ดวงใจภวินท์ - บทที่ 474 วัฏจักรของกฎแห่งกรรม แค้นต้องชำระด้วยแค้น
บทที่ 474 วัฏจักรของกฎแห่งกรรม แค้นต้องชำระด้วยแค้น
ช่วงนี้บริษัทวรโชติกำลังเฟื่องฟู
ชนัดพลนั้นเป็นนักธุรกิจตัวโยงที่ใช้ทุกวิถีทาง ตั้งแต่ที่ลูกสาวตัวเองแต่งงานกับภวินท์ เขาใช้การแต่งงานกับภวินท์เพื่ออำนวยความสะดวกทั้งเปิดเผยและลับๆ ไม่น้อย แบบเปิดเผยก็ไปหาภวินท์ขอใช้ทรัพยากรขอใช้ความสัมพันธ์ทางเส้นสายเอาโครงการมา หรือไม่ทางลับๆ ก็อ้างชื่อเสียงของ STN Groupเพื่อใช้เป็นตัวชี้วัดในการแข่งขันความร่วมมือ
เกี่ยวกับความประพฤติของเขาเหล่านี้ ภวินท์ทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ บวกกับความวุ่นวายของ STN Groupในช่วงนี้ เขายิ่งไม่มีเวลาไม่มีกะจิตกะใจจะไปสนใจบริษัทวรโชติ
ชนัดพลจึงฉวยโอกาสนี้ สร้างแบรนด์แฟชั่นของบริษัทวรโชติอย่างรวดเร็ว หวังจะหาส่วนแบ่งภายใต้แบรนด์ของ STN GroupในตลาดเมืองJ ยังลงทุนจ้างพรีเซนเตอร์ และยังไปแย่งนักออกแบบที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง สร้างกระแสอย่างร้อนแรง
ตอนนี้ เขายังคิดจะจัดงานพิธีตัดริบบิ้นอีก ไปเชิญภวินท์อยู่หลายครั้ง สุดท้ายก็ยอมตกลง โดยจะจัดขึ้นที่ประตูหน้าร้านออฟไลน์ร้านแรกของพวกเขาในเมืองJ
ภวินท์ไปออกงาน นิวราย่อมต้องไปด้วยอยู่แล้ว
แต่เช้าตรู่ เธอก็ไปเข้าร้านเสริมสวย ทำผมอยู่สามชั่วโมง แต่งหน้าสองชั่วโมง แต่งกายสวยหรูทั้งเครื่องประดับเพชรพลอย สว่างไสวราวกับดาราหญิง
ไม่ว่าอย่างไร ภวินท์ออกงานกับเธอในพิธีตัดริบบิ้นของครอบครัวเธอ ต่อหน้าสื่อสาธารณชน เธอนั้นรู้สึกมีเกียรติอย่างมากมาย
เวลานี้ ความประหม่าและความวิตกกังวลที่เกิดจากไปชนคนเมื่อหลายวันก่อนหายไปเล็กน้อย เธอตื่นเต้นมาก ออกงานตรงเวลา ปรากฏต่อหน้าสื่อและสาธารณชนพร้อมกับภวินท์
มีคนมาร่วมงานพิธีตัดริบบิ้นไม่น้อย หลายคนมาร่วมงานเพราะภวินท์ อีกอย่างพิธีจัดขึ้นนอกร้านในพื้นที่เปิดโล่ง จึงดึงดูดความสนใจของผู้คนผ่านไปมาไม่น้อย
เธอทักทายคนใหญ่คนโตตลอดทาง บรรยากาศในงานก็คึกคักขึ้นเรื่อยๆ ชนัดพลนั้นกระตือรือร้นเหมือนเดิม ทำหน้าที่เจ้าของงานทักทายผู้คนอย่างเต็มที่
มีสื่อและนักข่าวยืนถ่ายรูปและบันทึกทุกช่วงเวลาอยู่ข้างๆ
ห้านาทีก่อนพิธีตัดริบบิ้น จู่ๆ ก็มีหญิงวัยกลางคนสวมเสื้อผ้าขาดๆ วิ่งเข้ามาในกลุ่มคน แล้วมาคุกเข่าข้างเท้าของชนัดพลทันที สองมือจับขากางเกงของเขาไว้ “คุณท่านชนัดพล! ท่านจะต้องให้ความเป็นธรรมกับฉัน!”
ผู้หญิงที่บุกเข้ามาอย่างกะทันหันทำให้ทุกคนตกใจ ชนัดพลขมวดคิ้ว ถอยหลังไปสองก้าว อ้าปากกำลังจะตำหนิอย่างเย็นชา จู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่ามีสายตามากมายอยู่ข้างๆ ยังมีสื่อ ทันใดนั้นก็ระงับลง
น้ำเสียงของเขาเบาเล็กน้อย “คุณเป็นใคร?จงใจจะมาก่อกวนใช่ไหม?”
พูดพลาง เขาเงยหน้าขึ้นมองไปทางพนักงานรักษาความปลอดภัยที่อยู่รอบนอก และส่งสัญญาณทางสายตา
พนักงานรักษาความปลอดภัยรีบแทรกเข้ากลุ่มคน อยากจะดึงผู้หญิงวัยกลางคนไป
เห็นเพียงหญิงวัยกลางคนใช้แรงขัดขืนดิ้นรน ตะโกนเสียงดังว่า “คุณท่านชนัดพล! ลูกชายของคุณขับรถชนลูกชายของฉันตาย!คุณต้องคืนความยุติธรรมให้ฉัน!คืนความยุติธรรมให้ฉัน!”
คำพูดประโยคนี้ของเธอ ราวกับยกก้อนหินก้อนใหญ่โยนลงไปในที่ผิวทะเลสาบ “ปัง” หนึ่งเสียง ทำให้เกิดคลื่นมากมายหลายพันหลายหมื่น เมื่อผู้คนที่อยู่ข้างๆ ได้ยิน สีหน้าเปลี่ยนไป นิวราที่อยู่ข้างๆ สีหน้าก็ซีดลงทันที
ภวินท์ยืนอยู่ข้างๆ สีหน้าปกติ แววตาที่ดูเหมือนสงบ แต่ลึกและมืดจนดูไม่ออก
“คุณพูดบ้าอะไร!” ชนัดพลตกใจจนหน้าเสีย รีบเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัย “พนักงานรักษาความปลอดภัย เอาคนบ้าคนนี้ไปให้พ้น!”
ดวงตาของผู้หญิงแดงก่ำ และเธอก็กรีดร้องว่า “ฉันไม่ได้บ้า! ครึ่งปีที่แล้ว ปริญลูกชายของคุณ ขับรถชนลูกชายฉันตาย! หลังจากนั้น จ่ายเงินให้ฉันจำนวนหนึ่ง แล้วไล่ฉันออกจากเมืองJ ฉันไปตกระกำลำบากอยู่นานขนาดนี้จึงกลับมา มันไม่ง่ายที่จะหาคุณเจอ! คุณต้องให้คำอธิบายกับฉัน!”
ทันใดนั้น ในงานยิ่งโกลาหล สื่อที่อยู่ข้างๆ กดแชตรัวๆ อย่างบ้าคลั่ง บันทึกทุกภาพในเวลานี้ไว้!
ตอนนี้ข่าวใหญ่ได้ถูกเปิดเผยในพิธีตัดริบบิ้นของบริษัทวรโชติ เรียกได้ว่าเป็นที่นิยมอย่างมาก!
ชนัดพลโกรธจนตัวสั่นไปหมด กล่าวตัดพ้อเสียงเคร่งขรึมว่า “พูดมั่ว! รีบพานังผู้หญิงบ้าคนนี้ออกไป!ไม่เช่นนั้นจะแจ้งตำรวจ!”
พนักงานรักษาความปลอดภัยสองคนเดินเข้ามาล็อกตัวหญิงวัยกลางคนชายคนขวาคน เห็นเพียงหญิงวัยกลางคนคนนั้นขัดขืน ดวงดาแดงก่ำ ยื่นมือออกมา ชี้ไปทางชนัดพล “ชนัดพล!คุณไม่มีหัวใจ!พวกคุณตระกูลวรโชติ ไม่มีใครดีสักคน!”
พูดพลาง เธอก็ชี้ไปทางนิวราซึ่งอ้าปากตาค้างอยู่ข้างๆ “ยังมีคุณ นิวรา!พวกคุณตระกูลวรโชติทำร้ายคนมามากเท่าไหร่! ในใจรู้ดี! วิญญาณพวกนั้น จะมาหาพวกคุณ! ความเจ็บปวดที่คนพวกนั้นได้รับ จะหวนกลับเข้ามาหาตัวพวกคุณ! วัฏจักรกฎแห่งกรรม แค้นต้องชำระด้วยความแค้น!”
พนักงานรักษาความปลอดภัยจับแขนของเธอไว้ กระชากลากเธอไป น้ำเสียงหญิงสาวแหลมจนเสียงเปลี่ยน ผสมปนไปด้วยความทุกข์และเศร้าโศก ทะลุเข้าไปในหัวใจ
นิวรายืนอยู่ตรงนั้น ตัวแข็งทื่อ ร่างกายเยือกเย็นในพริบตา สีหน้าขาวราวกระดาษ ไม่มีสีเลยแม้แต่น้อย
ญาธิดายืนอยู่รอบนอก ใส่ชุดกระโปรงสีดำ เก็บปฏิกิริยาของเธอไว้หมด
เป็นไปตามคาด นิวรายังคงกลัวอยู่
หากในใจไม่มีความลับ ไม่ได้ทำผิด แล้วเธอจะกลัวจนเป็นสภาพแบบนี้ได้อย่างไร?
ก่อนหน้านั้นเธอเคยได้ยินมาโดยไม่ตั้งใจว่าปริญเคยขับรถชนคนตาย ต่อมาใช้อำนาจปิดไป สามวันก่อน จู่ๆ เธอนึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้ จึงให้ธีทัตส่งคนไปหาครอบครัวผู้ตาย จงใจจัดให้มาก่อกวนในพิธีตัดริบบิ้นของเธอ
ประการแรกนั้นเพื่อจะหยั่งเชิงนิวรา ประการสองนั้นเป็นการสั่งสอนเธอ แม้ว่าเรื่องอุบัติรถในครั้งนี้จะไม่เกี่ยวกับนิวราก็ตาม ถ้าอย่างนี้เรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นการทำเพื่อเรื่องก่อนหน้านั้น
แต่ตอนนี้ เห็นสีหน้าของนิวราแล้ว เรื่องนี้มันต้องไม่ธรรมดา เธอเกือบจะแน่ใจได้แล้ว วาเรื่องอุบัติเหตุรถจะต้องเกี่ยวกับเธอ!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หัวใจญาธิดาตันไปหมด อัดอั้นอยู่ในหัวใจ ทำให้เธอเกลียดจนอดที่จะกำหมัดแน่นไม่ได้
และในเวลานี้ รู้สึกเหมือนมีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองเธออยู่ข้างๆ ญาธิดาขมวดคิ้วเล็กน้อย พอเงยหน้า ก็ประสานเข้ากับสายตาคู่ลึกของชายหนุ่ม
ภวินท์เดินผ่านกลุ่มคน สายตาจ้องมองมาทางเธอ ทั้งสองประสานสายตากันกลางอากาศอย่างซับซ้อนผิดปกติ
ญาธิดารู้สึกแน่นหน้าอก สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แสร้งทำเป็นสงบแล้วละสายตาออก แล้วก้าวเท้าเดินไปทางข้างๆ
เพราะเรื่องเมื่อสักครู่นี้ ตอนนี้ในงานโกลาหลเล็กน้อย สีหน้าชนัดพลยิ่งโกรธจนหน้าเขียวน่าตกใจเล็กน้อย เมื่อพนักงานรักษาความปลอดภัยออกมาเกลี่ยไกล่และระงับเหตุการณ์เรียบร้อย ทุกอย่างในงานดำเนินไปตามลำดับ แต่สีหน้าของแขกในงานนั้นผิดปกติเล็กน้อย
เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นในพิธีตัดริบบิ้นแบรนด์ตัวเอง ไม่ว่าใครก็เก็บอาการไม่อยู่เหมือนกัน
ชนัดพลหยิบไมค์โคโฟนที่อยู่ข้างๆ ขึ้นมา หัวเราะเขินอาย แล้วกล่าวขอโทษ “ขออภัย ที่ทำให้ทุกท่านได้เห็นเรื่องขายหน้า……..”
นิวรายืนอยู่ข้างๆ ยังคงอยู่ในสถานการณ์งุนงง คำพูดของหญิงคนเมื่อกี้ยังกึกก้องอยู่ในหูของเธอ “วัฏจักรกฎแห่งกรรม แค้นต้องชำระด้วยแค้น”
เมื่อนึกถึงอุบัติเหตุรถเมื่อหลายวันก่อน เธอรู้สึกกลัวอย่างอธิบายไม่ถูก เธอได้ให้ลูกน้องไปสืบข่าวมานานแล้ว อัญมณีนอนอยู่ในโรงพยาบาลพัฒนา ผ่าตัดเรียบร้อย แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นขึ้นมา สถานการณ์ไม่ค่อยดี……
เธอครุ่นคิดไป สันหลังเย็นวาบ กลัวจนอธิบายไม่ถูก
“นิว”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงของภวินท์ เธอจึงค่อยได้สติคืนมา
เธอรีบเงยหน้าขึ้น “คะ?”
ภวินท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย จ้องมองเธอแล้วถามขึ้นว่า “เธอเป็นอะไรไป?”
“นิวไม่เป็นไร ” เธอส่ายหัวไปมา ฝืนฉีกยิ้ม “ขอนิวไปห้องน้ำก่อน”
พูดพลางเธอก้าวเท้าหันหลังเดินออกจากในงานที่เสียงดัง
เมื่อมาถึงห้องน้ำ เธอเปิดก๊อกน้ำออก ล้างมืออย่างรวดเร็ว น้ำเย็นไหลผ่านฝ่ามือที่เต็มไปด้วยเหงื่อ ทันใดนั้นทำให้เธอดีขึ้นเล็กน้อย
เธอเงยหน้าขึ้นโดยไม่ตั้งใจ ทันใดนั้นในกระจกก็มีเงาคน ร่างกายเธอสั่นเทา ตกใจจนกรีดร้องออกมา “อ้า!”
ญาธิดาสองมือกอดอก ยืนพิงอยู่ตรงขอบประตูห้องน้ำ สีหน้าไร้อารมณ์ จ้องมองดูเธอด้วยสายตาเย็นชา