ดวงใจภวินท์ - บทที่ 359 โทษจำคุกห้าปี
บทที่ 359 โทษจำคุกห้าปี
นิวราที่อยู่ด้านข้างอยู่ๆก็รู้สึกถึงสายตาของผู้ชายที่มองมาทางหล่อน ร่างรู้สึกหนาวๆ ทันใดนั้นก็เลิ่กลั่กอย่างบอกไม่ถูก
เธอกัดฟันกรอด มองไปทางชยิน ปรับระดับเสียงและท่าทางของตนให้ดี “ชยิน พี่วินถามนาย ทำไมนายต้องทำร้ายญาธิดา? ”
ดวงตาของชยินมีประกายความเศร้า ชะงักอยู่หลายวินาที ก็มองภวินท์อย่างระมัดระวัง และพูดเสียงเย็นชา “เพราะว่าผู้หญิงคนนั้นน่ารำคาญเกินไป ชอบวนเวียนอยู่ใกล้ๆคุณภวินท์ ผมกลัวว่าหล่อนจะส่งผลกระทบต่อความสุขของคุณหนู เพราะงั้นเลยลงมือทำเอง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณหนูเลย ทั้งหมดเป็นความผิดของผม”
นิวราลนลาน คิดไม่ถึงว่าเพื่อปกป้องตนชยินจะเสี่ยงรับผิดเอง
ภวินท์ลดระดับสายตาลงมองเขา “ดังนั้น นายสารภาพความผิดฐานยุยงคนขี่มอเตอร์ไซค์ให้ทำร้ายผู้อื่น? ”
ชยินลังเลอยู่ครู่ และพูดเสียงเข้ม “ใช่”
ภวินท์เหลือบมองเขาอย่างเย็นชา “ชยิน นายรู้มั้ย นายทำแบบนี้ต้องโดนจำคุกนะ”
ชยินได้ยินดังนั้น ก็เงียบไม่พูดไม่จา
แต่นิวราที่อยู่ด้านข้าง ลนลานจนหน้าซีด
หลังจากนั้นสักครู่ ชยินยังคงไม่ได้ตอบ ภวินท์ก็หันไปหาพายุที่อยู่ด้านข้าง พลางพูดเสียงเย็นชา “ติดต่อตำรวจเดี๋ยวนี้ และเอาเสียงที่อัดไว้เมื่อกี้ส่งให้พวกเขา เรื่องหลังจากนี้ ก็ให้พวกเขาดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย”
“พี่วิน!” นิวราดเบิกตากว้าง ยื่นมือของมาคว้าแขนของภวินท์ไว้ “ต้องทำแบบนี้จริงๆเหรอ? ชยินเป็นบอดี้การ์ดของนิว ติดตามนิวนมาตั้งหลายปี ถ้าตอนนี้ต้อง……”
ไม่รอให้นิวราพูดจบ ภวินท์ก็ได้ดึงมือออกมาจากมือของหล่อน พลางพูดขึ้นทีละคำ “นิว เธออย่าพูดแทนคนทำผิดอีกเลย”
เสียงของชายหนุ่มดังขึ้น ด้วยพลังลึกลับบางอย่างที่มองไม่เห็น ทำให้คนอื่นยากที่จะต่อต้าน นิวราอ้าปากค้าง และกลืนคำขอร้องลงคอไป อะไรก็พูดไม่ออกอีกแล้ว
ขณะนั้น อยู่ๆชยินก็เงยหน้ามองไปทางเธอแล้วพูด “คุณหนู ไม่เป็นไรครับ ตอนนั้นผมหน้ามืดตามัวทำความผิด ผมยินดีที่จะรับโทษ”
นิวราอ้าปากช็อก เมื่อเห็นชยินส่ายหน้าเบาๆมาทางเธอ เธอก็หุบปากลง และไม่พูดอะไรอีก
เรื่องมาถึงขั้นนี้ ทุกอย่างมันมีบทสรุปเรียบร้อยหมดแล้ว ถ้าหากหล่อนจะขอร้องแทนเขาต่อ เกรงว่าภวินท์จะสงสัยหล่อนแล้วแบบนั้นที่เขายอมเป็นแพะรับบาปก็ไม่มีประโยชน์แล้ว
นัยน์ตาของภวินท์มีความเยือกเย็นขึ้น มองไปยังลูกน้องด้านข้าง แล้วพูดด้วยเสียงเย็นชา “เอาตัวมันไป”
ลูกน้องสองคนลงมือทันที หิ้วปีกซ้ายขวาเอาตัวชยินออกไป
ภวินท์หันมามองนิวรา และพูดทีละคำๆ “นิว เรื่องอุบัติเหตุมอเตอร์ไซต์ ฉันจะต้องตรวจสอบอย่างชัดเจน และมาให้คำตอบเธอ”
ในใจของนิวราซับซ้อน พยักหน้า อย่างกลัวๆ “ค่ะ”
เมื่อเห็นภวินท์ก้าวเท้าออกจากบ้านตระกูลวรโชติไป ไฟโกรธในใจนิวราราวกับจะมอดไหม้ตั้งแต่หัวจรดเท้า
ในใจเธอจะไม่รู้ได้ยังไง ที่ภวินท์ตรวจสอบเรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับอุบัติเหตุมอเตอร์ไซต์นั้น ไม่ใช่เพราะตนแม้แต่นิดเดียว! แต่เป็นเพราะยัยผู้หญิงคนนั้นญาธิดา!
เพราะว่าญาธิดา ครั้งนี้เธอถึงได้สูญเสียลูกน้องที่มีความสามารถอย่างชยินไป!
ความริษยา ความโกรธผสมปนเปกัน ทำให้อดทนอดกลั้นไม่ได้ หล่อนยืนอยู่ตรงหน้าต่าง พลางมองรถยนต์สีดำขับออกจากลานไป ถึงได้คว้าแจกันที่อยู่บนโต๊ะด้านข้าง เขวี้ยงลงพื้นอย่างแรง
ถ้าหากยัยญาธิดายังกล้ากลับมาอีก ถึงแม้หล่อนต้องแลกด้วยชีวิต ก็จะลากมันลงนรก ไม่ให้เห็นแสงสว่างอีกเลย!
หลังจากนั้นครึ่งเดือน ที่ศาลพิพากษาของเมือง J
บนที่นั่งคณะลูกขุน นิวรานั่งอยู่ด้านข้างภวินท์ มองดูชยินที่อยู่ตรงที่นั่งจำเลย ในใจก็มีความรู้สึกซับซ้อนขึ้นมา
ห้องพิพากษาสิ้นสุดเสียง ผู้พิพากษาก็เริ่มอ่านคำพิพากษา “จำเลยชยิน บุญเยี่ยม ข้อหากระทำความผิดเจตนาฆ่า ลงโทษจำคุกห้าปี สิ้นสุดการพิจารณาคดี”
“ปึ้ก!”
เสียงค้อนพิพากษาดังขึ้น เรื่องทั้งหมด ก็ตัดสินแล้ว
ชยินเงยหน้า อยู่ๆก็มองไปทางนิวรา นัยน์ตามีประกายเล็กน้อย
แค่ห้าปีเท่านั้น เพื่อนิวราแล้ว เขายินดี หลังจากนี้ห้าปี ตอนที่เขาออกมา เธอก็ยังคงเป็นคุณหนูของเขา เป็นเป้าหมายในการเชื่อฟังอย่างไม่มีเงื่อนไขของเขา เขายังคงเป็นลูกน้องที่ซื่อสัตย์ที่สุดของเธอ ตรงจุดนี้จะไม่มีวันเปลี่ยน
นิวราเงยหน้า สบตาคู่นั้นของชยินตรงๆ ในใจหนักอึ้ง รู้สึกร้อนรนขึ้นในใจ และเกิดความรู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก
ถ้าหากไม่ใช่เพราะชยิน เกรงว่าตอนนี้คนที่ถูกตัดสินให้จำคุกจะเป็นเธอ
แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ความรู้สึกผิดในใจของเธอ ไม่นานก็จางหายไป
เธอกับชยิน ทั้งสองอยู่กันคนละโลก เขาทำเพื่อเธอมากขนาดนี้ ก็ถูกต้องและเหมาะสม มีเหตุผลแล้ว อย่างมากรอให้เขาออกมา เธอก็ชดเชยให้เขามากหน่อยก็โอเคแล้ว
คิดแบบนั้น ใจของนิวราก็สงบลงมากทันที
การพิพากษาเสร็จสิ้น นิวราก็คล้องแขนภวินท์ออกมาจากศาล กวาดสายตาไปใบหน้าที่มืดมน แล้วก็ยิ้มพลางพูด “พี่วิน คืนนี้ไปกินข้าวที่บ้านนิวเถอะ พ่อฉันบอกว่าไม่เจอหน้าพี่นานแล้ว ท่านอยากดื่มกับพี่สักหน่อย”
ภวินท์ได้ยินดังนั้น ดวงตาก็มืดมนไม่ชัดเจน พลางมองนิวรา และบอกปฏิเสธ “ให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อนนะ”
พูดประโยคนี้จบ พอดีที่ โทรศัพท์ของเขาดังขึ้น เขากดปุ่มรับสาย และเดินออกไปรับด้านข้าง
หลังจากนั้นหลายนาที เขาก็เดินกลับมา มองทางนิวรา และพูดเสียงเบา “ฉันให้คนไปส่งเธอที่บ้านนะ ฉันยังมีเรื่องต้องไปจัดการ”
นิวราได้ยินดังนั้น ก็ขมวดคิ้วทันที “พี่วิน นิว……”
ไม่รอให้หล่อนพูดจบ ภวินท์ก็หันตัว เดินไปทางรถที่อยู่ด้านข้างอย่างรวดเร็ว
นิวรายืนค้างอยู่ที่เดิม โมโหจนอดที่จะกระทืบเท้าไม่ได้
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ที่ภวินท์ยิ่งเฉยชากับเธอมากขึ้น นับวันยิ่งเย็นชา?
สุดท้าย หล่อนก็กัดฟันอย่างหมดหนทาง ทำได้เพียงนั่งรถที่ภวินท์จัดแจงให้จากไป
อีกฝั่ง ภวินท์ที่อยู่บนรถหรู พายุมองไปยังรถที่พานิวราออกไป ลังเลอยู่ครู่ ก่อนเอ่ยปากถาม “ท่านประธาน ทางฝั่งคุณนิว……”
“จับตาดูไว้” นัยน์ตาภวินท์มืดมิด มืดมัวไม่ชัดเจน
ถึงแม้ว่าคดีอุบัติเหตุมอเตอร์ไซต์จะตัดสินไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้แปลว่านิวราไร้ความผิด ไม่ใช่แค่เรื่องนี้ มีเรื่องมากมาย ที่นิวรานั้นน่าสงสัย
นิวราในวันนี้ ไม่ใช่เด็กสาวที่คอยตามก้นเขาเรียกเขาพี่ชายอย่างที่เคยเป็นแล้ว
พายุพยักหน้า “ครับ”
ภวินท์หันหน้า มองไปยังนอกหน้าต่าง อยู่ๆก็นึกอะไรขึ้นได้ และพูดเสริมอย่างนิ่งๆ “แผนสุดสัปดาห์นี้ เลื่อนออกไปให้หมด”
พายุชะงักอยู่ครู่ อดไม่ได้ที่จะถาม “คุณภวินท์ สุดสัปดาห์นี้ยังจะไปเมืองYเหรอครับ? ”
หนึ่งเดือนมานี้ ภวินท์ไม่เคยยอมแพ้ที่จะตามหาญาธิดา เมือง J ค้นหาไปๆมาๆอยู่หลายรอบ ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจขยายขอบเขตค้นหา แม้กระทั่งไปยังเมืองYเพื่อค้นหาด้วยตัวเอง
ภวินท์ได้ยินดังนั้น ก็หลับตาลง เอนตัวพิงเบาะที่นั่ง และตอบเสียงเบา “อืม”
เขาไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ เรื่องค้นหาญาธิดานี้ เขายิ่งไม่ยอมแพ้!
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้หญิงคนนั้นติดค้างเขามาก เขาจะต้องหาเธอให้เจอ ให้เธอชดใช้สิ่งที่นางเป็นหนี้เขาร้อยครั้งพันครั้ง!