ดวงใจภวินท์ - บทที่ 475 แมวร้องไห้ใส่หนู แสร้งทำเป็นเมตตา
บทที่ 475 แมวร้องไห้ใส่หนู แสร้งทำเป็นเมตตา
เลือดบนใบหน้าของนิวราหายไปสิ้น เธอหันกลับมาทันทีและเบิกตากว้างจ้องไปญาธิดาที่ประตู หลังของเธอพิงอ่างล้างหน้า ทั้งตกใจและโกรธ “ทำไมแกเดินมาไม่มีเสียง!เหมือนผี ทำฉันตกใจหมด!”
ญาธิดากระตุกริมฝีปาก ในตาเต็มไปด้วยความเย็นชา “ไม่ได้ทำสิ่งเลวร้าย ก็ไม่กลัวผีมาเคาะประตู แกกลัวขนาดนี้ หรือว่าเป็นเหมือนที่ผู้หญิงคนนั้นพูดเมื่อกี้นี้ ไปทำเรื่องที่ไม่ดีไว้หรือเปล่า ?”
คำพูดลอยๆ สองสามประโยค ทำให้สีหน้านิวรายิ่งดูไม่ได้ในพริบตา “แกพูดมั่วอะไร!”
เธอหลบสายตา รีบหันหลัง เปิดก๊อกน้ำล้างมือปกปิดความประหม่า
ญาธิดาก้าวเท้าเดินเข้าไป เดินจนถึงข้างๆ เธอ แล้วกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ทำไมแกถึงประหม่าเพียงนี้ ดูสิ เหงื่อออกจนเครื่องสำอางบนหน้าลายหมดแล้ว ”
เมื่อนิวราได้ยินเช่นนั้น รีบเงยหน้าขึ้นมองดูกระจก ใครจะรู้ว่าบังเอิญไปพบกับสายตาที่คาดเดาไม่ได้ของญาธิดาเข้า เธอตกใจ สูดลมหายใจลึกๆ แสร้งทำสงบนิ่ง “ญาธิดา แกอย่ามาแสร้งทำเป็นผีเป็นเทพ ฉันไม่หลงกลแกหรอก!”
พูดพลาง จู่ๆ เธอนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ หันหลังกลับมาทันทีมองไปทางญาธิดาแล้วถามขึ้นว่า “ใช่แล้ว พิธีตัดริบบิ้นไม่ได้เชิญแกสักหน่อย แกมาได้อย่างไร!”
ญาธิดายิ้มเยาะเย้ย “พิธีตัดริบบิ้นของพวกคุณไม่ได้เชิญฉัน แต่เชิญตระกูลกรเวชนี่ ทัตงานยุ่ง เดิมทีอันอันควรจะเป็นตัวแทนของทัตมาร่วมงานด้วย แต่ตอนนี้เธอมาไม่ได้แล้ว”
เมื่อเอ่ยถึงอัญมณี สีหน้านิวรามีประกายความประหม่าเล็กน้อย เธอหยิบกระดาษทิชชูมาหนึ่งแผ่น กำแน่นเป็นก้อนโดยไม่รู้ตัว หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เธอถามขึ้นว่า “ทำไมเธอถึงมาไม่ได้?”
มองดูท่าทางแบบนี้ของนิวรา ความคลื่นไส้ออกมาจากใจของญาธิดา มาถึงลำคอ เกือบจะระงับไม่อยู่
เธอเสแสร้งได้ สามารถเสแสร้งไปได้ตลอด แต่สายตาของเธอที่แสดงอาการเล็กๆ ออกมานั้นไม่อาจจะหลอกคนได้!ท่าทางเล็กๆที่เธอทำเพื่อปกปิดความประหม่าโดยไม่รู้ตัว รวมทั้งสายตาที่หลบหลีก ล้วนพอที่จะอธิบายได้ว่าเธอเกี่ยวข้องกับเรื่องอุบัติรถครั้งนี้!
ญาธิดากัดฟันแน่น มองดูหญิงสาวตรงหน้า อยากจะพุ่งเข้าไปฉีกเธอเป็นชิ้น!ผู้หญิงคนนี้ยั่วเธอครั้งแล้วครั้งเล่า ทำร้ายเธอครั้งแล้วครั้งเล่า วางแผนเธอครั้งแล้วครั้งเล่า และครั้งนี้ เธอเหยียบโดนระเบิดเข้าแล้วจริงๆ !
แต่เวลานี้ ไม่มีหลักฐานแน่ชัดที่พอจะยื่นต่อศาลได้ เธอจึงไม่อาจจะทำการหุนหันพลันแล่น มิเช่นนั้นไม่เพียงแต่ไม่อาจทวงความยุติธรรมคืนได้ แต่ยังทำให้เสียเรื่องด้วย
เมื่อนิวราเห็นญาธิดาไม่พูดสักที จึงนำก้อนกระดาษในมือโยนลงในถังขยะที่อยู่ข้างๆ แล้วยิ้มอย่างดูแคลน “ญาธิดา ฉันไม่มีเวลาจะเล่นกับแก ในเมื่อแกอยากจะมาร่วมงานตัดริบบิ้นของบริษัทวรโชติจนจะแย่แล้ว ให้ถือว่าฉันก็อนุญาตแล้วกัน ไปก่อนนะ”
พูดพลาง เธอก้าวเท้าเดินออกจากห้องน้ำไป
ญาธิดาตัวแข็งทื่อ หันหลังมาทันที ตอนที่นิวราจะเดินถึงประตู รีบก้าวเท้าตามเธอขึ้นไป แล้วคว้าไหล่เธอไว้ กระชากไปข้างหลังทันที
นิวรากรีดร้องออกมา ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คนทั้งคนก็ถูกผลักไปที่กำแพงอย่างแรง เธอตกใจ มาถึงตอนนี้ถึงเห็นว่าญาธิดายืนอยู่ตรงหน้าเธอ ระยะห่างของทั้งสองใกล้กันมาก สายตาคู่ดำเป็นประกายแน่วแน่กำลังจ้องมองดูเธออย่างเย็นชา
นิวราตกใจ สูดลมหายใจดึงสติกลับมาแล้ว อยากจะผลักญาธิดาออกทันที “แกเป็นบ้าหรือ!”
ญาธิดากล่าวขึ้นทีละคำอย่างชัดเจนว่า “คุณนิวรา เมื่อกี้คุณถามฉันว่าทำไมอัญมณีมาไม่ได้ไม่ใช่หรือ?เพราะว่าเธอเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ เธอถูกคนบ้าคนหนึ่งขับรถชน คนขับก่อเรื่องแล้วหลบหนีไป แต่ว่า ตราบใดที่ฉันยังอยู่ในเมืองJ ก็จะออกสืบหาทุกวัน ! จะต้องมีสักวัน ที่ฉันจะหาคนคนนั้นออกมา!แล้วส่งเธอเข้าคุกด้วยมือของฉันเอง!ให้เธอได้รู้สึกว่าการทำลายชีวิตคนนั้นมันเป็นอย่างไร!”
นิวราตกตะลึงอยู่กับที่ เหมือนกับถูกเธอทำให้ตกใจ สีหน้าของเธอขาวซีดจนน่ากลัว หลังจากครู่หนึ่ง ญาธิดาปล่อยเธอออก เธอจึงหายใจแรงๆ ดึงสติคืนมา
คำพูดเมื่อกี้นี้ของญาธิดาเหมือนเป็นคำสาป วนเวียนอยู่ในหัวของเธอ รอบแล้วรอบเล่า ความกลัวที่เก็บซ่อนอยู่ในใจยิ่งมากขึ้น มากขึ้นอีก สุดท้าย เธอเก็บไม่อยู่เล็กน้อย
หรือว่า เธอจะรู้แล้วว่าเธอเป็นคนขับรถชนคนหรือ ?ชยินบอกว่าจัดการเรียบร้อยแล้วไม่ใช่หรือ!แล้วญาธิดารู้มาจากที่ไหนอีก!
เธอยิ่งคิดยิ่งกลัว ยิ่งรู้สึกประหม่า
สุดท้าย เธอกัดฟันแน่น รักษาสติสุดท้าย จ้องมองไปที่ญาธิดาแล้วด่าว่า “คนบ้า!”
พูดพลาง เธอก้าวเท้าวิ่งไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว เหมือนกับจะหลบหนีเช่นนั้น
มองดูเงาร่างของนิวรากำลังวิ่งหนีไป ร่างกายที่ตึงราวเชือกของญาธิดาผ่อนคลายลง เธอเหงื่อตกเหมือนกัน หายใจแรงๆ ความอัดอั้นในใจเมื่อกี้นี้ ในที่สุดก็โล่งอก
ที่เธอมาในวันนี้ ก็เพื่อจะมาหยั่งเชิงดูว่าจริงหรือเท็จ ตอนนี้ หลังจากเผชิญหน้ากันแล้ว เธอค่อนข้างจะแน่ใจว่านิวราก็คือคนที่ขับรถชนอันอัน!
ไม่เช่นนั้น เธอจะกลัวจนเป็นแบบนี้หรือ
แต่ในเวลานี้ แม้จะรู้ว่าคนร้ายเป็นใคร แต่ก็จับเธอ ลงโทษเธอได้ความรู้สึกนั้นทำให้ญาธิดาเจ็บจี๊ดในหัวใจ
เธอเข้าไปในห้องน้ำ พอเงยหน้า ก็เห็นดวงตาของตัวเองแดงก่ำ
หยุดอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากสงบสติอารมณ์แล้ว เธอก็ล้างมือ แล้วหันหลังออกจากห้องน้ำไป
ใครจะรู้ เมื่อออกจากห้องน้ำมา เธอก็เห็นว่าข้างนอกมีคนร่างกายสูงใหญ่อยู่คนหนึ่งแล้ว
ภวินท์ยืนพิงกำแพงที่อยู่ไม่ไกลออกไป มือซ้ายจับมือถือวางไว้ข้างหู กำลังพูดโทรศัพท์อยู่ และก็เหมือนกับกำลังรอคนอยู่
เหมือนกับจะสังเกตเห็นสายตาของเธอ เขาหันหน้ามา แววตาสดใสมองมาทางเธอ สีหน้าปกติ ไม่มีความผิดปกติเลยสักนิด เหมือนกับรู้นานแล้วว่าเธอจะออกมาเช่นนั้น
ญาธิดาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ดึงสายตากลับ เหมือนกับพบเจอกับคนแปลกหน้าเช่นนั้น ก้าวเท้าเดินตรงไปทันที
ชายหนุ่มสั่งการอีกฝั่งของโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงเบาว่า “อืม แค่นี้แหล่ะ ”
พูดจบ เขาเก็บมือถือลง ก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าอย่างไม่ลังเล แล้วไปขวางทางของเธอไว้ทันที
“เราต้องคุยกัน ”
ท่าทีญาธิดาเย็นชาและแข็งกร้าว ปฏิเสธทันที “ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ”
ดูเหมือนว่าไม่คิดว่าเธอจะมีท่าทีดื้อดึงขนาดนี้ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย หลังจากครู่หนึ่ง สีหน้ากลับมาอ่อนลง ขยับริมฝีปาก แล้วถามขึ้นว่า “เรื่องวันนี้ คุณเป็นคนทำใช่ไหม?”
เรื่องเมื่อกี้ในพิธีตัดริบบิ้น ต้องบอกว่า จงใจเล็กน้อย แต่ก็ได้ผลบ้าง
ญาธิดาย่อมรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร เธอขมวดคิ้ว มองดูชายหนุ่ม แล้วแกล้งโง่เหมือนเดิม “เรื่องอะไร?ฉันไม่เข้าใจ”
พูดพลาง เธอก้าวเท้าคิดจะเดินอ้อมตัวเขาไป
ภวินท์ยื่นมือข้างหนึ่งออกมา ขวางเธอไว้ทันที “ผมไม่ได้มีความหมายอื่น เพียงแค่อยากจะเตือนคุณ ในเมื่อทำแล้วก็ทำให้สะอาดหมดจด ชนัดพลจะต้องส่งคนไปตรวจสอบอย่างแน่นอน”
เมื่อได้ยินเขาเตือนด้วยความหวังดี ญาธิดายิ้มเยาะเย้ย ไม่รับความหวังดี “คุณภวินท์ ฉันคิดว่าคุณเข้าใจผิดแล้ว ฉันก็แค่มาร่วมสนุกด้วยเท่านั้น ไม่คิดว่าจะได้เห็นฉากนี้ด้วย ใส่ร้ายฉันโดยไม่มีหลักฐานแบบนี้ ไม่ค่อยดีมั้ง?”
เธอเงยหน้าเล็กน้อย อย่างสงบและมั่นใจ พูดจาคารมคมคายให้ตัวเองหลุดพ้น
ไม่รอให้ภวินท์เอ่ยปาก เธอรีบพูดขึ้นว่า “ประธานภวินท์หยั่งเชิงฉันแบบนี้ กำลังหาคนบงการที่อยู่เบื้องหลังอยู่ เพื่อทวงความยุติธรรมให้ภรรยาตัวเองใช่ไหม ?”
พูดอย่างความเป็นกลาง ไม่ว่าอย่างไรภวินท์จะต้องยืนอยู่ข้างนิวรา เรื่องครั้งนี้ทำให้ชื่อเสียงและผลประโยชน์ของตระกูลวรโชติกับนิวรานั้นเสียหาย เขาภวินท์ไม่เพียงไม่ไปช่วยตรวจสอบ แล้วจะใจดีมาเตือนเธอได้อย่างไรกัน? เธอพึมพำอยู่ในใจ แมวร้องไห้ใส่หนูช่างแกล้งเมตตาจริงๆ