ดวงใจภวินท์ - บทที่ 709 คุณเปลี่ยนไปจริงๆ
บทที่ 709 คุณเปลี่ยนไปจริงๆ
ญาธิดาแค่อยากให้ทุกคนได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของพี่ยู่ยี่กับปลื้มผ่านทางไลฟ์สด
ตอนนี้เป้าหมายของเธอสำเร็จแล้ว เธอเชื่อว่าผู้ชมที่กำลังรับชมการถ่ายทอดสดก็เข้าใจดีว่าอะไรถูกอะไรผิด ดังนั้นเธอก็เลยขี้เกียจที่จะดูครอบครัวสามคนนี้เล่นละครอีกต่อไปแล้ว
“พวกเรากลับกันเถอะ”น้ำเสียงของเธอดูเหนื่อยล้า ตอนนี้เธอแค่อยากไปเยี่ยมชาช่าเท่านั้นเอง
ภวินท์พยักหน้า แล้วก็โบกมือเรียกอีธานกับเอลล่า ส่วนอีกมือหนึ่งก็โอบไหล่ของเธอเอาไว้ แล้วก็เดินอ้อมพี่ยู่ยี่ที่กำลังตีลูกอยู่ไป
สายตาของพี่ยู่ยี่เหลือบไปมองเขา เหมือนกับว่ายังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ว่าตอนนี้กล้องกำลังหันมาที่เธออยู่ เธอก็เลยจำเป็นต้องจบละครที่น่าขมขื่นเรื่องนี้ ก็เลยได้แต่ปล่อยให้เขาเดินออกไป
และครอบครัวทั้งสี่คนพึ่งจะเดินออกไปได้ไม่นาน ในที่สุดสามีของพี่ยู่ยี่ก็ทนไม่ไหว เสียงคำรามด้วยความโมโหดังกึกก้องไปทั่วลานบ้าน “สามคนนี้เป็นบ้าอะไรกัน ชาช่าก็ไม่ได้แท้งสักหน่อย ทำไมต้องตีลูกด้วย”
พอญาธิดาได้ยินดังนั้น ก็ขมวดคิ้วแล้วก็หันกลับไปด้วยความไม่พอใจทันที
ตอนนี้ผู้ชายคนนั้นกำลังทะเลาะกับพี่ยู่ยี่อยู่หน้ากล้อง สามีภรรยาคู่นี้ได้สูญเสียภาพลักษณ์ที่รักใครและสามัคคีกันเหมือนในติ้กตอกไปแล้ว
และในชั่วพริบตา ชายคนนั้นก็ยกมือขึ้นและตบลงไปบนใบหน้าของพี่ยู่ยี่ดัง “เพี๊ยะ”
ญาธิดาหันหน้ากลับมาด้วยสีหน้าที่สงบ แล้วก็หันไปมองภวินท์ “คุณว่าถ้าครอบครัวของพี่ยู่ยี่ถอนตัวออกจากรายการไปตอนนี้ จะกระทบต่อรายการไหม? ”
“ไม่หรอก”
“ถ้ายังงั้นฉันก็อยากจะปรึกษาอะไรกับคุณหน่อย” น้ำเสียงของเธอเป็นทางการมาก
เหมือนกับภวินท์จะรู้อยู่แล้วว่าเธอจะพูดอะไร ก็เลยลูบหัวของเธอสองที แล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงที่หยอกล้อ “ปกติคุณเป็นคนอ่อนโยนและชอบชดใช้ความคับข้องใจด้วยคุณธรรมนี่ ตอนนี้เปลี่ยนความตั้งใจแล้วเหรอ? ”
ญาธิดามองหน้าเขาอย่างไม่มีอะไรจะพูด “จะปล่อยให้พวกเขามาเสแสร้งอยู่ในรายการแล้วทำร้ายคนอื่นแบบนี้น่ะเหรอ? ”
อย่างที่เมิ่งชาช่าพูดน่ะแหละ สินค้าที่พี่ยู่ยี่นำมาขายนั้นมีปัญหา และตอนนี้ก็มาเพิ่มการเป็นที่รู้จักในรายการ ก็มีแต่จะชักจูงให้คนอื่นถูกหลอกมากขึ้นเท่านั้น เงินที่ไม่ดีแบบนี้ก็ไม่ควรได้รับหรอก
เธอไม่มีทางห้ามทุกคนไม่ให้รับชมการถ่ายทอดสดของพี่ยู่ยี่ได้ และไม่มีสิทธิ์ห้ามทุกคนไม่ให้ซื้อของของพี่ยู่ยี่ได้เหมือนกัน สิ่งที่เธอทำได้คือพยายามอย่างเต็มที่เพื่อลดจำนวนผู้ชมที่ตาบอด
“คุณจะแก้แค้นให้ชาช่างั้นเหรอ? ”ภวินท์ถามด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำ
เธอสะดุ้งเล็กน้อย โดนอ่านใจจนหมดเปลือก ใบหน้าของเธอดูไม่เป็นธรรมชาติเล็กน้อย และเธอก็พยักหน้าด้วยความรู้สึกผิด
“แม้ว่าบุคลิกของชาช่าจะค่อนข้างสุดโต่ง แต่ว่าเธอก็ไม่ได้นิสัยไม่ดี ยิ่งไปกว่านั้น ทารกในท้องของเธอยังไร้เดียงสา ฉันยอมรับไม่ได้ที่เธอถูกทำร้ายในตอนนี้” พอเธอพูดจบ ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย
ชาช่าเพิ่งแสดงความรักต่อลูกที่ยังไม่เกิดของเธอกับเธอ เพราะว่าเธอมีประสบการณ์ในการตั้งครรภ์ตลอดทั้งสอบเดือนเหมือนกัน ก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าลูกคนหนึ่งมีความหมายต่อคนเป็นแม่ขนาดไหน
มือหนาของภวินท์กุมมือของเธอเอาไว้ เหมือนกับว่าอยากใช้วิธีนี้ในการทำให้เธออารมณ์เย็นลง
ผ่านไปสักพัก ในที่สุดลมหายใจของญาธิดาก็สงบลง และเขาก็พูดออกมาด้วยเสียงที่เย็นชาว่า “ยังไงตอนบ่ายเธอปกป้องอีธานกับเอลล่าเอาไว้ ผมก็ต้องเรียกคืนความยุติธรรมให้เธออยู่แล้ว”
“ใช่สิ!”ทันใดนั้นเธอก็คิดอะไรขึ้นมาได้ แล้วก็กุมมือเขาพร้อมกับพูดว่า “เรื่องนี้มันจะกระทบต่อบริษัทรึเปล่า? ”
ก่อนที่พวกเขาจะเข้าร่วมรายการ ภวินท์ได้สั่งให้STN Groupเปิดบริษัทย่อยขึ้นมาลงทุนในรายการนี้ และตอนนี้เธอกำลังจะใช้ผลประโยชน์จากมัน แน่นอนว่าต้องส่งผลกระทบต่อบริษัทอย่างแน่นอน
“คุณเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ”เสียงที่ทุ้มต่ำของภวินท์ดังขึ้นช้าๆ “ปกติแล้วคุณไม่มีทางคิดถึงเรื่องนี้หรอก”
ญาธิดาก้มหน้าลง “หลายปีที่ผ่านมาฉันผ่านอะไรมาเยอะมาก ถ้าเกิดว่าไม่พัฒนาขึ้นเลย จะปกป้องอีธานกับเอลล่าได้ยังไงกันล่ะ”
“หนูกับพี่ชายโตแล้วค่ะ พวกเรายังปกป้องแม่ได้ด้วยนะ”เสียงเด็กน้อยของเอลล่าดังขึ้น ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจว่าพ่อกับแม่กำลังคุยอะไรกันอยู่ แต่เธอก็รู้ว่าพ่อกับแม่คือคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธอ
ญาธิดาได้ยินดังนั้นก็เกร็งไปในทันที น้ำตาเริ่มคลอเบ้า และเล็บของเธอก็จิกลงไปบนฝ่ามือของภวินท์อย่างควบคุมไม่ได้
ภวินท์ขมวดคิ้วแน่น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเป็นห่วงเรื่องอารมณ์ของเธอ หรือเพราะว่าความรู้สึกเจ็บปวดกันแน่
เขาพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะรักษาน้ำเสียงของเขาให้นุ่มนวลและพูดเบาๆ ว่า “คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับกิจการของบริษัทเลย และสามีของคุณจะไม่ล้มละลายเพราะเรื่องเล็กน้อยนี้หรอก”
พอได้ยินเขาหยอกล้อ แก้มของเธอก็เริ่มแดงก่ำ
ตอนนั้นสมองเธอเบลอ ก็เลยเผลอเรียกเขาออกไปว่าสามี ไม่คิดเลยว่าจะกลายมาเป็นจุดอ่อนในกำมือของภวินท์ได้
“ขี้เกียจสนใจคุณแล้ว”เธอก้มหน้าลง บนอุบอิบแล้วก็ปัดมือเขาออก พร้อมกับรีบเดินเข้าไปบริเวณที่พัก
ชาช่านอนอยู่บนเตียงอย่างอ่อนแรง พอคิดว่าเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นก็ยังคงรู้สึกกลัว แล้วก็เอามือจับท้องที่นูนออกมาด้วยความระมัดระวัง
ญาธิดาเปิดประตูเข้ามาในห้อง คุณอนณก็ยกตำแหน่งข้างเตียงให้กับเธอ และผู้หญิงทั้งสองคนก็จับมือกัน
“คุณเป็นยังไงบ้าง? จำเป็นต้องหยุดจากรายการและกลับไปดูแลครรภ์รึเปล่า? ” เธอถามด้วยความเป็นห่วง
ญาธิดาเปิดประตูเข้ามาในห้อง คุณอนณก็ยกตำแหน่งข้างเตียงให้กับเธอ และผู้หญิงทั้งสองคนก็จับมือกัน
ชาช่ายิ้มจางๆ ถึงแม้ว่าใบหน้าของเธอจะซีดมาก แต่ว่าปากของเธอยังคงแรงเหมือนเดิม “นี่คุณต้องการให้ฉันออกจากรายการเพื่อจะได้กระแสไปคนเดียวรึเปล่า”
“ความหวังดีกลายเป็นอะไรก็ไม่รู้ไปแล้ว ฉันรีบมาที่นี่ข้าวก็ยังไม่ได้กินด้วยซ้ำ ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ไม่มาหรอกนะ”ใบหน้าของญาธิดาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มเหมือนกัน แต่ว่าน้ำเสียงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
ชาช่าเห็นว่าเธอมาหา ก็รู้สึกดีใจขึ้นมาก เธอเขย่าแขนเธอแล้วยิ้มพร้อมกับพูดว่า “ฉันผิดไปแล้วโอเคไหม เดี๋ยวพักผ่อนจนหายดีเมื่อไหร่ จะเลี้ยงข้าวมือใหญ่เลย”
“ปิ้งย่างนะ!”ญาธิดาจงใจหันไปทางอื่นไม่มองหน้าเธอ
“ไม่คิดเลยว่าเป็นถึงคุณผู้หญิงแต่จะยอมง่ายแบบนี้”
“ถ้ายังงั้นฉันอยากกินเกี๊ยวปลาคริสตัลและข้าวซอสหอยเป๋าฮื้อร้านTippling”
“ช่างเถอะๆ กินปิ้งย่างเถอะ”ชาช่ารีบโบกมือทันที จงใจทำหน้าเศร้า “สถานที่อย่างTippling มีเพียงสามีของคุณเท่านั้นที่สามารถจองที่นั่งได้สำเร็จ และคนธรรมดาอย่างฉันไม่มีคุณสมบัติหรอกนะ”
ญาธิดายิ้มแล้วก็ปัดมือของเธอออก แล้วตอนนี้ภวินท์ก็พาอีธานกับเอลล่าเข้ามาพอดี
เด็กน้อยสองคนเข้ามาในห้องและรีบวิ่งไปที่ข้างเตียงทันที มือน้อยทั้งสี่ของพวกเขาเกาะติดกับเตียงอย่างพยายาม แล้วก็พูดจ้อจี้ไม่หยุด
“ป้าชาช่า ร่างกายของคุณป้าดีขึ้นบ้างรึยังครับ? ”
“เด็กน้อยในท้องเป็นยังไงบ้างคะ? ”
พอญาธิดาได้ยินดังนั้น ก็ถามด้วยความเป็นห่วงว่า “หมอที่พึ่งมาตรวจพูดว่าไงบ้าง? ”
“เพราะว่าตอนนี้ฉันอายุครรภ์ของฉันมันเลยครึ่งมาแล้ว ก็เลยไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นแล้ว ฉันกับลูกไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก แค่ตกใจไปหน่อยเท่านั้นเอง หมอบอกว่าพักผ่อนให้เพียงพอก็ดีขึ้นแล้ว”
“แต่ว่า……”
ญาธิดายังอยากจะเสริมอะไรบางอย่าง แต่ว่ามือหนาที่อบอุ่นก็ยืนมือจับที่ไหล่ของเธอ เสียงที่ทุ้มต่ำของภวินท์ก็ดังขึ้น “ผมให้พายุพาหมอสูติที่ดีที่สุดในเมือง Jมาที่นี่แล้ว ดังนั้นคุณไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกนะ”
พอชาช่าได้ยินดังนั้นดวงตาก็เบิกโพลงทันที
หมอสูติที่ดีที่สุดในเมือง J เธอนัดอยู่ครึ่งปีก็ยังนัดไม่ได้เลย แต่ว่าภวินท์กลับเชิญเขามาได้แบบสบายๆ เลยเหรอ?
แล้วเธอก็หันไปมองญาธิดาอีกครั้งพร้อมกับแขวะออกมาว่า “ก็อย่างที่พูดแหละ เป็นคนเก่งไม่สู้มีสามีรวยหรอกนะ!”