ดวงใจภวินท์ - บทที่ 476 ช่วยเธอปกปิดความผิด!
บทที่ 476 ช่วยเธอปกปิดความผิด!
เวลานี้ ญาธิดาเหมือนเม่นตัวน้อยที่มีหนามเต็มตัว คำพูดแต่ละคำสละสลวย มีความหมายทุกคำ
สรุปก็คือ มองเขาเป็นฝ่ายตรงข้าม
ภวินท์ขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย แล้วนึกอีกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ จึงเอ่ยปากถามว่า “ใช่แล้ว เรื่องอัญมณี…..”
“ไม่เกี่ยวกับคุณ”
ทิ้งประโยคนี้ไว้ แล้วญาธิดาก็ก้าวเท้า จากไปอย่างเย็นชา
ตอนนี้ เธอคิดว่า นิวรานั้นเป็นภรรยาของภวินท์ ไม่แน่ว่าจะเป็นคนที่ปกป้องความผิดของเธอด้วย แม้กระทั่งเป็นคนที่คอยช่วยเหลือปกป้องเธอ ไม่มีความคาดหวังใดๆ แล้ว
ดังนั้น สำหรับความเกลียดชังและการตำหนินิวรานั้น ก็เป็นเพราะฐานะของเขาด้วย ที่ทำให้เธอมีอคติและความไม่พอใจตัวเขาไปโดยปริยาย
แววตาภวินท์เคร่งขรึมเล็กน้อย มองดูเงาหลังเย็นชาของหญิงสาว ความสงสัยในใจทวีขึ้น
จู่ๆ เธอปรากฏตัวในงานพิธีตัดริบบิ้น ยังมีหญิงวัยกลางคนที่ถูกคนจงใจจัดมา รวมทั้งเมื่อกี้ตอนที่ออกมาจากห้องน้ำ นิวรากลับมาด้วยสีหน้าหวาดกลัว ความสงสัยเหล่านี้ควรค่าแก่การคิดลึก ค่อยๆ เรียงร้อยเข้าด้วยกัน แล้วเขาก็ได้จะรู้ที่มาที่ไปและเบาะแส
เขาหันหลัง เดินผ่านห้องโถงใหญ่ของร้านค้า กลับไปถึงประตู
ผู้คนข้างนอกยังคงพูดจาหัวเราะปกติ ราวกับเมื่อกี้นี้ไม่ได้เรื่องอะไรขึ้นเช่นนั้น
ภวินท์เดินไปถึงข้างกายนิวรา ดึงเธอไปที่ข้างๆ ที่ไม่ค่อยมีคน แล้วถามขึ้นว่า “นิว ช่วงนี้เธอได้ทำเรื่องอะไรไปบ้างไหม?”
นิวรายังไม่ทันหายจากความตื่นตระหนกเมื่อกี้นี้ เมื่อได้ยินภวินท์ถามขึ้น เส้นประสาทที่เปราะบางที่สุดในหัวสมองตึงเครียดอีกครั้ง “พี่วิน พี่หมายความว่าอย่างไร?”
ภวินท์จ้องมองดูเธอด้วยแววตาสับสน สุดท้ายกล่าวเรียบๆ ว่า “ไม่มีอะไร แค่ถามดู”
นิวราตกใจจนเหงื่อท่วมตัว ยังคิดไม่ออกว่าจะพูดอะไร ชนัดพลก็ให้คนมาตามพวกเขาไป เพื่อทำการตัดริบบิ้น
เมื่อกี้นี้เพราะสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดจึงทำให้ล่าช้าไป ตอนนี้ชนัดพลได้สงบสติอารมณ์ของทุกคนแล้ว แต่ละขั้นตอนดำเนินไปตามลำดับ
นิวราชำเลืองมองภวินท์ที่มีความในใจมากมาย รีบยื่นมือออกไปคล้องแขนเขาไว้ แล้วกล่าวอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้นว่า “พี่วิน ไปเถอะ เราไปตัดริบบิ้นกัน”
“อืม”
ภวินท์ตอบรับหนึ่งเสียง มองดูเธอด้วยสายตาปนคาดเดาเล็กน้อย สุดท้ายก็ไม่พูดอะไรอีก
เวลานี้ ญาธิดาได้ออกจากพิธีตัดริบบิ้น เดินไปถึงรถเก๋งที่จอดอยู่ข้างทาง เปิดประตูออกแล้วขึ้นไปนั่งลง
ธีทัตรอเธออยู่ในรถ เห็นเธอขึ้นรถมา ก็อดที่จะสอบถามไม่ได้ว่า “เป็นอย่างไรบ้าง?”
ญาธิดามองไปข้างหน้าอย่างว่างเปล่า กัดฟันแน่น แล้วกล่าวขึ้นว่า “หากฉันเดาไม่ผิด ก็น่าจะเป็นนิวรา”
เธอพูดจบ ธีทัตขมวดคิ้วขึ้นมา
ไม่คิดว่า นิวราจะโหดเหี้ยมแบบนี้ เรื่องเลวทรามต่ำช้าแบบนี้ก็ทำได้!
ญาธิดาพูดอย่างจริงจัง “ฉันไม่ได้ฉีกหน้ากากเธอ เวลานี้สิ่งที่เราจะต้องทำก็คือรวบรวมหลักฐาน มีหลักฐานเท่านั้น เราถึงจะแก้แค้นให้อันอันได้!”
เมื่อธีทัตที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับได้ยินเช่นนี้ ไม่พูดต่อ แต่เงียบไปเนิ่นนาน
ปฏิกิริยาของเขาแบบนี้ ทำให้ญาธิดาไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วถามขึ้นว่า “ทัต มีอะไรผิดปกติหรือ?”
หยุดไปครู่หนึ่ง ธีทัตจึงเอ่ยขึ้นว่า “ผมกำลังคิดว่า เรื่องคุณถูกจับตัวไปในงานวันเกิดของคุณครั้งก่อน มันเกี่ยวกับนิวราด้วยหรือเปล่า”
คำพูดของเขา ทำให้ญาธิดาตกตะลึง คำพูดของคนสวมหน้ากากผีที่พูดกับเธอปรากฏขึ้นในหัวสมอง ทันใดนั้น เธอรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว
คนสวมหน้ากากผีคนนั้นย้ำแล้วย้ำเล่าให้เธออยู่ห่างจากภวินท์ ไม่ให้ไปพัวพันกับเขา หากเธอฟังเขาแล้วอยู่ห่างๆ ภวินท์ คนที่ได้ผลประโยชน์มากสุดก็น่าจะเป็นนิวรา
หรือว่า เรื่องครั้งก่อนก็เป็นเธอทำ? แล้วการ์ดที่มีรูปใยแมงมุมมันเรื่องอะไรกัน?ไม่ใช่คนกลุ่มเดียวกับที่ให้การ์ดกับเธอก่อนหน้านั้น
หรือว่านิวราจงใจใช้ชื่อของคนอื่นทำเรื่องแบบนี้ เพื่อจะกำจัดความสงสัยของตัวเอง?
เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ บังคับตัวเองให้สงบลง แต่ว่ามือที่วางอยู่ข้างกายสั่นเทาเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว
ตอนนี้สงบลงแล้ว เธอครุ่นคิดอย่างรอบคอบ รู้สึกว่าตอนที่ถูกลักพาตัว กับประสบการณ์เรื่องการ์ดไม่ค่อยเหมือนกันจริงๆ ก่อนหน้านั้นเธอได้รับการ์ดมาเรื่อยๆ ล้วนได้รับสิ่งของ แต่วันเกิดครั้งที่แล้ว ปรากฏว่าถูกคนลักพาตัวไป
เมื่อคิดเช่นนี้ มันมีพิรุธจริงๆ
หรือว่า เรื่องการลักพาตัวครั้งก่อนเป็นฝีมือของนิวราจริงๆ ?
ญาธิดากัดฟันแน่น กำหมัดแน่น สีหน้าเยือกเย็นที่สุด
“ธิดา?”
เสียงเรียกเบาๆ ของธีทัตดังขึ้นมาข้างหู เธอจึงค่อยดึงสติคืนมา
“มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นเธอ” เธอกัดฟัน “ฉันจะไม่ปล่อยเธอไป!”
ธีทัตหยุดไปครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า “ธิดา ที่จริงวันเกิดคุณวันนั้นตอนกลับไปถึงแกรนด์ บูเลอวาร์ด ภวินท์เคยมาหาคุณตอนนั้นเขาเอาการ์ดใบนั้นไป แล้วยังรับประกันกับผมว่าจะไปตรวจสอบ ให้ข้อสรุปกับผม แต่ตอนนี้ ผมยังไม่ได้คำตอบจากเขา”
ทันใดนั้น ญาธิดาขมวดคิ้วแน่น พูดอะไรไม่ออก
ภวินท์น่าจะรู้นานแล้วว่าเป็นฝีมือของนิวรา ที่ไม่พูดก็เพราะว่าเขาไม่ยอมจะส่งเธอออกมา ส่วนที่เขาเอาการ์ดใบนั้นไป ก็เพื่อช่วยปกปิดความผิดของนิวรา!
ทันใดนั้น ญาธิดาขมวดคิ้วแน่น พูดอะไรไม่ออก
จู่ ๆ ความเย็นผุดขึ้นมาจากหัวใจของเธอ ญาธิดาสั่นไปทั้งตัว พูดอะไรไม่ออกอยู่เนิ่นนาน
ดูไปแล้ว ภวินท์ได้ทำการเลือกระหว่างเธอกับนิวรามานานแล้ว แม้ว่าเขาจะแสดงออกต่อหน้าเธอว่าห่วงใยและหวงแหนเธอ แต่ว่า ความสำคัญในใจของเขาเธอเทียบนิวราไม่ได้
ดังนั้น แม้ว่าคนที่ได้รับบาดเจ็บคือเธอ แต่ภวินท์ก็ยอมปกป้องนิวราซึ่งเป็นฆาตกร!
เสียทีที่เธอยังคิดว่าเขาไม่คนอื่น เสียทีที่เธอเคยรักเขาสุดหัวใจ สุดท้าย เธอจึงพบว่า ภวินท์กับนิวรานั้นเป็นจิ้งจอกแร็กคูนจากเขาเดียวกัน เหมาะสมกันมาก!
เธออัดอั้นใจ แสบจมูก จนน้ำตาไหลออกมา
“ธิดา……..”
เมื่อธีทัตเห็นเช่นนั้น รีบเข้าไป เอื้อมมือไปกอดไหล่เธอไว้ แล้วตบไปที่หลังของเธอเบาๆ “พอแล้ว อย่ากังวลไปเลย ทำชั่วได้ชั่ว ผมก็จะไม่ปล่อยพวกเขาไปเหมือนกัน”
ญาธิดากัดริมฝีปากแน่น ในที่สุดก็พยักหน้า แต่น้ำตายังไหลออกมาไม่หยุด ทำให้เปียกเสื้อเชิ้ตตรงหน้าอกของชายหนุ่ม
พูดไปแล้ว ลูกแฝดนั้นก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของภวินท์เหมือนกัน เขาปกป้องคนรักของตัวเอง จนไม่สนความเป็นความตายของคนอื่น ตอนนี้ เธอเห็นสันดานของเขาแล้ว
ใจเย็นลง ญาธิดาค่อยสงบสติอารมณ์ สุดท้าย เธอยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวว่า “โอเค เราไปเถอะ”
เมื่อธีทัตได้ยินเช่นนั้น พยักหน้าเล็กน้อย “โอเค”
เขาพาญาธิดาเดินไปหน้ารถ เปิดประตูรถให้เธอขึ้นไป กำลังจะตามขึ้นรถไป จู่ ๆ มือถือก็ดังขึ้นมา
เขาเหลือบมองดูหน้าจอแล้วสายตาขรึมลงเล็กน้อย แล้วหันไปมองทางญาธิดา กล่าวเสียงเบาว่า “ธิดา คุณรอผมสักครู่”
เมื่อเห็นหญิงสาวพยักหน้า เขาจึงหันหลัง เดินออกไปไม่กี่ก้าว แล้วจึงกดปุ่มรับสาย
“ฮัลโหล หมอกได้เรื่องไหม?”
น้ำเสียงหนักแน่นของชายหนุ่มดังมาจากอีกฝั่ง “ไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับอุบัติเหตุรถของคุณอัญมณี อีกฝ่ายเช็ดอย่างสะอาดหมดจด ภาพในกล้องวงจรปิดทั้งหมดก็ไม่มีแล้ว หากเดาไม่ผิด มีคนใหญ่ข้างบนคุ้มกะลาหัวอยู่อย่างแน่นอน ”
ทันใดนั้น สีหน้าธีทัตขรึมลงเล็กน้อย
ไม่รอให้เขาพูด น้ำเสียงหมอกดังขึ้นมาอีก “แต่ว่า เรื่องที่คุณญาธิดาถูกลักพาตัวก่อนหน้านั้น ได้เบาะแสมาบ้างแล้ว”
“เป็นใคร?”
ธีทัตขมวดคิ้ว “เป็นใคร?”
“หากไม่ผิด ก็น่าจะเป็นหลุยส์ เพื่อนรักของภวินท์คนนั้น ”