ดวงใจภวินท์ - บทที่ 670 รสชาติของการถูกหักหลัง
บทที่ 670 รสชาติของการถูกหักหลัง
เมื่อเห็นว่านิวราเริ่มอารมณ์ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ญาธิดาก็แอบดีใจ แล้วพูดต่อว่า “เป็นไปไม่ได้! เขาบอกฉันว่าเขาไม่รักเธอ! ไม่เคยเลยสักนิด! นิวรา การที่เธอยินยอมอยู่ฝ่ายเดียว ยอมให้ถูกซ่อนอยู่ในความมืดมิดแบบนี้มันช่างน่าสงสารจริง ๆ !”
ยิ่งนิวราได้ฟังคำพูดพวกนี้ เธอก็ยิ่งสูญเสียการควบคุมมากขึ้นเรื่อย ๆ “ญาธิดา ฉันจะฉีกปากของแก! คนที่เขารักคือฉัน!”
ขณะที่พูดเธอก็รีบพุ่งตัวเข้าหาญาธิดา โดยที่คิดไม่ถึงเลยว่าญาธิดาจะยืนนิ่งอยู่กับที่มองเธอด้วยรอยยิ้มยั่วยุ
เมื่อเห็นเธอพุ่งเข้าใส่ ญาธิดาก็เบี่ยงตัวหลบออกไปข้าง ๆ
นิวราสะดุดจนเกือบจะล้มลงไปกองกับพื้น ขณะเดียวกันหล่อนก็โบกเครื่องช็อตไฟฟ้าในมือไปมาเพื่อโจมตีใส่ญาธิดา!
ญาธิดาเบี่ยงตัวหลบอย่างรวดเร็ว เธอยกเท้าขึ้นเตะบนน่องขาของหล่อน นิวราคุกเข่าลง ตัวเธอเอนซ้ายเอนขวาอย่างสูญเสียการทรงตัว
ทันใดนั้นญาธิดาก็รีบวิ่งเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว เธอเอื้อมมือไปคว้าเครื่องช็อตไฟฟ้าในมือของนิวรา แต่ทันทีที่คว้าได้นิวราก็รู้ถึงความตั้งใจของเธอทันที มือสองมือจับเครื่องช็อตไฟฟ้าไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
ทั้งสองคนยื้อแย่งกันไปมาทำให้มือบังเอิญไปแตะโดนปุ่มกดอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทันทีที่มันแตะโดนใครก่อน อีกฝ่ายก็จะเป็นฝ่ายชนะทันที
มือไม้ถูกเอาออกมาใช่จนหมด ญาธิดาถูกนิวราเตะเข้าที่ขาสองสามครั้ง เธอขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวดแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยมือ
ถ้าเธอปล่อยมือตอนนี้ทุกอย่างต้องจบเห่แน่! นิวราคงจะใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าช็อตเธอและสมรู้ร่วมคิดกับภูผาตั้งข้อหาให้เธอและส่งตัวเธอเข้าคุก!
เธอรู้ว่าภูผาเป็นคนมากเล่ห์เพทุบาย การบิดเบือนความจริงและความผิด การบิดเบือนข่าวลือและการสร้างข่าวลือเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา โดยที่ไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลยด้วยซ้ำ
ดังนั้นเธอต้องแย่งเครื่องช็อตไฟฟ้ามาและทำให้นิวราสลบไปให้ได้!
ทันใดนั้น นิวราก็ยกเท้าขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะถีบเข้าที่ท้องของเธออย่างแรง พลางตะโกนออกมาว่า “นังคนชั้นต่ำ ไปตายซะเถอะแก!”
ญาธิดาถูกกระแทกที่ท้องอย่างรุนแรง แต่เธอออกแรงที่มืออย่างสุดกำลัง ถือโอกาสตอนที่นิวรากำลังขาดสติ แย่งเครื่องช็อตไฟฟ้าออกมาจากเธอได้สำเร็จ
เธอเดินโซเซถอยหลังไปหลายก้าวจนเกือบจะล้ม เพียงไม่นานเธอก็สามารถยืนนิ่งได้อีกครั้ง และมองไปที่นิวราที่กำลังพุ่งตัวเข้ามาก่อนจะใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าโจมตีหล่อนทันที
เพียงชั่วครู่ นิวราแสดงสีหน้าหวาดกลัว หล่อนคิดอยากจะหลบแต่มันก็สายเกินไปแล้ว ทันทีที่เครื่องช็อตไฟฟ้าโจมตีโดนตัวหล่อนทั่วทั้งตัวของหล่อนก็สั่นเครืออย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ หล่อนกลอกตาขาว ร่างกายอ่อนแรงและล้มลงไปกับพื้นในที่สุด
ญาธิดาถอยหลังสองก้าวด้วยความตื่นตระหนก มองไปยังผู้หญิงที่ยังคงกระตุกอยู่บนพื้น ร่างกายของเธอเย็นยะเยือก
ไม่คิดเลยว่าสิ่งเล็ก ๆ ที่อยู่ในมือของเธอจะมีพลังมหาศาลขนาดนี้ ถ้าหากคนนั้นเป็นเธอ เกรงว่าคงจะมีจุดจบอีกแบบหนึ่งแน่นอน
เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ มองดูนางนิวราที่หมดสติไปแล้ว หัวใจของเธอเต้นแรง ได้แต่กัดฟันแน่นและก้มมองเครื่องช็อตไฟฟ้าในมือ จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่าสิ่งที่อยู่ในมือตอนนี้มันร้อนจนแทบจะลวกมือ
เธอเพิ่งจะโจมตีนิวรา ตอนนี้หล่อนสลบไปแล้วคงต้องรออีกสักพักถึงจะฟื้นขึ้นมา และตอนนี้เธอต้องรีบไปจากที่นี่ ต้องหนีไปให้เร็วที่สุด!
ทันทีที่เธอหันหลังกลับ เสียงปรบมือก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของเธอ เธอรีบหันมองด้วยความตื่นตระหนก และทันทีที่เห็นว่าเป็นภูผาเธอก็ตัวแข็งทื่อไปทันที
เขาอยู่ที่นี่ด้วย! โดยมีครามยืนอยู่ข้าง ๆ เขา
ภูผามองเธอด้วยรอยยิ้ม “คุณญาธิดาช่างเก่งจริง ๆ เด็ดเดี่ยว กล้าหาญ และฉลาด เข้าใจเลยว่าทำไมพี่ใหญ่ถึงชอบเธอ”
ญาธิดามองเขาอย่างระแวดระวัง “นายคิดจะทำอะไร!”
ต้นเหตุของเหตุการณ์ทั้งหมดคือเขา! ที่เธอต้องมาสู้กับนิวราอย่างเอาเป็นเอาตายแบบนี้ก็คงจะเป็นส่วนหนึ่งของเกมที่เขาคิดขึ้นมาด้วยใช่ไหม?
ภูผาหัวเราะ “ไม่ต้องกลัว อย่าลืมสิว่าพวกเราสองคนเป็นพวกเดียวกันนะ”
ญาธิดาแค่นหัวเราะ จ้องมองเขาด้วยสายตาประชดประชัน และนิ่งเงียบไม่พูดอะไร
ภูผายิ้มแล้วพูดขึ้นทันทีว่า “เธอว่าเธอหายตัวมานานขนาดนี้ พี่ใหญ่จะสังเกตเห็นหรือยังนะ?”
ญาธิดานิ่งเงียบ เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วกำโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าเอาไว้แน่น
ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากประตูทางเข้าดาดฟ้า “กำลังรอฉันอยู่เหรอ?”
ภวินท์กับพายุปรากฏตัวที่ประตู เขานั่งอยู่บนรถเข็น แม้จะอยู่ห่างออกไปไกลแต่นัยน์ตาคมกริบจับจ้องไปที่ญาธิดาอย่างรวดเร็ว เมื่อมองสำรวจจนแน่ใจว่าเธอไม่ได้รับบาดเจ็บ แล้วจึงเหลือบมองไปทางภูผา
เมื่อภูผาเห็นเขาปรากฏก็หัวเราะชอบใจเหลือบมองไปทางญาธิดาและภวินท์ “มารวมตัวกันแล้ว เกมนี้มันยิ่งสนุกมากขึ้นไปเรื่อย ๆ แล้ว!”
ขณะที่พูดเขาก็สาวก้าวยาวเดินไปทางภวินท์แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พี่ใหญ่ ถึงพี่จะมาถึงที่นี่แล้ว แต่ก็น่าเสียดายที่พี่พลาดการแสดงดี ๆ ไปแล้ว”
ขณะที่พูดเขาก็โบกมือให้ภวินท์มองไปที่พื้นที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลมากนัก แล้วพูดอย่างเมามันว่า “เมื่อกี้ผู้หญิงสองคนของพี่ทะเลาะกันเอาเป็นเอาตาย เป็นฉากที่ยอดเยี่ยมมากเลยล่ะ! แต่ว่า พี่พลาดไปซะแล้ว…”
น้ำเสียงของภูผาเคร่งขรึม และแฝงความบ้าคลั่งเอาไว้เล็กน้อย “แต่ว่า หลังจากนี้น่าตื่นเต้นมากกว่า!”
ตอนนี้ภวินท์นั่งอยู่บนรถเข็น ห่างจากภูผาไม่ถึงสิบเมตร อีกฟากหนึ่งของภูผามีญาธิดายืนอยู่ ทั้งสามคนประจันหน้ากัน บรรยากาศดูเปราะบางอย่างบอกไม่ถูก
ญาธิดากับภวินท์สบสายตากันต่างคนต่างเงียบไม่มีใครพูดอะไร ก่อนที่สายตาจะจับจ้องไปที่ภูผา
ดูเหมือนเพราะบรรยากาศเงียบลงอย่างกะทันหัน ภูผากระตุกยิ้มมองไปทางภวินท์แล้วพูดว่า “พี่ใหญ่ ผู้หญิงสองคนรอบตัวพี่ต่างก็หักหลังพี่ รสชาติแบบนี้รู้สึกยังไงบ้าง?”
ผู้หญิงสองคนที่เขาเอ่ยถึงก็คือญาธิดากับนิวรา
ไม่ทันที่ภวินท์จะได้พูดอะไร ภูผาก็ยื่นมือออกไปชี้นิวราที่นอนหมดสติอยู่บนพื้นและพูดพลางหัวเราะว่า “คนรักในวัยเด็กของพี่ที่เอาแต่พร่ำบอกว่ารักพี่นักหนา แต่สุดท้ายก็ยอมเชื่อฟังผม ยอมให้ผมใช้ประโยชน์”
เขาพูดอย่างสบาย ๆ ทันใดนั้นเขาก็หันมองมาทางญาธิดา “และคุณญาธิดาที่พี่ห่วงใยนักหนา เป็นผู้ช่วยสำคัญของผม ตอนนี้ทีมตรวจสอบจากเบื้องบนน่าจะมาถึงบริษัทแล้ว ลองเดาดูสิว่าพวกเขาจะตรวจสอบเจออะไรจากบัญชีของบริษัทและจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดอะไรขึ้นบ้าง?”
ภวินท์จ้องเขาเขม็งโดยไม่พูดอะไร
และตอนนี้สีหน้าของพายุที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็เริ่มดูผิดปกติไป เขากำโทรศัพท์ในมือกดดูสายเรียกเข้าและข้อความที่ถูกส่งเข้ามา ความกังวลปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
เขาก้าวไปข้างหน้าโน้มตัวลงกระซิบข้างหูของภวินท์ว่า “คุณภวินท์ มีคนเข้ามาตรวจสอบจริง ๆ ครับ เป็นทีมตรวจสอบที่ข้างบนส่งมา ตอนนี้กำลังตรวจสอบบัญชีและเอกสารลับของบริษัท ข้างในกำลังวุ่นวายมาก พวกผู้บริหารกำลังตามหาคุณให้ทั่วเลยครับ”
ภวินท์ขมวดคิ้วเล็กน้อยและสีหน้าเย็นชาขึ้นมาเล็กน้อย
บัญชีของบริษัทสะอาด เขาไม่กลัวที่จะโดนตรวจสอบ แต่เมื่อภูผาพูดออกมาแบบนี้ แสดงว่าเขาได้ลงมือทำอะไรบางอย่าง
“คุณญาธิดาที่พี่รักนักรักหนา เอาไฟล์ข้อมูลที่ผมให้ใส่เข้าไปในคอมพิวเตอร์ของพี่เองกับมือเลยนะ ทันทีที่ทีมงานตรวจสอบคอมพิวเตอร์ของพี่ ทุกสิ่งทุกอย่าง…”
ภูผาหัวเราะ น้ำเสียงของเขาเริ่มเอื่อยลง สุดท้ายก็ทำท่าทางเหมือนระเบิด “ตูม ทุกอย่างจะระเบิดทันที STN Groupจะถูกทำลาย ส่วนพี่ก็คงหนีไม่พ้นโทษทางกฎหมาย”
น้ำเสียงของเขาเอื่อยเฉื่อยแต่หนักแน่นผิดปกติ ราวกับว่าเขาเป็นหัวหน้าผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ เขารู้ตอนจบและกำหนดอนาคตเอาไว้หมดแล้ว และภวินท์กับญาธิดาหรือแม้แต่STNก็เป็นเพียงแค่สิ่งที่ถูกเขาบงการก็เท่านั้น
ภูผามองภวินท์แล้วหัวเราะอย่างเย็นชา “ความรู้สึกของการถูกหักหลังแบบนี้เป็นยังไงบ้างครับ?”