ดวงใจภวินท์ - บทที่ 500 เปิดเผยคลิปวิดีโอ
บทที่ 500 เปิดเผยคลิปวิดีโอ
เมื่อกลับมาถึงชั้นแปด ญาธิดานั่งอยู่ในห้องผู้ป่วย มองดูอัญมณีที่นอนอยู่บนเตียงไม่ขยับเขยื้อน ความกลัวเมื่อสักครู่ได้บรรเทาลงเล็กน้อย
หากไม่ใช่สายเรียกเข้าของโทรศัพท์นั้น บางทีเธออาจจะถูกปริญจับได้แล้ว
ในสมองของเธอวนเวียนด้วยบทสนทนาของคนตระกูลวรโชติตอนที่ได้ยินในหัวมุมชั้นสิบ
และเวลานี้ จู่ๆ มีคนผลักประตูเข้ามา เสียงผู้หญิงที่ชัดเจนก็ดังขึ้น “ธิดา ขอโทษด้วยนะ มีธุระกะทันหัน ฉันมาช้าไป”
เธอได้สติคืนมา ก็หันไปมอง เห็นเกล้าแก้วเดินเข้ามา จากนั้นยกริมฝีปากยิ้มให้กับเธอ แล้วกล่าวเบาๆ “ไม่เป็นไร ฉันเองก็ไม่มีธุระอะไร”
ก่อนหน้านี้เกล้าแก้วรับปากเธอว่าจะไปส่งอัญมณีไปรักษาที่ต่างประเทศด้วยกันกับเธอ เพื่อหลีกเลี่ยงเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อวานเธอบอกว่าจะมาทำความคุ้นเคยก่อนล่วงหน้าสามวัน สำรวจดูสถานการณ์อันอันก่อน
เมื่อสำรวจคร่าวๆ เสร็จแล้ว เกล้าแก้วก็นั่งลงและพูดคุยกับญาธิดา เพราะทั้งคู่ก่อนหน้านี้เป็นเพื่อนสนิทกัน จึงมีหัวข้อเรื่องที่เหมือนกันคุยมากมาย สักพัก อารมณ์ที่หงุดหงิดของญาธิดาก็ดีขึ้นตามเช่นกัน
“เธอยังจำแบงค์ได้ไหม ที่มีฉายาว่าเจ้าอ้วน เดี๋ยวนี้เขามีการตอบโต้แล้วนะ วันนี้ฉันเห็นรูปของเขาในหน้าฟีด ให้เธอดู……”
เกล้าแก้วเป็นคนร่าเริง ทั้งคู่พูดถึงเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งตอนที่เรียนอยู่ในโรงเรียนด้วยกัน ซึ่งสามารถคุยกันได้อย่างไม่จบไม่สิ้น
ญาธิดายิ้ม “เหรอ ฉันอยากดูจริงๆ”
เกล้าแก้วหยิบโทรศัพท์ออกมา เปิดหน้าฟีดขึ้น หาดูอยู่ครึ่งค่อนวัน ถึงได้เจอแล้วให้ญาธิดาดู
ญาธิดายกริมฝีปากยิ้มขึ้น “หล่อขึ้นมากจริงๆ ด้วย แต่ว่าไปแล้ว เธอทำไมถึงมีเฟสบุ๊คของเจ้าอ้วนได้ล่ะ!”
เกล้าแก้วหัวเราะดังฮ่าๆ ขยิบตาให้เธอทีหนึ่ง แล้วแสร้งทำเป็นลึกลับ “ความลับ”
ในห้วงภวังค์ ดูเหมือนว่าเวลาจะหวนคืนสู่อดีตอย่างฉับพลัน และเธอกับเกล้าแก้วได้หวนคืนสู่ช่วงเวลาที่พวกเขาพูดเล่นพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง และพวกเขาก็ใกล้ชิดกันมากขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
“เธอดูคนนี้สิ ตลกมาก”
เกล้าแก้วเปิดหน้าฟีดดูเรื่อยๆ ราวกับการซุบซิบกันระหว่างเพื่อนสนิทก็ไม่ปาน
“เขาบอกว่าในมือของเขามีคลิปฆ่าตัวตายของนิวราที่ส่งให้ภวินท์ก่อนหน้านี้ และยังบอกอีกว่านิวรานั้นกรีดข้อมือฆ่าตัวตาย ใครจะไปเชื่อ!”
ญาธิดาได้ยินดังนั้น ตัวเกร็งขึ้น หันหน้ามองไป เห็นเธอกำลังเปิดดูหน้าฟีด มือก็กำหมัดแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ญาธิดาหายใจเข้าลึกๆ เอ่ยปากถาม “เขาคือใคร”
เกล้าแก้วกล่าวตอบอย่างไม่ใส่ใจ “เพื่อนสนิทของเพื่อนของฉันคนหนึ่ง ก่อนหน้านี้เคยออกไปเที่ยวด้วยกัน ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นผู้ก่อตั้งสตูดิโอนักสืบเอกชนอะไรสักอย่าง”
“ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเขาเล่นมุกตลกหรือเปล่า แต่เมื่อวานฉันยังเห็นเขาพูดในกลุ่มว่า เขารอผู้ซื้อที่ให้ราคาสูง ใครให้ราสูงก็จะมอบคลิปวิดีโอนั้น ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็จะนำคลิปวิดีโอนี้ไปรีดเงินจากตระกูลวรโชติ ก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ……”
เกล้าแก้วพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจ แต่ไม่รู้ว่าญาธิดานั้นฟังอย่างตั้งใจ
เมื่อสักครู่เธอได้ยินสิ่งที่คนในตระกูลวรโชติตอนที่อยู่หัวมุมชั้นสิบ ก็รู้แล้วว่าพวกเขาไม่ต้องการให้ข่าวการฆ่าตัวตายของนิวราแพร่งพรายออกไป เพราะบริษัทวรโชติไม่สามารถต้านแรงกดดันจากคำวิจารณ์ของสาธารณชนได้อย่างแน่นอน ถึงเวลานั้นผู้ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดก็คือพวกเขา
แต่ตอนนี้ คนคนนี้กลับบอกว่าในมือของเขามีคลิปฆ่าตัวตายของนิวรา ซึ่งก็หมายความว่า คลิปนี้หากแพร่งพรายออกไป อย่างนั้นก็สามารถยืนยันเรื่องที่นิวราฆ่าตัวตายได้ ถ้าเป็นแบบนี้ สิ่งที่ชนัดพลทำทุกอย่างเพื่อสยบคำวิจารณ์ทั้งหมดก็จะสูญเปล่า ถึงตอนนั้น บริษัทวรโชติก็จะได้รับผลกระทบ
หัวใจเธอสั่นขึ้น จู่ๆ ก็คิดอะไรบางอย่างได้ เธอหันไปมองเกล้าแก้ว หายใจเข้าลึกแล้วกล่าว “แก้ว แนะนำคนคนนี้ให้ฉันหน่อย”
เธอที่กำลังคิดหาโอกาสสั่งสอนตระกูลวรโชติกับนิวรา วันนี้โอกาสมาแล้ว
……
เช้าวันรุ่งขึ้น มีคลิปวิดีโอถูกเผยแพร่ทั่วอินเทอร์เน็ต ฉับพลันทำให้เกิดคลื่นกระแสทันที
มีบัญชีนึงได้โพสต์คลิปวิดีโอ นิวราที่น่าสงสารในคลิปวิดีโอกำลังขอร้องภวินท์ให้อภัย อ้อนวอนอย่าหย่า สุดท้ายหยิบมีดมากรีดข้อมือของตัวเอง
หลังจากวิดีโอถูกเปิดเผย การคาดเดาทั้งหมดในช่วงสองวันก่อนในที่สุดก็ได้คำตอบที่ชัดเจน นิวรากรีดข้อมือฆ่าตัวตาย เพราะภวินท์ขอหย่าอย่างไร้ปรานี ฉับพลัน ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนโลกอินเทอร์เน็ตขึ้น ชาวเน็ตต่างคาดเดาต่างๆ นานาว่านิวราไปทำอะไรมากันแน่ ถึงทำให้ภวินท์ไม่สามารถให้อภัยได้ นอกใจ? ทรยศ? หรือว่าอย่างอื่น?
ตลอดทั้งช่วงเช้า STN กับบริษัทวรโชติต่างโกลาหล ทุกคนต่างรับมือไม่ทันกับเรื่องนี้ที่ถูกเผยแพร่อย่างไม่ทันตั้งตัว ฝ่ายประชาสัมพันธ์ถึงกับเป็นอัมพาตอย่างสมบูรณ์ ไม่ว่ายัดเงินไปเท่าไหร่ก็เหมือนกับลงไปในหลุมก้นบึ้ง ไม่มีผลลัพธ์ใดๆ
ญาธิดานั่งอยู่ในห้องนอนที่บ้าน เฝ้าดูเรื่องตลกนี้ค่อยๆ ก่อตัวขยายขึ้น
เธอรู้ดีว่าชาวเน็ตมีพลังมากเพียงใด ด้วยความอยากรู้ ทุกคนจะต้องสงสัยในเรื่องที่นิวราพูดออกมาว่าทำผิด ในเมื่อภวินท์ไม่ยอมมอบหลักฐานให้กับเธอ อย่างนั้นเธอก็จะให้ชาวเน็ตที่กว้างขวางไปคาดเดา ไปสืบเสาะ ไปหาเบาะแสเอง
ขณะเดียวกัน คลิปแบบนี้ถูกเปิดเผย ก็จะทำให้บริษัทวรโชติได้รับความเสียหาย ยิงนกทีเดียวได้นกสองตัว
คลิปวิดีโอนี้ เธอซื้อมาจากมือของคนคนนั้น เธอไม่อยากรู้ว่าเขาได้คลิปมาจากไหน ขอเพียงสามารถบรรลุผลที่เธอต้องการ ทุกอย่างก็ไม่สำคัญ
ในเวลาเดียวกัน บริษัทวรโชติได้วุ่นวายจนเละเป็นโจ๊ก
ชนัดพลอยู่ในสำนักงานระเบิดความโมโหออกมา โยนแก้วทิ้ง หัวหน้าแผนกและรองหัวประชาสัมพันธ์ต่างก้มหน้าฟังคำดุด่าตำหนิ ไม่แม้แต่จะกล้าขยับตัว
“ผมจ้างพวกคุณมาทานข้าวฟรีๆ เหรอ! ไสหัวไป! ไสหัวไปให้หมด!”
ชนัดพลโกรธจนเส้นเลือดเขียวปูดโปนออกมา สีหน้าเย็นชาสุดขีด
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ก้มหน้าถอยออกจากห้องสำนักงานอย่างรวดเร็ว ชนัดพลเดินไปมาในห้องสำนักงานอย่างร้อนรน โดยไร้ทางออกแต่อย่างใด
หลายวันมานี้ เขากลัวที่สุดก็คือเรื่องฆ่าตัวตายของนิวราจะแพร่ออกไป คิดไม่ถึงว่าเรื่องนี้สุดท้ายก็เกิดขึ้น
“พ่อ ผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด!”
ปริญเดินออกมา กล่าวด้วยความมั่นใจ “อีกอย่างมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกี่ยวข้องกับภวินท์ เรื่องนี้พวกเราไม่มีใครรู้ หลังจากที่นิวกรีดข้อมือก็ส่งให้กับภวินท์ นอกจากเขาแล้ว ก็ไม่มีใครมีคลิปนี้ ทำไมถึงถูกเปิดเผย จะต้องหลุดมาจากเขาอย่างแน่นอน!”
คำพูดนี้ของเขา สะกิดต่อมความคิดของชนัดพล ชนัดพลขมวดคิ้วแน่น จู่ๆ ก็เข้าใจในทันใด “ใช่ แกพูดถูกต้อง!”
ไม่กี่วินาทีต่อมา เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยอีกครั้ง “แต่การเปิดเผยคลิปวิดีโอนี้ มีประโยชน์อย่างไรกับเขา”
ปริญโต้กลับทันที “ทำไมจะไม่มีประโยชน์! อย่างน้อยก็สามารถยืนยันว่าสาเหตุการหย่าไม่ใช่ความผิดของเขา!”
ทันใดนั้น ชนัดพลก็เงียบไปชั่วขณะ
สักพัก เขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เส้นเลือดเขียวที่ลำคอปูดโปนขึ้น เขาหายใจเข้าลึกๆ กำชับปริญอย่างเย็นชา นำคนของพวกเราไปที่บุก STN Group!
หย่ากับลูกสาวของเขาไม่พอ ตอนนี้ยังบีบบังคับให้พวกเขาหมดหนทางอย่างไร้ความปรานี ความเสียเปรียบนี้เขาไม่มีทางที่จะทนต่อไปได้อีก!
ปริญได้ยินดังนั้น ก็รีบรับคำทันที “ครับพ่อ! ผมจะไปรวมคนเดี๋ยวนี้!”
หลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไป กลุ่มคนจากบริษัทวรโชติก็มุ่งไปที่ STN Group อย่างโครมคราม นำคนทำร้ายรปภ. แล้วบุกตรงเข้าไปในล็อบบี้
เวลานี้ ภวินท์กำลังนั่งอยู่ด้านหน้าโต๊ะห้องทำงาน กำลังฟังคำรายงานการทำงานจากลูกน้อง
ทันใดนั้น ประตูในห้องทำงานก็ถูกผลักออก พายุรีบเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด “คุณภวินท์ครับ คุณชนัดพลยกพวกมา และได้ทุบล็อบบี้บริษัทของพวกเราแล้วครับ”