ดวงใจภวินท์ - บทที่ 556 ญาธิดาถูกลวกเป็นแผล
บทที่ 556 ญาธิดาถูกลวกเป็นแผล
นิวราลงมือหนัก บวกกับที่เล็บมือของเธอยาวมากเลยทำให้จิกเข้าไปในเนื้อของญาธิดา ซึ่งมันทำให้ญาธิดาเจ็บจนต้องขมวดคิ้วแน่น
เธอหันกลับไปมองนิวรา ในแววตาแฝงไปด้วยความโกรธ “ปล่อย”
นิวรากัดฟันแน่น พลางพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ถ้าแกคิดอยากจะไปฟ้องคุณย่าเรื่องนั้น ฉันแนะนำว่าให้ล้มเลิกความคิดนั้นซะ ไม่อยากนั้นแกจะต้องเสียใจ!”
เมื่อเผชิญหน้ากับคำข่มขู่ของเธอ ใบหน้าของญาธิดากลับเย็นชามากขึ้นเรื่อย ๆ เธอสะบัดมือออกแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “นิวรา เธอขู่ฉันไม่ได้หรอก!”
นิวรายิ่งกระวนกระวาย พอเห็นว่าญาธิดากำลังจะเดินจากไป เธอก็รีบก้าวออกไปคว้าแขนของเธอไว้อีกครั้ง
ทั้งสองมองหน้ากันอย่างโกรธจัด ขณะที่ความขัดแย้งกำลังจะเกิดขึ้น ทันใดนั้นเองก็มีเสียงฝีเท้าที่กำลังเดินลงมาข้างล่างดังมาจากบันได
พวกเธอทั้งคู่หันไปมองทางต้นเสียงอย่างพร้อมเพรียง และเห็นคุณป้าที่กำลังเดินลงมาจากด้านบน
คุณป้าเหลือบมองพวกเธอทั้งสองคนด้วยแววตาประหลาดใจ ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าให้เป็นปกติและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณธิดา คุณนิวรา หิวกันหรือยังคะ? เดี๋ยวดิฉันจะไปเตรียมอาหารเที่ยง”
นิวราปล่อยมือที่จับแขนของญาธิดาออก และตอบกลับไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม และพยักหน้าอย่างว่าง่าย “ค่ะ ต้องการให้ช่วยอะไรไหมคะ?”
พูดจบเธอก็รีบเดินตามคุณป้าไปทางห้องครัว และไม่ลืมที่จะหันกลับมาจ้องตาเขม็งใส่ญาธิดา
หลังจากผ่านไปกว่าชั่วโมง อาหารกลางวันก็เตรียมพร้อมแล้ว นิวราได้สร้างภาพลักษณ์เด็กสาวผู้แสนดีรู้ความให้ตัวเอง ช่วยคุณป้าทำนั่นทำนี่ พยายามสร้างความประทับใจให้คุณย่าและภวินท์
ภวินท์ออกมาจากห้องหนังสือ สิ่งที่เห็นคือนิวรากำลังถือจานอาหารไปวางบนโต๊ะอาหาร
หลังจากผ่านไปกว่าชั่วโมง อาหารกลางวันก็เตรียมพร้อมแล้ว นิวราได้สร้างภาพลักษณ์เด็กสาวผู้แสนดีรู้ความให้ตัวเอง ช่วยคุณป้าทำนั่นทำนี่ พยายามสร้างความประทับใจให้คุณย่าและภวินท์
พอเห็นเขา นิวราก็ทำหน้าประหลาดใจ พลางโบกไม้โบกมือให้เขา “พี่วิน หิวหรือยังคะ? นิวกับคุณป้าทำอาหารเสร็จแล้ว พี่รีบไปล้างมือก็พร้อมทานได้แล้วค่ะ”
สีหน้าของภวินท์ยังคงเป็นปกติเหมือนเคย “อืม” เขาขานรับแค่คำเดียวก่อนจะเข็นรถเข็นไปที่โต๊ะอาหาร
ไม่นานคุณย่าก็ลงมาด้วยเหมือนกัน เธอทำเมินเฉยกับการทำตัวว่าง่ายของนิวรา ตั้งแต่ต้นจนจบนอกจากคุยกับญาธิดาสามสี่ประโยคแล้ว เธอก็ไม่ได้มองมาทางนิวราเลยด้วยซ้ำ
อาหารเสิร์ฟครบแล้ว ทั้งสี่คนนั่งอยู่บนโต๊ะอาหาร บรรยากาศน่าอึดอัดอย่างอธิบายไม่ถูก
“คุณย่าคะ ซี่โครงนี้หนูตั้งใจตุ๋นด้วยหม้ออัดแรงดันเลยนะคะ เนื้อนุ่มเปื่อยมาก คุณย่าลองชิมดูสิคะ”
นิวราพูดพร้อมกับใช้ตะเกียบคีบซี่โครงให้คุณย่า
พอคุณย่าได้ยินแบบนั้นเธอก็พูดขึ้นเบา ๆ ว่า “ขอบใจ”
“พี่วิน ลองชิมอาหารจานนี้ดูสิคะ นิวทำเองกับมือเลย…”
นิวรายุ่งหน้ายุ่งหลัง คีบอาหารให้ภวินท์เพิ่มอีกแล้ว
หนึ่งครั้ง สองครั้ง…และอีกหลายครั้ง จนภวินท์ขมวดคิ้วแน่น
ในที่สุด เขาก็วางตะเกียบลงบนโต๊ะ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เอาล่ะ นิว ทานข้าวไปเงียบ ๆ เสร็จแล้วฉันจะให้พายุไปส่งเธอ”
ทันทีที่ประโยคนี้เปล่งออกมา บรรยากาศก็ยิ่งอึดอัดมากขึ้น เพียงไม่นานดวงตาของเธอก็แดงก่ำขึ้นมา “พี่วิน ฉันทำอะไรผิดไปหรือเปล่าคะ”
ไม่ทันที่ภวินท์จะได้พูดอะไร คุณย่าก็พูดเสียงเข้มขึ้นมาว่า “เอาล่ะ วินก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ทุกคนทานข้าวกันเงียบ ๆ”
คำพูดนี้ของเธอค่อนข้างขึ้นเสียงเล็กน้อย เมื่อพูดแบบนี้แล้ว ทั้งนิวราและภวินท์ต่างก็ไม่สามารถพูดอะไรต่อไปได้ ทั้งสี่คนทานข้าวกันโดยไม่พูดไม่จา บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบ
ผ่านไปครู่หนึ่ง นิวราก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จึงรีบลุกขึ้นแล้วพูดว่า “จริงด้วย ยังมีซุปอีกอัน น่าจะเคี่ยวเสร็จแล้ว!”
พูดจบ เธอก็ลุกขึ้นและเดินเข้าไปในห้องครัวอย่างรวดเร็ว
ผ่านไปสักพัก เธอก็เดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับหม้อซุป เธอเดินช้าๆ อย่างระมัดระวัง เดินตรงมาทางนี้
ญาธิดาหันกลับไปมองเธออย่างไม่ตั้งใจ ไม่รู้ทำไมเธอถึงเอาแต่รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ ได้แต่ขมวดคิ้วแน่และวางตะเกียบในมือลง
เมื่อคุณย่าที่นั่งอยู่ตรงข้ามเธอเห็นเขาก็รีบเอ่ยปากถามขึ้นมาทันทีว่า “ทำไมไม่กินแล้วล่ะ? ไม่ถูกปากเหรอ?”
เมื่อญาธิดาได้ยินแบบนั้น เธอก็ส่งยิ้มให้คุณย่าและส่ายหน้าไปมา “เปล่าค่ะ อร่อยดีค่ะ”
เธอเพิ่งจะพูดจบ ยังไม่ทันได้หันกลับไปมองก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังมาจากด้านข้าง จากนั้นเธอก็รู้สึกปวดแสบปวดร้อนที่ด้านหลังของเธอ ร่างกายของเธอสั่นสะท้านและร้องออกมาโดยไม่รู้ตัว
ตามด้วยเสียงล้มและเสียงเซรามิกที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ กับพื้น ผสมปนเปเข้าด้วยกันดัง “เคร้ง!”
ภวินท์เงยหน้าขึ้น รูม่านตาของเขาหดเกร็งทันที
หม้อซุปร้อน ๆ ที่นิวรากำลังถืออยู่เมื่อครู่นี้ เทราดลงบนแผ่นหลังของญาธิดา หม้อซุปแตกเป็นเสี่ยง ๆ นิวราลื่นไถล ข้าวของระเกะระกะไปทั่ว
คุณย่าก็เห็นเหตุการณ์ด้วยเหมือนกัน หลังจากตกใจอยู่สักพักเธอก็ได้สติและรีบร้องเรียกตามคนเข้ามาทันที “ใครก็ได้รีบมาเร็ว ธิดาถูกน้ำซุปลวกแล้ว!”
ญาธิดาโน้มตัวลงไปครึ่งตัว เธอหลับตาลงด้วยความเจ็บปวดและหอบหายใจ ผิวด้านหลังที่โดนน้ำซุปร้อนจัดราดมันได้กระตุ้นทุกเส้นประสาทของเธอ จนร่างกายของเธอสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่อยู่
คุณป้ารีบวิ่งเข้ามา เมื่อเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างเธอก็รีบวิ่งเข้ามาพยุงญาธิดาไปแช่น้ำเย็น
คุณย่าไม่ได้สนใจอะไร รีบเดินตามไปที่ห้องน้ำที่อยู่ชั้นหนึ่งทันที
อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นกะทันหันเกินไป ภวินท์ขมดคิ้วแน่น มองพวกเธอเดินเข้าไปในห้องน้ำและปิดประตูลง เขาหันกลับไปมองนิวราที่ยืนกระหืดกระหอบอยู่ข้างโต๊ะ ด้วยอาการสั่นไปทั้งตัว
เขากัดกรามแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนออกมาตามลำคอ “นิวรา !”
นิวราส่ายหัวอย่างรวดเร็ว “พี่วิน นิวไม่ได้ตั้งใจ นิวไม่ทันระวังเท้าก็เลยลื่น…”
พอได้ยินเธอหาข้ออ้างแก้ตัวข้าง ๆ คู ๆ สีหน้าของภวินท์ก็ยิ่งเย็นชากว่าเดิม ความโกรธกำลังก่อตัวขึ้นช้า ๆ ในแววตาของเขา เขาจ้องมองเธอและพูดอย่างหนักแน่นว่า “เธอตั้งใจ”
“นิวเปล่า! นิวไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ !”
นิวรารีบร้อนเข้าไปดึงมือของภวินท์ไว้
ก่อนที่เธอจะแตะตัวเขา ภวินท์ก็ได้สะบัดมือผลักตัวเธอออก “เธอจะยิ่งทำเกินไปมากขึ้นทุกทีแล้ว!”
เมื่อก่อนไม่ว่าเธอจะทำเรื่องเลวร้ายกับญาธิดาไปไม่รู้กี่หนเขาก็ไม่เคยไล่ถามซักไซ้เลย แต่ครั้งนี้เธอกลับกล้าลงมือกับญาธิดาอย่างโหดร้ายต่อหน้าเขากับคุณย่า!
เรื่องในครั้งนี้มันทำให้เขาทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว!
นิวราน้ำตาไหลพราก เธอส่ายหน้าไปมาอย่างน่าสงสาร เหมือนกับนางเอกในหนังโศกนาฏกรรมในทีวี ร้องไห้จนกระหืดกระหอบ “พี่วิน พี่เข้าใจผิดไปแล้วจริง ๆ ! นิวไม่ชอบเธอ แต่นิวก็ไม่มีทางทำแบบนี้…”
ทันใดนั้นประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออกอย่างแรง คุณย่าเดินออกมาด้วยความโกรธเคืองและเดินตรงมาทางด้านนี้
นิวรารีบพูดขึ้นว่า “คุณย่า คุณย่าจะเชื่อหนูใช่ไหมคะ? หนูไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ…”
เธอพูดยังไม่ทันจบ คุณย่าก็ยกมือขึ้นแล้วตบลงบนใบหน้าของเธออย่างแรง
“เพี๊ยะ!” เพียงเสี้ยววินาที ทั้งข้อแก้ตัว การเสแสร้งและเสียงร้องหายเหือดหายไปในทันที ห้องโถงใหญ่เงียบสนิทแม้แต่เสียงเข็มหล่นก็คงได้ยินเสียงอย่างชัดเจน
คุณย่าหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงด้วยความโกรธ มือของเธอสั่นเล็กน้อย และจ้องมองหล่อนอย่างโมโห “ถ้าเธอเป็นอะไรไปแม้แต่นิดเดียว แกจะไม่มีทางได้อยู่สุกสบายแน่!”
ดูเหมือนว่าเธอจะตกตะลึงในความดุดันของคุณย่า นิวราตัวแข็งค้างอยู่กับที่ พูดอะไรไม่ออก
ดูเหมือนคุณย่าจะไม่อยากเห็นหน้าเธออีกจึงเบือนหน้าหนีเดินออกไปสั่งให้คนโทรเรียกรถพยาบาล ก่อนจะหันหลังเดินกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง
ทั้งคนใช้ทั้งลูกน้องต่างยุ่งวุ่นวายไปตาม ๆ กัน ภวินท์เงยหน้าขึ้นมองนิวราที่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรำคาญและความรังเกียจ
เขาเรียกพายุเข้ามาก่อนจะบอกด้วยเสียงเยือกเย็นว่า “ส่งเธอกลับไป”
“พี่วิน แม้แต่พี่ก็ไม่เชื่อ…”
“หุบปาก!” ภวินท์ตะคอกขัดจังหวะเธอขึ้นมา พลางต้องมองเธอด้วยแววตาเคร่งขรึม “นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป อย่ามาเสแสร้งแสดงละครต่อหน้าฉันอีก!”
นิวราส่ายหน้าไปมาทั้งน้ำตา “นิวไม่ได้แสดงนะ! พี่วิน นิวต้องทำยังไงพี่ถึงจะยอมเชื่อนิว?”
ภวินท์ขมวดคิ้ว พลางเลื่อนรถเข็นคิดจะออกไปจากตรงนั้น จู่ ๆ นิวราก็คว้ามีดปอกผลไม้ในตะกร้าผลไม้บนโต๊ะขึ้นมาจ่อที่คอของตัวเอง แล้วถามเขาออกไปอย่างบ้าคลั่งว่า “พี่วิน จะต้องให้ฉันควักหัวใจออกมาให้พี่ดูเลยใช่ไหม พี่ถึงจะเชื่อฉัน?”
วินาทีนั้น ทั้งคิ้วและดวงตาแหลมคมของภวินท์เหมือนถูกปกคลุมด้วยน้ำค้างแข็ง
ความอดทนที่เขามีต่อนิวรามันได้หมดลงแล้ว ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว!
เขาเอ่ยปากพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ถ้าเธออยากตาย ฉันก็จะทำให้เธอสมหวัง”