ดวงใจภวินท์ - บทที่ 471 จะปล่อยคุณไปง่ายๆ หรือ?
บทที่ 471 จะปล่อยคุณไปง่ายๆ หรือ?
เมื่อเห็นคนมา ธีทัตดูดบุหรี่หนึ่งคำ แล้วยกมือขึ้นดับไฟบุหรี่ในมือทันที จากนั้นหันหน้าไป “หมอก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายก็คอยดูอยู่ข้างกายของธิดา กับลูกแฝด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเขาจะต้องปลอดภัย ”
เมื่อหมอกได้ยินเช่นนั้น พยักหน้าด้วยสีหน้าไร้ความกังวลว่า “ครับ”
วินาทีต่อมา เสียงเย็นชาที่สุดของชายหนุ่มดังขึ้น “นอกจากนี้ ผมจะให้นายไปตรวจสอบดูว่า เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ เป็นฝีมือของใครกันแน่!”
“ครับ คุณผู้ชาย ”
เมื่อหมอกกลับไปแล้ว สายตาเปลี่ยนเป็นอบอุ่นเหมือนก่อน ในแววตามีความเย็นชาเล็กน้อย ลึกจนยากจะหยั่งรู้
ลงมือกับคนที่เขาแคร์ที่สุด ก็เหมือนกับเอามีดมาทิ่มแทงความเจ็บปวดของเขา เขาทนแล้วทนเล่า ครั้งนี้ เขาจะไม่ทนอีกแล้ว
ครั้งก่อนญาธิดาถูกคนจับตัวไปในวันที่เป็นวันเกิดของเธอ ภวินท์บอกว่าเขาจะไปตรวจสอบ แต่เขารอมาหลายวัน ก็ไม่ได้คำตอบ ครั้งนี้ เขาจะไม่ทนรออีกแล้ว
ครั้งนี้ หากเขารู้ความจริงขึ้นมา ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร เขาก็จะไม่ไว้หน้าอีก!
ที่ชายหาดก้อนหินแห่งหนึ่งใกล้กับริมทะเลนอกชานเมืองของเมืองJ มีรถคันหนึ่งจอดอยู่ ประตูรถเปิดอ้าไว้ ที่ไม่ไกลออกไป นิวรากำลังก้มหน้าอาเจียนอยู่
เมื่อกี้นี้ เธอขับจากพิพิธภัณฑ์มาถึงที่นี่ เธอรู้สึกคลื่นไส้ พอลงจากรถก็อดที่จะอาเจียนออกมาไม่ได้
และในเวลานี้ ประตูรถตรงที่นั่งคนขับเปิดออก ชยินก้าวเท้าเดินลงมา
เขาเอาผ้าเช็ดหน้าออกมา ยื่นไปตรงหน้านิวรา แล้วกล่าวว่า “คุณหนู ลำบากคุณแล้ว ”
เมื่อนิวราได้ยินเช่นนั้น ยกมือปัดมือของเขาออก แล้วกล่าวด้วยความโกรธว่า “ไปให้พ้น!”
หลังจากที่เจออัญมณีที่หน้าประตูพิพิธภัณฑ์แล้ว ตอนแรกเธอคิดที่จะขับรถหนีกลับบ้าน แต่ไม่คิดว่าจะถูกนายชยินขวางไว้ เขาขึ้นรถ แล้วผลักเธอไปหลังรถ เหยียบรถอย่างเร็วจนมาถึงสถานที่ที่ไม่เจริญนี้
หากไม่ใช่เป็นเพราะอาเจียนไม่หยุดจนรู้สึกทรมาน เธอด่าเขาไปนานแล้ว
ชยินนั้นก็ไม่โกรธ เอาผ้าเช็ดหน้าวางไว้บนก้อนหินข้างๆ เธอ แล้วกล่าวอย่างไม่รีบไม่ร้อนว่า “คุณหนู หรือคุณคิดจะขับรถคนนี้กลับไปตระกูลวรโชติหรือ ?คุณชนน้องสาวแท้ๆ ของธีทัต คุณคิดว่าเขาจะปล่อยคุณไปง่ายๆ หรือ?”
นิวรา ที่กำลังลูบหน้าอกไล่ลมได้ยิน ทันใดนั้นสีหน้าซีดลงเล็กน้อย
ชยินกล่าวเสียงเคร่งขรึมว่า “คุณขับรถคันนี้กลับไปตระกูลวรโชติ นั่นก็เท่ากับว่ายอมรับเองโดยที่ยังไม่ได้สอบสวน ตามกำลังของอัญมณี วันนี้ก็สามารถสืบถึงตัวคุณได้จากกล้องวงจรปิดตลอดทางของเมืองJ คุณคิดดูดีๆ ”
คำพูดของเขา พูดจนนิวราหน้าตึงเคร่งเครียด ทันใดนั้นก็พูดอะไรไม่ออก
หลังจากครู่หนึ่ง เธอเงยหน้าขึ้นมองไปทางชยิน “ดังนั้น นายถึงพาฉันมาที่นี่หรือ?”
ชยินพยักหน้าเล็กน้อย “อืม เรื่องเดียวที่คุณทำถูกต้อง ก็คือรถที่ขับไม่ใช่รถของตัวเอง”
เมื่อเป็นเช่นนี้ เพียงแค่ทิ้งรถไป แม้ว่าพวกเขาจะติดตามป้ายทะเบียนรถจนหาเจ้าของรถเจอ ก็จะหาพวกเขาไม่เจอเหมือนกัน
นิวราตัวเกร็งเล็กน้อย แล้วเอ่ยถามขึ้นว่า “ถ้าอย่างนั้นกล้องวงจรปิดตลอดทางจะทำอย่างไร?”
ชยินกล่าวเสียงเบาว่า “อันนี้คุณหนูวางใจให้เป็นหน้าที่ผมจัดการเอง ”
พูดจบ เขาหันหน้าเหลือบมองไปทางรถคันนั้น “ตอนนี้จะต้องทำความสะอาดรถ รอยนิ้วมือและเส้นผมของคุณหนู ทุกอย่างที่จะถูกเก็บเป็นหลักฐาน ล้วนต้องเก็บกวาดทิ้งไป ”
นิวรารู้สึกดีใจ จึงเอ่ยปากถามขึ้นว่า “แบบนี้ฉันก็จะปลอดภัยแล้วหรือ?”
ขับรถชนคนไม่ได้อยู่ในแผนการของเธออยู่แล้ว การกระทำเมื่อกี้นี้เป็นเพราะว่าเธอวู่วามเกินไป หัวร้อนไปชั่ววูบจึงเหยียบคันเร่งไป
ตอนนี้เกิดเรื่องแล้ว ยังไม่รู้อาการของอัญมณี หากอาการรุนแรงจริงๆ ธีทัตจะต้องสืบหาจนถึงที่สุดอย่างแน่นอน ตอนนี้ตั้งสติได้แล้ว เธอจึงสำนึกได้ว่าการกระทำของตัวเองเมื่อกี้นี้ช่างโง่นัก!
ชยินส่ายหัวไปมา “มันไม่ง่ายขนาดนั้น ”
ทันใดนั้น หัวใจของนิวราเจ็บจี๊ดขึ้นมา เธอยื่นมือออกมาจับมือของเขาไว้โดยสัญชาตญาณ แล้วกล่าวอย่างไร้ที่พึ่งว่า “ชยิน แล้วฉันควรจะทำอย่างไร?ฉันไม่อยากติดคุก!”
เมื่อห้าปีก่อนชยินเป็นแพะรับบาปติดคุกแทนเธอ ห้าปีต่อมา เธอวู่วามจนทำผิดอีกครั้ง ครั้งนี้ควรจะทำอย่างไรอีก?หากพบว่าเป็นเธอ ธีทัตจะต้องฟ้องเธอข้อหาจงใจทำร้ายผู้อื่นอย่างแน่นอน!
ชยินขมวดคิ้ว “คุณหนู ผมเคยบอกคุณไปนานแล้วว่า อย่าวู่วามเกินไป ”
นิวราลุกขึ้น จับแขนของชยินไว้ แล้วกล่าวรับประกันว่า “ฉันจะไม่วู่วามแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะเชื่อฟังนาย ชยิน!นายต้องช่วยฉัน!นายจะต้องช่วยฉัน!”
เมื่อชยินได้ยินเช่นนั้น ไม่ยอมพูดสักที
ยิ่งเขาเงียบ นิวราก็ยิ่งกลัว สุดท้าย น้ำตาของเธอไหลพรากเหมือนสายฝน “ชยิน ตอนนี้ข้างกายฉันมีเพียงนายคนเดียวเท่านั้น……”
ครู่หนึ่ง ชยินจึงเอ่ยขึ้นว่า “คุณหนู ผมจะช่วยคุณ แต่ว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณจะต้องฟังผม”
มีกี่ครั้งที่นิวราเดินทางผิดเพราะความวู่วามของตัวเอง ชดใช้ไปเท่าไหร่นั้น เขาจำได้อย่างชัดเจน
นิวราพยักหน้ารับ “ได้ ตกลง ฉันจะฟังนาย!”
เมื่อชยินได้ยินเช่นนั้น พยักหน้า แล้วหันมองไปทางรถคันนั้น “ผมไปทำความสะอาดรถ คุณรอผม หลังจากทำเสร็จแล้ว เราไปจากที่นี่กัน”
ตอนนี้ สิ่งแรกที่จะต้องทำคือกำจัดสิ่งที่เกี่ยวกับนิวราทิ้งไปก่อน ที่เหลือค่อยว่ากันอีกครั้ง
ที่โรงพยาบาลพัฒนา ธีทัตนั้นบอกปัดงานทุกอย่างแล้วนั่งเฝ้าอยู่ข้างกายอัญมณี
อัญมณีถูกย้ายไปอยู่ในห้องไอซียูพร้อมหน้ากากออกซิเจนบนใบหน้าของเธอ และมีเครื่องจักรเยือกเย็นห้อมล้อมเธอไว้
มองทะลุกระจกใส ธีทัตเห็นคนที่ซีดเซียวนอนอยู่บนเตียงแล้วรู้สึกเศร้าใจ
เรื่องนี้ เขาไม่ได้บอกให้พ่อแม่รู้ แม้แต่น้องสาวตัวเองยังปกป้องได้ไม่ดี เขาไม่มีหน้าจะไปเผชิญหน้ากับพวกเขา
“ทัต ” ญาธิดาเดินออกมาจากห้องผู้ป่วยข้างๆ มองดูแผ่นหลังของชายหนุ่ม ในใจของเธอรู้สึกเศร้า
ธีทัตหันหน้ามา มองไปทางเธอแล้วถามขึ้นว่า “หืม ?ลูกแฝดเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ฉันกล่อมพวกเขาหลับไปแล้ว” ญาธิดากล่าวด้วยบนใบหน้ามีประกายความเหนื่อยล้าเล็กน้อยว่า “ทัต ฉันมีเรื่องอยากบอกคุณ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ธีทัตหันหน้ามามองดูเธอ “เรื่องอะไรหรือ?”
ญาธิดาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ มือที่ห้อยอยู่ข้างลำตัวกำแน่นอย่างไม่รู้ตัว “เรื่องครั้งนี้ ไม่ใช่อุบัติเหตุ ”
ธีทัตขมวดคิ้วแน่น อึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วถามขึ้นว่า “คุณรู้ได้อย่างไร?”
ตอนแรกกลัวจะทำให้ญาธิดาตกใจ เขาจงใจให้โชนปิดข่าว ไม่ต้องพูดอะไร ไม่คิดว่า เธอรู้แล้ว
ญาธิดากำมือที่เย็นเฉียดไว้แน่น สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวว่า “อีธานบอกฉันแล้ว เขาบอกว่าตอนแรกมีผู้ชายสองคนจะพาพวกเขาไป จากนั้นโชนพุ่งเข้ามา หลังจากนั้นก็มีรถคันหนึ่งพุ่งเข้ามาชนพวกเขา เรื่องพวกนี้ มันเป็นความบังเอิญได้อย่างไรกัน?”
เมื่อธีทัตได้ยินเช่นนั้นก็ก้มหน้าเงียบไม่พูดอะไร
เขารู้ตั้งแต่แรกแล้ว ว่ามันไม่ใช่ความบังเอิญอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงส่งหมอกไปสืบ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ผล
ญาธิดากัดฟันแน่น พูดคำที่อัดอั้นไว้ในใจออกมา “ธีทัต อีธานยังบอกว่า เขาเห็นคนที่ขับรถที่นั่งอยู่ในรถ เป็นผู้หญิงผมยาว ”
เมื่อธีทัตได้ยินเช่นนี้น แววตามีความผิดปกติ เงยหน้าประสานสายตากับเธอ “เป็นผู้หญิงหรือ?”
ญาธิดาพยักหน้าอย่างแน่วแน่ “ใช่ อีธานบอกว่าเขาเห็น”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทั้งสองตกอยู่ในความเงียบ ไม่มีใครพูดอะไร
สุดท้าย ญาธิดารวบรวมความกล้า ถามขึ้นว่า “คุณว่า ใช่นิวราไหม”
ทั้งเมืองJ ผู้หญิงที่เกลียดพวกเขาเข้ากระดูกดำนั้น มีเพียงนิวรา คนเดียวเท่านั้น!