ดวงใจภวินท์ - บทที่ 486 โจมตีอย่างเปิดเผยและซ่อนเร้น
บทที่ 486 โจมตีอย่างเปิดเผยและซ่อนเร้น
ราวกับว่าคิดไม่ถึงว่าเขาจะใช้น้ำเสียงแบบนี้สั่งหล่อน คุณหญิงพิมประหลาดใจเล็กน้อย “วิน นายรู้อะไรมั้ย วันนี้นิวถูกจับตัวไป ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้หญิงคนนี้! วันนี้พวกเขาทะเลาะกันอยู่ในห้างฯ หลังจากนั้นนิวก็หายตัวไป นายว่า! เป็นหล่อนมั้ย……”
ภวินท์พูดทีละคำๆ “เรื่องของนิวผมจะไปจัดการ แต่ต้องปล่อยเธอก่อน”
น้ำเสียงของเขาหนักแน่น ไม่ยอมอ่อนข้อ
“วิน!” คุณหญิงพิมโมโหจนมือสั่นเล็กน้อย “นายถึงกับช่วยคนนอก! ถ้าหากฉันไม่ปล่อยล่ะ นายจะทำอะไรกับฉันได้!”
ภวินท์เม้มปากจนกลายเป็นเส้นตรง สีหน้าเคร่งขรึมพลางพูด “ถ้าหากท่านไม่ยอมปล่อย งั้นผมก็ทำได้แค่แย่งมาแล้ว”
คุณหญิงพิมได้ยินดังนั้น ยิ่งโมโหสุดๆ “นายกล้า……”
หล่อนยังไม่ทันได้พูดจบ ภวินท์ก็ส่งสายตาเป็นนัย ให้ลูกน้องที่อยู่ด้านหลังเขาแยกย้ายตามที่ฝึกมาทันที เข้าล้อมคุณหญิงพิมกับรถที่อยู่ข้างหลังเขาไว้
ท่าทางแบบนี้ ดูไม่เหมือนว่าแค่พูดเท่านั้น เห็นได้ชัดว่า จะลงมือจริงแล้ว
ญาธิดายืนอยู่กับที่ และก็คิดไม่ถึงว่าเพื่อตัวเองแล้วภวินท์ถึงกับไม่ไว้หน้าคุณหญิงพิม
ริมฝีปากบางของภวินท์ขยับ และพูดคำที่ไม่ใส่ใจ “คุณแม่ยาย ล่วงเกินแล้ว”
คุณหญิงพิมโมโหจนตัวสั่น
ถึงแม้เธอจะพาคนหลายคนมาด้วย แต่เธอก็รู้ดี ลูกน้องพวกนี้ของตนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของลูกน้องภวินท์ แล้วก็ขัดแย้งกับเขาไปก็ไม่มีอะไรดี จึงถอยก่อนดีกว่า
เธอสูดหายใจเข้าลึก จ้องภวินท์อยู่เป็นเวลานาน ในที่สุดก็ยอมเอ่ยปาก “ปล่อย!”
ลูกน้องของเธอก็แปลกใจเล็กน้อย มองแล้วมองอีก ในที่สุดก็ผลักญาธิดาไปข้างหน้า
ญาธิดาสะดุด จนเกือบจะล้มลงกับพื้น ภวินท์ยื่นมือออกไป และพยุงเธอไว้อย่างแน่นหนา
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึก เงยหน้ามองเขา ไม่ได้พูดอะไร
ภวินท์เก็บมือ และมองไปทางคุณหญิงพิม และโค้งคำนับเธอเล็กน้อย และพูดขึ้นทีละคำ “คุณแม่ยาย เรื่องของนิวมอบให้ผมจัดการ พรุ่งนี้ ผมจะพาเธอไปส่งที่บ้าน ท่านวางใจได้”
คุณหญิงพิมโกรธจนหน้าเขียวปั้ด สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร หล่อนกัดฟันกรอด สุดท้ายก็จ้องญาธิดาอย่างโหดร้าย และพาคนขึ้นรถ และจากไปอย่างสง่าผ่าเผย
ญาธิดายืนอยู่ด้านข้าง มองดูรถคันนั้นจากไป ความตึงเครียดในใจก็คลายลงเล็กน้อย
ตอนนี้ การโจมตีอย่างเปิดเผยและซ่อนเร้น ต่อสู้ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทำให้เธอตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากแล้ว ป้องกันไม่ได้
นิวรา คุณหญิงพิม แถมยังมีองค์กรประหลาดที่เธอไม่เคยรู้จัก รวมไปถึงภวินท์ด้วย คนพวกนี้ ตราบใดที่อยากจะทำลายเธอ คงจะง่ายดาย
ทันใดนั้น ข้างหูก็มีเสียงทุ้มเข้มของผู้ชายดังขึ้น “ที่ฉันกลัว ก็คือจะเกิดสถานการณ์แบบนี้ขึ้น”
ญาธิดาตั้งสติ และหันมา เผชิญหน้าเข้ากับดวงตาดำเข้มคู่นั้นของชายผู้นี้ เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ ถึงได้รู้สึกว่าฝ่ามือเปียกชุ่มด้วยเหงื่อแล้ว
ภวินท์พูดอย่างเรียบเฉย “ฉันส่งเธอกลับไป”
“ไม่ต้อง” เมื่อเห็นผู้ชายยื่นมือมาทางนี้ ญาธิดากลัวว่าจะหลบไม่ทัน และการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเว้นระยะห่างระหว่างทั้งสอง
ขณะนั้น มือของภวินท์ค้างอยู่กลางอากาศ มันกระอักกระอ่วนอย่างเห็นได้ชัด
ไม่รอให้เขาเอ่ยปากพูดอะไร ญาธิดาก็เดินออกมาด้านข้างถนนอย่างรวดเร็ว เรียกรถแท็กซี่ และขึ้นรถไปอย่างรวดเร็ว
มองแผ่นหลังของผู้หญิงที่จากไป ภวินท์รู้สึกหัวใจบีบรัด มีความรู้สึกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก
ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่เขากับญาธิดากลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว? เห็นได้ชัดว่าเขาทำทุกอย่างเพื่อเธอ แต่เธอกลับไม่เข้าใจถึงเจตนาของเขา
ในตอนนี้ ญาธิดาได้นั่งอยู่บนแท็กซี่แล้ว หนาวเหน็บไปทั้งตัว
วันนี้ เธอยิ่งรู้สึกว่าอยู่ข้างกายของภวินท์แล้วอันตรายมากแค่ไหน คนและเรื่องราวที่ไม่รู้จัก อยู่ๆก็ปรากฏขึ้นมาอย่างคาดไม่ถึง เรื่องแต่ละเรื่อง ทั้งหมดนี้ มันทำให้เธอรู้สึกตื่นตระหนกและหวาดกลัว
จนเมื่อรถแท็กซี่ค่อยๆขับเข้ามาในแกรนด์ บูเลอวาร์ด ก็ได้พบสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย ใจของญาธิดาถึงได้สงบลง
รถมาถึงหน้าประตูคฤหาสน์ ญาธิดาลงจากรถ เมื่อเดินเข้าห้อง ก็เห็นธีทัตนั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น
ธีทัตได้ยินเสียง ก็ลุกขึ้นยืนทันที และเดินมาทางเธอ สีหน้าดูร้อนรนเล็กน้อย “เกิดอะไรขึ้น? โทรไปก็ไม่รับฉันเป็นห่วงเธอมาตลอด”
เมื่อกี้เขาโทรหาเธอเป็นภวินท์ที่รับสาย หลังจากถูกตัดสาย เขาก็โทรหาซ้ำอีกหลายสาย แต่ก็ไม่มีคนรับ เขาจึงเป็นกังวล จึงรีบมารอเธอที่แกรนด์ บูเลอวาร์ด
ญาธิดาส่ายหน้าอย่างเหนื่อยล้าเล็กน้อย “ไม่มีอะไร ภวินท์มาหาฉัน มาถามว่านิวราอยู่ไหน?”
ธีทัตได้ยินดังนั้น จึงรีบถามขึ้น “เขาทำให้เธอลำบากใจหรือเปล่า?”
“เปล่า” ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึกๆ และหันไปมองทางเขา สีหน้าซีเรียสขึ้นไม่น้อย “ทำไมอยู่ๆนายถึงได้จับตัวนิวราล่ะ?”
ธีทัตเงียบอยู่ครู่ จากนั้นถึงได้อธิบาย “จับหล่อนไม่ใช่เป้าหมาย ฉันทำเพื่อล่อชยินออกมา”
“ชยิน?”
เมื่อได้ยินชื่อนี้ ญาธิดาก็สะดุ้ง จากนั้นก็รู้สึกหวาดกลัวอย่างบอกไม่ถูก
เธอรู้ ว่าชยินคนนี้ เป็นลูกน้องที่จงรักภักดีของนิวรา เมื่อห้าปีก่อน เขาเคยลงมือกับเธอ รวมถึงเรื่องครั้งก่อนที่เอลล่าถูกงูกัด ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา
เขาเป็นบุคคลที่ไม่ธรรมดา ไม่ควรประมาท และยิ่งไม่ควรเมินเฉย
ไม่น่าแปลกใจที่ธีทัตจับนิวรา เพียงแค่จะล่อเขาให้ติดเบ็ด เพราะว่าเรื่องที่อันอันประสบอุบัติเหตุคราวนี้ ไม่แน่ว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับเขาด้วย
ธีทัตพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “รอคืนหนึ่ง จากนิสัยของชยิน คืนนี้จะต้องโผล่ออกมาแน่ เมื่อเขาโผล่มา ฉันจะเตรียมการให้คนจัดการเขา พรุ่งนี้เช้า ฉันจะปล่อยคน”
เขาพูด พลางหันมาหาญาธิดา น้ำเสียงอ่อนโยนมากขึ้น “ธิดา เธอคงไม่โทษฉันใช่มั้ย?”
ใช้วิธีแบบนี้ มันก้าวร้าวไปจริงๆ แต่ตอนนี้ เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึกๆ และยื่นมือออกไปตบที่ไหล่เขาเบาๆ พลางปลอบใจ “ฉันเข้าใจ”
ตอนนี้สถานการณ์ของอันอันแย่แบบนี้ เขาที่เป็นพี่ชาย คงต้องอยากจะจับคนร้ายให้เร็วที่สุด
ถ้าหากเป็นเธอ เธอก็คงทำแบบนี้
ตอนนี้ แค่รอค่ำคืนที่ยาวนาน รอจนถึงพรุ่งนี้บ่าย จับชยินได้แล้ว เรื่องนี้ถึงจบลงได้
คืนนี้ ญาธิดาพลิกตัวไปมา แทบจะไม่ได้นอน ตาสองข้างทั้งปวดทั้งเมื่อย อาจเป็นเพราะในหัวสมองอดไม่ได้ที่จะคิดถึงเรื่องนั้นๆ กวนให้เธอนอนไม่หลับ
สุดท้าย เธอจึงลุกขึ้น มากินยาที่ช่วยให้หลับสองเม็ด ถึงจะนอนหลับไป
ใครจะรู้ ว่าหลับรอบนี้ ตื่นมาอีกที ก็ตะวันโด่งฟ้าแล้ว สายแล้ว
ญาธิดารีบลุกขึ้น ล้างหน้าอย่างรวดเร็ว และรีบลงไปข้างล่าง
ก็เห็นคุณปภาวีรดน้ำดอกไม้อยู่ที่ระเบียง ญาธิดาเข้าไปถามทันที “แม่? ทัตไปหรือยังคะ?”
“อืม ออกไปแต่เช้าแล้ว”
ญาธิดาได้ยินดังนั้น ก็หยิบโทรศัพท์ออกมา และกดโทรหาธีทัต
ถ้าหากตอนกลางคืนชยินปรากฏตัว งั้นตอนนี้ก็คงจะจับเขาได้แล้ว
คิดดังนั้น ในใจของเธอก็แอบตื่นเต้น มือที่จับโทรศัพท์ก็กระชับขึ้นเล็กน้อย
หลังจากเสียงรอสายดังหลายครั้ง อีกฝั่งก็มีคนรับสาย “ฮัลโหล?”
เธอถามอย่างตื่นเต้นเล็กน้อย “ทัต? จับชยินได้หรือยัง?”
อีกฝั่งชะงักอยู่ครู่ จากนั้นถึงได้มีเสียงเข้มของผู้ชายดังขึ้นมา “ยัง เขาไม่ปรากฏตัว”
ประโยคนี้ ราวกับน้ำเย็น ราดใส่ญาธิดาตั้งแต่หัวจรดเท้า
พูดแบบนี้ ชยินไม่ปรากฏตัว งั้นที่เขาลักพาตัวนิวรา ขังเธอไว้ทั้งคืน ก็เปล่าประโยชน์แล้วสิ?
“เป็นแบบนี้ได้ยังไง?”
ถ้าหากชยินจงรักภักดีต่อนิวราจริงๆ รู้ว่าเธอโดนลักพาตัว จะต้องเคลื่อนไหวแน่ๆ แต่คิดไม่ถึง เมื่อคืนหนึ่งคืน กลับไม่มีใครออกมาเพื่อนิวรา
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึกๆ และเอ่ยปากถาม “งั้น……จะปล่อยนิวราไปมั้ย?”