ดวงใจภวินท์ - บทที่ 482 จับผู้ก่อเหตุได้แล้ว
บทที่ 482 จับผู้ก่อเหตุได้แล้ว
ญาธิดาที่ยืนอยู่ด้านข้าง ได้ยินเสียงของธีทัต ก็ลนลานขึ้นมาทันที และเอียงหูตั้งใจฟัง
ไม่นาน ธีทัตก็เก็บโทรศัพท์ แล้วหันมามองเธอด้วยสีหน้าช็อกๆ “ตำรวจบอกว่าคนก่อเหตุได้หมอตรวจที่สถานีตำรวจแล้ว”
ญาธิดาก็ช็อกเหมือนกัน ทั้งสองออกมาจากโรงพยาบาล และไปสถานีตำรวจทันที
เมื่อมาถึงหน้าประตูสถานีตำรวจ ญาธิดาก็เห็นคุณชาติ เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนอยู่ด้านนอก พวกเขาถูกนำพาเดินเข้าไปด้านในสถานีตำตรวจ คุณชาติพลางเดินพลางอธิบายสถานการณ์ “ผู้ก่อเหตุมีชื่อว่าจันจิรา แสงทอง อายุ 28 ปี มีความผิดฐานลักทรัพย์มาก่อน เช้านี้หล่อนมาที่สถานีตำรวจและมอบตัวด้วยตัวเอง ภายหลังพบซากรถที่ถูกทิ้งร้าง จากนั้นทางฝั่งตำรวจเราก็พบ DNA ของหล่อนอยู่บนรถ”
ญาธิดาฟัง รู้สึกแค่ว่าเหมือนได้ฟังเรื่องของคนแปลกหน้า จนกระทั่งถูกพามายังห้องขังในสถานีตำรวจ ตอนนั้นเองเธอก็มองเห็นราวเหล็กสีเทาด้านในมีผู้หญิงผิวสีซีดคนนึง
ผมของหล่อนยาว กำลังก้มหน้า เสื้อผ้าเก่าขาด ดวงตาเกรงกลัว
คุณชาติแนะนำให้พวกเขา “หล่อนก็คือจันจิรา”
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึก ทำใจรับไม่ได้ในขณะนึง ในความคิดของเธอ เธอคิดว่านิวราเป็นผู้ต้องสงสัยแน่ๆ ไม่ใช่ผู้หญิงแปลกหน้าที่อยู่ตรงหน้าที่ไม่เคยแม้แต่จะเจอกันมาก่อน
ธีทัตที่อยู่ด้านข้างก็ไม่อยากจะเชื่อ เขาขมวดคิ้ว และถามอย่างซีเรียส “ก่อนหน้านี้บอกว่าตรวจ DNA บนรถไม่เจอไม่ใช่เหรอครับ? ”
ก่อนหน้านี้ไม่ใช่แค่ทางตำรวจตรวจสอบ เขายังเคยส่งหมอกไปตรวจสอบด้วย แต่ผลลัพธ์ก็เหมือนกัน บนรถนั้นสะอาดหมดจด ราวกับเคยถูกคนทำความสะอาดมาแล้ว ไม่ทิ้งหลักฐานเอาไว้สักนิด
คุณชาติพยักหน้า “ก่อนหน้านี้เป็นแบบนั้นจริงๆ แต่หล่อนก็สารภาพว่าวันนั้นที่หล่อนขับรถไม่ระวังไปจนมือจนเป็นแผล พวกเราก็ส่งคนไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกรอบ ก็พบรอยเลือดอยู่ที่ด้านในของพวงมาลัย เอามาตรวจ DNA”
ญาธิดายืนอยู่ด้านข้าง มองดูผู้หญิงที่ถูกขังอยู่ในห้องขัง และยังคงไม่เชื่อ เธอสูดหายใจเข้าลึก และเอ่ยปากถาม “งั้นทำไมเธอต้องชนคนด้วย? พวกเราไม่รู้จักเธอเลยด้วยซ้ำ”
คุณชาติพูดอย่างระวัง “หล่อนบอกว่ารถคันนั้นเป็นรถที่ขโมยมา ที่จริงอยากขายเอาเงิน ต่อมาตอนที่ขับรถเพราะว่าฝีมือไม่คุ้นชิน เลยเข้าใจผิดคิดว่าคันเร่งเป็นเบรก จึงชนคนเข้า ต่อมาเพราะว่ากลัวจึงหนีไป หลังจากนั้นยิ่งคิดยิ่งกลัว จึงมามอบตัวเอง”
ญาธิดาได้ยินดังนั้น ก็ปฏิเสธทันที “เป็นไปไม่ได้!”
หลักฐานทั้งหมดเหล่านี้ไม่บุบสลาย และมันก็สมเหตุสมผล แต่เธอไม่เชื่อว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นเพียงอุบัติเหตุ!
จากที่เธอเห็น อุบัติเหตุครั้งนี้ เป็นการสมคบคิด เป็นการวางแผนล่วงหน้า ยิ่งไปกว่านั้นสามารถเรียกว่าการฆาตกรรม! และผู้หญิงแปลกหน้าที่จู่ๆก็โผล่มาคนนี้ ต้องไม่ใช่คนร้ายแน่ๆ
ดังนั้น จึงเหลือทางเป็นไปได้ทางเดียวแล้ว นั่นก็คือผู้หญิงคนนี้เป็นแพะรับบาปที่คนร้ายหยิบยกมาปกปิดให้รับผิดแทน!
ญาธิดากัดฟันกรอด ก้าวเท้ากว้างไปยังประตูห้องขัง พลางมองผู้หญิงที่อยู่ด้านใน และพูดเสียงดัง “จันจิรา เธอถูกคนอื่นบงการอยู่ใช่มั้ย? หรือว่าถูกคนอื่นข่มขู่มา!”
จันจิราได้ยินดังนั้น ก็ตัวสั่นเทา และส่ายหน้าทันที “ไม่ใช่ เป็นฉันเอง เป็นฉันที่ชนคน! ฉันไม่ได้ตั้งใจ! ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ!”
หล่อนส่ายหัว นัยน์ตามีร่องรอยความกลัวสะท้อนออกมาอย่างเห็นได้ชัด “สวรรค์มีความยุติธรรม คนทำผิดต้องถูกลงโทษ ฉันกลัว ดังนั้นจึงมามอบตัว ฉันชนผู้หญิงคนนั้น แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ!”
ญาธิดาได้ยินดังนั้น มือก็อดไม่ได้ที่จะกำกรงเหล็กแน่น ในใจกลับรู้สึกไร้อำนาจเล็กน้อย
วันนี้ มีคนมามอบตัวด้วยตัวเอง หลักฐานก็มีพร้อม ถ้างั้นคดีนี้ ก็หมายความว่าจบแล้ว แต่ส่วนลึกในใจเธอ มีเสียงดังก้องตลอดเวลา ว่าจันจิราไม่ใช่คนร้าย!
เธอเชื่อมั่น คนร้ายตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังคือคนอื่น!
ออกมาจากสถานีตำรวจ คุณชาติก็พาพวกเขาออกมาส่งที่หน้าประตู รอเขาจากไป ในที่สุดญาธิดาก็ได้จังหวะมองไปทางธีทัต“ทัต คุณคิดว่าเป็นหล่อนมั้ย? ”
ธีทัตส่ายหน้า ขมวดคิ้วแน่น “ไม่ใช่”
“ฉันก็รู้สึกว่าไม่ใช่” ญาธิดากำหมัดแน่น “ผู้หญิงคนนี้ เป็นคนที่ถูกส่งมารับความผิด”
ถ้าหากคนร้ายที่แท้จริงเป็นนิวราล่ะก็ เพื่อที่จะลบล้างความผิดของตัวเอง จึงหาผู้หญิงคนอื่นมาแทนหล่อน แบบนี้ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ถึงยังไง งูพิษอย่างหล่อนก็ไม่เคยสนว่าใครจะเป็นจะตาย
ธีทัตนัยน์ตาเข้ม และพูดอย่างเย็นชา “ตำรวจตรวจสอบไม่เจอ งั้นพวกเราทำได้แค่ต้องหาวิธีตรวจสอบเองแล้ว”
ญาธิดาหันหลัง มองไปทางนัยน์ตาเข้มของชายผู้นั้น ก็ตื่นเต้น “ทำยังไง? ”
ได้ยินดังนั้น ธีทัตหันไปมองทางเธอ สีหน้ากลับมาเป็นปกติ และพูดเสียงเบา “เรื่องนี้มอบให้ฉัน เธอรีบจัดการเรื่องที่จะไปต่างประเทศก็พอแล้ว”
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึก ไม่ได้คิดมาก และพยักหน้าตอบรับ
ตอนนี้พวกเขาได้กำหนดเวลาออกเดินทางโดยประมาณแล้ว ไม่กี่วัน พวกเขาก็ต้องจากเมือง J ไปยังต่างประเทศ ดังนั้นวันที่เหลือสุดท้ายนี้ เรื่องที่สำคัญที่สุดของเธอก็คือต้องจัดการดูแลสิ่งต่างๆที่นี่ให้ดี
แยกกันออกมาจากสถานีตำรวจ ธีทัตก็ไปจัดการเรื่องงานที่บริษัท ส่วนเธอก็ไปที่ห้างฯใกล้ๆ เพื่อเลือกซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้ดร.ยติภัทรกับคุณปภาวี
ครั้งนี้ตัดสินใจเร็วมาก เธอยังไม่ทันได้บอกพวกท่านสองคน ตอนนี้ดร.ยติภัทรกับคุณปภาวีเพิ่งจะใช้ชีวิตใหม่ได้แค่ไม่กี่วัน ตอนนี้อยู่ๆเธอก็จะพาอีธานกับเอลล่าไป เกรงว่าพวกท่านจะรับไม่ได้ชั่วขณะนึง
แต่ว่า สถานการณ์ของอันอันจะล่าช้าไม่ได้แล้ว เธอก็ไม่มีทางเลือก ทำได้แค่ชดเชยให้พวกท่านทั้งสองด้วยวิธีนึง
เดินไปรอบนึง ญาธิดาก็เลือกชุดได้สองชุด รูดบัตรเสร็จ ช่วงว่างที่รอพนักงานห่อเสื้อผ้า เธอก็หันมาเลือกชุดโซนของผู้ชาย
นึกขึ้นมาได้ ว่าหลายปีที่รู้จักธีทัตมา ดูเหมือนเธอจะไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าให้เขาสักเท่าไหร่
เมื่อเธอเลือกเสื้อเชิ้ตลายสีเทาเงิน ขณะที่เธอกำลังจะให้พนักงานห่อมัน ใครจะรู้ว่าหันไป ก็เห็นนิวรากับแม่ของหล่อนกำลังเลือกชุดอยู่ไม่ไกล พอดีกับที่นิวราเงยหน้าขึ้นพอดี ดวงตาของทั้งสองประสานกันกลางอากาศ ทั้งสองฝ่ายต่างก็ชะงัก
ทันใดนั้น สีหน้าของญาธิดาก็เย็นชาลง นัยน์ตาแสดงถึงความเกลียดชังเล็กน้อย ต่อมาก็หันสายตาไปทางอื่นทันที
คิดไม่ถึง ว่าจะบังเอิญเจอหล่อนที่นี่!
“แม่ แม่ดูเสื้อเชิ้ตตัวนั้นสิ สวยมากเลยใช่มั้ย!”
เสียงของนิวราดังมาจากด้านหลัง ตามมาด้วย เสียงฝีเท้าที่เข้ามาใกล้เธอ
ไม่รอให้ญาธิดาตั้งตัว นิวราก็ได้พาคุณหญิงพิมเดินมาด้านข้างเธอแล้ว และดึงเสื้อเชิ้ตสีเทาเงินที่เธอดูเมื่อกี้โชว์ให้คุณหญิงพิม “แม่ ตัวนี้ไง เหมาะกับพี่วินมากเลยใช่มั้ย? ”
“สวยดีนะ แต่ว่าลูกมาเลือกเสื้อให้พ่อไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงคิดถึงวินล่ะ เห้อ! ไม่น่าละคนถึงได้พูดกัน ว่าลูกสาวที่แต่งงานออกไปก็ราวกับสาดน้ำออกไปแล้ว ตอนนี้เห็นคนอื่นดีกว่าคนในครอบครัวแล้ว!”
นิวรายิ้มดัดจริต “ที่ไหนกัน!”
ญาธิดาได้ยินดังนั้น ก็ขมวดคิ้วทันที ก้าวเท้าอยากจะออกไป ใครจะรู้ เท้าของเธอยังไม่ทันก้าว ก็พูดคนเรียกเอาไว้ “นี่มันญาธิดาไม่ใช่เหรอ บังเอิญจังเลย! ที่เจอเธอที่นี่!”
ญาธิดาหันกลับมา มองนิวรา ด้วยสายตาเย็นชา และไม่ได้ตอบรับ
คุณหญิงพิมที่อยู่ด้านข้างได้ยิน “ญาธิดา” สามคำนี้ ก็ขมวดคิ้วทันที อดไม่ได้ที่จะมองเธอ “เธอก็คือ……ญาธิดา? ”
ญาธิดาไม่ปิดบัง ยอมรับตรงๆ “ฉันเอง ทำไมเหรอ? ”
ดูเหมือนว่าท่าทีของเธอจะแข็งกร้าวไปมาก คุณหญิงพิมจึงขมวดคิ้ว สีหน้าก็เย็นชาลงเช่นกัน
ขณะที่เธอจะเอ่ยปากพูดอะไร ใครจะรู้ว่าอยู่ๆนิวราที่อยู่ด้านข้างก็เอ่ยปาก “แม่คะ แม่ไปเลือกเนกไทให้พ่อก่อนนะ หนูมีเรื่องต้องคุยกับเธอหน่อยค่ะ”
คุณหญิงพิมยังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่พอได้ยินนิวราพูดแบบนี้ จึงลังเลอยู่ครู่ สุดท้ายก็พยักหน้า และเดินออกไป
คุณหญิงพิมเพิ่งจะเดินออกไป นิวราก็ยิ้มราวกับไม่ได้ยิ้มพลางพูด “ได้ยินว่า ผู้หญิงคนที่ขับรถชนอัญมณีถูกจับได้แล้ว”