ดวงใจภวินท์ - บทที่ 769 เจ้านายคือปีศาจ
หลังจากส่งอีธานและเอลล่าไปโรงเรียนแล้ว ญาธิดาก็รีบไปที่สตูดิโอ ประตูห้องทำงานยังไม่ทันปิด ผู้ช่วยชิงชิงก็เดินเข้ามาอย่างตื่นเต้น
“พี่ธิดา รู้มั้ยว่านี่คืออะไร?” เธอเขย่าแฟ้มในมือและรีบยื่นมันไปให้คนตรงหน้า
ญาธิดาเปิดโฟลเดอร์ รอยยิ้มปิติยินดีก็ปรากฏขึ้นทันที และเสียงของเธอก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ” Pop Animation ตกลงที่จะเซ็นสัญญากับเรา?”
Pop Animationเป็นสตูดิโอที่มีศักยภาพสูงสุดในอุตสาหกรรมแอนิเมชั่นที่เกิดขึ้นใหม่ในปีนี้ พวกเขามีหน้าที่รับผิดชอบในการเอาท์ซอร์สสคริปต์เท่านั้น และผลงานยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นสตูดิโอคุณภาพสูงที่หาได้ยาก
สตูดิโอของญาธิดาริเริ่มที่จะติดต่ออีกฝ่ายหนึ่งและเจรจากันหลายครั้ง ในที่สุด อีกฝ่ายก็ยินดีที่จะร่วมมือกับเธอ นี่เป็นข่าวดีที่ใหญ่ที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยตั้งแต่ก่อตั้งสตูดิโอมา
ชิงชิงพยักหน้าอย่างดีใจ“ทางนั้นได้ส่งสคริปต์และขอให้เราส่งตัวอย่างเวอร์ชันแรกก่อนวันพุธหน้า ทีมงานกราฟิกดีไซน์ลังดำเนินการอยู่ และตอนนี้เรากำลังรอให้พี่ธิดามาแสดงฝีมือ”
ญาธิดามองไปที่ท่าทางที่ไร้เดียงสาและน่ารักของเธอ เธออดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกมาแล้วแตะหน้าผากของเธอ และอมยิ้ม“ปากหวาน”
“เวลามีจำกัด ฉันได้แจ้งให้ทุกแผนกเตรียมทำงานล่วงเวลาแล้ว ถ้าครั้งนี้สามารถทำแบบร่างได้สำเร็จ สตูดิโอของเราก็เริ่มต้นได้สำเร็จแล้ว”
เธอพยักหน้าด้วยความพึงพอใจต่อชิงชิง แม้ว่าผู้ช่วยคนนี้จะดูซื่อๆ แต่เธอจริงจังกับงานมาก และสามารถจัดการกับเรื่องเล็กน้อยได้อย่างสมบูรณ์แบบ ถือว่ามีความสามารถอยู่บ้าง
ทั้งสองรีบไปหาทีมงานกราฟิกดีไซน์ และก่อนที่สองคนจะเข้าไป ก็ได้ยินเสียงทะเลาะกันในห้องทำงานทีมงานกราฟิก
นอกจากภาพตัวละครแล้ว พวกเขายังทำตัวอย่างวิดีโอตอนแรกจนแล้วเสร็จ ขณะนี้ พวกเขากำลังโต้เถียงกันเกี่ยวกับเนื้อหาการผลิตของตอนแรกของสคริปต์ เมื่อญาธิดาเข้ามา หลายคนก็ระงับอารมณ์ทันที
“พี่ธิดา เราคิดว่ามีปัญหากับแทรนซิชันที่ออกแบบโดยริว แต่เขาไม่ยอมรับ พี่มาดูด้วยกันเถอะ”
“เห็นๆ อยู่ว่ามันเป็นเพราะปัญหาไลทิงแสงของจ๊าจ๋า ซึ่งส่งผลต่อความสวยงามของแทรนซิชันของฉัน” ริวแย้งด้วยความไม่ยอม
ญาธิดามองดูเนื้อหาของต้นฉบับ และคัดกรองทุกเฟรมอย่างละเอียด สีหน้าของเธอก็จริงจังขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับเธอ งานดังกล่าวไม่สามารถตอบสนองความต้องการของเธอได้ นับประสาได้รับการอนุมัติจากPop Animation
“แทรนซิชันและการจัดแสงต้องทำใหม่ นอกจากนี้ โบเก้ก็ไม่ตรงตามมาตรฐานของฉัน ฟิล์มเวอร์ชั่นนี้ไม่ผ่าน ต้องทำใหม่ทั้งหมด”
เหมือนริวและจ๊าจ๋าก็ไม่คิดว่าปัญหาจะรุนแรงขนาดนี้ และก็เงียบไปทันที ดูจริงจังและรอให้เธอสั่งการต่อ
เธอฉายภาพจากจอมอนิเตอร์ลงบนผนัง “แสงต้องได้รับการปรับใหม่ทั้งหมด เวอร์ชันเก่าใช้งานไม่ได้ ฉากมืดเกินไป และความรู้สึกที่สดใสและเคลื่อนไหวในสคริปต์หายไปอย่างสิ้นเชิง”
หลังจากเปรียบเทียบทีละรายการตามเนื้อหาของบทแล้ว เธอมองไปที่ริวและกล่าวว่า “แทรนซิชันของภาพฤดูกาลนั้นแข็งทื่อมาก และ…”
เสียงของเธอก้องอยู่ในออฟฟิศ หลังจากประชุมกันเกือบสองชั่วโมง ในที่สุดเธอก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก และรอยยิ้มก็ค่อยๆ ปรากฏบนใบหน้า “ช่วงนี้ฉันจะโอทีกับทุกคนอยู่บริษัท และงานชิ้นนี้ต้องรักษาความลับไว้ อย่าให้รั่วไหล”
“เอาล่ะ นำตัวอย่างไปที่ห้องประชุมตอนบ่าย3 แล้วเราจะคุยรายละเอียดกันอีกที” หลังจากที่เธอพูดจบ เธอรีบออกจากห้องไป
จ๊าจ๋า ริวและคนอื่น ๆ มองหน้ากันและบ่นๆ ว่า “มาตรฐานของหัวหน้าสูงเกินไปแล้ว”
“มันเข้มงวดยิ่งกว่าความต้องการของPop Animationอีก ปีศาจชัดๆ ”
“ชีวิตจบเห่แล้ว…”
ชิงชิงเดินตามหลังเธอด้วยก้าวเล็กๆ ดันแว่นตาเล็กน้อย และอุทานด้วยความชื่นชม “พี่ธิดำงานละเอียดมากจริงๆ สามารถมองเห็นแม้แต่ปัญหาของการจัดแสงของฉากเล็กๆออกได้”
เธอมองกลับมาที่ชิงชิงด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน “ฉันรู้ว่าเธอชอบงานแนวนี้ วันหลังค่อยสอนงานเธอ ตอนนี้ก็หยุดอวยฉันสักที”
ในขณะนี้ นพเก้ากำลังนั่งอยู่ในบ้านเก่าของตระกูลกรเวช จ้องมองไปวีริศไม่วางตา ทั้งคู่มีแววตาดุเดือด ต่างก็ไม่ยอมแพ้กันง่ายๆ
“ฉันไม่สนใจความร่วมมือที่เธอกล่าว ฉันไม่ต้องการให้เด็กมาทำงานให้ฉัน แผนการของเธอฉันรู้ดี อย่ามาหลอกใช้ฉัน เชิญกลับไปเถอะ”
ดูเหมือนว่านพเก้ารู้แล้วว่าเขาจะปฏิเสธ ดังนั้นเธอจึงไม่รีบร้อน “ท่านจะต้องการความช่วยเหลือจากฉันไม่ช้าก็เร็ว เพราะสำหรับท่าน ฉันเป็นตัวหมากที่ดีกว่านารา”
วีริศเยาะเย้ย มองที่เธอและถามอย่างดูถูก “นารามีHali Groupเป็นเครื่องต่อรอง เธอจะทำอะไรให้ฉันได้ไม่ทราบ”
“ฉันช่วยท่านจัดการกับสิ่งกีดขวางได้”
ดวงตาของเธอฉายความเจ้าเล่ห์ และมองเขาด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย “ญาธิดาเป็นหนามในใจของฉัน แต่เธอต้องการกำจัดนารา ตอนนี้มันเป็นหนามในใจของท่านแล้ว ศัตรูของศัตรูสามารถเป็นเพื่อนได้ไม่ใช่หรอ”
วีริศสนใจในสิ่งที่เธอพูดขึ้นมา เขามองไปที่นพเก้าอย่าตั้งใจ จากนั้นก็ส่ายหัวเบาๆ “วิธีการของเธอยังอ่อนเกินไป อยากหลอกใช้ฉันมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ”
“ไม่ใช่หลอกใช้ แต่เป็นความร่วมมือแบบวินวินกันทั้งคู่ต่างหาก” นพเก้าเตือนด้วยเสียงต่ำ “ท่านวีริศไม่ขาดทุนน่นนอน มันไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ หวังว่าท่านคิดให้ดีๆนะคะ”
เธอพูดจบก็ก็หยิบกระเป๋าถือขึ้นมาและเตรียมจะจากไปทันที
วีริศจองตามแผ่นหลังเธอด้วยดวงตามืดมน จนกระทั่งเธอเดินไปที่ประตูก่อนจะพูดอย่างเย็นชาว่า “เธอมีความสามารถอะไรที่จะแข่งขันกับSTN Group?”
“ท่านแค่พิจารณาว่าต้องการร่วมมือกับฉันหรือไม่ ส่วนความสามารถของฉัน…” เธอยิ้มอย่างชั่วร้าย “ฉันจะเปิดเผยไพ่ให้ท่านดูง่ายๆ ได้ยังไง”
“ถ้าจะร่วมมือกับฉัน เธอต้องแสดงความจริงใจก่อน ฉันเชื่อว่าเธอจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง”
“งั้นท่านก็รอฟังข่าวดีของฉันแล้วกัน” เมื่อมองดูใบหน้าที่เจ้าเล่ห์ของวีริศ เธอยิ้มอย่างชั่วร้ายขึ้นเรื่อยๆ “ยินดีที่ได้ร่วมมือกัน”
หลังจากออกจากบ้านเก่าของตระกูลกรเวช เธอปิดหน้าตัวเองมิดชิดและก้าวเข้าไปในอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ที่อยู่ห่างไกล แล้วเลือกที่นั่งในจุดบอดเพื่อเฝ้าติดตาม
เมื่อมองไปที่ยอดเงินในบัญชีที่มีไม่มาก เธอกัดฟันและเข้าสู่ระบบเครือข่ายใต้ดินเพื่อติดต่อจ้างงานในราคาแพง
บัญชีส่วนตัวของญาธิดาเพิ่งโปรโมตสตูดิโอเมื่อไม่กี่วันก่อน และมันง่ายมากที่จะค้นหาตำแหน่งและเนื้อหางานของเธอ
ดวงตาของนพเก้าฉายแววเย็นชา และหลังจากจัดการทุกอย่างอย่างแล้ว เธอก็กำชับอีกฝ่ายซ้ำ ๆ ว่าอย่าทิ้งร่องรอยให้คนอื่นจับได้
หลังจากเดินออกจากอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ เธอติดต่อวีริศอีกครั้ง “พรุ่งนี้ฉันมีของขวัญเล็กๆ กับท่าน หวังว่าท่านจะสัมผัสได้ถึงความจริงใจของฉัน”