ดวงใจภวินท์ - บทที่ 663 วันเกิดของภวินท์
ความกังวลของภวินท์ทำให้เขาเร่งเตรียมตัวเตรียมการอย่างเต็มที่ แต่สองสามวันถัดมาทุกอย่างดูเงียบผิดปกติเหมือนกับทุกวันที่ผ่านมา
ตอนกลางวันเขาก็กลับไปจัดการธุระที่บริษัทตามปกติ พอออกไปข้างนอกก็นั่งรถเข็นแสร้งทำเป็นว่าขาทั้งสองข้างยังไม่หาย หลังจากกลับมาถึงคอนโดเขาก็กลายร่างเป็นคนละคน เล่นกับอีธานเอลล่า และดูแลญาธิดาอย่างดี ราวกับเป็นพ่อที่ดีและสามีที่ดี
ตกเย็น เพราะวันนี้อีธานกับเอลล่าดูรายการทำขนมทางทีวีแล้วเกิดสนใจขนมปังขึ้นมา เลยพากันงอแงเสียงดังอยากจะลากญาธิดาไปลองทำด้วย ญาธิดาที่เดิมทีไม่มีอารมณ์เลย แต่ก็ทนลูกอ้อนสุดน่ารักของเด็กสองคนไม่ไหว สุดท้ายเลยได้แต่ตอบตกลงอย่างไม่มีทางเลือก
แต่ว่าในคอนโดเล็ก ๆ นี้กลับมีของครบทุกอย่าง ทั้งแป้งสาลี วิปครีม ชีส มีครบแทบทุกอย่าง ญาธิดาเตรียมส่วนผสมและอุปกรณ์ พับแขนเสื้อขึ้น ดูวิดีโอเรียนทำเค้กไปพร้อมกับพวกเขา
“แม่คะ ต้องคนแบบนี้หรือเปล่าคะ?”
“ใช่! ต้องตามเข็มนาฬิกา แม่ไม่ได้ตั้งใจฟังเหรอครับ?”
อีธานกับเอลล่ายืนขนาบซ้ายขวา พลางชี้ข้อผิดพลาดของเธออย่างตรงไปตรงมา พอถูกพวกเจ้าตัวเล็กพูดแบบนี้ก็ทำเอาเธอรู้สึกเก้อเขินขึ้นมาเล็กน้อย
อันที่จริงไม่ใช่เพราะเธอไม่ตั้งใจ แต่ว่าเพราะเธอยังมีเรื่องอื่นค้างคาอยู่ในใจอีก เวลาสามวันที่เธอตกลงไว้กับภูผาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เหลือเพียงพรุ่งนี้วันสุดท้ายแล้ว
ถ้าพรุ่งนี้เธอยังไม่เอาสิ่งที่อยู่ในแฟลชไดร์ฟใส่เข้าไปในคอมพิวเตอร์ของภวินท์ เกรงว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับดร.ยติภัทรกับคุณปภาวีแน่ ๆ
และเพราะตอนนี้หัวใจเธอเต็มไปด้วยความกังวล เลยเอาแต่เหม่อลอย
“แม่ น่าจะพอแล้วนะครับ”
เธอรู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงของอีธาน เมื่อเห็นแป้งที่ถูกตีจนผสมกันแล้ว เธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก พลางพยักหน้าหันไปมองทางเด็ก ๆ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ตอนนี้ก็เหลือแค่ขั้นตอนสุดท้ายแล้ว เทแป้งลงในพิมพ์แล้วเอาเข้าเตาอบได้เลย!”
“เย้! ดีจังเลย!”
พวกเด็ก ๆ กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ เธอหัวเราะ และหลังจากทำขั้นตอนสุดท้ายเสร็จเรียบร้อยต่อไปก็เข้าสู้โหมดการอบเค้ก
หลังจากทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ญาธิดาก็แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก และเดินออกไปพักผ่อนที่โซฟา
รู้ตัวอีกทีเวลาก็ผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมงแล้ว “ติ๊ง” เสียงเตาอบดังขึ้น อีธานกับเอลล่ารีบมาดึงเธอไปดูผลสำเร็จด้วยความตื่นเต้น
ญาธิดาสวมถุงมือ แล้วหยิบถาดออกจากเตาอบอย่างระมัดระวัง ชีสเค้กพองสีทองสวยมาก ๆ กลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปทั่ว
คิดไม่ถึงว่าทำเค้กครั้งแรกจะประสบความสำเร็จมากขนาดนี้
อารมณ์ของญาธิดาที่เดิมทีหม่นหมองดูสดใสขึ้นมาเล็กน้อย จากนั้นก็ช่วยกันกับเด็ก ๆ ตกแต่งสตอเบอรี่และบลูเบอร์รี่ลงบนเค้ก โรยน้ำตาลไอซิ่งอย่างละเอียดลออ เท่านี้ผลงานก็เสร็จเรียบร้อย!
“สุดยอด!”
ญาธิดาถ่ายรูปอย่างมีความสุข ยกมือขึ้นแตะศีรษะอีธานกับเอลล่า แล้วพูดเบา ๆ ว่า “ตอนนี้ไปหยิบจานมาเร็ว พวกเรามาลองชิมกัน!”
แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากที่เธอพูดจบ อีธานกับเอลล่ากลับเอาแต่ยิ้มแต่ไม่ยอมขยับ
ญาธิดางุนงง ยังไม่ทันได้เอ่ยปากถามก็ได้ยินเสียงเอลล่าพูดขึ้นว่า “แม่คะ พวกเรารอให้คุณอาสุดหล่อกลับมาแล้วกินด้วยกันได้ไหมคะ?”
ขณะที่พูดเธอก็ยื่นน้อย ๆ มาดึงชายเสื้อของเธอพลางพูดด้วยเสียงออดอ้อนน่ารัก ทำเอาคนฟังหัวใจแทบละลาย
ทีแรกญาธิดาอยากจะปฏิเสธ เพราะเค้กก้อนนี้เธอกับลูกเป็นคนทำด้วยกัน ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับภวินท์ แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่เธอต้องทำกับภวินท์ ความรู้สึกผิดก็ผุดขึ้นมาในใจและทำให้เธออึดอัดใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะมองอีธานกับเอลล่าแล้วพยักหน้าให้พวกเขา “โอเค พวกเราจะรอให้เขากลับมาก่อน”
จะว่าไปแล้วก็บังเอิญมาก เพราะหลังจากที่พวกเขาเพิ่งจะตัดสินใจและเริ่มทำความสะอาดโต๊ะอาหารรก ๆ เพียงไม่นาน เสียงประตูก็ดังขึ้น
ทันทีที่ได้ยินเสียงประตูดัง อีธานก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันทีรีบมองไปทางญาธิดาแล้วพูดว่า “แม่ รีบยกเค้กออกมาเร็วครับ เอามาให้คุณอาสุดหล่อดู!”
ญาธิดางุนงงมองท่าทางตื่นเต้นรีบร้อนของเด็กน้อย และทำได้เพียงยกเค้กออกมาอย่างลังเล พลางมองไปทางประตู
ประตูถูกเปิดออก ภวินท์เดินเข้ามาอย่างไม่ทันรู้ตัว อีธานกับเอลล่าวิ่งเหยาะ ๆ เข้าไปหาพลางตะโกนว่า “สุขสันต์วันเกิด!”
ภวินท์อึ้งไปครู่หนึ่ง พลางหรี่ตามองใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสอีธานและเอลล่า ทำเอาเขารู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาเล็กน้อย จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองเค้กที่ญาธิดากำลังถืออยู่ในมือและมองมาทางเขาอย่างงุนงง
ทันใดนั้น เอลล่าก็กระโดดโลดเต้นอย่างตื่นเต้นดีใจพลางพูดเสียงดังว่า “คุณอาสุดหล่อดูสิคะ! นั่นเป็นเค้กที่คุณแม่ทำให้คุณอาเองกับมือเลยนะคะ!”
เมื่อภวินท์ได้ยินแบบนั้น หัวใจของเขากระตุกเต้นก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองไปทางญาธิดา
ญาธิดามึนงง วันนี้เป็นวันเกิดของภวินท์เหรอ? ทำไมเธอถึงไม่รู้? และที่แปลกยิ่งกว่านั้นคืออีธานกับเอลล่ารู้อยู่ก่อนแล้ว!
อีกอย่างเค้กก้อนนี้…อีธานกับเอลล่าก็เป็นคนบังคับลากเธอไปทำด้วย แต่ตอนนี้มาทำแบบนี้ มันเหมือนกับว่าเธอตั้งใจทำเค้กให้เขาเป็นพิเศษ!
แล้วมันก็เป็นอย่างที่คาดเอาไว้ ภวินท์มองเธอด้วยสายตาอบอุ่น แถมยังยกเท้าเดินเข้ามาหาเธอแล้ว
ภวินท์เดินเข้าไปหาเธอสองสามก้าว แล้วเอ่ยปากถามด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่มว่า “ทำให้ฉันเหรอ?”
ญาธิดาอ้าปากค้าง เธอยังคิดไม่ทันออกว่าจะพูดอะไร อีธานที่อยู่ข้าง ๆ ก็ตอบแทนเธอออกไปว่า “ใช่ครับ! คุณอาสุดหล่อ นี่แม่ตั้งใจทำให้คุณอาเลยนะครับ!”
ทันใดนั้นญาธิดาก็ต้องรีบกลืนคำอธิบายที่ติดอยู่ในปากกลืนกลับเข้าไป เธอสูดหายใจลึก ๆ ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้ารับตามคำพูดของอีธาน ฝืนยิ้มออกมาน้อย ๆ แล้วพูดเบา ๆ ว่า “สุขสันต์วันเกิด”
ภวินท์ประหลาดใจมาก ภายในใจของเขาอบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย
เมื่อก่อนในวันเกิดของเขาก็ไม่เคยมีพวกเขาอยู่ด้วย แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรขาดหายไป แต่พอเห็นภาพตรงหน้าในตอนนี้ หัวใจของเขาอบอุ่นและพึงพอใจมาก
ทันใดนั้น เอลล่าที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็เอื้อมมือไปดึงกางเกงของภวินท์เบา ๆ พลางเงยหน้าขึ้นมองเขา “คุณอาสุดหล่อ ย่อลงมาหน่อยสิคะ หนูมีของขวัญจะให้!”
“หืม?”
ภวินท์ย่อตัวลงไปโดยไม่คิดอะไร ก่อนจะเอื้อมมือไปโอบเอลล่าไว้ ก่อนที่เอลล่าจะเหยียดแขนเล็ก ๆ โอบรอบคอของเขาแล้วโน้มตัวเข้าไปใกล้และหอมแก้มของเขาเบา ๆ
สัมผัสนิ่มนวลที่แก้มทำเอาภวินท์รู้สึกเหมือนหัวใจกำลังละลาย ทันใดนั้นอีธานก็เดินเข้ามากอดและหอมเขาอีกฟอด
“คุณอาสุดหล่อ สุขสันต์วันเกิด!” คำอวยพรของเด็กน้อยดังก้องอยู่ในหู ภวินท์มองพวกเขารู้สึกอบอุ่นในใจ
ทันใดนั้น อีธานกับเอลล่าก็หันมองมาทางญาธิดาพลางส่งสายตาเป็นสัญญาณ “แม่คะ ถึงคราวของแม่แล้วคะ!”
ญาธิดายืนนิ่งอยู่กับที่
ไอ้ตัวเล็กสองคนนี้หมายความว่ายังไงกัน? คือพวกเขาหอมแก้มภวินท์กันหมดแล้ว ตอนนี้ถึงคราวของเธอแล้ว หรือว่าจะให้เธอหอมแก้มภวินท์ให้ได้อย่างนั้นเหรอ?
เรื่องน่าอายแบบนี้ แถมยังอยู่ต่อหน้าเด็กเธอจะทำได้ยังไง?
เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ พยายามฉีกยิ้มอย่างเคอะเขิน “แม่ว่าไม่…”
ก่อนที่เธอจะทันได้ปฏิเสธก็รู้สึกว่ามีบางอย่างแวบผ่านเข้ามา ก่อนที่ภวินท์จะหอมแก้มของเธอเบา ๆ ราวกับแมลงปอบินผ่านผืนน้ำ แต่กลับทำเธอรู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ญาธิดาคิดไม่ถึงว่าเขาจะ “ฉวยโอกาส” แบบนี้ เธอได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ขยับเขยื้อน
ทันใดนั้น ภวินท์ก็ยิ้มให้อีธานกับเอลล่าเบา ๆ “แม่ของพวกหนูขี้อายเกินไป ฉะนั้นเรื่องพวกนี้ให้คุณอาทำดีกว่านะ!”