ดวงใจภวินท์ - บทที่ 537 ถูกลักพาตัว
บทที่ 537 ถูกลักพาตัว
สถานที่นัดพบคือStarlight Mall นอกจากมีที่ให้เดินช้อปปิ้ง มีร้านอาหารอร่อย ๆ แล้ว ที่สำคัญที่สุดคือยังใกล้กับบริษัทของธีทัตด้วย
ญาธิดารอพบธีทัตอยู่ที่ร้านกาแฟเปิดโล่งแห่งหนึ่งบนชั้นหนึ่ง เธอรอจนใกล้จะครบ10นาทีแล้ว แต่ธีทัตก็ยังไม่มา ขณะกำลังลังเลอยู่สักพักว่าจะโทรหาดีไหม ทันใดนั้นก็มีมือคู่หนึ่งยื่นมาปิดตาเธอจากด้านหลัง
จากนั้นข้าง ๆ หูก็มีเสียงอันอบอุ่นของชายหนุ่มพูดขึ้น “ทายสิผมเป็นใคร ?”
ญาธิดายิ้มมุมปากพยายามดึงมือออก และพูดว่า “เล่นเป็นเด็กน้อยไปได้” ขณะนั้นเองแก้มของเธอก็ร้อนขึ้น จู่ ๆ ก็มีริมฝีปากประทับบนแก้มของเธอ
มือขนาดใหญ่ค่อย ๆ เปิดออก เธอค่อย ๆ กลับมามองเห็นอีกครั้ง และสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเธอก็คือใบหน้าที่ยิ้มแย้มของธีทัต
รอยจูบบนแก้มของญาธิดาร้อนผ่าว จู่ ๆ เธอก็หน้าแดงระเรื่อ “เจ้าบ้า”
“งั้นเหรอ?” ธีทัตดูปฏิกิริยาของเธอ จากนั้นจับมือเธอและหัวเราะ “แล้วคุณเคยได้ยินมาบ้างหรือเปล่า ว่าผู้ชายเวลามีความรักมักจะทำตัวเป็นเด็กน่ะ”
ญาธิดาหัวเราะจนน้ำตาไหล และเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว “เวลาก็ล่วงเลยมาสักพักแล้ว พวกเราไปซื้อของกันเถอะ …”
ธีทัตหัวเราะและรีบเดินตามไป “ก็ได้ ”
ในขณะเดียวกันนั้น พวกเขาต่างก็ไม่รู้เลยว่ากำลังถูกจับตามองด้วยกล้องวงจรปิด ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นถูกคนมองดูอยู่ตลอดเวลา
เมื่อไม่กี่วันก่อน มีรายงานจากลูกน้องว่า “ก่อนหน้านี้ ญาธิดาได้เข้าไปยัง STN Group ตามที่สายลับของเรารายงานว่าเธอเข้าไปยังห้องทำงานของภูผา และพูดคุยกันอยู่ด้านในสองคน หลังจากนั้นจนกระทั่งเมื่อวานก่อนจะเกิดเรื่องขึ้น ธีทัตหลังจากกลับมาจากต่างประเทศก็รีบเข้าไปที่ STN Groupเพื่อพบกับภูผาเช่นกัน”
ภวินท์ได้ยินดังนั้น เขากำหมัดแน่น และทั้งตัวสั่นเทาไปด้วยความโกรธ จนเกือบจะควบคุมไม่ไหวอีกต่อไป
เมื่อไม่กี่วันก่อน มีรายงานจากลูกน้องว่า “ก่อนหน้านี้ ญาธิดาได้เข้าไปยัง STN Group ตามที่สายลับของเรารายงานว่าเธอเข้าไปยังห้องทำงานของภูผา และพูดคุยกันอยู่ด้านในสองคน หลังจากนั้นจนกระทั่งเมื่อวานก่อนจะเกิดเรื่องขึ้น ธีทัตหลังจากกลับมาจากต่างประเทศก็รีบเข้าไปที่ STN Groupเพื่อพบกับภูผาเช่นกัน”
ในตอนแรกที่เขารู้ข่าวจากหลุยส์ว่าเมื่อวานญาธิดาเข้าไปที่สถานปฏิบัติธรรม ตอนนั้นเขามีบางอย่างที่สงสัยอยู่ แต่หลังจากได้ฟังรายงานจากลูกน้องแล้ว เขาก็เกือบจะมั่นใจอะไรบางอย่างได้ทันที
ไม่แน่ว่า ญาธิดาจะอยู่ข้างเดียวกับภูผาอยู่แล้ว อาจเป็นเพราะอุบัติเหตุรถคว่ำของอัญมณีครั้งนั้น ทำให้เธอเกลียดเขามาโดยตลอด เธอคงโทษตัวเองที่ไม่ยอมมอบหลักฐานที่นิวราชนคนให้กับตำรวจ สังเกตจากครั้งแรกที่วิดีโอฆ่าตัวตายของนิวราถูกเปิดเผยออกมา หลังจากนั้นเธอก็ไปต่างประเทศอย่างไม่ลังเล แต่จู่ ๆ เธอก็กลับมา ต้องเป็นเพราะเธอต้องการแก้แค้นเขาแน่
ก่อนหน้านี้ที่เขาได้ฟังจากปากหลุยส์ว่าเธอกำลังตามหาเขา แท้จริงแล้วเธอกำลังทำงานให้กับภูผาอยู่ต่างหาก
นี่คือความเป็นไปได้เดียวที่เขานึกออก และก็มาจากข้อมูลทั้งหมดที่เขามี ภวินส์รับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดจากหัวใจ ตลอดหนึ่งเดือนกว่าที่ผ่านมา ทำให้เขาเข้าใจหลายเรื่องมากขึ้น โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดขึ้นในใจของเขา เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าเธอจะเกลียดตัวเองได้ถึงเพียงนี้
เขากำหมัดแน่น เพียงแค่นึกถึงเรื่องที่เจ้าอาวาสถูกฆ่าตาย กับการหายตัวไปของนักบวชเฒ่าและคนอื่น ๆ มันก็ทำให้เขาเจ็บปวดราวกับโดนมีดทิ่มแทง
จนกระทั่งตอนนี้ เขาเองก็ยังไม่ได้ตาสว่างพอ
เพียงเพราะผู้หญิงคนเดียว จนทำให้คนใกล้ชิดกับเขาต้องตาย
เพียงเพราะผู้หญิงคนเดียว เขาทำให้ผู้มีบุญคุณเดือดร้อนไปด้วย ถึงขั้นเสียชีวิต
เพียงเพราะผู้หญิงคนเดียว ทำให้เขาทำแต่เรื่องผิดพลาดมากมาย
เมื่อคิดได้ตอนนี้ เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด เป็นเพราะการตัดสินใจของเขาเอง
จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวด จนเขาแทบจะรับไม่ไหว เขามองดูภาพบนหน้าจอ เป็นธีทัตเดินเข้าไปในร้านขายเสื้อผ้า โดยมีญาธิดาอยู่ในอ้อมแขนของเขา
เขาหลับตาลง สูดหายใจเข้าลึก ๆ ปรับอารมณ์ของตัวเอง จนในที่สุด เขาพูดออกมาประโยคหนึ่ง “เอาตัวเธอมาให้ฉัน”
…
“คุณว่าชุดนี้เป็นไงบ้าง?”
ในร้านเสื้อผ้าบูติกระดับไฮเอนด์ ธีทัตกำลังเลือกเสื้อผ้าอยู่ และขอความคิดเห็นของญาธิดา
ญาธิดายิ้มขึ้นพลางพยักหน้าเบา ๆ “สวยหมดเลย แต่ฉันไม่เอาหรอก ที่บ้านยังเหลือชุดใหม่ที่ยังไม่ได้ใส่อีกเพียบ”
“ผมอยากซื้อให้คุณน่ะ” ธีทัตพูดอย่างยิ้มแย้ม จากนั้นเขาก็ยื่นกระโปรงสีม่วงไปให้เธอ และพูดว่า “ผมจำได้ว่าคุณยังไม่เคยลองใส่กระโปรงสีนี้เลย เข้าไปลองข้างในหน่อยสิ”
พนักงานด้านข้างเดินเขามาอย่างยิ้มแย้มและพูดว่า “คุณผู้ชายรสนิยมสูงมากค่ะ กระโปรงตัวนี้เป็นคอลเล็คชั่นใหม่ แถมสีม่วงก็กำลังได้รับความนิยมในปีนี้ด้วยค่ะ ภรรยาของคุณเป็นคนผิวขาวใส่แล้วเหมาะมากค่ะ”
ธีทัตก็ใจพองโต มองไปที่ญาธิดาด้วยรอยยิ้ม“คุณเข้าไปลองสิ”
ได้ฟังทั้งธีทัตและพนักงานพูดโน้มน้าว เธอยิ้มพลางตอบรับ จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องลองเสื้อผ้า
หลังจากพนักงานสาวเห็นเธอเดินเข้าไปยังห้องลองเสื้อผ้า เธอก็หันมาแนะนำเสื้อผ้าสำหรับผู้ชายต่อ “คุณผู้ชายคะ กระโปรงที่ภรรยาของคุณเข้าไปลองเมื่อสักครู่ เข้ากันกับชุดสูทนี้มาก คุณอยากจะเข้าไปลองด้วยไหมคะ?”
ธีทัตแม้จะอยากปฏิเสธ แต่จู่ ๆ ก็นึกอะไรขึ้นได้ มองไปที่ชุดสูทดวงตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม พลางพูดว่า “ผมขอลองชุดนี้เป็นไซส์ของผม”
พนักงานหญิงยิ้มอย่างมีความสุข รีบบอกให้เขาไปลองเสื้อผ้าทันที หลังจากที่เขาเข้าห้องลองเสื้อผ้าไป
ก็มีชายใส่ชุดสูทสีดำสองคนรีบเดินตรงเข้าไปยังห้องลองเสื้อผ้าผู้หญิง
พนักงานในร้านเห็นเข้าจึงรีบเดินเข้าไปห้ามพวกเขาทันที “ขออภัยด้วยค่ะ นี่เป็นห้องลองเสื้อผ้าผู้หญิง”
ทันใดนั้นเอง ชายคนนึงก็ชูบัตรขึ้นโชว์ให้เธอดู จากนั้นพวกเขากพูดอะไรบางอย่างกับเธอ ก่อนที่จะยืนนิ่งไม่ห้ามอีกต่อไป
สองนาทีต่อมา ชายสองคนก็แบกญาธิดาที่กำลังหมดสติออกมา
พนักงานหญิงได้แต่ยืนดู พูดกระซิบเบา ๆ แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปห้ามเลย
หลังจากนั้นไม่นาน ธีทัตก็ออกมาจากห้องลองเสื้อผ้า เมื่อมองไปรอบ ๆ กลับไม่พบผู้หญิงที่คุ้นเคยยืนอยู่ เขาขมวดคิ้ว เดินตรงไปยังพนักงานหญิงเมื่อสักครู่ และถามว่า “ภรรยาของผมเข้าไปลองเสื้อแล้วยังไม่ออกมาอีกเหรอ?”
เมื่อได้ยินคำถาม ใบหน้าของเธอก็ซีดลงทันที ตอบอย่างตะกุกตะกักว่า “ธะ..เธอ..”
ธีทัตเห็นว่ามีอะไรแปลก ๆ จึงรีบเดินไปยังห้องลองเสื้อผ้าหญิงเพื่อตรวจสอบด้วยตัวเอง
เมื่อพนักงานเห็นดังนั้นจึงรีบมาบอกเขาว่า “เธอ…เธอถูกลักพาตัวไปแล้ว!”