ดวงใจภวินท์ - บทที่ 706 ซ่อนแสงแวววาวไม่ได้หรอก
บทที่ 706 ซ่อนแสงแวววาวไม่ได้หรอก
พี่ยู่ยี่มองตรงไปที่แผ่นหลังที่สูงตรงของภวินท์ แล้วก็หันไปมองท้องมันเยิ้มของสามีและหัวที่กำลังจะหัวล้าน และความรังเกียจในสายตาของเธอก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากกลับไปทั้งสองสามคนนี้ก็เอาผักที่ล้างเสร็จแล้ววางไว้บนเคาท์เตอร์ รายการได้เตรียมพวกเนื้อสัตว์และอุปกรณ์ทำอาหารไว้ให้แล้ว แล้วก็บอกทั้งสามครอบครัวว่าให้เริ่มทำอาหารได้เลย
ญาธิดามองดูอาหารต่างๆ นานา แล้วคิ้วของเธอก็ขมวดเข้าหากัน ชาช่าที่อยู่ด้านข้างก็สีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก
อาหารจานเดียวที่เธอทำได้คือซุปปลา แต่ว่าวันนี้วัตถุดิบไม่มีปลาเลย เธอกำลังคิดอยู่ว่าจะสามารถเอาเนื้อสดมาทำลอกเลียนแบบและทำอะไรกินได้บ้าง
เหมือนกับว่าคุณอนณมองออกว่าเธอกำลังสับสนและอึดอัด ก็เลยพูดออกมาว่า
“เรื่องนี้ให้ผู้ชายอย่างพวกเราเป็นคนทำดีกว่าครับ ชาช่ากับคุณญาธิดาไปพักผ่อนด้านข้างเถอะ”เขาพูดอย่างใส่ใจ แล้วก็ผลักผู้หญิงทั้งสองคนเดินออกไปไกลๆ เพราะกลัวว่ากลิ่นน้ำมัน กลิ่นควันจะติดตัวพวกเธอเข้า
พอพูดจบ สายตาของเขาก็มองไปที่ภวินท์ เขายิ้มอย่างอ่อนโยนและสง่างาม “คุณภวินท์ก็ไม่ได้เหมือนคนทำอาหารเท่าไหร่นะครับ แล้วอีกอย่างคุณก็มีลูกน้อยอีกสองคนให้ต้องดูแล ไปพักผ่อนอยู่ข้างๆ ด้วยเถอะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ”ระหว่างที่ภวินท์พูดอยู่นั้น ก็ม้วนแขนเสื้อขึ้นมาอย่างสง่างาม และนิ้วที่เรียวยาวของเขาก็แช่ลงไปในน้ำแร่
ญาธิดายังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ว่าชาช่าก็ดึงให้เธอกลับไปนั่งข้างๆ พร้อมกับพูดว่า “พวกเราไปก็มีแต่จะสร้างปัญหาเพิ่ม และห้องครัวก็จะเกิดหายนะ สู้นั่งอยู่ตรงนี้จะดีกว่านะ”
“แต่ว่า……”
ชาช่ากลอกตาใสเธออย่างไม่พอใจ แล้วก็โบกมือพร้อมกับพูดว่า “ทำไมคุณถึงได้หยุมหยิมขนาดนี้เนี่ย ได้เป็นคุณนายที่ร่ำรวยแล้วก็ควรทำตัวให้เหมือนคุณนายหน่อยสิ ทำไมถึงไม่รู้จักดื่มด่ำมันเลยนะ”
ญาธิดาทำปากมุ่ย สุดท้ายก็ไม่พูดอะไร ได้แต่นั่งสงบอยู่บนเก้าอี้ไม้ไผ่ เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ความรู้สึกเสียหน้าของเธอก็ค่อยๆ หายไปตามกาลเวลา แล้วเธอกับชาช่าก็เพลิดเพลินกับช่วงเวลาที่น่ารื่นรมย์เหล่านี้
นี่เป็นครั้งแรกที่อีธานกับเอลล่าได้เข้าร่วมกิจกรรมพวกนี้ พวกเขารู้สึกสนใจเครื่องครัวทุกชิ้น ได้แต่เอาแต่พูดคุยกันไม่หยุดรอบเตาแก๊ส แล้วก็ช่วยภวินท์แบ่งเบาภาระบ้าง
สายตาที่อ่อนโยนของชาช่ามองไปที่อีธานกับเอลล่า แล้วก็ยื่นมือไปลูบท้องของตัวเองพร้อมกับพูดว่า “พอเห็นลูกทั้งสองคนของคุณ ฉันก็เริ่มตั้งหน้าตั้งตาเด็กในท้องคนนี้แล้ว”
ญาธิดาได้ยินดังนั้นก็หัวเราะเบาๆ “จริงๆ การเป็นแม่คนคือประสบการณ์ที่ดีมากเลยนะ แถมสามีคุณยังเอาใจใส่ขนาดนั้น ช่วงเวลาระหว่างตั้งครรภ์ของคุณน่าจะเบาสบายน่าดู”
เธอนึกย้อนไปถึงตอนที่คลอดลูกที่อเมริกา มันเหมือนกับฝันร้ายเลย โชคดีที่หลังจากมีอีธานกับเอลล่าแล้ว เธอก็ได้มีความสุขแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
“สามีของคุณก็ไม่แพ้กันเลยนะ”ชาช่าเอาศอกแตะแขนเธอ และสายตาของผู้หญิงทั้งสองคนก็มองไปที่ภวินท์
แสงดวงตะวันสีแดงอมส้มส่องมาที่เขา ทำให้ใบหน้าที่เคร่งขรึมของเขาอ่อนโยนลงมาก
ญาธิดาคือเครื่องทิ้งระเบิดในครัว แต่จำนวนครั้งที่ภวินท์เคยก้าวเข้าไปในครัวตั้งแต่เด็กจนโตนั้นน้อยกว่ามาก ดังนั้นปกติแล้วป้าจันทร์จะเป็นคนรับผิดชอบอาหารทั้งสามมื้อของตระกูลสถิรานนท์
แต่วันนี้ ดูเหมือนเขาจะเรียนรู้ด้วยตนเองโดยไม่มีครู หลังจากค้นหาสูตรอาหารสองสามอย่างบนอินเทอร์เน็ต เขาก็เริ่มเข้าสู่สภาวะ “พ่อบ้าน”โดยสมบูรณ์
คุณอนณยื่นหน้าเข้ามามองดูจานชามที่สวยงามซึ่งเทียบได้กับเชฟมิชลินระดับห้าดาว แล้วก็ส่ายหน้าอย่างไม่มีทางเลี่ยง “คุณภวินท์ครับ ต่อให้เสิร์ฟของพวกนี้มาแปดจาน สิบจาน พวกเราก็กินไม่อิ่มหรอกนะ”
ภวินท์ชะงักไปทันที หลังจากนั้นก็พูดว่า “ผมก็ไม่มีประสบการณ์ด้านนี้เท่าไหร่ ต้องรบกวนคุณแล้วล่ะครับ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมสอนคุณได้”คุณอนณมีสีหน้าเต็มอกเต็มใจ
เขาดึงอาหารในมือของภวินท์ไปพร้อมกับพูดว่า “ความจริงแล้วการที่ได้ทำอาหารให้คนที่คุณชอบกิน มันถือว่าเป็นเรื่องที่มีความสุขมากเลยนะครับ คุณยังไม่เคยแสดงทักษะการทำอาหาร และความรักของคุณต่อคุณญาธิดามาก่อนเลย”
ภวินท์เม้มปากเบาๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
คุณอนณยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม “ตอนที่เราชอบใครคนหนึ่ง สายตาของเขาจะไม่สามารถซ่อนแสงแวววาวได้หรอกครับ สายตาของคุณก็มีเหมือนกัน”
พอเขาได้ยินดังนั้น สายตาก็มองไปที่ญาธิดาทันที และความเฉยเมยในสายตาของเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความนุ่มนวล
ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้ว่าเขาชอบเธอมากแค่ไหน
อีธานยืนอยู่ข้างๆ โต๊ะ เขาถือมีดผลไม้ที่ทำจากพลาสติกอย่างระมัดระวัง หั่นผักที่นิ่มอย่างระมัดระวัง ขณะที่ เอลล่าเช็ดคราบน้ำข้างโต๊ะยาวด้วยผ้าเช็ดหน้าสีขาวชิ้นเล็กๆ แล้วก็จัดจาน
เวลาสั้นๆ หนึ่งวัน เด็กน้อยทั้งสองคนดึงดูดแฟนคลับรุ่นแม่และพี่สาวมากมาย ทุกคนก็ตั้งชื่อกลุ่มแฟนคลับอย่าง “เอาใจใส่”ว่ากลุ่มลักพาตัวเด็ก และตอนนี้กล่องคอมเมนท์ก็เต็มไปด้วยความเห็นว่าอิจฉาญาธิดาอย่างมาก
พี่ยู่ยี่เห็นผ่านทางIPADว่าครอบครัวของตัวเองเหมือนไม่มีตัวตนเลย และเธอก็รู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆ หลายครั้งที่เธออยากให้ปลื้มไปออกกล้อง แม้แต่จะให้เขาเสแสร้งทำท่าทางเป็นเด็กน้อยที่เชื่อฟังอย่างอีธานกับเอลล่า
แต่ว่าปลื้มก็ปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ นอกจากการวิ่งเล่นบนพื้นดินแล้วยังสร้างปัญหาให้ผู้ใหญ่สองสามคน ทำให้พี่ยู่ยี่ต้องอับอายต่อหน้ากล้อง เธอไม่กล้าตีลูกต่อหน้าทุกคน หลายครั้งที่ยกมือขึ้นแต่ก็ต้องเก็บมือลงไปอย่างไม่พอใจ
และเธอก็หันไปมองญาธิดาและชาช่าที่กำลังหัวเราะกันอย่างมีความสุข และหลังจากมองตามเสียไป เธอก็บังเอิญเห็นสามีอ้วนเตี้ยที่นอนอยู่บนเก้าอี้อย่างเกียจคร้านและกำลังไถลติ้กตอกอยู่ และความโกรธในดวงตาของเธอมันก็เผาไหม้รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ทำไมยัยผู้หญิงชั้นต่ำทั้งสองคนถึงได้พักผ่อนอยู่ตรงนั้น แต่ว่าเธอต้องกลายมาเป็นแม่บ้านที่ต้องวุ่นวายอยู่ตรงนี้ด้วย!
ความงามและรูปลักษณ์ของเธอไม่เลว ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวระหว่างพวกเธอคือเธอไม่ได้แต่งงานกับสามีที่ร่ำรวยและหล่อเหลา ถ้าเธอได้รับโอกาสอีกครั้ง เธอจะเลือกผู้ชายที่คู่ควรกับเธออย่างแน่นอน!
ดวงตาของเธอหรี่ลง และเธอมองไปยังชายสองคนที่อยู่ข้างๆ เธอ
คุณอนณไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเงินหรือว่าหน้าตา ก็สู้ภวินท์ไม่ได้เลย ทุกครั้งที่เธอเห็นภวินท์ ความรู้สึกปรารถนามันก็เกิดขึ้นในใจของเธอ
พอคิดได้แบบนี้ ใบหน้าของเธอเขินอายและแดงก่ำ เธอเดินเข้าไปหาชายทั้งสองด้วยรอยยิ้ม แล้วพูดด้วยเสียงออดอ่อนว่า “ทำไมผู้ชายสองคนอย่างพวกคุณถึงเข้าครัวได้ล่ะคะ เรื่องขี้เขม่าน้ำมันแบบนี้ให้ฉันทำคนเดียวก็พอแล้วค่ะ”
พอพี่ยู่ยี่พูดจบ ก็ยื่นมือไปโอบเอวของภวินท์ เธอจงใจสบตากับเขา ดูท่าทางเหมือนจะช่วยถอดผ้ากันเปื้อนให้
สายตาของภวินท์เยือกเย็นขึ้นมาในทันที ดวงตาสีเข้มกวาดไปทั่วใบหน้าที่ประจบสอพลอของเธอราวกับมีดที่แหลมคม
พี่ยู่ยี่หยุดทันที ความรู้สึกกลัวที่อธิบายไม่ถูกผุดขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจ
““เลิกใช้อุบายเล็กๆ น้อยๆ ของคุณได้แล้ว แล้วอย่าทำอีก” เขารักษาระยะห่างจากพี่ยู่ยี่ และเสียงของเขาเย็นชามาก
ชาช่าก็เห็นภาพเหตุการณ์นั้นพอดี น้ำเสียงที่เกียจคร้านของเธอปนไปด้วยความสุขที่หาได้ยาก “ฉันล่ะอยากจะเห็นจริงๆ ว่ายู่ยี่จะเสแสร้งไปได้อีกนานแค่ไหน”
ญาธิดาหยิบพัดลมตัวเล็กข้างๆ มาเป่าให้เธอทันที แล้วก็พูดเบาๆ ว่า “วินเป็นคนที่เชื่อถือได้ ดังนั้นขอแค่เธอไม่ทำร้ายอีธานกับเอลล่า ฉันก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น”
เมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนบ่าย เธอก็ถอนหายใจอยู่ในใจ
เจตนาของพี่ยู่ยี่นั้นชัดเจนมาก และปลื้มก็ดูซุกซนมากเหมือนกัน แม่ลูกคู่นี้เหมือนมีระเบิดเวลาฝังอยู่รอบตัวลูกของเธอ จะให้เธออดกังวลก็ไม่ได้