ดวงใจภวินท์ - บทที่ 509 แค้นฝังหุ่น
บทที่ 509 แค้นฝังหุ่น
เกาทัณฑ์เมื่อขึ้นสาย ก็ต้องยิงเต็มเหนี่ยว
หลังจากการเผชิญหน้ากันอย่างเงียบ ๆ ภวินท์และพายุสบตากับกลุ่มอันธพาลที่ล้อมรอบพวกเขาครู่หนึ่ง เริ่มลงมือพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
พวกเขาใช้ร่างกายรับกระบองเหล็ก แย่งอาวุธของคู่ต่อสู้มา ใช้เป็นอาวุธของพวกเขาเอง แต่ถึงกระนั้น กระบองเหล็กก็ยังคงฟาดมาที่ตัวพวกเขาทั้งด้านหน้าด้านหลัง ทางซ้ายและทางขวา…
หลังจากการปะทะกัน ท้ายที่สุดภวินท์ก็ใช้กระบองเหล็ก ยันร่างตัวเองเอาไว้ ฟกช้ำดำเขียวไปทั้งตัว โงนเงน ราวกับว่าเขาอาจจะล้มลงเมื่อใดก็ได้
ไม่ไกลจากนั้น ภูผายืนอยู่ที่นั่น ราวกับกำลังเป็นผู้ชมละคร มีรอยยิ้มมุมปาก สายตาเยือกเย็น
ภวินท์เงยหน้า มองไปที่ภูผา ความเกลียดชังและโกรธเกรี้ยวสาดออกมาจากดวงตา เขาค่อยๆหันหน้า ระวังทุกสิ่งรอบตัวเขา แต่ใครจะไปรู้พอเขาหันมา ก็เห็นพายุกึ่งคุกเข่าอยู่บนพื้น มือขวาของเขากุมหน้าท้อง เลือดไหลทะลักออกมาจากระหว่างนิ้วมือของเขา หยดลงบนพื้น
ทันใดนั้น ภวินท์ก็อยู่ในสภาวะตึงเครียด เขาก้าวไปข้างหน้าทันที เรียกเบาๆว่า “พายุ!”
สีหน้าพายุขาวซีดจนน่าตกใจเล็กน้อย ขยับริมฝีปาก แต่กลับเจ็บจนพูดไม่ออก ภวินท์เห็นอย่างนั้น ความโกรธก็พลุ่งพล่านขึ้นในใจ เซลล์ทุกเซลล์ทั่วร่างกายต่างตื่นตัว
เขาคิดไม่ถึงว่า จะมีใครลงมืออย่างโหดเหี้ยม! คนกลุ่มหนึ่งถือกระบองรุมตีพวกเขาไม่เท่าไหร่ นี่ถึงขั้นใช้กริช!
เขาเงยหน้าขึ้น ดวงตาสีแดงก่ำด้วยเส้นเลือดสีแดงชำเลืองมองดูฝูงชน ดวงตาของเขาเย็นเยียบอย่างน่ากลัว ชายคนหนึ่งในกลุ่มอันธพาลได้ละสายตาไปทางอื่นอย่างรู้สึกผิด เอามือขวาไว้ข้างหลัง
ภวินท์โกรธจัด พุ่งไปข้างหน้าโดยไม่สนอะไรทั้งนั้น กระชากคอเสื้อคนคนนั้นขึ้นมา รัวหมัดใส่หน้าคนนั้นอย่างแรงราวกับห่าฝน!
เขาแค้นจนแทบจะฆ่าคนผู้นี่ทิ้งไปเสียเดี๋ยวนี้เลย
Smart address bar. th.readeraz.com ดวงใจภวินท์ บทที่ 509 แค้นฝังหุ่น – th.readeraz
ไม่นาน นักเลงที่อยู่ข้างๆก็พุ่งเข้ามา ฉุดกระชากเขา จึงแยกพวกเขาสองคนออกจากกันได้
ภูผาที่อยู่ด้านข้างไม่ได้พูดอะไรเลย ค่อยๆยกมือ ส่งสัญญาณให้พวกเขาหยุด สองสามคนควบคุมตัวภวินท์เอาไว้ ไม่ให้เขาขยับเขยื้อนได้
เห็นภูผาเหลือบมองพายุ มองเห็นเลือดไหลจากแผลไม่หยุด คิ้วค่อยๆขมวด หันไปหาครามที่อยู่ข้างกาย
ครามเข้าใจความหมาย เดินไปข้างหน้าทันที ตรวจดูบาดแผลของพายุ จากนั้นก็เดินกลับมา รายงานตามความจริงว่า “คุณชายครับ ดูท่าทางน่าจะแทงโดนอวัยวะอะไรเข้า ถ้าไม่จัดการให้ทันเวลา อาจจะ……”
ครามลางเสียงยาว ภูผาเข้าใจได้ในทันที ว่าเขาหมายความว่าอะไร เขาเลิกคิ้ว เหลือบมองไปยังภวินท์ที่มีแววตาโกรธขึ้งอยู่ด้านข้าง กระตุกมุมปาก หัวเราะเบาๆพูดว่า “พายุเขายังตายไม่ได้ พาเขาไปรักษา”
ครามได้ยินดังนั้น ก็พยักหน้าเบาๆ เดินไปทันที เดินไปทางพายุ ให้ลูกน้องเขาพาตัวเขาไป
ภูผาหันหน้ามา มองภวินท์ที่กำลังจ้องมองเขาด้วยดวงตาแดงก่ำ ยิ้มมุมปาก หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา กดโทรออกไป พูดกับปลายสายว่า“คุณมาได้แล้ว”
หลังจากหยุดชะงักไปเล็กน้อย เขาก็เก็บโทรศัพท์มือถือ วางสายแล้ว ยิ้มหวานพลางมองไปยังภวินท์ ไม่พูดอะไร
ภวินท์มองเขา รู้สึกแค่ว่าเย็นวาบที่แผ่นหลัง ความไม่สบายใจและความกลัวบางอย่างที่อธิบายไม่ได้เกิดขึ้นในก้นบึ้งของหัวใจ
เขาไม่รู้ว่าภูผาคิดจะทำอะไรกันแน่ แต่ตอนนี้ดูแล้ว เขาเพิ่งจะเริ่มลงมือเท่านั้น
ภายในวิหารเงียบงันลง มีกลิ่นคาวเลือดจางๆปกคุลมในอากาศภูผาไม่พูดอะไร ลูกน้องทุกคนจึงยืนถืออาวุธอยู่ข้างไม่ขยับ
ผ่านไปสองสามนาที ก็มีเสียงฝีเท้าดังสม่ำเสมอมาจากข้างนอก มีคนประมาณเจ็ดแปดคน ดำทะมึนเข้ามาจากประตู เมื่อเอาร่มสีดำออก ภวินท์ก็สามารถมองเห็นคนที่เดินอยู่ข้างหน้าได้ชัดเจน รูม่านตาของเขาก็ขยายใหญ่ ความตื่นตกใจฉายออกมาจากนัยน์ตาเขา
กลับเป็นสิงโต! เขาเป็นพวกเดียวกับภูผา!
ร่างผอมดำและรอยย่นบนใบหน้าเขา บวกกับเอกลักษณ์ในการเดินเฉพาะตัวของเขา มีความน่ากลัวเย็นยะเยือกแผ่ออกมาทั่วร่าง
สิงโตเงยหน้า สายตาคมกริบจับจ้องมาที่ร่างของภวินท์ หลังจากหยุดอยู่สองวินาที ก็มองไปที่ภูผา ยิ้มให้แล้วพูดกับเขาว่า “ภูผา!”
เขาสาวเท้ายาวเดินไปหาเขา หัวเราะเสียงดัง ตอนที่เดินผ่านภวินท์ ไม่ชายตามองเขาเลยสักนิดเดียว
ลูกน้องเดินตามมาด้านหลังสิงโต ทุกคนมองไปยังภวินท์ สีหน้าสับสน
สิงโตทักทายกับภูผา ทั้งสองคนยิ้มพูดคุยกันสองสามประโยค จากนั้น ภูผาก็ยิ้มแล้วพูดว่า “คุณสิงโต ของขวัญวันเกิดชิ้นใหญ่ผมมอบให้ท่านแล้วนะ!”
สิงโตยิ้ม มองตามสายตาเขาไปทางภวินท์ จู่ๆสีหน้าก็เปลี่ยนไป แสร้งทำเป็นตกใจ เดินมาข้างหน้าพูดว่า “นี่ไม่ใช่คุณภวินท์หรอกหรือ ทำไมมานอนอยู่ที่นี่ได้ เหมือนหมาตัวหนึ่งเลย”
ภวินท์ได้ยินก็ขมวดคิ้ว มือที่ห้อยอยู่ข้างลำตัวค่อยกไหมัดแน่น ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึง ว่าสิงโตที่ซ่อนตัวไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณะมานานจะอยู่ฝ่ายเดียวกับภูผา! พวกเขาปิดบังได้อย่างแนบเนียนมาก!
สิงโตเดินมาข้างๆเขา ทันใดนั้นก็ยกมือขึ้น ทุบไปที่ท้ายทอยของเขาแรงๆสองครั้ง ยิ้มพลางเอ่ยว่า “เมื่อก่อนไม่เคยเห็นคุณภวินท์อยู่ในสภาพแบบนี้มาก่อน!”
ภวินท์ตัวเกร็ง อยากจะตอบโต้ด้วยสัญชาตญาณ แต่ใครจะไปรู้ว่าพอเขาขยับ ลูกน้องที่อยู่ข้างๆสิงโตก็เข้ามาทันที กดแขนสองข้างเขาเอาไว้ ทำให้เขาไม่สามารถขยับเขยื้อนได้เลย
สิงโตเห็นอย่างนั้นก็ส่งเสียงฮึ่มในลำคอ ถอยหลังไปสองก้าว มองเขาด้วยแววตาเย็นชา “คิดไม่ถึงเลยว่า มาถึงขนาดนี้แล้ว แกยังจะดื้อด้านขนาดนี้!”
พูดพลาง เขาก็หันไปมองลูกน้องที่อยู่ด้านข้าง ทันใดนั้นมีคนส่งมอบกระเป๋าถืออะลูมิเนียมสีเงินให้
สิงโตยื่นมือไปรับ เปิดออกดู หัวเราะเยาะออกมา “ให้มันใช้หลอดหนึ่ง ฉันจะลองดูสิ ว่าจะทำให้หมาที่ดื้อรั้นอย่างมันยอมศิโรราบได้มั้ย!”
ภวินท์เย็นวาบไปทั้งตัว เงยหน้ามองกระเป๋าถือใบนั้นอย่างระแวง “แกจะทำอะไร!”
สิงโตมองเขาที่สุดท้ายก็ปริปากพูด หัวเราะเยาะ ถอยไปอยู่ข้างๆ สังเกตการณ์ด้วยสายตาเย็นเยือก “ภวินท์ แกคงไม่ได้ลืมความแค้นระหว่างเราสองคนหรอกนะ”
พูดพลาง เขาก็ยกมือข้างหนึ่งมา ถลกเสื้อแขนยาวลง เผยให้เห็นนิ้วมือ เขายื่นมือมา เอาปลอกนิ้วสีดำสวมลงบนนิ้วก้อย ทันใดนั้น นิ้วก้อยที่ถูกตัดออกก็มีรอยตัด มองไปแล้วดูแปลกและน่ากลัวเล็กน้อย
“ตอนนั้น นิ้วก้อยของฉันนิ้วนี้ ถูกแกตัดขาด!”
สิงโตพูดอย่างไม่สะทกสะท้าน “หลายปีมานี้ พวกเราเปิดศึกกันทั้งต่อหน้าและลับหลัง หลบซ่อนตัวจากแก เล่นเกมซ่อนหา ชีวิตแบบนี้ ฉันเกลียดมานานแล้ว!”
“ภวินท์ แกควรจะต้องหายสาบสูญแล้ว!”
พูดพลาง เขาก็หันหน้าไปทางภูผา ทั้งสองคนหัวเราะร่วน บรรลุข้อตกลงร่วมกัน
ภวินท์ได้ยินก็ส่งเสียงฮึ่มในลำคอ “สิงโต แกคิดว่าแกทำแบบนี้แล้วแกจะเอาตัวรอดได้เหรอ ต่อให้ไม่มีฉัน ก็ยังมีผู้คนอีกนับไม่ถ้วนที่แย่งกันเอาแกเข้าคุก ตัดสินประหารชีวิต ฆ่าฉันตายไปคนหนึ่ง แกหนีความผิดที่แกทำเหล่านั้นไม่ได้หรอก!”
น้ำเสียงเขากึกก้อง ทรงพลัง
สิงโตได้ฟัง สีหน้าก็ค้างเกร็งทันที สายตาที่มองเขามีความดุร้ายขึ้นมา!
“ภวินท์ ฉันได้เห็นแกตายด้วยตาตัวเอง ก็พอใจมากแล้ว!”
สิงโตพูดพลาง ส่งสัญญาณให้ลูกน้องพลาง จากนั้น ภวินท์ก็รู้สึกว่ามีอะไรทิ่มแทงเข้าไปที่ท้ายทอยเขา ของเหลวเย็นเฉียบเข้าสู่ร่างกาย จากนั้น ไม่นาน ร่างกายเขาก็อ่อนแรงไปทั้งตัว ไม่มีเรี่ยวแรงเลยแม้แต่น้อย
หัวใจเขาจู่ๆก็เต้นระรัว เขาสูดลมหายใจลึกๆ รู้สึกว่าร่างกายและแขนขาไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของตนเองอีกต่อไป แต่สมองกลับตื่นตัวมีสติอยู่
เขาเงยหน้ามองไปยังสิงโตและภูผา ตัวสั่นขึ้นมาอย่างที่ไม่อาจควบคุมได้ เขากัดฟันกรอด พูดว่า “พวกแกทำอะไรกับฉัน!”
มุมปากสิงโตกระตุก เป็นรอยยิ้ม หน้าตาน่ากลัว “ภวินท์ แก“ดี”กับพวกเราขนาดนี้ พวกเราก็ต้องให้แกลิ้มรสกับนรกบนดิน!”