ดวงใจภวินท์ - บทที่ 355 เอาเธอไปซ่อนไว้ที่ไหน
ประกายสีเข้มแว๊บตาดวงตาของพายุ หลังจากนั้นครึ่งวินาที เขาก็เงยหน้ามองภวินท์ พลางพูดทีละคำๆ “คุณภวินท์ ไม่มีอะไรครับ มีแค่เรื่องนึง ผมไม่ได้บอกคุณ”
ภวินท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย “เรื่องอะไร? ”
“ก่อนหน้านี้คุณญาธิดาเคยมาหาผมครั้งนึง มาขอรูปของเธอกับคิรินที่ผมซื้อมาจากปาปารัสซี่เมื่อคราวที่แล้ว ตอนนั้นเห็นเธอบอกว่าเพื่อที่จะให้คิรินเซ็นสัญญาเท่านั้น ผมเลยไม่ได้คิดมากเลยให้เธอไป และก็ไม่ได้บอกคุณ”
ได้ยินดังนั้น ภวินท์ก็ชะงักอยู่ครู่ ลดสายตาลงมองต่ำไปทางหนังสือสัญญาที่วางอยู่บนโต๊ะ ความรู้สึกในดวงตานั้นดูซับซ้อนไม่ชัดเจน
เห็นที สัญญาฉบับนี้ เป็นเธอใช้วิธีบางอย่างทำให้คิรินเซ็นมัน ตอนนั้นเขาให้เวลาเธอแค่สามวัน ให้ได้เซ็นสัญญาเช่นวันนี้ วันสุดท้ายญาธิดาก็เร่งให้คิรินเซ็นสัญญาได้พอดี
ตอนนั้นเขาสัญญากับเธอ ขอแค่ภายในสามวันเธอสามารถให้ตัวแทนเซ็นสัญญาได้ เขาก็จะยินดีให้เธอไปจาก STN Group
คิดไม่ถึง ว่าเธอจะทำได้จริงๆ เอาสัญญาที่เซ็นแล้วกับหนังสือลาออกส่งมาพร้อมกัน แถมยังรวดเร็วราวกับลมกรรโชก หายไปจากชีวิตของเขาอย่างสิ้นเชิง
ที่แท้ ตั้งแต่ตอนนั้น เธอก็แอบวางแผนที่จะไปจากเขาอยู่ก่อนแล้ว!
หัวใจของภวินท์เจ็บแปล๊บอย่างไม่รู้ตัว หลังจากนั้น เขาก็สูดหายใจเข้าลึก เงยหน้ามองพายุ และเอ่ยปากถาม “ตรวจสอบอะไรเจอบ้างมั้ย? ”
พายุส่ายหน้า และตอบตามจริง “อะไรก็ตรวจสอบไม่เจอเลยครับ”
ภวินท์ได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เย็นชาลงเล็กน้อย
จากความสามารถของญาธิดา ถึงแม้เธอจะหลบซ่อนตัว ยังไงก็ต้องมีทิ้งร่องรอยไว้บ้าง แต่ตอนนี้สิ่งที่เกี่ยวกับเธอทั้งลบถูกลบออกจนเกลี้ยง จะต้องมีคนช่วยเธอแน่นอน!
อยู่ๆ เขาก็กระตุกคิ้ว ในหัวก็มีภาพหน้าผู้ชายหนึ่งคนแล่นเข้ามา
คนที่พอจะมีความสามารถที่จะสู้กับเขาได้ ก็คงมีแต่ธีทัตล่ะมั้ง?
วินาทีต่อมา เขาก็หยิบเสื้อสูทที่แขวนไว้ที่เก้าอี้ขึ้นมา และสั่งพายุด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เตรียมรถ ไปบริษัทเทคโนโลยีคลาวด์กับฉัน”
พายุได้ยินดังนั้น ก็ลังเลอยู่ครู่ แต่ก็ไม่กล้าถามมาก และขานรับทันที จากนั้นก็เดินออกไปข้างนอกห้องประธาน
ระหว่างทาง สีหน้าของภวินท์มืดมน ร่างกายปะทุออร่าน่ากลัวที่คนเลี่ยงจะเข้าใกล้ ทำให้คนอื่นรู้สึกหนาวๆ
รถจอดลงที่บริษัทเทคโนโลยีคลาวด์ ประตูรถเปิดออก ขายาวของภวินท์ก้าวลงจากรถ และเดินเข้าประตูบริษัทไป
พายุเห็นท่าทางของภวินท์ จึงรีบตามไป และเอ่ยปากถามอย่างลังเล “คุณภวินท์ พวกเราไม่ได้นัดล่วงหน้า จะโทรหาผู้ช่วยของคุณธีทัตก่อนมั้ยครับ? ”
“ไม่ต้อง”
ระหว่างเขากับธีทัต มันเกินกว่าที่จะต้องไปมามีมารยาทต่อกันแล้ว
ขึ้นลิฟต์ไปชั้นบน พวกเขายังไม่ทันได้เดินถึงออฟฟิศของผู้จัดการ ก็โดนผู้ช่วยของธีทัตขวางเอาไว้ “คุณภวินท์ ขอโทษด้วยครับ คุณธีทัตกำลังคุยกับลูกค้าท่านอื่น พวกคุณกรุณารอสักครู่นะครับ”
ภวินท์ทำสีหน้าเข้ม และมองไปทางเขาด้วยสีหน้าเย็นชา นัยน์ตามืดมนลงหลายระดับ “คุณธีทัตของพวกนายก็รู้แล้วว่าฉันมา ทำไมถึงต้องหลบฉันด้วย? ”
หนึ่งเขาไม่ได้นัดล่วงหน้า สองเขาไม่ได้แจ้งที่เคาน์เตอร์ธุรการ แต่ผู้ช่วยของธีทัตกลับสามารถจำเขาได้อย่างแม่นยำ เห็นทีเขาคงรู้อยู่ก่อนแล้วว่าตนจะมา
ผู้ช่วยของธีทัตกลัวเล็กน้อย ก็พูดตอบไม่ได้เลย แต่เขาก็ไม่กล้าฝ่าฝืนความต้องการของผู้จัดการ จึงทำได้แค่ขวางหน้าพวกเขาไว้ และผู้อย่างอึดอัด “ขออภัยด้วยครับ กรุณารอสักครู่”
ความอดทนของภวินท์ได้มาถึงขีดจำกัดแล้ว สายตาเย็นชามองไปทางห้องทำงาน ขณะที่จะเอ่ยปาก อยู่ๆประตูก็ถูกเปิดจากด้านใน
ธีทัตยืนอยู่หน้าประตู ดวงตามองมาทางพวกเขา ยิ้มเหมือนไม่ได้ยิ้มพลางพูด “คุณภวินท์มาแล้วเหรอ ไม่ได้ต้อนรับ ต้องขอโทษด้วย”
ภวินท์เหลือบมองเขา ไม่ลีลา พูดไปตรงๆอย่างไม่อ้อมค้อม “ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย”
พูดจบ เขาก็หันตัว เดินไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว
ธีทัตลังเลอยู่ครู่ และก้าวเท้าเดินตามไป
คนนึงเดินนำหน้าคนนึงเดินตามหลังไปยังระเบียงข้างๆห้องทำงาน ธีทัตกำลังจะเอ่ยปากพูด แต่ใครจะรู้ว่าอยู่ๆภวินท์ก็หันกลับมา และยื่นมือออกมา กระชากคอเสื้อของเขาไว้
“นายเอาญาธิดาไปซ่อนไว้ที่ไหน? ”
ดวงตาของภวินท์ตอนนี้นั้นเย็นชาสุดๆ ดวงตาของเขาจ้องไปที่ธีทัตราวกับเหยี่ยว มือที่ทิ้งลงด้านข้างค่อยๆกำหมัดแน่น ราวกับพร้อมที่จะชกหน้าเขาได้ตลอดเวลา
ดวงตาของธีทัตนิ่งอยู่ครู่ ชะงักอยู่สองวินาที และก็ฉีกยิ้มราวกับไม่ได้ยิ้มพลางพูด “คุณภวินท์ ผมไม่รู้ว่าคุณพูดถึงอะไร? ”
ญาธิดาเป็นคนที่มีชีวิต การที่หายไปจากเมือง J ยังไม่ก็ต้องทิ้งร่องรอยเอาไว้บ้าง แต่เขาส่งคนไปตรวจสอบ แต่ร่องรอยของเธอถูกอย่างกลับถูกเช็ดล้างอย่างสะอาดหมดจด ไม่มีเงื่อนงำสักนิดเดียว
พูดได้แค่ว่า ร่องรอยที่เธอทิ้งไว้ ต่างถูกลบล้างไปหมดแล้ว ส่วนในเมือง J นั้น ธีทัตนั้นมีความสามารถนี้อยู่
“ญาธิดาหายไปงั้นเหรอ? ”
ธีทัตขมวดคิ้ว ความอ่อนโยนบนใบหน้าค่อยๆจางหายไป และพูดอย่างเคร่งเครียด “นายทำอะไรเธองั้นเหรอ? ”
ความโกรธแล่นผ่านดวงตาของธีทัต เขากดเสียงทั้งต่ำทั้งเข้ม “ธีทัต อยู่ต่อหน้าฉันนายยังจะแสดงอีกเหรอ!”
ธีทัตทำหน้าเย็นชา และไม่มีความอดทนเหมือนตอนแรก เขายื่นมือออกไป คว้าข้อมือของภวินท์ และพูดอย่างเย็นชา “ทำไมฉันต้องแสดงต่อหน้านายด้วย? ภวินท์ นายไม่พอใจฉัน นายก็มาเอาเรื่องฉันก็พอ!”
ผู้ชายทั้งสองทะเลาะกัน ไม่มีใครยอมถอยเลยสักก้าว ผู้ช่วยที่ยืนมองดูด้านนอกทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว จึงรีบเดินเข้ามา เอ่ยปากเกลี้ยกล่อม “คุณภวินท์ คุณใจเย็นลงก่อนนะครับ อย่าเพิ่งลงไม้ลงมือเลยครับ”
พายุเห็นว่า สถานการณ์ไม่ค่อยสู้ดี ก็เดินเข้ามาทางนี้อย่างรวดเร็ว เดินไปยังด้านข้างของภวินท์ กดเสียงต่ำพูด “ประธานอย่าวู่วามครับ”
ถ้าหากพวกเขาทั้งสองคนลงไม้ลงมือกันที่นี่จริงๆ แบบนั้นเรื่องนี้คงได้เป็นพาดหัวข่าวของข่าวเมือง J ในวันพรุ่งนี้เช้าแน่ๆ สำหรับพวกเขาทั้งสองคนแล้ว ต่างมีผลกระทบที่ไม่ดี
นัยน์ตาของภวินท์สั่นคลอนเล็กน้อย ลังเลอยู่ครู่ สุดท้ายก็ปล่อยจากคอเสื้อของธีทัต และถอยหลังหนึ่งก้าว
ธีทัตก็ปล่อยมือตาม สีหน้าเปลี่ยนเป็นจากอ่อนโยนเหมือนที่ผ่านมา เป็นเย็นชาจนน่ากลัว
ดวงตากับคิ้วของภวินท์ราวกับปกคลุมด้วยน้ำแข็ง น้ำเสียงเย็นชาเล็กน้อย “ธีทัต นายมีวิธีของนาย ฉันก็มีวิธีของฉัน ถ้าหากให้ฉันตรวจสอบเจอว่านายมีส่วนเกี่ยวข้อง พวกเราก็คอยดูกันต่อไป”
ธีทัตไม่ยอมแพ้ “คุณภวินท์ ผมไม่รู้ว่าเพราะเรื่องอะไรอยู่ๆคุณถึงได้วิ่งมาหาเรื่องผมถึงที่นี่ แต่ถ้าหากคุณอยากจะหาเรื่องต่อ ผมก็จะเล่นกับคุณ”
ทั้งสองคนจ้องตากัน สายตาราวกับมีประกายไฟ ใครก็ไม่ยอมถอยสักครึ่งก้าว
ผู้ช่วยที่อยู่ด้านข้างก็เอ่ยปากเกลี้ยกล่อม ภวินท์มองไปที่พวกเขาอย่างเย็นชา และเดินตรง ออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว
พอขึ้นลิฟต์ ร่างที่ตึงๆของภวินท์ถึงผ่อนคลายลงเล็กน้อย เขาหันไปมองพายุที่อยู่ด้านข้าง และพูดอย่างเย็นชา “ตรวจสอบความเคลื่อนไหวของธีทัตระยะนี้ ดูว่ามีอะไรน่าสงสัยมั้ย”
พายุพยักหน้า และโทรสั่งการให้ลูกน้องไปตรวจสอบ
ออกมาจากบริษัทเทคโนโลยีคลาวด์มาถึง STN Group ฝั่งนั่นก็มีข่าวคราว
พายุฟังรายงาน แล้วก็แจ้งภวินท์ตามตรง “คุณภวินท์ ระยะนี้ธีทัตไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรที่น่าสงสัย เขาทำกิจกรรมอยู่ในเมือง J ตลอด มีแต่วันนี้ช่วงบ่ายเขาไปที่เมืองY ไปหาน้องสาวของเขา ไม่นานก็กลับมาแล้ว”
ได้ยินแบบนั้น ประสาทของภวินท์ก็ประหม่าขึ้นมาทันที เขาลังเลอยู่สองวินาที และก็ขมวดคิ้ว “เมืองY? ”
ญาธิดาคงไม่ถูกธีทัตเอาไปซ่อนไว้ที่เมืองYหรอกนะ?