ดวงใจภวินท์ - บทที่ 432 หญิงสาวผู้ไม่ประสีประสา
วันถัดไป ธีทัตออกจากแกรนด์ บูเลอวาร์ดตั้งแต่เช้า รีบขึ้นเที่ยวบินออกนอกเมือง เกือบเป็นเวลา 1 อาทิตย์ที่จะไม่ได้กลับ
เดิมทีญาธิดาอยากจะมาส่งเขาที่สนามบิน แต่กลับถูกธีทัตปฏิเสธอย่างอ้อมๆ เธอเตรียมอาหารเช้าให้พ่อแม่ หลังจากนั้นก็กลับไปที่ห้องปลุกเจ้าตัวเล็กทั้งสองให้ลุกออกจากที่นอน
ยุ่งวุ่นวายทั้งช่วงเที่ยง เรื่องยิบย่อยภายในบ้านถึงจัดการได้เกือบหมด
เป็นเวลา 2 วันติดต่อกัน นอกจากออกไปพบคุณบิ๊กแล้ว ญาธิดาก็อยู่ที่บ้านเกือบจะตลอด
วันที่สาม ในที่สุดก็ถึงเวลาเริ่มงาน ญาธิดามาถึงกองถ่าย ได้เจอกับทีมงานในแต่ละแผนกทั้งหมด ก็ทำความคุ้นเคยซึ่งกันและกัน และจะเริ่มถ่ายทำอย่างเป็นทางการในวันถัดไป
หนึ่งวันก็ผ่านไปแล้วโดยที่ไม่รู้ตัว เมื่อใกล้จะหมดเวลา จู่ๆ เธอก็ได้รับสายจากคนส่งของ
ขณะที่เธอเดินไปถึงปากประตูบานใหญ่ เห็นคนส่งของกอดดอกไม้อยู่ในอ้อมอก มองเธอแล้วถาม “ใช่คุณญาธิดาหรือเปล่าครับ?”
ญาธิดาพยักหน้า เหม่อมองคนส่งของส่งดอกไม้นั้นมาให้ตรงหน้าเธอ
เธอตกตะลึง ยื่นมือเข้าไปรับ เธอประหลาดใจเล็กน้อย
ธีทัตน่าจะรู้ว่าวันนี้เธอเริ่มงาน เลยสั่งให้เธอล่วงหน้า?
แต่เธอเหมือนว่าจะไม่เคยบอกเขาเรื่องเธอรับงานหนังสั้นการกุศล
เมื่อคิดได้ดังนั้น ความสงสัยของญาธิดาก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
เธอพยักหน้าขอบคุณคนส่งของ โอบช่อดอกไม้แล้วหันกลับไป ก้มลงมองก็เห็นการ์ดทรงสี่เหลี่ยมใบเล็กที่เสียบไว้ข้างในดอกไม้สีสดใส
เธอใช้มือข้างหนึ่งหยิบการ์ดออกมาดู เมื่อเห็นประโยคที่อยู่ด้านบน เธอก็คิ้วขมวดอย่างอดไม่ได้
ประโยคที่เขียนอยู่บนการ์ด “คุณญาธิดาไม่ชอบของขวัญครั้งที่แล้ว ครั้งนี้คุณชอบไหม?”
มุมล่างขวาของการ์ด มีสัญลักษณ์ใยแมงมุมที่แปลกประหลาดแบบเดียวกัน
เมื่อเห็นสัญลักษณ์นั้น ญาธิดาพลันรู้สึกถึงความหนาวเย็นแล่นทั่วทั้งหลัง ทำให้หัวใจของเธอไม่เป็นสุขอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้
หยกชิ้นนั้นและการ์ดใบนั้นเมื่อครั้งก่อนสามารถทำให้ภวินท์มีปฏิกิริยาที่ไม่ปกติเช่นนั้น แสดงให้เห็นว่าคนที่อยู่เบื้องหลังนี้ไม่ใช่คนดีอะไรอย่างแน่นอน!ยิ่งไปกว่านั้นคนผู้นั้นกลับเคลือบคลานเข้ามาถึงที่ทำงานของเธอแล้วส่งดอกไม้มาให้อีก เห็นได้ชัดว่าในใจนั้นหนักหนา
เธอสูดลมหายใจลึก เงยหน้าขึ้นกวาดสายตาไปรอบๆ เธอกัดริมฝีปาก แล้วมองลงไปที่ช่อดอกไม้ รู้สึกว่าช่อดอกไม้ไม่สดใสอย่างตอนแรก
ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็เดินไปที่ถังขยะข้างๆ แล้วโยนช่อดอกไม้ในมือทิ้งลงไป
ไม่มีสิ่งใดที่ได้มาง่ายๆ ของที่ไม่รู้ที่มาที่ไปแบบนี้ เธอระมัดระวังไว้จะดีกว่า
เธอมองดูการ์ดในมืออีกครั้ง ฉีกการ์ดครึ่งหนึ่งแล้วโยนทิ้งลงในถังขยะ
เมื่อทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็เดินตรงเข้าไปในประตูกองถ่าย
ภายในรถสีดำไม่โดดเด่นคันหนึ่งจอดอยู่ข้างถนนไม่ไกล ใครคนหนึ่งถือโทรศัพท์บันทึกสิ่งที่พึ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่อย่างชัดเจน
เมื่อทำทุกอย่างเสร็จ เขาเข้ารหัสวิดีโอแล้วส่งไปยังโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งทันที
ภายในห้องรับรองพิเศษที่มืดสลัว สิงโตโอบกอดสาวๆ ทั้งซ้ายและขวา เห็นหน้าจอสว่างวาบ สายตาหนักอึ้ง เขายื่นมือออกไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอย่างช้าๆ และกดเข้าไปดู
อย่างรวดเร็ว หน้าจอโทรศัพท์มือถือก็ปรากฏวิดีโอช่วงหนึ่ง ก็คือตอนที่ญาธิดาได้รับดอกไม้จนท้ายที่สุดก็โยนทิ้งไป
เมื่อเห็นหญิงสาวนำช่อดอกไม้ทิ้งลงในถังขยะ สิงโตก็หัวเราะออกมาเบาๆ อย่างกลั้นไม่ไหว เสียงของเขาหนักแน่น เสียงหัวเราะราวกับกลิ้งวนอยู่ในลำคอ เหมือนเสียงครางต่ำของสัตว์อะไรสักอย่าง
เด็กเอ็นที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็โน้มตัวเข้ามาใกล้ มองไปที่หน้าจอโทรศัพท์เขาอย่างสงสัย “เจ้านายคะ มีอะไรน่าสนใจเหรอคะ?ตลกอะไรขนาดนี้?”
ทันทีที่คำพูดนั้นของเธอสิ้นสุด สิงโตก็พลันยื่นมือออกไปจับไหล่ของเธอเอาไว้ แล้วบีบอย่างไร้ซึ่งความปรานี
หญิงสาวคนนั้นก็ร้องออกมาด้วยน้ำเสียงเจ็บปวดทันที สีหน้าเปลี่ยนไปจนดูน่ากลัว
วินาทีต่อมาสิงโตได้ผลักเธอไปอีกฝั่งอย่างไร้ซึ่งความปรานี พูดเสียงเย็นว่า “ใครอนุญาตให้มึงดู? ควักลูกตามึงออกซะดีมั้ย?”
เขาเกลียดผู้หญิงที่เรื่องมาก เกลียดยิ่งกว่าก็คือผู้หญิงที่ไม่ทำตามกฎ และผู้หญิงคนนี้ก็มีทั้งสอง
ผู้หญิงคนนั้นถูกผลักล้มลงบนพื้น เธอไม่คิดเลยว่าใบหน้าของสิงโตจะเปลี่ยนได้ไวขนาดนี้ เห็นใบหน้าของผู้ชายคนนี้ หัวใจของเธอก็รู้สึกถึงความหนาวเย็น เธอร้อนรนคุกเข่าลงกับพื้นและคลานออกไปด้านนอก “เจ้านายฉันผิดไปแล้ว เป็นฉันเองที่ไม่รู้ความ ฉันจะออกไปเดี๋ยว……”
สิงโตกวาดสายตามองเธออย่างเย็นชา เขาผ่อนลมหายใจเย็นและถอนสายตา
หญิงสาวที่อยู่อีกด้านหนึ่งรู้สึกหวาดกลัวจนสีหน้าซีดขาวอยู่นาน จะขยับก็ไม่กล้าขยับ
สิงโตหมดสนุก เลยยื่นมือออกผลักเธอไปอีกฝั่ง คิ้วขมวดแล้วพูดว่า “ไสหัวออกไปให้หมด”
หญิงสาวทั้งสองคนลุกลี้ลุกลนวิ่งออกจากที่นั่งชั้นพิเศษทันที
เสียงปิดประตูห้องดัง “ปัง!” ในตอนนี้ภูผาซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่งของโซฟาในที่นั่งชั้นพิเศษก็พลันหัวเราะเบาๆ “คุณสิงโตเป็นอะไรไป ไม่ชอบสาวสวยสองคนนั้นที่ผมหามาให้ครั้งนี้เหรอ?”
สิงโตผ่อนลมหายใจเย็น “ผมเกลียดผู้หญิงที่ไม่รู้ประสีประสาที่สุด”
พูดจบเขาก็กดวิดีโอที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือดูอีกรอบ มุมปากกระตุกยิ้มเย็นและพูดว่า “ผู้หญิงของภวินท์ ก็ไม่ประสีประสานะ”
เขาโยนโทรศัพท์ลงบนโต๊ะข้างๆ หยิบแก้วไวน์ขึ้นดื่มรวดเดียวหมด
ภูผาที่กวาดสายตาเหลือบมองโทรศัพท์มือถือของเขา พูดเสียงเรียบ “ผู้หญิงที่ไม่ประสีประสาก็ต้องให้บทเรียนสักหน่อยถึงจะถูก”
สิงโตได้ยินริมฝีปากก็ยกขึ้น พยักหน้าและพูดทันทีว่า “คุณพูดถูก ต้องให้บทเรียนสักหน่อยถึงจะถูก”
พูดจบเขาก็เงยหน้า สบสายตากับภูผา ทั้งสองมองหน้ากันแล้วยิ้ม ชนแก้วไวน์เป็นอันว่าเห็นพ้องต้องกัน
จากกองถ่ายกลับมาถึงบ้าน ยังไม่ทันที่ญาธิดาจะได้เปลี่ยนเสื้อผ้า สายเรียกเข้าที่โทรมาไม่หยุดของอัญมณีปรากฏขึ้น
เมื่อกดปุ่มรับสายแล้ว เสียงมีความสุขของอัญมณีก็ดังออกมาจากปลายสาย “ธิดา!ฉันมีข่าวดีจะมาบอกเธอ!”
ช่วงนี้ทุกครั้งที่เจออัญมณี ก็มักจะดูหม่นหมองไม่มีความสุข เธอดีใจขนาดนี้เป็นอะไรที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก
ญาธิดาหยอกเธอ “งั้นบอกมาเลย ข่าวดีอะไร? อย่าบอกนะว่าเธอสละโสดแล้ว?”
“ไม่มีทางๆ!ตอนนี้ฉันไม่คิดเรื่องรักๆ ใคร่ๆ อะไรทั้งนั้น ตั้งใจทำงานต่างหากคือสิ่งสำคัญ!”
ได้ยินน้ำเสียงนี้ของอัญมณี ริมฝีปากของญาธิดาก็ยกขึ้นอย่างอดไม่ได้ เธอถาม “งั้นบอกมา จริงๆ แล้วมีเรื่องอะไรที่ทำให้อันอันของฉันดีใจขนาดนี้?”
“เดือนหน้าวงของพวกเราจะไปทำการแสดงที่อังกฤษ แล้วฉันก็ได้รับเลือกแล้ว!”
“อะไรนะ?” ญาธิดาทั้งประหลาดใจและดีใจ “จริงเหรอ?”
ธีทัตแม้ว่าปกติแล้วจะเรื่อยเฉื่อย แต่ในความเป็นจริงเธอก็รักเสียงเพลงจริงๆ ได้ยินข่าวดีแบบนี้ของเธอ เธอเองก็รู้สึกดีใจกับเธอด้วยจากใจจริง
เสียงของอัญมณีที่ดังจากปลายสาย “จริง ช่วงนี้ก็เตรียมตัวและก็จะออกเดินทางแล้ว ทำการแสดงครั้งนี้ได้ทั้งชื่อเสียงและเงินทอง!”
“อย่างนั้นก็ดีน่ะสิ แต่ว่าเธอจะไปนานเท่าไหร่?”
“ระยะเวลายังไม่ได้กำหนด พรุ่งนี้ฉันเลี้ยงข้าวเธอเอง พวกเราสองคนมาเม้ามอยกันนะ!”
“ได้!”
สองคนเข้าล็อกกันอย่างง่ายด่าย กำหนดเวลาและสถานที่นัดพบกันได้ในทันที
แม้ว่าในใจจะรู้สึกดีใจกับอัญมณี แต่เธอเองก็ไม่อยากจะแยกกับเธอ เธอไปครั้งนี้ไม่รู้เมื่อไหร่ถึงจะได้เจอกันอีก
อีกอย่างก่อนที่เธอจะไป เธอยังต้องเตรียมของขวัญให้อัญมณีอย่างดีถึงจะถูก
คิดไปคิดมาญาธิดาก็ยังไม่รู้ว่าจะให้อะไรเธอดี เมื่อเธอเห็นชุดขาวชุดนั้นของเธอในตู้เสื้อผ้าอย่างไม่ได้ตั้งใจ ใจเธอก็สั่น จู่ๆ ความคิดก็ผุดขึ้นมา
เวลาที่เธอและอัญมณีนัดกันเรียบร้อยแล้วคือเย็นของวันที่สอง ช่วงบ่ายของวันถัดไป เธอเก็บของเสร็จตั้งแต่เช้า นำอีธาน เอลล่าส่งให้คุณปภาวีดูแลแทน แล้วจึงรีบออกมา
เธอขับรถตรงไปที่สตูดิโอของเจนนิเฟอร์หลังจากถ่ายภาพทำงานหนึ่งชุด เธอก็เลือกชุดอย่างประณีต ตั้งใจจะมอบเป็นของขวัญให้อัญมณี
หลังจากที่เตรียมทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว เวลานัดของเธอและอัญมณีก็เหลือ 1 ชั่วโมง เธอหยิบกล่องของขวัญวางไว้ในรถ และขับรถตรงไปยังเป้าหมาย
ท้องฟ้ามืดครึ้ม ด้านนอกสายฝนตกลงมานิดหน่อย เพิ่มความเย็นสดชื่นให้ค่ำคืนในฤดูร้อน
ไปได้ครึ่งทาง ก็ผ่านร้านเค้กร้านหนึ่งพอดิบพอดี ญาธิดาคิดว่าจอดรถไว้ข้างทาง เธอเดินไปข้างหน้าที่เก็บของหลังรถ เตรียมจะหยิบร่มออกมา
ซื้อเค้กก้อนเล็กมาให้อันอัน ถือว่าเป็นการเฉลิมฉลองเล็กๆ น้อยๆ
พอคิดแบบนี้ เธอก็อารมณ์ดี
ที่เก็บของหลังรถยกขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อเธอมองเห็นสิ่งของที่อยู่ด้านใน สีหน้าก็ซีดเซียวด้วยความหวาดกลัว เธอถอยหลังสองก้าวและส่งเสียงกรีดร้องโดยไม่รู้ตัว!