ดวงใจภวินท์ - บทที่ 707 ฉันไม่ใช่ของทดแทน
บทที่ 707 ฉันไม่ใช่ของทดแทน
ในห้องรับแขกตระกูลกรเวช ขวัญตากำลังนั่งดูถ่ายทอดสุดกับอัญมณีอยู่บนโซฟา
เสียงหัวเราะของอีธานกับเอลล่าดังออกมาจากทีวีเป็นครั้งเป็นคราว พอได้ยินอัญมณีก็แทบจะละลาย “พี่สะใภ้ ถ้าเกิดว่ามีเวลาต้องพาพี่ไปเจออีธานกับเอลล่าให้ได้เลย พี่จะต้องชอบพวกเขาอย่างแน่นอน”
ใบหน้าของขวัญตามีรอยยิ้มจางๆ แล้วก็หันแอปเปิลส่งให้อัญมณี
จากการเกลี้ยกล่อมของเธอ ในที่สุดอัญมณีก็ยอมเดินออกมาจากห้องและคืนดีกับธีทัต ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของสองพี่น้องคู่นี้จะไม่ได้สนิทสนมกันเหมือนก่อน แต่ก็ถือว่าได้ก้าวเข้ามาสู่ขั้นตอนที่สำคัญแล้ว
หลังจากที่รายการเรียลลิตี้โชว์พ่อแม่ลูกเริ่มขึ้น อัญมณีก็ขายอีธานกับให้เธออย่างมาก เธอไล่ดูรายการสิบกว่านาที และก็กลายมาเป็นสมาชิกของกลุ่ม “ลักพาตัวเด็ก”
“ฉันคล้ายกับเธอมากเลยเหรอ? ”เธอมองไปที่อัญมณีแล้วก็ถามออกมาด้วยความสงสัย
อัญมณีเงียบไปสองวินาที หลังจากนั้นก็พยักหน้า “พี่ก็แค่เหมือนธิดาเมื่อไม่กี่ปีก่อนเท่านั้นเอง ครั้งแรกที่ฉันเจอพี่ก็มีความรู้สึกแบบนั้นแหละ”
พอเธอพูดจบ ก็เห็นได้ว่ารอยยิ้มบนใบหน้าของขวัญตานั้นหายไป ก็เลยรีบแก้ว่า “ในฐานะที่เป็นเพื่อนรักของธิดา ฉันยอมรับพี่นะ พี่ชายของฉันก็ต้องยอมรับพี่เหมือนกัน แต่ปัญหาตอนนี้มันอยู่แค่ที่เวลาเท่านั้นเอง”
“อาจจะนะ”
ขวัญตาถอนหายใจออกมา หลังจากนั้นก็หันไปมองห้องอ่านหนังสือ และประตูห้องนั้นก็เปิดออกมาพอดี พร้อมกับธีทัตที่เดินออกมาและสบตากับเธอ
ตรงหน้าของเขาปรากฏภาพใบหน้าของญาธิดาขึ้นมา ความนุ่มนวลจากหัวใจของเขาก็เกิดขึ้นในทันที เขาเดินเข้าไปลูบผมของเธออย่างแผ่วเบาและพูดว่า “อันอันรังแกคุณรึเปล่า? ”
“ความสัมพันธ์ระหว่างพี่สะใภ้กับฉันเป็นเหมือนกาว และพี่นั่นแหละที่เป็นส่วนเกิน”อัญมณีกัดแอปเปิลแล้วก็บ่นพึมพำ
ขวัญตาก็กำมือหนาของเขาพร้อมกับพูดอย่างแผ่วเบาว่า “อันอันเป็นผู้หญิงที่รู้เรื่องรู้ราวมาก คุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ”
เธอพึ่งจะพูดจบ อัญมณีก็ลากเธอเข้าไปข้างๆ แล้วทั้งสองคนก็ดูทีวีอย่างเพลิดเพลิน
เสียงของชาช่าดังออกมาจากทีวี “ธิดา เธอสอนลูกได้ดีมากเลย ถ้าแบบนั้นตอนฉันคลอดลูกแล้วเอามาให้เธอช่วยเลี้ยงดีกว่า”
หลังจากนั้น เสียงหัวเราะที่คุ้นเคยก็ดังเข้ามาในหูของธีทัต
ใบหน้าของเขามืดมนในทันใด ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่แหล่งที่มาของเสียงครู่หนึ่ง และเมื่อกล้องหันกลับมา ใบหน้าที่ทำให้เขาคิดถึงทั้งวันทั้งคืนก็ปรากฏบนทีวี
เธอไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิดเดียว หลังจากแต่งงานกับภวินท์แล้วก็มีเสน่ห์ขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข
อีธานกับเอลล่าก็มายืนล้อมญาธิดา คนหนึ่งบีบไหล่ของเธอให้เธอ อีกคนลูบขาของเธอ ชาช่าด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ป้าชาช่าพาลูกมาอยู่ที่บ้านของเราโอเคไหมคะ พวกเราจะสามารถดูแลน้องตัวเล็กๆ ได้นะ”
“ห้องที่บ้านเราใหญ่มากเลยนะครับ แล้วพ่อของผมก็ทำอะไรเป็นเยอะเลย สามารถสอนน้องตัวเล็กได้ตั้งหลายอย่าง”
ระหว่างที่พูดอยู่นั้นร่างกายที่สูงใหญ่ของภวินท์ก็ปรากฏตัวขึ้นหน้าเลนส์กล้อง เขาวางสตรอเบอร์รี่ที่ล้างแล้วไว้บนโต๊ะระหว่างผู้หญิงทั้งสองคน แล้วก็ปัดผมที่ตกลงปิดหน้าผากให้ญาธิดา
ขวัญตาเห็นภาพนั้นก็อุทานออกมาอย่างจริงใจว่า “อันอัน ธิดากับคุณภวินท์เหมาะสมกันมากเลยเนอะ”
พอธีทัตได้ยินดังนั้น ดวงตาก็ยิ่งมืดมนลงไปอีก
“พวกเธอดูอะไรกันอยู่? ” น้ำเสียงของเขาเย็นชาอย่างอธิบายไม่ได้
นี่เป็นครั้งแรกที่ขวัญตาได้ยินเขาพูดด้วยน้ำเสียงแบบนี้ ก็เลยหันหน้าไปอย่างประหลาดใจ “อันอันชอบดูรายการเรียลลิตี้โชว์พ่อแม่ลูก เด็กน้อยที่อยู่ในรายการก็น่ารักมากเลย”
ธีทัตฉันแค่รู้สึกว่าความโกรธเกรี้ยวที่แผดเผาในอกของตัวเองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เขาหยิบรีโมทบนโต๊ะขึ้นมาและปาไปตรงทีวีแบบไม่คิดเลยด้วยซ้ำ
ปัง!
หลังจากเสียงดัง ภาพบนทีวีก็พร่ามัวในทันที และมีเสียงฟู่ของกระแสไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง
“ธีทัต พี่เป็นบ้าอะไรเนี่ย!”อัญมณีลุกขึ้นและถลึงตาใส่เขาด้วยความโมโห
ธีทัตกำหมัดทั้งสองข้างแน่น พยายามอดทนไม่ให้ใจร้อนจนผลีผลามลงไม้ลงมือ แล้วก็ตะคอกออกมาว่า “พี่จะให้เธอไปเรียนเพิ่มที่อเมริกา ระหว่างนี้ก็กลับไปที่ห้องของตัวเองและไตร่ตรองให้ดี”
พออัญมณีได้ยินดังนั้น สายตาก็เต็มไปด้วยการเยาะเย้ย “พี่ไม่สามารถเผชิญหน้ากับฉัน หรือไม่สามารถเผชิญหน้ากับเพื่อนสนิทของฉันได้กันแน่? ”
เขายิ่งโกรธมากขึ้นเมื่อเธอแหย่มาโดนจุด เขาเดินก้าวเข้าไปหาเธอ พร้อมกับเอ่ยเตือนออกมาทีละคำ “อย่าท้าทายเส้นตายของพี่”
“เส้นตายของพี่คือธิดางั้นเหรอ? ”เธอเอ่ยเตือนว่า “ภรรยาที่พี่กำลังจะแต่งงานด้วยนั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ และพี่ก็ไม่มีสิทธิคิดถึงธิดา”
“อัญมณี!!!”เขาตะคอกออกมา เส้นเลือดที่ขมับปูดขึ้นมา แล้วก็กวาดแจกันลายครามสีขาวบนโต๊ะ
ร่างกายที่ผอมบางของขวัญตาสั่นไปในทันที และก็รีบดึงอันอันเข้ามากอดไว้ พร้อมกับพูดเกลี้ยกล่อมด้วยเสียงที่สั่นเทาว่า “เธอกลับไปพักผ่อนที่ห้องก่อนโอเคไหม เดี๋ยวตรงนี้พี่จัดการเอง”
พอพูดจบ เธอก็เดินเข้าไปหาธีทัตอย่างระมัดระวัง
ผู้ชายที่อยู่ข้างหน้าเธออยู่ไกลจากสุภาพบุรุษที่สง่างามในความทรงจำของเธอ และเธอไม่สามารถบอกได้แบบไหนกันแน่คือตัวตนที่แท้ตรงของเขา
บางทีเธออาจจะผิดตั้งแต่เริ่มต้น เพราะว่าความอ่อนโยนและสง่างามของเขามันมีไว้ให้แค่ญาธิดาเท่านั้น ไม่ใช่เธอ
ขวัญตาพยายามลดเสียงของตัวเองให้ได้มากที่สุด เพราะว่ากลัวว่าจะไปยั่วยุเขามากกว่าเดิม “ทัต พวกเรามาคุยกันหน่อยดีไหม? ”
พอได้ยินเสียงที่หวาดกลัว ธีทัตก็กวาดสายตาที่มืดมนมามองที่เธอ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้เป็นคนแปลกหน้า
เธอไม่ใช่ธิดา เพราะธิดาไม่มีวันมองเขาด้วยสายตาหวาดกลัวแบบนี้แน่นอน และผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าของเขาตอนนี้ก็เป็นแค่ของปลอมเท่านั้น!
“ระหว่างพวกเรามันไม่มีอะไรน่าคุยหรอก ถ้าเกิดว่าคุณจะไม่อยู่เคียงข้างผมดีๆ ก็ตามเธอกลับห้องไปแล้วไม่ต้องออกมาอีก” น้ำเสียงของธีทัตยังคงเยือกเย็นเหมือนเดิม
เสียงของขวัญตาเบาบางราวกับยุง สายตาเต็มไปด้วยความผิดหวัง “คุณใจเย็นลงก่อนนะ ฉันจะกลับบ้านไปพักผ่อนสักสองสามวัน ถ้าคุณอารมณ์เย็นลงเมื่อไหร่เราค่อยมาคุยกัน”
เธอพึ่งจะพูดจบ ยังไม่ทันจะได้เดินไปไหน จู่ๆ ธีทัตก็ดึงข้อมือของเธอไว้ และดึงเธอมากอดไว้ในอ้อมแขนพร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “นี่คือบ้านของคุณ แล้วคุณจะไปไหน? ”
เธอจะไปไหนไม่ได้!
ถ้าเกิดว่าเธอไปแล้ว เขาก็จะไม่มีแม้แต่ของแทน แล้วก็จะไม่ได้เจอธิดาของเขาอีกแล้วด้วยธิดา
ขวัญตาสบตากับดวงตาที่ดุร้ายของเขา ในใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เธอดิ้นรนและร้องไห้อย่างแรง
“ไม่ใช่!นี่มันบ้านที่ไหนกัน!ครอบครัวของฉันไม่มีทางทำกับฉันแบบนี้หรอก!บ้านหลังนี้มันถูกเตรียมไว้ให้ญาธิดา แล้วฉันเป็นอะไรกัน!”
รูม่านตาของธีทัตหดลงในทันที เขาบีบคางของเธออย่างแรงและก็พูดดังขึ้น “ถ้าเกิดไม่มีญาธิดา คุณจะมาเป็นภรรยาของผมได้ยังไงกันล่ะ”
“ใครสนใจอยากจะเป็นภรรยาของคุณกัน!ฉันคือขวัญตา พิลากุล!ไม่ใช่ตัวแทนของญาธิดา!”
“คุณเป็น!”
สติของเขาหายไปอย่างสมบูรณ์ ความโกรธที่ไม่ได้แสดงออกมาได้ครอบงำเขาอย่างสมบูรณ์ และเขายกมือขึ้นโดยไม่รู้ตัวและสะบัดแขนของขวัญตาออก
ขวัญตาพยายามขัดขืน ทันใดนั้นร่างกายของเธอก็เหมือนไร้น้ำหนัก เธอโซเซไปหลายก้าว หลังจากนั้นก็ล้มลงที่พื้น และแขนขาวๆ ของเธอก็ล้มไปทับเศษทีวีที่แตะกระจายบนพื้น
ขวัญตาเลือดพุ่งออกมาทันที ย้อมพรมใต้เท้าให้เป็นสีแดง