ดวงใจภวินท์ - บทที่ 505 เหิมเกริมทะเยอทะยาน
บทที่ 505 เหิมเกริมทะเยอทะยาน
เรื่องมาจนถึงตอนนี้แล้ว แค่เธอได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับ STN Group เธอก็อดที่จะให้ความสนใจ และเป็นกังวลไม่ได้ ไม่สามารถที่จะควบคุมตนเองได้เลย
เกล้าแก้วนั่งอยู่ข้างๆเธอ เอ่ยถามว่า “ธิดา เธอเครียดมากหรือเปล่า”
ตอนนี้เวลานี้ สองมือเธอกำโทรศัพท์มือถือไว้แน่น สีหน้าไม่สบายใจ เหมือนกำลังกังวลอะไรบางอย่าง
ญาธิดาได้ยินเสียงก็ดึงสติกลับมา หันไปยิ้มกับเธอ พูดเบาๆว่า “ไม่มีอะไร ก็แค่จู่ๆต้องจากเมืองJกะทันหัน ก็เลยยังปรับตัวไม่ได้”
เกล้าแก้วยิ้ม ยื่นมือสองข้างตบที่หลังมือเธอเบาๆ “ไม่เป็นไร ยังไงอีกไม่นานก็จะกลับไปแล้ว”
ใช่ ไม่นานก็จะกลับแล้ว
ญาธิดาสงบจิตใจ ค่อยๆใจเย็นลงบ้าง
เวลานี้เอง อีธานที่อยู่ข้างๆก็เอ่ยปากว่า “แม่ครับ ผมอยากเล่นเกมแปบนึง ได้มั้ยครับ”
ญาธิดามองดูเวลา ยังมีเวลาสักพักก่อนจะขึ้นเครื่อง เธอเอาโทรศัพท์มือถือส่งให้อีธาน พูดเบาๆว่า “เล่นได้แค่ครึ่งชั่วโมงนะ ไม่อย่างนั้นจะสายตาสั้น!”
อีธานพยักหน้ารับคำ หลังจากได้โทรศัพท์มือถือมาแล้วก็นั่งกอดโทรศัพท์มือถือดูกับเอลล่าที่อยู่ข้างๆไม่หยุด
ผ่านไปสิบกว่านาที ญาธิดาลุกขึ้นไปห้องน้ำ กำชับเกล้าแก้วเป็นพิเศษว่า “แก้ว ฉันไปห้องน้ำหน่อย เธอดูอีธานกับเอลล่าให้ดีนะ”
ดวงตาเกล้าแก้วเปล่งประกาย ยิ้มให้เธอพลางรับประกันว่า “ได้ เธอไม่ต้องห่วงไปเถอะ!”
ญาธิดาพยักหน้า เดินจากไป
เธอเพิ่งจะไป เกล้าแก้วที่ตามมาก็หยิบโทรศัพท์มือถือตนเองออกมา เปิดเกมใหม่เกมหนึ่งขึ้นมา ได้ยินที่เสียงที่ดังมาด้านนอกก็น่าจะสนุก
ไม่นาน ความสนใจของอีธานเอลล่าก็ถูกเบี่ยงเบนจากโทรศัพท์มือถือของญาธิดามาที่เธอแทน
อีธานสนใจมาก เข้ามาใกล้ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ดวงตาที่กลมโตวูบไหว “คุณน้า นี่เกมอะไรเหรอครับ!”
“อันนี้เหรอ! เล่นง่ายมากเลย มานี่ น้าจะสอนเธอ”
ไม่นาน อีธานกับเอลล่าขนาบเธอซ้ายขวา จ้องมองด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เกล้าแก้วเอาโทรศัพท์มือถือตัวเองให้พวกเขาอย่างใจดี “เล่นแบบนี้ ง่ายมั้ย มา ให้พวกเธอลองเล่นดู”
“ผมอยากลองก่อน……”
เด็กสองคนสนใจอย่างมาก ถือโทรศัพท์ของเกล้าแก้วเอาไว้ แล้วเอาโทรศัพท์มือถือของญาธิดาวางไว้ข้างๆ
เกล้าแก้วหันมา สายตาเหลือบมองโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนเก้าอี้ แววตาเคร่งขรึมลง ยื่นมือมาแกล้งทำเป็นหยิบของ ปัดโทรศัพท์มือถือลงมาที่พื้น จากนั้นก็หันหน้าไปมองเด็กน้อยที่กำลังเล่นเกมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ไม่นาน ชายคนหนึ่งแต่งตัวมอซอไม่โดดเด่นก็เดินมา นั่งลงบนที่นั่งที่อยู่แถวหลังพวกเขา นั่งอยู่เฉยๆอยู่พักหนึ่ง จากนั้นอาศัยจังหวะที่ไม่มีใครสนใจ ก้มตัวลงเก็บโทรศัพท์มือถือที่พื้น ใส่ในกระเป๋า ลุกขึ้นเดินจากไป
ตอนที่ญาธิดากลับมา ก็เป็นเวลาที่ใกล้จะต้องขึ้นเครื่องพอดี พวกเขารีบเก็บของ ขึ้นเครื่องทันที
ช่วงเสี้ยววินาทีก่อนจะขึ้นเครื่อง เกล้าแก้วก็ส่งข้อความไปว่า “โทรศัพท์มือถือส่งให้พี่ตะวันแล้ว รหัสของเธอคือวันเดือนปีเกิดของอีธานกับเอลล่า”
หลังจากทำทุกอย่างเสร็จสิ้น เธอก็ลบบันทึกการใช้งานอย่างใจเย็น เปิดโหมดเครื่องบิน แล้วขึ้นเครื่อง
เรื่องที่ภูผาสั่งให้เธอทำ เธอก็ทำสำเร็จแล้ว ที่เหลือ ก็ต้องดูที่ตัวเขาเองแล้ว
เครื่องบินขึ้นแล้ว จากนั้น ไม่เกินหนึ่งชั่วโมง โทรศัพท์มือถือของญาธิดาก็ถูกคนนำมาส่งถึงมือภูผา
ภูผานั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องทำงานท่านประธานที่กว้างขวางและสว่างไสวของบริษัท พีพีมีเดีย เล่นโทรศัพท์มือถือในมือ หลังจากนั้น มุมปากก็กระตุก
เขามองตะวันที่นำโทรศัพท์มือถือมาส่งให้ พูดเบาๆว่า “ภาพที่ให้แกไปถ่ายมาถ่ายแล้วหรือยัง”
“ถ่ายมาแล้วครับ”
ตะวันก้าวมาข้างหน้า เอาโทรศัพท์มือถือที่ใช้ถ่ายรูปส่งมาให้
ภูผาหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องนั้นขึ้นมาอย่างนิ่งๆ เปิดอัลบั้มภาพถ่ายดู ในนั้นมีภาพถ่ายประมาณสามสี่ร้อยภาพ มีภาพถ่ายของญาธิดากับอีธานและเอลล่าตอนที่รออยู่ที่ห้องพักผู้โดยสารขาออก แล้วก็มีภาพตอนที่พวกเขาเดินไปที่ประตูที่ใช้ขึ้นเครื่อง
เขาเปิดดูสองสามรูป หลังจากนั้นสายตาก็จับจ้องไปที่ใบหน้าของเกล้าในภาพถ่าย เกล้าแก้วเดินทางไปพร้อมกับพวกเขา ถูกถ่ายเอาไว้ได้ก็เป็นเรื่องปกติ
นิ้วของภูผากดไปมา ลบภาพที่ถ่ายเห็นใบหน้าเกล้าแก้วเต็มหน้าเอาไว้อย่างไม่ลังเล จากนั้นเม้มปากยิ้มแล้วพูดว่า “ดี จำไว้ว่าคราวหน้าอย่าถ่ายติดผู้หญิงของฉันอีก”
พอตะวันได้ยิน แววตาฉายความตกใจ จากนั้นก็ตั้งสติได้ รีบพยักหน้าตอบรับอย่างนอบน้อมพูดว่า“ครับ!”
ภูผาหัวเราะเบาๆ จากนั้นโยนโทรศัพท์มือถือไปบนโต๊ะ พูดเบาๆว่า “เอาภาพถ่ายพวกนี้ ไปล้างออกมา”
ภาพถ่ายพวกนี้ ยังมีประโยชน์
เขาให้คนไปถ่ายรูปญาธิดากับลูกแฝดเอาไว้เยอะขนาดนี้ จะไม่ให้ภวินท์ดูได้อย่างไร
ตอนเย็น เมื่อได้พบหน้าภวินท์ รูปภาพพวกนี้ก็จะเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย
คิดๆดูแล้ว เขาก็อยากจะเห็นสีหน้าของภวินท์ตอนเห็นภาพพวกนี้ และได้รู้ว่าญาธิดากับลูกแฝดไปจากเมืองJแล้ว
นั่นมันจะมีสีสันมากแค่ไหน
ภูผาหัวเราะเบาๆ มองไปยังครามที่รออยู่ข้างๆ “ไปแจ้งสิงโตได้แล้ว เรื่องสนุกที่เขาเฝ้ารอมานาน คืนวันนี้ก็จะได้เห็นแล้ว”
หลังจากครามพยักหน้ารับคำสั่งแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะเตือนเบาๆว่า “คุณชาย คนของพวกเราทางนั้นส่งข่าวมาบอกว่า ตอนนี้ภวินท์กำลังสืบหาความจริงเรื่องที่คุณรัฐภูมิจมน้ำตายครับ ได้ยินว่าเขาเรียกผู้ถือหุ้นทุกคน มาสัมภาษณ์ทีละคน”
“แล้วยังไงล่ะ”
ภูผาไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด เล่นเครื่องประดับที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน
ครามชะงัก แล้วพูดว่า “ผมเกรงว่าเรื่องที่สองพ่อลูกตระกูลวรโชติเหล่านั้น สุดท้ายแล้วจะเชื่อมโยงมาถึงคุณชาย”
ภูผาได้ยิน ก็หัวเราะออกมา “แกก็รู้ว่าเรื่องนี้พวกเขาเป็นคนทำสองฉันไม่ได้สั่ง สุดท้ายเรื่องนี้จะเชื่อมโยงมาถึงฉันได้ยังไง”
ครามหมดคำพูดไปชั่วขณะ
ภูผาหัวเราะเบาๆ “วางใจเถอะ เรื่องนี้สาวมาไม่ถึงฉันหรอก”
ตอนแรกที่เลือกสองพ่อลูกตระกูลวรโชติมาร่วมงานด้วย เขาก็ได้คิดพิจารณามาดีแล้ว ทั่วทั้งเมืองJ เขาหาเพื่อนร่วมงานที่เหมาะสมกว่าพวกเขาไม่ได้อีกแล้ว สุดท้าย ถ้ามันล้มเหลว นี่ก็เป็นการตัดสินใจของพวกเขาสองพ่อลูก ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลยแม้แต่น้อย
หลังจากอยู่มาหลายปี เขารู้ว่าธรรมชาติของมนุษย์นั้นน่าเกลียด แต่เขากลับใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ได้อย่างเต็มที่ เพื่อให้ตัวเองปลอดภัย
ครั้งนี้ ก็เช่นเดียวกัน
ต่อให้ฟ้าถล่ม คนที่ออกไปทำความผิด ก็ไม่ใช่เขาเด็ดขาด
เพิ่งผ่านหกโมงเย็น ท้องฟ้าเมืองJก็มืดสลัวลงไปแล้ว เมฆดำที่ขอบฟ้าปกคลุมไปด้วยหมอกหนาทึบที่กลบลงมา ทำให้คนรู้สึกหดหู่อย่างอธิบายไม่ถูก
ผ่านการสัมภาษณ์ผู้ถือหุ้นมาทั้งวัน ภวินท์พอจะเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไร เรื่องที่ทำให้เขาประหลาดใจเล็กน้อย คือเขาคิดไม่ถึงว่าชนัดพลและปริญจะเป็นคนของภูผา
ทุกการกระทำของพวกเขาในวันนี้ ทั้งหมดก็เพื่อช่วยปูทางให้ภูผาแย่งชิงอำนาจในอนาคต ขอเพียงพวกเขาได้รับการสนับสนุนมากขึ้น ภัยคุกคามต่อเขาจะยิ่งมากยิ่งขึ้น
ภวินท์เข้าใจข้อนี้ แต่ก็มองเห็นความเหิมเกริมทะเยอทะยานของภูผาได้อย่างชัดเจน
ถ้าในงานเลี้ยง ชนัดพลเกิดมีปากเสียงกับรัฐภูมิจริง เช่นนั้นชนัดพลก็มีความเป็นไปได้มากที่จะลงมือกับเขาจริงๆ ส่วนเรื่องลื่นล้มจมน้ำอะไรนั่น ก็คงจะไม่ใช่อุบัติเหตุแล้ว
ภวินท์ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้มใจ สุดท้ายกว่าจะรู้ตัว ก็ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว
ไม่นาน พายุก็มาเคาะประตู เตือนเบาๆว่า “ท่านประธานครับ ไปได้แล้วครับ”
วันนี้พวกเขาแจ้งผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ที่มาสัมภาษณ์ว่า อยากจะใช้โอกาสนี้ ให้ทุกคนรวมตัวสังสรรค์กัน ไม่แน่ว่าอาจจะได้ข้อมูลอะไรเพิ่มขึ้น