ดวงใจภวินท์ - บทที่ 732 ฉันอยากปกป้องคุณ
เมื่อเสียง “ปัง” ดังขึ้นมา ญาธิดาก็เหมือนถูกดูดพลังไปหมด ค่อยๆไถลตัวลงตามผนังสีขาว สุดท้ายก็ทรุดตัวนั่งบนพื้น
สายตาของเธอจ้องมองข้างหน้าแน่นิ่ง ปล่อยให้น้ำตาไหลลงตามคาง ผสมกับรอยเลือดเกรอะกรัง
หลังจากห้องโถงตกอยู่ในความเงียบเพียงชั่วครู่ก็กลับมาเสียงดังอีกครั้ง
หลุยส์พาคนพังประตูเข้ามา ผู้ช่วยที่ผ่านการฝึกขั้นสูงพุ่งเข้าไปจับตัวสิงโตกับชยินไว้ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมแนบปลายกระบอกปืนดำวาวที่หน้าผากของพวกเขา
ไอเย็นที่ค้างเติ่งในลำคอของญาธิดาจางหายไป ผ่านไปนานในที่สุดเธอก็ได้สติกลับมาว่าเกิดอะไรขึ้น พลันขว้างของที่อยู่ในมือไปไกลๆ กุมหัวตัวเองไว้แน่นแล้วกรีดร้องออกมา
กระสุนยิงโดนแผ่นเหล็กอย่างแม่นยำ จนบุบเป็นรอยลึก
แม้ว่าสีหน้าของภวินท์จะยังคงเย็นชาเหมือนเคย แต่กระนั้นก็ไม่อาจปิดบังแววประหม่าและกังวลในดวงตาได้เลย
ตั้งแต่ที่เขาเข้ามาในองค์กรก็ใช้ชีวิตอยู่กับคราบเลือดบนปลายมีดมาตลอด เคยเฉียดตายมาแล้วก็หลายครั้ง จึงชินกับอะไรแบบนี้ตั้งนานแล้ว
แต่กับญาธิดามันต่างออกไป
เป็นครั้งแรกที่เขาประหม่าขนาดนี้ เพราะกลัวว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้จะสร้างผลกระทบให้ญาธิดา
เมื่อหลุยส์เดินเข้ามาแก้มัดให้เขาเสร็จ เขาก็ก้าวเดินยาวๆ เข้าไปโอบญาธิดาที่มีใบหน้าซีดขาวเข้ามาในอ้อมกอด “ไม่เป็นอะไรแล้วนะ มันผ่านไปแล้ว…..”
ญาธิดากำเสื้อของเขาแน่น หลบอยู่ในอ้อมกอดของเขาด้วยร่างกายที่สั่นเทาไม่หยุด จากนั้นเสียงแสบหูก็ดังขึ้นมาไม่หยุด ดวงตาของเธอล่องลอยไร้สติ หมดสติอยู่ในอ้อมกอดของภวินท์อย่างอ่อนแรง
เธอลืมตาขึ้นมาอีกครั้งในสองสามวันให้หลัง ได้แต่กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเต็มโพรงจมูก จนเธอต้องขมวดคิ้วอย่างฉุนๆ
หลังจากที่กลับมาจากอเมริกา โรงพยาบาลก็เหมือนจะกลายเป็นบ้านหลังที่สองของเธอไปแล้ว และเธอก็มักจะฟื้นขึ้นมาพร้อมกับกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ถึงอย่างนั้นพอได้กลิ่นก็ยังรู้สึกพะอืดพะอมอยู่ดี เธอส่งเสียงแหวะออกมาอย่างอดไม่ได้ พร้อมกับลูบอกตัวเอง
ภวินท์เปิดประตูเข้ามาเห็นภาพนี้เข้าพอดี เขาจึงก้าวเร็วๆเข้ามาหาแล้วส่งแก้วน้ำให้เธอ เอ่ยถามอย่างเป็นห่วงว่า “รู้สึกไม่สบายตรงไหน?”
เธอมองเขาอย่างแน่นิ่งอยู่สักพัก ทันใดนั้นก็ทิ้งแก้วในมือลงแล้วโถมตัวเข้าสู้อ้อมกอดของเขา “คุณยังไม่ตาย!”
ภวินท์ลูบผมของเธอเบาๆ ในใจท่วมท้นไปด้วยความรู้สึกสงสาร แล้วก้มลงจูบหน้าผากเธอเพื่อปลอบประโลมเธอ จนเมื่อลมหายใจของญาธิดาค่อยๆคงที่ ถึงได้เอ่ยพูดขึ้นมาว่า “คุณทำได้ดีมาก ผมไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหนเลย กลับเป็นคุณเองที่……”
ทุกส่วนบนร่างกายของเธอมีแต่ “รอยเย็บ” ใบหน้ารูปไข่หมดจรดถูกผ้าก๊อซพันรอบหน้า ยิ่งบริเวณหน้าผากยิ่งพันหลายชั้น นิ้วมือเองก็เช่นกัน แถมยังมีเข็มน้ำเกลือปักอยู่หลังมือด้วย
ถึงจะอย่างนั้น บนหน้าของเธอก็ยังพกพารอยยิ้มอ่อนโยน ตอบกลับเสียงนุ่มว่า “แผลพวกนี้แค่เล็กน้อย เรารอดมาได้ก็ถือว่าโชคดีสุดๆไปแล้ว”
พูดจบ ทั้งสองก็สบตากันแล้วยิ้มออกมา
ประตูห้องผู้ป่วยถูกเคาะ พายุยืนมองทั้งสองคนอยู่หน้าประตูอย่างเก้ๆกังๆ เอ่ยถามเสียงอึกอักว่า “คุณภวินท์ ozoneส่งสารมาครับ”
ไม่ว่าozoneจะมีเรื่องใหญ่หรือเรื่องเล็ก ก็ต้องรับสารเป็นสิ่งแรก นี่คือกฎในองค์กรที่ต้องปฏิบัติตาม
ภวินท์กวาดสายตามองเธอ กำลังจะลุกขึ้น แต่เธอกลับจับเขาเอาไว้อย่างว่องไว “ถ้าเนื้อหาเกี่ยวกับภารกิจในครั้งนี้ แบบนั้นฉันก็มีสิทธิ์รู้ด้วย คุณห้ามปกปิดฉัน”
“คุณพักผ่อนเถอะ” เขาตอบกลับเสียงเย็น
ญาธิดาร้อนใจ รีบตอบกลับไปว่า “ฉันไม่ได้อ่อนแอเหมือนอย่างที่คุณคิด เรื่องที่เกิดในวันนี้ฉันสามารถเผชิญกับมันได้”
ดวงตาลึกล้ำของภวินท์จ้องมองมาที่เธอเนิ่นนาน ในท้ายที่สุดก็ไม่สามารถเอาชนะความดื้อดึงในแววตาของเธอได้ เงยหน้าขึ้นส่งสายตาให้พายุรายงานมาได้เลย
“ทางตำรวจเก็บกวาดสายสืบที่ชยินส่งไปสอดแนมหมดแล้วครับ สิงโตเองก็ถูกดำเนินคดีตามกระบวนการกฎหมาย ภารกิจในครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และคุณกับคุณผู้หญิงก็ได้ความดีความชอบไปในครั้งนี้” เขาหยุดนิ่งไป แล้วมองมาทางญาธิดาด้วยสีหน้าลังเล
“มีอะไรก็พูดมาตรงๆ อย่าปิดบังฉัน” เธอเอ่ยถามเสียงหนักแน่น
“คดีของชยินไม่ได้อยู่ในขอบเขตขององค์กร องค์กรจึงต้องทำเรื่องโอนย้ายไปให้หน่วยอื่น แต่เขาบอกว่าต้องได้เจอคุณผู้หญิงก่อนเขาถึงจะยอม….”
ไม่รอให้เขาพูดจบ ญาธิดาก็ยกมือขึ้นมาเชิงบอกให้เขาหยุดพูด “ไปทำเรื่องออกโรงโรงพยาบาลให้ฉัน แล้วพาฉันไปหน่วยที่ว่าให้เร็วที่สุด แล้วก็ฝากบอกคุณอลิสาให้รอฉันอยู่ที่บ้านพักด้วย”
เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ทำให้เธอตกใจกลัวไม่เบา ตอนนี้ยังต้องไปเผชิญหน้ากับชยินโดยตรงอีก อารมณ์ที่เพิ่งสงบลงก็พลันตีรวนขึ้นมา จึงต้องให้อลิสาเตรียมแสตนบายปรับสภาพจิตใจให้เธอตลอดเวลา
เมื่อภวินท์ได้ยินคำพูดของเธอ ก็คัดค้านอย่างไม่หยุดคิด พร้อมกับกดเธอให้นั่งลงกับเตียงเหมือนเดิม เธอสู้แรงภวินท์ไม่ได้ ทำได้เพียงแสดงสีหน้าจำใจออกมา
“แผลพวกนี้มันแผลภยนอก กลับไปรักษาที่บ้านก็ได้ อีกอย่างฉันก็อยากรู้ว่าชยินอยากเจอฉันทำไม ถ้าคุณยิ่งห้าม ฉันก็ยิ่งไม่สบายใจนะ”
เธอพูดพลาง ส่งสายตาให้พายุไปทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลไวๆ
เมื่อร่างของพายุหายไปจากสายตาแล้ว เธอถึงได้ตบหน้าผากตัวเอง แล้วพึมพำอย่างหงุดหงิดว่า “ลืมถามเขาเรื่องอันอันไปเลย”
แม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดเสียงดัง แต่ก็ยังได้ยินถึงหูภวินท์
“ชยินกับสิงโตไม่รู้ว่ามีคนอยู่ที่ห้องรับรอง พออลิสารู้ตัวว่าสถานการณ์ไม่ปกติก็รีบโทรตามหลุยส์ อัญมณีจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นตั้งแต่ตั้นจนจบ”
“งั้นก็ดีแล้ว” เธอถอนหายใจออกมายาวๆ จากนั้นถึงได้เพิ่งสังเกตว่า ตั้งแต่ที่เข้ามาในห้อง หัวคิ้วของภวินท์เอาแต่ขมวดมุ่นอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับว่ามีเรื่องอะไรที่ไม่สามารถแก้ไขได้เกิดขึ้น
ภวินท์ไม่สบตาเธอตรงๆ เอ่ยถามเสียงนิ่งว่า “เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก ทางตำรวจจะรีบจัดการสิงโต รวมถึงเบาะแสขององค์กรนานาชาติก็ถูกตัดขาดแล้ว”
“องค์กรนานาชาติ?” เธอมองมาที่ภวินท์อย่างงุนงง
ภวินท์มีสีหน้าเรียบนิ่ง จากนั้นก็พยักหน้าช้าๆ “อาศัยแค่ความสามารถของสิงโตอย่างเดียวไม่สามารถควบคุมเครือข่ายนานาชาติได้หรอก ต้องมีผู้มีอำนาจอยู่เบื้องหลังเขาแน่ๆ”
ญาธิดาได้ยินแบบนั้นใบหน้าก็ประดับไปด้วยความกังวล เอ่ยถามอย่างลังเลว่า “แล้วแผนต่อไปคืออะไร องค์กรคงไม่ทำแค่นั่งดูเฉยๆ รอให้ปลาว่ายโผล่ออกมาเองแน่ๆ”
“วางเหยื่อล่อไว้แล้ว แต่จะติดกับเมื่อไหร่อันนี้ก็ยังไม่รู้” พูดมาถึงตรงนี้ สายตาของเขาก็เยือกเย็น น้ำเสียงมืดครึ้มยิ่งกว่าเดิม “คุณดูสนใจเรื่องนี้จังเลยนะ”
“ก็ไม่ได้สนใจสักหน่อย” เธอมองมาที่เขาด้วยสายตาวูบไหว ตอบกลับเสียงเบาว่า “คุณกลับไปozoneครั้งนี้คงจะหาเวลาว่างยากกว่าเดิม ฉันเลยอยากไปอยู่กับคุณ”
การอยู่กับเขา ก็ไม่ต่างอะไรกับการใช้ชีวิตเหมือนจะไม่มีพรุ่งนี้ของเขาในozone
ญาธิดาไม่รอให้เขาได้พูดอะไร กระชับจับมือของเขาเอาไว้แน่น แล้วพูดเน้นออกมาทีละคำว่า “ฉันรู้ว่าคุณจะปฏิเสธ แต่ฉันอยากปกป้องคุณให้มากที่สุดเท่าที่ฉันจะทำได้ ฉันกลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นภาระของคุณ และฉันก็ไม่อยากให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่บ้านพักเกิดขึ้นมาอีกแล้ว”
“คุณควรได้ใช้ชีวิตอย่างราบรื่น…..” ภวินท์ขมวดคิ้วแน่น
เธอหัวเราะออกมาเบาๆ พร้อมขยับมือที่พันไปด้วยผ้าพันแผล เอ่ยพูดอย่างขี้เล่นว่า “แล้วคุณคิดว่าสภาพฉันตอนนี้เหมือนคนมีชีวิตราบรื่นเหรอ?”
เมื่อสบสายตาเป็นประกายวูบไหวของเธอ จู่ๆภวินท์ก็เข้าใจในการตัดสินใจของเธอ ลูกกระเดือกขยับขึ้นลงตามจังหวะกลืนน้ำลาย จากนั้นก็พลันหลุดยิ้มออกมา ตอบกลับไปอย่างทำอะไรไม่ได้ว่า “ozoneไม่ใช่สถานที่ที่อยากเข้าแล้วจะได้เข้าไปง่ายๆ จรณ์อาจจะไม่อนุญาตก็ได้”
“ก็ต้องลองก่อนถึงจะรู้ว่าเขาจะอนุญาตหรือเปล่า!” ญาธิดาแย้มรอยยิ้มออกมาราวดอกไม้บาน