ดวงใจภวินท์ - บทที่ 497 สำเร็จหรือล้มเหลวขึ้นอยู่กับสิ่งนี้
บทที่ 497 สำเร็จหรือล้มเหลวขึ้นอยู่กับสิ่งนี้
ทันใดนั้น จิตใจของนิวราเกิดความปั่นป่วน พูดอะไรไม่ออก
วันนี้ตอนเช้า ภวินท์ได้ส่งคนมามอบใบสำคัญการหย่าให้กับเธอแล้วหนึ่งฉบับ เธอไม่ได้เซ็น ซ้ำโมโหจนฉีกใบสำคัญการหย่านั้นทิ้ง คิดไม่ถึงนี่เพิ่งจะเป็นช่วงบ่ายเอง ใบสำคัญการหย่าก็ถูกส่งมาอีก!
เธอกัดฟัน มองดูคนรับใช้ที่นำแฟ้มเอกสารมาส่งให้เธอนอกประตู ก็ยิ่งโกรธ เธอใช้แรงขยำเอกสารเป็นก้อนแล้วโยนใส่หน้าคนรับใช้แรงๆ จากนั้นกล่าวด้วยความโกรธ “ไสหัวไป ไปให้ไกลก็ยิ่งดี!”
คนรับใช้สีหน้าซีดด้วยความตกใจ วิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก นิวรายืนอยู่กับที่ด้วยความโกรธ แต่สักพัก น้ำตาก็ไหลออกมาจากเบ้าตา
เห็นทีครั้งนี้ ภวินท์คงตัดสินใจต้องการหย่ากับเธอแล้วจริงๆ ใบสำคัญการหย่ายังไม่ได้เซ็น เขาก็กุลีกุจอไปป่าวประกาศข่าวลงบนโซเชียลว่าพวกเขาหย่ากันแล้ว จากนั้นก็ส่งคนนำใบสำคัญการหย่ามาให้เธอครั้งแล้วครั้งเล่า นี่เป็นการบังคับให้เธอเซ็นลงนามอย่างเห็นได้ชัด
นิวราหันหลังกลับไปที่ห้อง แล้วปิดประตูอย่างแรง คิดถึงคำพูดชยินที่พูดในโทรศัพท์เมื่อคืน ก็ยิ่งไม่รู้จะทำอย่างไร
เธอรู้ดี ความอดทนของภวินท์นั้นมีจำกัด หากว่าเขาส่งใบสำคัญการหย่ามาอีก แล้วเธอไม่ยอมเซ็น เกรงว่าเขาคงจะนำหลักฐานที่ชนคนไปให้ทางตำรวจเป็นแน่ ถ้าเป็นแบบนี้เธอก็จะยิ่งไม่ได้ค่าชดเชยอะไร
นิวรากัดฟัน หันหลังเดินไปที่ประตู แล้วเปิดประตูห้อง เก็บใบสำคัญการหย่าที่ขยำเป็นก้อนเมื่อสักครู่ขึ้นมา แล้วคลี่เอกสารออก ปัดให้เรียบ จากนั้นเห็นตัวหนังสือสีดำในกระดาษขาว เธอก็ยิ่งไม่รู้จะทำอย่างไรดี
เธอไม่อยากจะเซ็น และก็ยิ่งไม่อยากจะหย่า แต่ว่าตอนนี้ เธอถูกบีบจนถึงทางตัน ไม่มีทางเลือกอื่น
ทันใดนั้น เธอก็เกิดประกายความคิด นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้
บางที ยังสามารถเดิมพันได้อีกครั้ง! ต่อให้ภวินท์จะรู้เรื่องในสิ่งที่เธอทำ แต่ว่าความสัมพันธ์สิบกว่าปีของเธอกับเขา เขาไม่มีทางปล่อยเธอไปโดยไม่สนใจใยดี
เธอเคยกรีดข้อมือเพื่อเรียกร้องความสนใจจากภวินท์ได้สำเร็จ ครั้งนี้ ลองดูอีกครั้งก็น่าจะได้ผล!
สิบนาทีต่อมา เธอวางกล้องไว้บนโต๊ะ เปิดการบันทึก แล้วสูดลมหายใจเข้า กดปุ่มเริ่ม “พี่วินคะ นิวคิดดีแล้ว ใบสำคัญการหย่านิวจะเซ็นให้พี่ ความผิดที่ทำลงไปนิวจะรับผิดชอบ แต่ว่าถ้าชีวิตนี้นิวขาดพี่ไป ก็จะเหลือแต่ความมืดมิด ครั้งหนึ่ง พี่ก็คือแสงสว่างในชีวิตของนิว วันนี้หากพี่ต้องจากไป นิวมีชีวิตอยู่ต่อก็ไม่มีความหมาย และนิวก็ไม่อยากจะอยู่บนโลกนี้ต่อไปอีก…..”
เมื่อบันทึกคำพูดที่ลึกซึ้งถึง “ก้นบึ้งในหัวใจ” แล้ว เธอก็หยิบมีดคัตเตอร์ที่เตรียมไว้ด้านข้าง และเล็งไปที่ข้อมือของตัวเองจากนั้นก็กรีดลงไป
ฉับพลัน ข้อมือที่ขาวเนียนก็มีเลือดสดๆ ไหลออกมา นิวราขมวดคิ้ว เงยหน้าขึ้นมองกล้อง แล้วหายใจเข้าลึกๆ “พี่วิน นิวรักพี่มากจริงๆ ชาตินี้หากเป็นไปไม่ได้ อย่างนั้นชาติหน้านิวจะต้องอยู่เคียงข้างพี่อย่างแน่นอน……”
เมื่อบันทึกวิดีโอเสร็จแล้ว เธอก็หยิบผ้าพันแผลที่เตรียมไว้พันลงบนข้อมือ จากนั้นก็ส่งคลิปวิดีโอนี้ไปให้ภวินท์ทันที
จะสำเร็จหรือล้มเหลวขึ้นอยู่กับสิ่งนี้แล้ว ต่อให้ครั้งนี้บนตัวของเธอจะมีบาดแผลเพิ่มขึ้น ขอแค่สามารถทำให้ภวินท์เปลี่ยนใจ อย่างนั้นก็ถือว่าคุ้ม!
ใครจะไปรู้ว่าเลือดจะไหลไม่ยอมหยุด เธอกดไว้ยังเอาไม่อยู่ เธอจึงอยากจะไปเรียกคนรับใช้ให้นำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ใครจะรู้ เดินไปถึงแค่ประตู จู่ๆ ก็หน้ามืดแล้วก็ล้มลงไปกับพื้น
ในไม่ช้า รถพยาบาลก็มาถึง และนำตัวนิวราที่เสียเลือดมากจากไป สักพัก ก็มีข่าวซุบซิบแพร่กระจายออกไป สำนักข่าวสื่อต่างๆเพื่อความร้อนแรงของกระแส ถึงกับไปเฝ้าที่โรงพยาบาลอย่างไม่ลังเล
เมื่อภวินท์รู้ข่าวนี้ ก็เป็นเวลาตอนเย็นใกล้จะเลิกงานแล้ว
“คุณภวินท์ครับ คุณนิวรากรีดข้อมือ ตอนนี้กำลังรับการช่วยเหลืออยู่ที่โรงพยาบาลครับ”
พายุเดินหน้ามาแล้วก้มหน้ารายงาน พร้อมใช้แท็บเล็ตดึงข่าวที่เกี่ยวข้องออกมาและยื่นให้เขาดู
ภวินท์ขมวดคิ้ว ยื่นมือมารับแล้วเปิดดู จากนั้นกล่าวอย่างเย็นชา “ล้วนเป็นการรายงานข่าวปลอมทั้งนั้น”
พายุกล่าวทีละคำ “แต่ว่านิวราถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลพัฒนาจริงๆ ครับ”
ภวินท์ขมวดคิ้ว “ส่งไปตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ตอนบ่ายสามโมงเย็นครับ”
ได้ยินดังนั้น ภวินท์ก็นึกบางอย่างได้ เขาขมวดคิ้ว แล้วยื่นมือออกไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะ เปิดดูข้อความที่นิวราส่งมาให้เขา
ตอนบ่ายนั้น นิวราได้ส่งคลิปวิดีโอมาให้เขาจริงๆ แต่ว่าเขาไม่ได้เปิดดู
เขาจึงรีบเปิดวิดีโอดู เสียงของนิวราลอยดังออกมา “พี่วินนิวคิดดีแล้ว ใบสำคัญการหย่านิวจะเซ็น……”
ยิ่งดูต่อไปเรื่อยๆ สีหน้าของเขาก็ยิ่งหม่นลง
คิดไม่ถึงว่าสุดท้าย นิวรายังคิดใช้วิธีนี้เพื่อเรียกร้องความสนใจจากเขา!
ตอนนั้นเขาใช้วิธีกรีดข้อมือเพื่อเร่งงานแต่ง ตอนนี้ใช้วิธีนี้เพื่อไม่หย่ากับเขา ต่อให้เขาจะโง่มากแค่ไหน ก็ไม่มีทางที่จะยอมสะดุดก้อนหินก้อนเดียวกันล้มถึงสองครั้งได้
เสียงพายุลอยดังมา “คุณภวินท์ครับ จะไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลพัฒนาไหมครับ”
“ไม่ต้อง”
เขาเพิ่งประกาศเรื่องที่เขาหย่าร้างกับนิวรา ถ้าไปโรงพยาบาลตอนนี้ ไม่เป็นการให้โอกาสเธอเหรอ ถ้าอยากจัดการเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด ใจจะต้องแข็ง
“อย่างนั้นทางตระกูลวรโชติฝั่งนั้น……”
เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “รอดูก่อน”
ตระกูลวรโชติไม่ใช่ตระกูลที่จะรับมือได้ง่าย หากรู้ว่าเขากับนิวราหย่าร้างกัน พวกเขาจะต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุดอย่างแน่นอน เรื่องนี้เขาคิดไว้ตั้งแรกแล้ว และก็เตรียมใจล่วงหน้าแล้วด้วย
ดังนั้นภวินท์จึงตั้งรับอย่างเงียบๆ ไม่ยอมปรากฏตัวตั้งแต่ต้น
และสื่อปาปารัสซีที่เพื่อให้ได้มาซึ่งข่าวร้อนแรง ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ด้วยการเฝ้ารออยู่หน้าโรงพยาบาล ถ่ายรูปคนตระกูลวรโชติที่มาโรงพยาบาลอย่างร้อนรนและรายงานข่าวออกไป โดยส่วนใหญ่ยืนยันว่านิวราเกิดเรื่องขึ้นแล้วจริงๆ
ดังนั้น เรื่องที่เกี่ยวกับนิวราไปโรงพยาบาลอย่างกะทันหันจึงมีการคาดเดาไปต่างๆ นานา ซึ่งคนส่วนใหญ่คิดว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับปัญหาการแต่งงาน บางทีอาจจะเสียใจมากเกินไป จึงคิดฆ่าตัวตาย
กระแสข่าวร้อนแรงขึ้นอย่างฉุดไม่หยุด แม้แต่ญาธิดาที่อยู่บ้านก็เห็นข่าวต่างๆ แจ้งเตือน ตลอดทั้งวันเธอเป็นกังวล ไม่ใช่เป็นกังวลนิวรา แต่เป็นกังวลว่าภวินท์จะได้หลักฐานที่สามารถเอาผิดผู้กระทำผิดมาได้ไหม
วันนี้ เธอได้โทรศัพท์หาภวินท์หลายครั้ง แต่เขาก็ไม่รับสาย
จนสุดท้าย ญาธิดานั่งไม่ติดแล้ว หาข้ออ้างกับคุณปภาวีเสร็จ ก็ออกจากแกรนด์ บูเลอวาร์ดตรงไปที่คอนโดฯส่วนตัวของภวินท์
เธอถามที่อยู่ของเขาจากพายุ
ที่ตรงนั้นเคยเป็นคอนโดฯเล็กๆ ที่เขาเคยเช่าให้กับเธอ คิดไม่ถึงว่าห้าปีแล้ว ภวินท์ยังจะอาศัยอยู่ที่นั่น
เมื่อเข้าสู่เขตชุมชน ตลอดเส้นทางล้วนเป็นทิวทัศน์ที่ทั้งคุ้นเคยและแปลกตา ญาธิดาเกิดความรู้สึกซับซ้อนราวกับเพียงพริบตาเดียว เวลาก็ย้อนกลับไปเมื่อห้าปีก่อน
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ ขึ้นลิฟต์แล้วออกมา ปรับอารมณ์ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เดินไปยังประตูที่คุ้นเคย กดกริ่งประตูครั้งหนึ่ง
เสียง “ติ๊งหน่อง——ติ๊งหน่อง——” ดังขึ้น แล้วประตูก็ถูกผลักจากคนด้านใน
ภวินท์ปรากฏตัวที่หน้าประตู เมื่อเห็นเธอ ความประหลาดใจก็แวบเข้ามาในดวงตา
ดูเหมือนเขาจะเพิ่งอาบน้ำเสร็จ บนตัวของเขาสวมด้วยชุดคลุมอาบน้ำสีขาวขนาดใหญ่ ดูสบายๆ ที่หน้าอกเปิดออกเล็กน้อยเผยให้เห็นผิวสีแทน ผมของเขายังมีน้ำหยดย้อย ดูเซ็กซี่และแน่นกระชับ ราวกับภาพที่เดินได้
ญาธิดาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เงยหน้าขึ้นมอง จ้องเพียงใบหน้าของเขาแล้วเอ่ยปากกล่าว “ทำไมถึงไม่รับโทรศัพท์ของฉัน”
วันนี้เธอโทรเขาอย่างน้อยห้าสาย แต่เขากลับไม่รับสักสาย เป็นเพราะยุ่งจริงๆ หรือว่าต้องการหลบเธอ
เมื่อคิดได้อย่างนี้ ญาธิดาก็รู้สึกโกรธ อดไม่ได้ที่จะยื่นมือมาไปผลักประตูแล้วเดินเข้าไป
ห้าปีก่อน เขาจะชอบ “บุกรุกเข้าบ้าน” แบบนี้ วันนี้ห้าปีให้หลัง เธอก็อยากจะให้เขาลิ้มลองรสชาติแบบนี้ว่าเป็นอย่างไร
เธอเดินเข้าไปในคอนโดฯ เห็นของตกแต่งในบ้านแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ
คิดไม่ถึงว่าทุกอย่างในห้องจะตกแต่งเหมือนกับห้าปีก่อนไม่มีผิด ไม่มีความเปลี่ยนแปลงมากนัก เห็นภาพเช่นนี้ ความทรงจำครั้งก่อนก็หลั่งไหลเข้ามาราวกับน้ำท่วม