ดวงใจภวินท์ - บทที่ 686 คุณญาธิดากลับมาแล้ว
บทที่ 686 คุณญาธิดากลับมาแล้ว
เมื่อกลับจากMerliamมาถึงโรงพยาบาล สีหน้าอึมครึมของภวินท์ถึงได้ผ่อนคลายลง ญาธิดาเข้าใจเหตุผลที่เขาโกรธ หลังจากกล่อมลูกทั้งสองเสร็จ ถึงได้มาหาเขาที่ห้อง
ประตูปิดลงได้ไม่ทันไร เธอไม่ทันได้พูดอะไรด้วยซ้ำ ร่างกายผอมบางของเธอก็ตกอยู่ในอ้อมกอดอุ่นๆ ตามมาด้วยริมฝีปากกลิ่นมิ้นต์ทาบทับลงมาที่หน้าผากของเธอ
“วิน เรื่องที่Merliam…..” เธอช้อนตามองภวินท์อย่างเป็นห่วง
แขนของภวินท์กระชับกอดแน่นมากขึ้น เหมือนกลัวว่าเธอจะหายไปอย่างไรอย่างนั้น เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้หูของเธอ เสียงมีเสน่ห์แหบพร่าดังขึ้นมาว่า “รับปากผม ว่าจะไม่เข้ามายุ่งเรื่องนี้”
ขณะที่พูด เขาก็จูบซ้ำๆที่ขมับของเธอ จากนั้นก็ค่อยๆลากไล้ไปที่มุมปาก จากจูบเพียงแผ่วเบาเป็นร้อนแรงขึ้นมา
ฝ่ามือของเธอวางแนบอยู่กับแผ่นอกหนากำยำของเขา ปลายนิ้วสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิร้อนๆที่ถูกส่งผ่านมา เธอหลับตาลงทั้งสองข้าง แล้วจูบตอบเขาอย่างไม่รู้ตัว
เสื้อของทั้งสองคนใกล้จะหลุดออกอยู่รอมร่อ ในห้องผู้ป่วยเริ่มมีเสียงผิ้วเนื้อเสียดสีกันดังขึ้นมา
แก้มทั้งสองข้างของญาธิดาค่อยๆแดงซ่าน เธอฝืนลากขาที่อ่อนแรงลงจากเตียง เหลือบมองชายหนุ่มที่ยังอยู่บนเตียง แล้วหลุบสายตาลงอย่างรวดเร็ว เอ่ยงึมงำเสียงเบาว่า “คุณตอนนี้ไม่เห็นเหมือนคนป่วยเลยสักนิด”
ภวินท์ได้ยินแบบนั้น มุมปากก็กระตุกเป็นมุมโค้งอย่างไม่รู้ตัว เสียงมีเสน่ห์ดังขึ้นมาว่า “ผมไม่ได้ป่วยเรื่องความต้องการทางเพศ”
เธอล่ะอยากถามจริงๆ ทำไมภวินท์ได้พูดอะไรน่าอายแบบนั้นออกมาได้อย่างหน้าด้านๆโดยไม่อายเลยสักนิด
ถ้าพวกเขาอยู่ในห้องน้ำ บนรถ ในห้องทำงานก็ว่าไปอย่าง แต่นี่พวกเขากำลังอยู่โรงพยาบาลนะ…..
ญาธิดาคิดมาถึงตรงนี้ ใบหน้าก็พลันร้อนผ่าว แทบอยากจะมุดหน้าไปที่ไหนสักที่ รู้สึกว่าบรรยากาศในห้องผู้ป่วยมันกรุ้มกริ่มขึ้นเรื่อยๆ
ยังดีที่เสียงประตูดังขึ้นมา ทำลายบรรยากาศอย่างว่าเสียก่อน พายุผลักประตูเดินเข้ามา เอ่ยพูดอย่างนอบน้อมว่า “ท่านประธานครับ ผมเก็บกวาดบ้านพักตามที่คุณสั่งเรียบร้อยแล้วครับ”
เก็บกวาดบ้านพัก?
ญาธิดาเงยหน้า เอ่ยถามอย่างสงสัย “เก็บกวาดบ้านพักทำไม?”
“จะออกจากโรงพยาบาล” ภวินท์เปิดผ้าห่มลงจากเตียง คำพูดสองแง่สองง่ามเหมือนกำลังตอบเธอ และก็เหมือนกำลังออกคำสั่งกับพายุ
ใบหน้าของพายุปรากฏแววลังเล ทอดสายตามองญาธิดา จากนั้นก็เดินออกไปพร้อมปิดประตูไปทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลให้พวกเขาทั้งสองคน
ญาธิดาเดินเข้าไปขวางหน้าของเขาไว้ รีบส่งเสียงพูดว่า “ไม่ได้ แผลของคุณยังไม่หายดี จะออกจากโรงพยาบาลไม่ได้”
ภวินท์เอื้อมมือไปโอบเอวของเธอ แล้วดึงเข้ามาในอ้อมกอดเบาๆ ทั้งสองจึงเซล้มลงบนเตียงตามแรงโน้มถ่วง ปลายจมูกอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ ท่วงท่าชวนให้คิดลึก
“กลับบ้านก็ยังมีคุณดูแลผมไง” เขาโน้มเข้าประชิดใบหูของเธอ ลมหายใจอุ่นร้อนแผ่ซ่าน “หรือคุณคิดว่าที่โรงพยาบาลมันเร้าใจกว่า…..”
ขณะที่พูด มือทั้งสองข้างของเขาก็สอดเข้าไปในเสื้อผ้าของเธอ ลูบไล้บริเวณอ่อนไหวที่เขาคุ้นเคยที่สุด
แค่การกระทำนี้ ก็ทำเอาขาทั้งสองข้างของญาธิดาอ่อนยวบ ลมหายใจเปลี่ยนเป็นถี่กระชั้น
เธอประคองสติที่หลงเหลืออยู่ผลักภวินท์ออก แล้วบังคับลมหายใจให้กลับมาเป็นปกติอย่างยากลำบาก จากนั้นก็เอ่ยพูดด้วยใบหน้าแดงก่ำว่า “จะออกจากโรงพยาบาลไม่ใช่เหรอ?”
“ตอนนี้เริ่มไม่อยากออกซะแล้วสิ” ภวินท์มองมาที่เธอด้วยสายตาขี้เล่น เอ่ยพูดช้าๆว่า “ผมว่าโรงพยาบาลก็เร้าใจดีเหมือนกันนะ”
“คุณ…..!” ญาธิดาทั้งโมโหทั้งอาย ถลึงตาใส่เขาอย่างกระฟัดกระเฟียด สุดท้ายก็แพ้ให้สายตาเร่าร้อนของเขาราบคาบ ใช้ไม้อ่อนลากเขาให้ออกจากโรงพยาบาล
หลังจากห่างหายไปห้าปีก็ได้กลับมาที่ตระกูลสถิรานนท์อีกครั้ง ญาธิดารู้สึกเหมือนเรื่องราวทั้งหมดเหมือนเกิดขึ้นเมื่อวานด้วยซ้ำ
สาเหตุหลักๆคือทุกอย่างในบ้านพักไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย ของตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ที่นี่ยังคงเหมือนเดิม แม้แต่คนใช้ก็ยังเป็นคนเดิมกับที่เคยรับใช้เธอในตอนนั้น
“คุณญาธิดา คุณกลับมาแล้ว……” เสียงของป้าจันทร์สั่นเครือ เมื่อเห็นญาธิดาเดินเข้ามาในบ้าน ก็รีบเข้าไปต้อนรับทันที
ญาธิดาทั้งตกใจทั้งดีใจ หลังจากถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกับป้าจันทร์เสร็จ สายตาของป้าจันทร์ทอดมองมาที่เด็กสองคนที่อยู่ข้างหลังเธอ “สองคนนี้….”
ตอนนี้เองญาธิดาถึงได้รู้ตัว ว่าตัวเองกลับมาที่นี่ในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นแค่เด็กสาวเหมือนในตอนนั้น เธอรีบดันเด็กทั้งสองคนมาอยู่ตรงหน้า เอ่ยแนะนำพร้อมยิ้มตาหยี “พวกเขาเป็นลูกฉันเองค่ะ ชื่ออีธานกับเอลล่า”
อีธานกับเอลล่าเห็นว่าป้าจันทร์ดูท่าทางใจดี จึงไม่ได้แสดงออกอย่างเกร็งๆเหมือนคนเพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก เอ่ยทักทายอย่างเป็นเด็กดีว่า “ สวัสดีครับ/ค่ะ”
เสียงสดใสของเด็กๆแทบทำเอาหัวใจของป้าจันทร์ละลาย เธอรีบขานรับ พร้อมด้วยขอบตาที่เอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำ จากนั้นก็ก้มลงไปหาเด็กทั้งสอง ภาพนี้ทำเอาญาธิดารู้สึกอุ่นร้อนที่ตา
ภวินท์โอบไหล่เธอเอาไว้อย่างพอเหมาะพอเจาะ จากนั้นก็ออกคำสั่งว่า “ต่อไปนี้เป็นต้นไปฝากป้าจันทร์รับผิดชอบดูแลชีวิตประจำวันของอีธานกับเอลล่าด้วยนะครับ”
ญาธิดาเอียงตัว เงยหน้ามองเขาด้วยดวงตาเป็นประกายอมยิ้ม เพียงแค่มองตาก็เข้าใจกันและกันอย่างไม่ต้องพูดอะไรออกมา
เธอปรับอารมณ์ของตัวเองสักพัก แล้วถึงมองไปที่ตัวแสบทั้งสองเอ่ยพูดว่า “ป้าจันทร์ทำอาหารอร่อยมากเลยนะ ลูกๆอยากลองชิมหรือเปล่า?”
ได้รับการยอมรับจากหม่ามี๊ขนาดนี้ สองแฝดก็ต้องรอคอยและคาดหวังอยู่แล้ว ถึงยังไงพวกเขาก็เคยกินแต่อาหารตะวันตกมาหลายปี จึงรีบจับมือป้าจันทร์แล้วฟ้องยกใหญ่ว่าตนกำลังหิว
พริบตาเดียวในห้องโถงรับแขกก็เหลือแค่ญาธิดากับภวินท์ เขากอบกุมมือเล็กของเธอเบาๆ แล้วพาจูงไปที่ห้องนอน
ญาธิดาพลันหยุดนิ่ง สายตากวาดมองห้องนอนแขกที่อยู่ตรงข้าม นัยน์ตาของเธอเต็มไปด้วยความลังเลและความวูบโหวง เหมือนกำลังนึกถึงเรื่องราวในอดีต เท้าเริ่มออกตัวเดินไปใกล้ห้องนอนแขกอย่างห้ามไม่ได้
ภวินท์เข้าใจว่าเธอกำลังคิดอะไร จึงช่วยเปิดประตูให้เธอ
ทุกอย่างภายในห้องยังคงเหมือนเมื่อห้าปีที่แล้ว แถมยังไม่มีฝุ่นเกาะ สะอาดเหมือนกับว่ามีคนเข้ามาปัดกวาดเช็ดถูกทุกวัน
สิ่งเดียวที่ไม่เหมือนเดิมก็คือ โต๊ะหัวเตียงที่เคยว่างเปล่า บัดนี้มีกรอบรูปสีขาววางอยู่หลายอัน ในรูปเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นใบหน้ายิ้มแย้มสดใสบริสุทธิ์ราวดอกไม้ของเธอ
นิ้วชี้ของเธอไล่ไปตามผนังอย่างแผ่วเบา ขอบตาเริ่มอุ่นร้อนตามการก้าวเดิน ในที่สุด ปลายนิ้วของเธอก็มาหยุดลงที่ตู้เสื้อผ้า เสื้อผ้าที่ภวินท์ซื้อให้เธอในตอนนั้น ยังคงอยู่เต็มตู้
ภวินท์เดินตามเธออยู่ข้างหลังช้าๆ จนเมื่อเธอหยุดดิน เขาถึงได้เข้าไปกอดเธอจากข้างหลัง
“อย่ากลับไปคิดถึงเรื่องที่มันผ่านมาแล้วเลย ผมมีเวลาชดใช้มันให้คุณอีกเยอะ”เหมือนเขาเองก็ถูกความรู้สึกของเธอแต่งแต้มเข้ามา เสียงพูดจึงเริ่มหนักอึ้ง
หลายปีที่ผ่านมา เวลาส่วนใหญ่เขามักจะอยู่ที่คอนโดเล็กๆที่เคยเช่าให้เธออยู่ มีแค่ตอนเมาเท่านั้นถึงกลับมาที่นี่อย่างไม่รู้ตัว แต่ทุกครั้งที่กลับมา เขามักจะนึกถึงครั้งแรกที่ได้รู้จักกับเธอเสมอ
ห้องนอนแห่งนี้ย้ำเตือนเขาอยู่ตลอด ว่าเขาเคยทำอะไรกับญาธิดาไว้บ้าง แต่ถึงจะอย่างนั้น เขาก็ยังตัดใจลบร่องรอยของเธอออกไปจากห้องนี้ไม่ได้
เมื่อสัมผัสได้ถึงแรงเต้นของหัวใจของคนที่อยู่ข้างหลัง อารมณ์สับสนวุ่นวายของญาธิดาก็ค่อยๆจางหายไป และค่อยๆปล่อยวางเรื่องราวในอดีต
เพราะนอกจากอดีตอันเลวร้ายแล้ว พวกเขาก็ยังมีอีธานกับเอลล่าคอยเชื่อมประสานอนาคตของพวกเขาเอาไว้
คิดมาถึงตรงนี้ รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าจของเธออีกครั้ง เธอหันกลับไปกอดเอวสอบของภวินท์เอาไว้ เอ่ยถามด้วยเสียงน่ารักว่า “หลายปีมานี้ คุณเคยมานั่งคิดว่าจะชดใช้ให้ฉันยังไงในห้องนี้บ่อยๆใช่ไหม?”
บทที่ 685 นายเป็นใครกันแน่