ดวงใจภวินท์ - บทที่ 538 เขายังมีชีวิตอยู่
บทที่ 538 เขายังมีชีวิตอยู่
ธีทัตใจเต้นแรง มองไปยังพนักงานสาวด้วยความตกใจ และถามว่า “เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะ?”
พนักงานสาวใบหน้าซีดลง ตอบด้วยเสียงสั่นเครือว่า “มะ..มะ..เมื่อกี้นี้ ..จู่ ๆ ก็มีผู้ชายสองคนเดินเข้ามา แสดงตัวว่าเป็นตำรวจจะมาจับคนไป พวกเราไม่รู้จะทำอย่างไรดี ..สุดท้ายผู้หญิงคนนั้นก็ถูกเอาตัวไป…”
ทันใดนั้นธีทัตก็โกรธจนเลือดขึ้นหน้า
รีบก้าวเท้าออกไปทันที หลังออกมาจากร้าน เขาพยายามมองซ้ายมองขวา แต่ก็ไม่เห็นเงาของญาธิดาเลย
ดูเหมือนว่าเธอจะโดนคนลักพาตัวไปจริง ๆ !
เขาเกิดมีลางสังหรณ์แปลก ๆ ขึ้น คนที่ทำอย่างนี้ได้มีแค่สองคนเท่านั้น ถ้าไม่ใช่ภูผาแล้วล่ะก็ ต้องเป็นไอ่ภวินท์แน่ !
ธีทัตขบฟังแน่นด้วยความโกรธ เค้าควักโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรไปยังหมอก “มีคนลักพาตัวธิดาไป ลองตรวจสอบดูหน่อยว่าคนทำมันเป็นใคร!”
หลังจากนั้นเขาก็รีบวางสายและโทรหาหมายเลขต่อไปทันที เขาโทรออกอยู่หลายครั้งจนกระทั่งมีคนรับสาย
ปลายสายคือเสียงของภูผาที่เหมือนจะไม่ค่อยอยากคุยด้วยเท่าไหร่ “คุณธีทัต มีอะไรรึเปล่า?”
จิตใจของธีทัตเต็มไปด้วยความโกรธ เขาพยายามพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเพื่อไม่ให้มีใครจับสังเกตถึงความวิตกกังวลได้ “คุณจับตัวญาธิดาไปรึเปล่า?”
ปลายสายเงียบลงพักหนึ่ง ก่อนที่เขาจะหัวเราะเล็กน้อยแล้วพูด “คุณธีทัต ผมไม่มีความจำเป็นต้องโกหกคุณ และผมยังจำสัญญาที่ให้ไว้กับคุณได้”
ธีทัตกดเสียงต่ำ ถามกลับอย่างเย็นชาว่า “สิบนาทีที่แล้วเธอถูกคนลักพาตัวไป แน่ใจนะว่าคุณไม่ได้เป็นคนทำ?”
“ต้องไม่ใช่ผมอยู่แล้ว” ภูผาพูดอย่างสบาย ๆ “ผมจะจับเธอมาทำไมล่ะ?”
ธีทัตสูดหายใจเข้าลึก ๆ ถามต่อว่า “แล้วไอ่ภวินท์ล่ะ คุณจับตัวมาได้หรือยัง?”
ได้ยินคำถามนี้ ภูผาก็เงียบไป เขาตอบด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาลงว่า “ยัง”
ธีทัตขมวดคิ้ว “ผมว่าลูกน้องของผมได้บอกที่อยู่ของมันกับคุณไปแล้วนะ ทำไมถึงจะจับตัวไม่ได้อีก”
ภูผาสูดหายใจอย่างเยือกเย็น “คุณคิดว่าผมไม่อยากหรือไง ?ตอนที่ผมนำคนไปที่นั่น มันก็หนีไปก่อนแล้ว”
เสียงของเขาต่ำลง ไม่กี่วิต่อมาเขาก็พูดขึ้น “คุณบอกว่าญาธิดาถูกคนลักพาตัวไปใช่รึเปล่า? ผมว่าต้องเป็นฝีมือของภวินท์นั่นแน่”
ได้ยินดังนั้น ธีทัตขมวดคิ้วพลางลังเลใจเล็กน้อย และถามว่า “แล้วจะหาตัวมันเจอได้ยังไง?”
ตอนนี้ภวินท์ก็ไม่ต่างจากคนตาย ถ้าขนาดภูผายังตามหาเขาไม่ได้ จะนับภาษาอะไรกับเขาเอง
“ถ้าผมรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน ผมคงลงมือไปแล้ว” ภูผาหัวเราะอย่างเย็นชา “แต่เป็นไปได้ว่ามันอาจจะได้ความช่วยเหลือจากหลุยส์หากไม่มีใครช่วยมันไว้ มันคงจะตายไปแล้ว”
ได้ยินดังนั้น แววตาของธีทัตก็เฉียบคมขึ้น พูดกลับไปว่า “ผมรู้แล้ว ขอบคุณมาก”
หลังพูดจบเขาก็วางสายไป ออกไปจากห้างแห่งนี้ และโทรเรียกลูกน้องให้มารวมตัวกัน
แม้ว่าเขาจะยังไม่แน่ใจว่าใช่ภวินท์หรือไม่ที่จับตัวญาธิดาไป แต่เขารู้ดีว่าการปล่อยให้ญาธิดาติดต่อกับภวินท์เป็นเรื่องที่อันตรายมาก เขาจะต้องหาทางหยุดมันให้ได้
พริบตาเดียว เวลาก็ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ญาธิดาลืมตาตื่นขึ้นก็พบว่าตัวเธออยู่ในห้องมืด ๆ ที่มีเพียงแสงสลัว ๆ มือและเท้าของเธอถูกมัดแน่นติดไว้กับเก้าอี้
เธอตกใจและหวาดกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก พยายามเหลือบมองไปรอบ ๆ แม้จะมองได้ไม่ชัดแต่ก็รับรู้ว่าที่นี่คือห้องนอน
ทันใดนั้นเอง ประตูก็ถูกใครบางคนผลักออก “ปึ้ง!” ไฟถูกเปิด ตาของเธอหรี่ลงเพราะแสงไฟ หลังจากที่เธอลืมตาขึ้นมาก็ทำให้เธอเห็นใบหน้าของคนที่คุ้นเคย “พายุ?”
พายุนิ่งเงียบมองไปที่เธอ เดินตรงเข้าไป ก่อนจะหยุดลงด้านหลังเธอ เขาก้มลงพลางแก้เชือกที่มัดไว้ที่ข้อมือและข้อเท้าออก “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
ญาธิดารู้สึกประหลาดใจและก็ยินดีที่พบเขาที่นี่
ก่อนหน้านี้เธอพยายามขอให้พยัคฆ์ช่วยหาเบาะแสให้แต่ก็ไม่พบอะไรที่เป็นประโยชน์เลย
ไม่คิดว่าจู่ ๆ วันนี้เธอก็ได้เจอกับเขาตัวเป็น ๆ ทันที แต่ว่า ทำไมเขาต้องจับตัวเธอมาแบบนี้ด้วย ?
เธอใจเต้นไม่หยุด อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า “ภวินท์อยู่ด้วยกันกับนายหรือเปล่า ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ริมฝีปากเขาขยับเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เพราะเหตุผลบางอย่างจึงไม่ได้พูดอะไรออกไป ได้แต่แก้เชือกอย่างเงียบ ๆ
ญาธิดารู้สึกถึงความผิดปกติ และพูดขึ้น “ฉัน…ฉันต้องทำอะไร ?ฉันออกไปได้แล้วหรือยัง ?”
“ไม่ได้ครับ เดินตามผมมา”
พูดจบเขาก้าวเท้าออกไป
ญาธิดาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ภายในใจของเธอเต็มไปด้วยความสับสน ได้เห็นพายุสุขสบายดี จะแปลว่าภวินท์ก็สบายดีอยู่ด้วยหรือเปล่า? ในหัวของเธอเต็มไปด้วยคำถามมากมาย ญาธิดารู้สึกตื่นเต้นอย่างไม่มีเหตุผล หลังจากเดินตามพายุมาความประหม่าก็ยิ่งมากขึ้น เธอเผลอเบาใจลงอย่างไม่รู้ตัว หลังจากเดินออกมาเธอพยายามสังเกตรอบ ๆ มากขึ้น การตกแต่งของที่นี่ช่างมีเอกลักษณ์เหลือเกิน
พายุพาเธอเดินมาจนถึงห้องสุดทางเดิน เขาผลักประตูออก และกวักมือเรียกให้เธอเดินเข้าไป
ญาธิดาสูดหายใจลึก ๆ ก้าวเท้าเข้าไปด้านใน ม่านในห้องถูกปิดเกินกว่าครึ่ง ความมืดทำให้เธอมองเห็นไม่ค่อยชัด
เธอยังไม่ทันได้มองดูรอบ ๆ ประตูด้านหลังก็ถูกปิดลง พายุที่ยืนอยู่หน้าประตูตอนนี้ก็หายไปแล้ว
เธอสูดหายใจลึกอีกครั้ง กำลังตัดสินใจจะไปเปิดหน้าต่างออก แต่มีเสียงของคนบางคนในเงามืดได้พูดขึ้น “หยุดซะ”
ญาธิดาที่กำลังก้าวเท้าออกไป เมื่อได้ยินเสียงนี้เธอถึงกับขนลุกซู่
นั่น…นั่นมันเสียงของภวินท์
เธอรีบตามเสียงนั้นไปทันที ในมุมมืด ๆ ของห้องที่มีแสงไฟสลัว หากไม่มองดี ๆ ก็คงไม่เห็นว่ามีคนนั่งอยู่ตรงนั้น
ญาธิดากัดริมฝีปากแน่น เลือดในร่างกายของเธอกำลังสูบฉีด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความดีใจหรือประหลาดใจ หรือว่าทั้งสองอย่างกันแน่
เขายังมีชีวิตอยู่ !
ญาธิดาได้แต่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ทันใดนั้นภวินท์ก็จุดไฟตะเกียงข้าง ๆ ขึ้น ดวงไฟสว่างขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึก ๆ หลังจากหายจากอาการช็อค เธอก็ถาม “คุณ… คุณมาอยู่นี่ได้ยังไง?”
เมื่อได้ยิน สีหน้าของภวินส์ก็ยิ่งหมองลง ขมวดคิ้วเล็กน้อย ดวงตาสีอำพันจ้องมองญาธิดาและถามอย่างเย็นชาว่า “ทำไมล่ะ? ฉันจะอยู่ที่นี่ไม่ได้หรือ?” เธอรับรู้ได้ถึงความเย็นชาในคำพูด เธอขมวดคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เปล่า ไม่ใช่อย่างนั้น”
ในตอนแรก เธอคิดว่าการได้พบภวินท์อีกครั้งเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างมาก แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะเย็นชากับเธอ ทำเหมือนกับเธอเป็นคนห่างไกล แสดงออกเหมือนเกลียดกันขนาดนี้