่ซ้อนกันหนาอยู่ปึกหนึ่ง เป็นการแอบถ่ายเธอกับคิรินทั้งหมด มีภาพที่คิรินจับมือของเธอที่หน้าประตูสตูดิโอ ก็มีภาพที่เธอขึ้นรถสปอร์ตของคิรินที่สโมสรรถแข่ง ยังมีภาพที่เลิกกองตอนดึกเขาส่งเธอกลับบ้าน…………..
ถ้าเธอไม่ใช่บุคคลที่เกี่ยวข้อง เพียงแค่ดูภาพถ่ายเหล่านี้กลัวแต่ว่าจะเป็นการเข้าใจผิด
มือที่จับรูปถ่ายของญาธิดาค่อยๆกำแน่นสีหน้าซีดเผือด เงยหน้ามองภวินท์ พูดว่า “ รูปถ่ายเหล่านี้มาจากไหน”
เมื่อเห็นสีหน้าของเธอเป็นแบบนี้ สายตาของภวินท์แสดงอารมณ์เสียดสี พูดเย็นๆว่า “ ซื้อมาจากมือของปาปารัสซี่”
ญาธิดากัดฟัน จู่ ๆ เพิ่งจะนึกออก ครั้งก่อนตอนที่เธอกับคิรินอยู่ที่หน้าประตูสตูดิโอ จริงๆก็เห็นปาปารัสซี่ที่แอบถ่าย ดูเหมือนว่าพวกเขาเฝ้ารออยู่พักใหญ่ จ้องที่คิริน ก็เพื่อที่จะขุดเอาข้อมูลของคิริน
แต่ระหว่างเธอกับคิริน โปร่งใสทุกอย่าง ไม่ได้มีความสัมพันธ์ลับๆล่อๆ
ญาธิดาสูดหายใจลึกๆ เงยหน้ามองภวินท์ อธิบายว่า“ ฉันกับเขาไม่ได้มีอะไรจริงๆ ตอนนั้นก็เพื่อจะโน้มน้าวเขาเป็นพรีเซนเตอร์redeur ดังนั้นทุกครั้งที่เขาโทรเรียก ฉันก็ไปทุกครั้ง”
ภวินท์ขมวดคิ้ว ถามกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ ที่พูดแบบนี้ คิรินเป็นฝ่ายเข้าหาโดยตลอดงั้นเหรอ”
ญาธิดาส่ายหน้า ยืนกรานปฏิเสธ “ไม่ใช่ ฉันกับเขาบริสุทธิ์ใจกันจริงๆ ”
เมื่อเห็นผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าไม่ยอมรับสักที อารมณ์โกรธของภวินท์ยิ่งเพิ่มมากขึ้น เขาเดินไปด้านหน้า ประชิดใกล้หล่อน
ญาธิดารู้ว่าต้องถอยไปข้างหลัง ไม่ทันรู้ตัวก็ถอยไปชนกับรูปปั้นที่อยู่ข้างๆ โดนเขาดักเอาไว้ไม่มีที่จะไป
ภวินท์ตาดำเป็นประกายระเรื่อๆ เหมือนสาดหมึกเข้มๆ ไว้ แสดงความเยอะเย้ย “ ญาธิดา ทำไมฉันไม่รู้ว่าเธอมีเสน่ห์แบบนี้ คณินทวงความยุติธรรมให้เธอ ธีทัตหลงเธอหัวปักหัวปำ แม้แต่ตอนนี้หนุ่มคนดังมีเสน่ห์ต่างก็สนใจเธอ……”
เขานิ่งไปพักใหญ่ พูดแบบไม่พอใจ “ ญาธิดา เธอนี่สุดยอดจริงๆ ”
เมื่อนึกถึงผู้ชายเหล่านั้นที่อยู่ใกล้เธอ เขาก็รู้สึกไม่สบายใจ อยากจะเอาสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้าซ่อนให้ลึกที่สุด
เมื่อได้ฟังคำพูดของชายหนุ่ม ญาธิดาสูดหายใจลึกๆ รู้สึกถึงความอัปยศอย่างบอกไม่ถูก นิ่งไปชั่วขณะ เธอกัดฟัน สบตาชายหนุ่ม “ ภวินท์ ตอนแรกคือคุณให้ฉันไปเจรจาพรีเซนเตอร์ของ redeur เป็นยังไงละ ตอนนี้คุณเสียดายแล้วใช่ไหม”
“ เสียดายเหรอ ” ตาดำของภวินท์เป็นประกาย“ ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเสียดายคืออะไร ”
ญาธิดารวบรวมความกล้า ยื่นมือผลักผู้ชายออก ถอยหลังหนึ่งก้าว เว้นระยะห่างของคนสองคน สายตาจดจ้องไปที่เขา “ ไม่ว่าฉันใช้วิธีอะไร ขอเพียงแต่ฉันสามารถเจรจาเรื่องพรีเซนเตอร์ก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอ”
ภวินท์อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ โกรธเหมือนไฟสุมอก เม้มปากแน่นติดกัน แต่กลับพูดอะไรไม่ออกอีก
ตอนนี้ ที่จริงเขาไม่มีสถานะที่เหมาะสมพอที่จะไปควบคุมชีวิตส่วนตัวของเธอ
ญาธิดาหายใจลึกๆ สุดท้ายก็รวบรวมความกล้าพูดว่า “ ฉันจะรีบเจรจาพรีเซนเตอร์ของredeurให้เร็วที่สุด แต่คุณต้องรับปากความต้องการฉันหนึ่งข้อ”
นิ่งไปชั่วครู่ ภวินท์เอ่ยถามว่า “ ความต้องการอะไร”
ญาธิดาบิดชายเสื้อแน่นโดยไม่รู้ตัว พูดชัดถ้อยชัดคำว่า“ ฉันอยากจะลาออก”
ญาธิดารวบรวมความกล้า ยื่นมือผลักผู้ชายออก ถอยหลังหนึ่งก้าว เว้นระยะห่างของคนสองคน สายตาจดจ้องไปที่เขา “ ไม่ว่าฉันใช้วิธีอะไร ขอเพียงแต่ฉันสามารถเจรจาเรื่องพรีเซนเตอร์ก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอ”
เมื่อพูดออกไป บรรยากาศรอบๆดูเคร่งขรึมจริงๆ ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น ภวินท์พูดเสียงต่ำว่า “ คุณจริงจังเหรอ”
ญาธิดาไม่ลังเลแม้แต่น้อย พยักหน้าพูดว่า“ อืม ฉันพูดจริง”
“ ได้” สายตาของภวินท์มีแสงมืดมนผ่านไปอย่างเร็ว“ ฉันให้เวลาคุณแค่สามวัน”
เมื่อพูดจบ เขามองเธอแบบลึกซึ้งอยู่ครู่หนึ่ง ก้าวขาเดินตรงออกไป
เนื่องจากเธอไม่อยากทำงานที่STN Group ที่เขาก็ให้โอกาสเธอครั้งนี้ สามวันหลังจากนี้ เขาไม่อยากเห็นข่าวใด ๆที่เกี่ยวกับเธอและคิรินอีกแล้ว
ญาธิดายืนตรงที่เดิม มองดูเงาของชายหนุ่มที่เดินจากไป ยิ้มเจื่อนๆที่มุมปาก แสดงถึงความรู้สึกเย็นชาออกมา
แต่เดิมเธอก็คิดว่า ภวินท์จะต้องถามเหตุผลที่เธออยากจะลาออก ไม่คิดว่า เขาตอบรับอย่างตรงไปตรงมาขนาดนี้
ดูเหมือนว่า ในใจของเขา เธอไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้นจริงๆ
แบบนี้ก็ดี เพียงแค่เธอสามารถทำพรีเซนเตอร์ของคิรินให้เสร็จ งั้นเธอก็ได้ออกจากที่นี่โดยหมดอาลัย