ดวงใจภวินท์ - บทที่ 498 ผมอยู่ข้างคุณ
บทที่ 498 ผมอยู่ข้างคุณ
ญาธิดาแอบประทับใจ ในใจเกิดความรู้สึกที่ยากจะอธิบายออกมาได้ เธอสูดลมหายใจเข้าลึก อารมณ์ซับซ้อน
ไม่กี่วินาทีต่อมา เธอดึงสติคืนมา สงบสติครู่หนึ่งแล้วหันไปมองภวินท์ จากนั้นกล่าวทีละคำ “ทำไมไม่รับโทรศัพท์ของฉัน”
พวกเราตกลงกันแล้วว่าจะร่วมมือกัน แต่เขากลับไม่มีข่าวคราว
ภวินท์หยิบผ้าเช็ดตัวจากข้างๆ มาเช็ดผมที่ยังเปียกหมาด จากนั้นกล่าวเบาๆ “ดื่มเบียร์หน่อยไหม”
เขาพลางพูดพลางเดินไปที่ด้านหน้าตู้เย็น แล้วหยิบเบียร์ออกมาสองขวด จากนั้นเปิดออกวางไว้บนโต๊ะ
ญาธิดามองดูทุกการเคลื่อนไหวของเขา แล้วโกรธเล็กน้อย “ภวินท์ คุณได้หลักฐานมาหรือไม่กันแน่”
ก่อนหน้านี้พวกเขาได้ตกลงกันแล้ว เธอรับผิดชอบในการเผยเรื่องจันจิราให้กับนิวรา ส่วนเขารับผิดชอบในการดูปฏิกิริยาตอบสนองของเธอ จับพิรุธของเธอ
หากนิวรามีพิรุธจริงๆ ก่อนที่จะรู้ว่าจันจิราได้พูดความจริง จะต้องนั่งไม่ติดเป็นแน่
ภวินท์จิบเบียร์ช้าๆ และกล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆ “อืม หลังจากที่กลับไปแล้วเธอได้โทรหาชยิน ทางพายุก็หากล่องดำเจอ สามารถยืนยันได้ว่าคนที่ขับรถชนในตอนนั้นคือเธอ”
ได้ยินดังนั้น ญาธิดาก็ตกใจช็อก
ถึงแม้ในใจของเธอจะสงสัยนิวราตั้งแต่แรก แต่วินาทีที่ได้ยินความจริง ในใจก็อดไม่ได้ที่จะหมองหม่นลงเล็กน้อย
ตามที่ภวินท์กล่าว มีหลักฐานแล้ว พวกเขาก็สามารถนำตัวนิวราส่งสถานีตำรวจ กลับคำตัดสินให้กับจันจิราได้ ให้คำอธิบายกับอันอันได้!
เธอจึงรีบเอ่ยปากถามขึ้น “หลักฐานล่ะ ให้ทางตำรวจหรือยัง”
ภวินท์ขมวดคิ้ว สีหน้าเคร่งขรึม ชะงักครู่หนึ่ง แล้วถึงได้กล่าวเบาๆ “ยัง”
มองดูปฏิกิริยาของเขา ญาธิดารู้สึกไม่ค่อยสบายใจในทันใด เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ เอ่ยปากถาม “ทำไม”
ภวินท์วางขวดเบียร์ลง จากนั้นกล่าวเบาๆ “ผมหย่ากับเธอ ถือว่าเป็นการลงโทษแล้ว สำหรับเรื่องที่ต่อไปจะจัดการอย่างไร รอให้อัญมณีฟื้นขึ้นมาแล้วค่อยตัดสินใจอีกทีดีกว่า”
ญาธิดาตกใจ แทบจะเข้าใจในความหมายของเขาทันที “ดังนั้น คุณไม่คิดที่จะมอบหลักฐานเหล่านั้นให้กับทางตำรวจ?”
ภวินท์หันหน้ามา ประสานตากับเธอด้วยสายตาลึกล้ำ “รอให้อัญมณีตื่นขึ้นมาก่อน แล้วพวกเราค่อยให้เธอตัดสินใจ”
“ไม่!” ญาธิดาส่ายหน้า “ฉันทุ่มเททั้งแรงทั้งเวลามากมายเพียงนี้ ก็เพื่อจะทวงความยุติธรรมให้กับอันอัน ตอนนี้เหลือเพียงแค่ก้าวเดียวแล้ว ภวินท์ คุณใจอ่อนแล้วใช่ไหม”
ภวินท์เงียบไม่พูด
ญาธิดาผุดความผิดหวังขึ้นในใจ เธอถามขึ้นอีกครั้ง “คุณใจอ่อนแล้วใช่ไหม”
“หลักฐานเหล่านั้นผมส่งให้กับทางตำรวจอย่างแน่นอน แต่ไม่ใช่ตอนนี้” ภวินท์กล่าวทีละคำ “ผมกับเธอเพิ่งหย่าร้าง หากว่าผมนำหลักฐานไปให้กับทางตำรวจ เกรงว่าเธอจะรับไม่ได้กับแรงกดดันเช่นนี้”
เพราะเรื่องการหย่า ทำให้นิวรากรีดข้อมือฆ่าตัวตาย สถานการณ์ตอนนี้แย่มากพอแล้ว
ญาธิดาได้ยินดังนั้น สีหน้ายิ่งเย็นชา เธอมองชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า แล้วยิ้มอย่างดูแคลน “ภวินท์ ทำแบบนี้สนุกมากเหรอ คุณหลอกฉันตั้งแต่แรกใช่ไหม”
ตอนนั้นบอกว่าจะร่วมมือกับเธอหาผู้ร้ายคือเขา ตอนนี้ได้หลักฐานมาแล้วกลับมาพูดกลับไปกลับมาก็เป็นเขา!
ภวินท์กล่าวด้วยสายตาจริงจัง “รออีกหน่อย รอให้อัญมณีฟื้นขึ้นมา ผมก็จะนำหลักฐานไปให้กับทางตำรวจ”
ตอนนี้เขากับนิวราเพิ่งหย่ากัน เธอก็เข้าโรงพยาบาลอีก หากว่านำหลักฐานไปให้ตำรวจ สำหรับเธอแล้ว คือการต่อยเธอด้วยหมัดแรงๆ อย่างไม่ต้องสงสัย เขากลัวว่านิวราจะไม่สามารถรับได้
ญาธิดายิ้มอย่างดูแคลน แววตาผุดสีหน้าเย้ยหยันประชดประชัน “ภวินท์ คุณนี่มันสุภาพบุรุษจอมปลอมจริงๆ!”
ทิ้งประโยคนี้แล้ว เธอก็หันหลังอยากจะออกไปจากห้องนี้อย่างรวดเร็ว
จะว่าไปแล้ว นี่เธอไม่ใช่ถูกเขาหลอกใช้หรอกเหรอ เธอไม่ควรเชื่อเขาตั้งแต่แรก!
ญาธิดายิ่งคิดก็ยิ่งโมโห มุ่งแต่จะวิ่งออกไปด้านนอก โดยไม่สนใจทางเท้า ใครจะไปรู้เพิ่งจะถึงที่ประตู ก็เหยียบโดนน้ำที่อยู่บนพื้นจนเท้าลื่น คนทั้งคนล้มดัง “ตึง” กองไปกับพื้น
ทันใดนั้น มีความปวดแสบขึ้นตรงหัวเข่า ญาธิดาเจ็บจนสูดลมเย็นๆ เข้า และในเวลานี้ ฝีเท้าเดินเข้ามาทางด้านหลังเธอ แล้วมือใหญ่อันอบอุ่นก็คว้าแขนเธอไว้
ญาธิดาอายจึงพาลโกรธ คำตำหนิติบ่นที่อยู่ในใจก็ยิ่งทวีคูณ ทั้งโมโหทั้งหงุดหงิด สะบัดมือของเขาทิ้งโดยไม่ต้องคิด “อย่าแตะต้องตัวฉัน!”
หลายวันมานี้ เธอแทบจะไม่ได้นอนหลับสนิทสักคืน หัวใจพะว้าพะวัง เป็นห่วงอัญมณี กลัวว่าเมื่อเธอจะไม่ฟื้นตื่นขึ้นมา ยิ่งกลัวว่าคนร้ายจะลงมือกับพวกเขาอีกครั้ง
ในที่สุดก็สามารถระบุตัวคนร้าย ได้หลักฐานมา แต่คิดไม่ถึงว่า กลับไม่สามารถทวงความเป็นธรรมให้กับอัญมณี! จับคนร้ายมาสู่กระบวนความยุติธรรมได้!
ญาธิดายิ่งคิดก็ยิ่งโมโห จมูกฟืดฟัดขึ้น น้ำตาไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
ภวินท์ยืนอยู่ด้านข้าง มองดูหญิงสาวนั่งปิดหน้าอยู่บนพื้นแล้วสะอึกสะอื้น หัวใจราวกับถูกของบางอย่างอุดไว้ก็ไม่ปาน อึดอัดจนหายใจไม่ออก
เขารออย่างเงียบๆ รอให้เธอสงบสติอารมณ์ลง ถึงได้เดินเข้าไป โน้มตัวลงแล้วอุ้มเธอขึ้นมาจากพื้น
ญาธิดาราวกับนกน้อยที่ตกใจกลัว พยายามขัดขืนดิ้นรน อยากจะผลักเขาออก
ภวินท์เลิกคิ้ว กล่าวด้วยน้ำเสียงลุ่มลึก “อย่าขยับ บาดแผลเปิดแล้ว!”
เสียงที่เย็นชาของชายหนุ่มผู้นี้เหมือนกับมีพลังวิเศษ ญาธิดาตัวชะงักค้าง ไม่ดิ้นอีก
ภวินท์อุ้มเธอเดินมาที่หน้าโซฟา แล้ววางเธอลง จากนั้นก็ไปหยิบกล่องยา จัดการล้างแผนพันแผลให้เธออย่างรวดเร็ว
ญาธิดาหรี่ตาลง มองดูชายหนุ่มช่วยเธอจัดการแผลอย่างระมัดระวัง ความโกรธที่อุดไว้ในใจกลับไม่ได้ลดลงแม้แต่ครึ่ง เธอยังคงโกรธ กล่าวด้วยน้ำเสียงประชดประชัน “ภวินท์ คุณไม่น่าเชื่อถือมากกว่าแต่ก่อน ความสามารถในการกลับคำพูดทำให้ฉันต้องมองคุณใหม่”
ได้ยินดังนั้น ชายหนุ่มยังคงทำการพันแผลให้เธออย่างต่อเนื่อง แล้วกล่าวเบาๆ “น้อมรับ”
ญาธิดาก็ยิ่งโกรธ ประหนึ่งกับการต่อยหมัดลงบนนุ่น นุ่มและนิ่มจึงไม่เกิดผล เธอโกรธมาก เขากลับยังคงสงบ!
เธอกัดฟัน ถามด้วยความโกรธ “คุณหลอกใช้ฉันตั้งแต่ต้น คุณไม่เคยคิดที่จะช่วยฉันถูกไหม”
“ผิด”
ภวินท์นำผ้าก๊อซมาพันรอบ กล่าวโดยไม่เงยหน้าขึ้น “หากว่าผมอยากจะปกป้องนิวราจริงๆ ก็คงจะไม่ไปสืบหากับคุณตั้งแต่แรก ผมแค่แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไร ไม่ถามไม่สนใจถูกไหม”
ญาธิดาพูดไม่ออก
พูดมาก็ถูก หากว่าภวินท์อยากปกป้องนิวราจริงๆ ไม่จำเป็นต้องมาร่วมมือกับเธอตั้งแต่แรก
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมได้หลักฐานมาแล้วถึงไม่ยอมมอบให้กับตำรวจ
เธอเลิกคิ้ว “อย่างนั้นความหมายของคุณคือ”
พันบาดแผลเสร็จแล้ว ภวินท์ก็ค่อยๆ เก็บของต่างๆ ลงในกล่องยา เงยหน้ามองมาทางเธอ ดวงตาดำขลับ “ญาธิดา คุณสบายใจได้เลย ผมจะให้ความเป็นธรรมคุณกับอัญมณีแน่นอน”
ขณะที่พูด เขาหยุดชะงักครู่หนึ่ง จากนั้นกล่าวต่อ “ขอให้คุณจงรู้ไว้ ว่าผมนั้นอยู่ข้างคุณก็พอแล้ว”
วินาทีนั้น นัยน์ตาของเขาประกายแสงเจิดจ้า ราวกับลูกระเบิด ที่พุ่งมาที่หัวใจเธออย่างรวดเร็ว จนเธอพูดอะไรไม่ออก
หัวใจของเธอเต้นไม่หยุด แก้มของเธอร้อนผ่าวขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่สามารถควบคุมได้
เขาบอกกับเธอว่าอยู่ข้างเธอ จะเชื่อได้ไหม
หัวสมองหมุนอย่างรวดเร็ว สักพัก เธอได้สติคืน และสงบลง จากนั้นเบนสายตาหนี สูดลมหายใจเข้าลึกแล้วกล่าว “ฉันไม่เชื่อ”
ทิ้งประโยคนี้แล้ว เธอไม่สนใจความเจ็บปวดบนหัวเข่า และยืนขึ้น แสร้งทำเป็นใจเย็นแล้วเดินออกไป
แม้ว่าเธอจะหวั่นไหวเมื่อสบตากับคู่ดวงตาของเขา แม้จะอดไม่ได้ที่จะเชื่อเขาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ว่าเมื่อเธอสงบลง ก็จะมักมีเสียงในใจบอกกับเธอเสมอว่าพวกเขาไม่ใช่คนโลกใบเดียวกัน
เธอเดินมาถึงหน้าประตู มือที่ชี้ลงที่อยู่ข้างตัวเองได้กำหมัดขึ้น เธอสูดหายใจเข้าลึก หันไปมองภวินท์ แล้วกล่าวทีละคำ “ภวินท์ คุณไม่ให้หลักฐานฉันก็ไม่เป็นไร ฉันจะทำให้คนผิดได้รับโทษด้วยวิธีของฉันเอง”
ทิ้งประโยคนี้แล้ว ไม่รอให้เขาตอบกลับ เธอสาวเท้าก้าวออกจากคอนโดฯไป แล้วปิดประตูอย่างแรง