ดวงใจภวินท์ - บทที่ 723 แสดงอำนาจ
ตอนที่ญาธิดาตื่นขึ้นมาในห้องนอนแขกของozone ภวินท์กับหลุยส์ได้ออกไปแล้ว แม้แต่จรณ์ก็ไม่รู้ว่าหายไปไหน ทั้งบ้านยิ่งเงียบสงบมากขึ้น
ดีที่มีอลิสาอยู่เป็นเพื่อนเธอ และคอยปลอบใจเธออยู่ตลอดเวลา ความอัดอั้นที่อยู่ในใจของเธอจึงค่อยๆดีขึ้น
หลังจากกินอาหารเช้าแล้ว ทั้งสองคนต่างก็แยกย้ายกันเดินทางไปยังSTN Groupกับบ้านสถิรานนท์ วันนี้เป็นวันที่อันอันต้องได้รับการบำบัดทางจิตใจ ขณะเดียวกันก็เป็นวันประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นของSTN Group
จรณ์ได้เตรียมชุดที่เธอต้องใช้ไว้ให้ตั้งแต่เช้าแล้ว ยังได้จัดเตรียมรถยนต์ส่วนตัวที่ผ่านตกแต่งใหม่รวมไปถึงลูกน้องฝีมือดีที่สุดของozone นอกจากจะมาทำหน้าที่เป็นคนขับรถของเธอแล้ว และพยายามสุดความสามารถในการคุ้มครองความปลอดภัยให้เธอ
อีกฟากหนึ่งของเมือง ภวินท์ยืนรับลมเย็นอยู่บนดาดฟ้าของตึก สีหน้าเรียบเฉยมองดูเขตฟ้ารุ่งทั้งหมด
คนของจรณ์ได้ถูกส่งไปแทรกซึมในกลุ่มผู้คนแล้ว สิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้คือการรอ ขอเพียงมีข่าวของชยินกับสิงโต เขาก็จะเป็นคนชิงลงมือเพื่อควบคุมอีกฝ่ายหนึ่งก่อน เพื่อรับประกันว่าภารกิจจะสามารถสิ้นสุดได้ในระยะเวลาที่สั้นที่สุด
เขาลูบแหวนที่นิ้วนางของตนเองเบาๆ แววเคร่งขรึมในดวงตายิ่งเข้มข้นขึ้น ในกระเป๋าเสื้อมีเสียงสั่นดังขึ้น เขายื่นมือหยิบมือถือออกมา สีหน้าเปลี่ยนไปทันที
ควานดูดีๆ เป็นกระดุมสีดำเม็ดเล็กๆเม็ดหนึ่งปรากฏอยู่บนปลายนิ้วของเขา
การกลับเข้าสู่ STN Groupอีกครั้ง สถานะของญาธิดาไม่เหมือนเดิมแล้ว การที่เธอเข้ามารับตำแหน่งรักษาการประธานกรรมการของบริษัทถูกแพร่กระจายออกไปทั่วทั้งบริษัท พนักงานทุกคนต่างก็แสดงความเคารพต่อเธออย่างนอบน้อม
นอกจากพวกหุ้นส่วนที่คิดว่าตนเองอาบน้ำร้อนมาก่อน
“คุณญาธิดา เกี่ยวกับแนวโน้มของคุณภวินท์ วันนี้คุณต้องให้คำตอบพวกเรานะครับ”เพิ่งจะเริ่มการประชุม ผู้ถือหุ้นรายหนึ่งก็เอ่ยขึ้นเพื่อควบคุมเกมก่อน ผู้ถือหุ้นคนอื่นๆต่างก็เห็นด้วยกับเขา
เล็บมือของญาธิดาจิกที่ขอบโต๊ะไว้แน่น พยายามทำให้ตนเองใจเย็นที่สุด พยายามทำท่าทีให้เย็นชาที่สุดเพื่อเผชิญหน้ากับหุ้นส่วนที่ชอบรังแกคนอ่อนแอแต่กลัวคนที่เอาจริงเหล่านี้
“แนวโน้มของคุณภวินท์กลายเป็นเรื่องที่พวกคุณสามารถถามถึงตั้งแต่เมื่อไหร่”เธอจ้องมองคนที่เปิดประเด็นด้วยสายตาที่มีไฟลุกโชน เอ่ยขึ้นด้วยเสียงเย็นว่า“ ทุกท่านอยากจะทำเกินอำนาจ หรืออยากจะขึ้นแทนที่กันแน่”
เห็นว่าเธอกล้าต่อปากต่อคำ ผู้ถือหุ้นที่เป็นผู้นำก็รู้สึกโมโหขึ้นมาทันที “พวกเราเป็นหุ้นส่วนของSTN Group พวกเรายอมรับแค่คุณภวินท์คนเดียวเท่านั้น ไม่ใช่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่รู้จะสามารถเข้ามากดขี่พวกเราได้”
คนอื่นๆต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย
“คุณภวินท์เป็นคนหนุ่มที่มีความสามารถโดดเด่น พวกเราพอจะยอมรับได้ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสาวน้อยที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมมาอยู่ค้ำอยู่บนหัวของพวกเรา คิดว่าพวกเราเป็นตัวอะไร”
“ตระกูลสถิรานนท์มีเรื่องไม่หยุดหย่อน ตอนนี้ต้องตกมาอยู่ในการดูแลของเธอ เกรงว่าบริษัทนี้คงเดินไปได้ไม่ไกลแล้ว”
“คุณว่าคุณภวินท์จะเหมือนกับท่านประธานคนเก่าหรือเปล่า ถูกคนบังคับควบคุมเอาไว้ ไม่อย่างนั้นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อย่างนี้ได้ยังไง”
เสียงพูดคุยที่วุ่นวายแทรกเข้าไปในหูของญาธิดา หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้น แม้แต่ฝ่ามือก็มีแต่เหงื่อเต็มไปหมด แต่ความเย็นชาในแววตาของเธอยิ่งอยู่ก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น
จนกระทั่งทุกคนพูดสิ่งที่ไม่พอใจออกมาจนหมดแล้ว ห้องประชุมเข้าสู่ความสงบอีกครั้ง เธอจึงเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเย็นชา
“ฉันเป็นภรรยาของภวินท์ที่แต่งงานกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย คุณว่าฉันเป็นใครหน้าไหนไม่รู้ เห็นได้ชัดว่าคุณภวินท์ในความคิดของคุณไมได้เป็นอย่างที่คาดหวังไว้ นอกจากฉันจะเป็นภรรยาของคุณภวินท์แล้ว ฉันก็เหมือนกับทุกคน ถือหุ้นในบริษัทของตระกูลสถิรานนท์ ทุกคนสามารถปรากฏตัวขึ้นที่นี่ได้ แล้วทำไมฉันจะมาไม่ได้”
สีหน้าของผู้นำในกลุ่มผู้ถือหุ้นเปลี่ยนไปทันที ราวกับคิดไม่ถึงว่าเธอจะจัดการยากขนาดนี้ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแค้นใจ น้ำเสียงและท่าทีก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น
“นายเมื่อคุณบอกว่าคุณเหมือนพวกเรา ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไม่มีสิทธิ์ยืนอยู่ในตำแหน่งนั้น และไม่มีอำนาจที่จะตัดสินใจใดๆแทนคุณภวินท์ด้วย”
ญาธิดาหลุดเสียงหัวเราะออกมา ราวกับว่ากำลังมองดูเรื่องตลก มองผู้ถือหุ้นคนนั้น“บริษัทไม่มีคนตัดสินใจจะทำให้ต้องเผชิญกับการหยุดชะงัก จุดนี้คุณน่าจะเข้าใจใช่ไหมคะ นี่คุณคิดว่าคุณหาเงินได้มากพอแล้ว ไม่อยากจะเอาอีกแล้วยังงั้นเหรอคะ”
“นังหนูเมื่อวานซืน กิจการของ STN Groupใหญ่โตขนาดนี้ ไม่จำเป็นต้องให้เธอมาชี้นำ”
“ใช่ ไม่รู้อะไรเลยยังกล้าทำตัวกร่าง อย่างนี้ถือเป็นหายนะของบริษัท”
“ทุกคนดูซิว่าพฤติกรรมเธอเป็นอย่างไร ให้คนแบบนี้มีอำนาจมาดูแลบริษัท แล้ววันหน้าพวกเราจะมีชีวิตที่ดีได้ยังไง”
ทุกคนต่างก็พูดกันไปต่างๆนานา เสียงพูดคุยยิ่งอยู่ก็ยิ่งดังขึ้น สายตาของญาธิดามีแววหงุดหงิดวาบผ่าน โบกมือยกแฟ้มเอกสารขึ้น โยนมันไปยังมุมหนึ่งของห้องประชุมอย่างแรง
หลังเสียงดังสนั่นผ่านไป แจกันดอกไม้ที่วางอยู่ในมุมห้องแตกสลายเป็นชิ้นๆ ทุกคนต่างก็เงียบลงในพริบตา สายตามองไปที่แจกันดอกไม้ จากนั้นก็มองไปทางเธอ
“เงียบกันได้สักที เห็นทีคงจะมีแต่เสียงของเงินเท่านั้นที่จะดึงดูดความสนใจทุกคนได้”เธอเลิกคิ้วขึ้น ใช้ปลายคางชี้ไปทางแจกัน พูดเสียงเบาว่า “ต้องขออภัยด้วย ของแท้จากราชวงศ์ถังได้อุทิศตนอย่างกล้าหาญเพื่อทุกท่านแล้ว การชดใช้ครั้งนี้จะถูกบันทึกไว้ในรายการหนี้ของทุกคน”
“เหลวไหล”
“เหลวไหลจริงๆ ทำอย่างนี้มันมากเกินไปแล้ว”
ญาธิดาเอียงหน้าไปมองทางด้านคนที่พูด จากนั้นก็หยิบที่เขี่ยบุหรี่ที่อยู่ไม่ไกล ยกแขนขึ้นสูงอีกครั้ง เห็นเธอกำลังจะลงมือ ผู้ถือหุ้นที่อยู่ตรงหน้าจึงยอมสงบปากสงบคำโดยไม่เต็มใจ
เธอพยักหน้าอย่างพอใจ ท่าทีสบายใจนั่งลงไปยังตำแหน่งที่เดิมทีเป็นที่นั่งของภวินท์ มองดูทุกคนอย่างหยิ่งผยอง น้ำเสียงมีแววล้อเลียน
“เหตุผลที่ว่าพลังมังกรไม่อาจสยบคนพาลได้ไม่ทราบว่าทุกท่านเข้าใจหรือไม่ ในเมื่อตอนนี้STNมีฉันเป็นผู้ตัดสินใจเด็ดขาด ถ้าอย่างนั้นทุกท่านก็คือปลาที่อยู่บนเขียง ขอเตือนทุกท่านประโยคหนึ่ง คนที่รู้ว่ายุคสมัยได้เปลี่ยนไปแล้วนั้นถือเป็นคนฉลาด อยากจะต่อต้านฉัน ก็ต้องให้ฉันออกจากตำแหน่งนี้ไปก่อนค่อยลงมือ”
ทุกคนต่างก็ไม่เคยเห็นมุมนี้ของเธอมาก่อน ในสายตาของทุกคนเธอก็แค่หญิงสาวอ่อนแอคนหนึ่งเท่านั้น ตอนนี้ได้แสดงแสนยานุภาพอันยิ่งใหญ่ให้ทุกคนได้เห็น ทำให้ทุกคนไม่กล้าจะบุ่มบ่ามลงมือกระทำการใดๆโดยไม่ยั้งคิดก่อน
เธอนั้นพอใจกับปฏิกิริยาของทุกคนมาก หรี่ตาลงและพูดต่อไปว่า “ฉันรู้ว่าทุกท่านอยากจะแสดงอำนาจของตนเองให้ฉันเห็น พวกคุณก็ทำได้แล้ว แต่ฉันขอร้องพวกคุณให้ทำตัวเหมาะสมสักหน่อยจะดีกว่า อย่าตกลงไปในหล่มในขณะที่อยู่ในช่วงอายุที่ควรจะมีความสุข”
ในห้องประชุมเงียบไปชั่วขณะ จากนั้นผู้ถือหุ้นที่มีหุ้นน้อยที่สุดเหล่านั้นก้มหน้าลงก่อน เริ่มมีคนเห็นด้วยและเยินยอเธอ เมื่อมีคนนำและปูทางไว้แล้ว หุ้นส่วนคนอื่นๆต่างก็ตอบรับตามๆกัน
เพราะถ้าหากเธอยังทำลายวัตถุโบราณอีกละก็ เงินปันผลของพวกเขาในปีนี้คงไม่มีแล้ว
ใบหน้าของญาธิดามีรอยยิ้มผุดขึ้นมาอีกครั้ง เพียงแต่รอยยิ้มที่ไม่จริงใจเช่นนี้ทำให้คนที่เห็นแล้วรู้สึกกลัวขึ้นมา ทุกคนต่างก็ไม่ยินดีจะคุยกับเธออีก รีบสิ้นสุดการประชุมผู้ถือหุ้นโดยเร็วที่สุด
จนกระทั่งในห้องประชุมเหลือแค่เธอคนเดียว เธอจึงถอดหน้ากากที่จงใจสร้างขึ้นออก พิงอยู่กับเก้าอี้หายใจอย่างเหนื่อยหอบ พยายามทำให้จิตใจที่เต้นไม่เป็นส่ำสงบลง
ละครที่แสดงในวันนี้ไม่ถือว่าสมบูรณ์นัก แต่ไม่รู้ว่าจะสามารถควบคุมผู้ถือหุ้นเหล่านี้ได้นานแค่ไหน ครั้งหน้าเธอควรจะใช้วิธีการอะไรเพื่อจัดการกับพวกที่กำลังเคลื่อนไหวอย่างมุ่งร้ายเหล่านี้ดี
ญาธิดายิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกกลุ้มใจ อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปนวดที่หัวคิ้ว ในขณะเดียวกัน เลขาก็หอบเอกสารเดินเข้ามาในห้องประชุม เอ่ยอย่างมีมารยาทว่า “คุณญาธิดา เอกสารการประมูลใหม่ได้จัดทำเรียบร้อยแล้วค่ะ เชิญคุณตรวจสอบและเซ็นชื่อด้วยค่ะ”
เธอพยายามอดทนไม่ให้ถอนหายใจออกมา จากนั้นก็รับเอกสารมา ศึกษาเนื้อหาการประมูลอย่างละเอียด ดีที่ครั้งนี้โครงการที่เธอต้องรับผิดชอบยังคงเป็นโครงการที่ดินที่เธอคุ้นเคย บริษัทที่ร่วมงานด้วยยังคงเป็นบริษัทข้ามชาติJV