ดวงใจภวินท์ - บทที่ 781 วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่
ชมพู่กำถุงกระดาษในมือไว้แน่น ดวงตาแดงก่ำเล็กน้อย และปากพึมพำไม่หยุด “ธิดา ขอโทษ ฉันเองก็จนปัญญา ฉันอยากมีชีวิตอยู่ต่อ ฉันอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อจริงๆ……”
เธอสงบสติอารมณ์ในร้านกาแฟอยู่นานสองนาน จนกระทั่งใจเย็นลงถึงได้นำของที่หญิงสาวมอบให้กับเธอกลับที่ไปบริษัทอีกครั้ง
“ธิดา คนของแผนกR&Dได้รอเธออยู่ที่ห้องประชุมแล้ว นี่เป็นชิปอิเล็กทรอนิกส์ที่เธอให้ฉันไปหามา”
ญาธิดารับชิปอิเล็กทรอนิกส์จากเธอมากำไว้ในมือแน่น
ตรงส่วนมุมชิปอิเล็กทรอนิกส์ที่แหลมคมแทงฝ่ามือของเธอเจ็บ แต่ว่าเธอยังคงจ้องชมพู่อย่างไม่ละสายตา แล้วกล่าวถามขึ้นเบาๆ “เธอยังมีเรื่องอะไรที่จะบอกกับฉันอีกไหม”
รอยยิ้มบนใบหน้าของชมพู่ชะงักค้าง เงยหน้าสบสายตากับเธอด้วยความสับสน วินาทีที่สายตาประสานกัน เธอก็รีบเบือนหน้าหนีทันที
“อ้อ ใช่แล้ว บริษัทอิเล็กทรอนิกส์บอกว่าชิปอิเล็กทรอนิกส์นี้เป็นเพียงรุ่นแรก บางทีอาจจมีตำหนินิดน้อย ให้เธอระวังหน่อย ในอนาคตถ้ามีการอัปเดตใดๆ พวกเขาจะส่งผลิตภัณฑ์ตัวอย่างมาให้ใหม่”
ญาธิดาได้ยินดังนั้น แสงอันเย็นยะเยือกใต้ดวงตาก็จางลงในทันที
ในที่สุดเธอก็เผยรอยยิ้มบางๆ ขึ้นบนใบหน้า เดินมาที่ด้านข้างของชมพู่แล้วตบไหล่เธอเบาๆ จากนั้นก็สาวก้าวยาวเดินออกจากห้องทำงานไป
อารมณ์ที่ตึงเครียดของชมพู่ผ่อนคลายลงเล็กน้อย ในใจสับสนปนเป เธอรีบโยนทิ้งอารมร์ที่ยุ่งเหยิงเหล่านี้ทิ้งไป แล้วก็เดินตามญาธิดา
บุคลากรหลักของแผนกออกแบบและแผนกวิจัยและพัฒนาต่างรออยู่ในห้องประชุม เมื่อเห็นญาธิดาต่างก็ลุกขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกันแล้วทักทายกับญาธิดา
ญาธิดายกมือขึ้นโบกสื่อความหมายให้ทุกคนนั่งลง จากนั้นก็นำชิปอิเล็กทรอนิกส์ของชมพู่มาวางไว้ใต้โปรเจ็กเตอร์ “ทุกท่าน นี่เป็นผลิตภัณฑ์ที่พวกเราจะใช้แข่งขันเสนอราคาในครั้งนี้”
ทุกคนต่างมองหน้ากัน ไม่เข้าใจการกระทำของเธอแบบนี้จะสื่อถึงอะไร
สาเหตุที่ STN Group ใช้ผลิตภัณฑ์นี้ในการแข่งขันเสนอราคา เป็นเพราะผลิตภัณฑ์นี้เคยได้ยื่นขอจดสิทธิบัตร ทันทีที่บริษัทได้สิทธิ์อำนาจนี้ ก็จะสามารถผลิตสินค้าที่เป็นหนึ่งเดียวไม่เหมือนใครในตลาดอิเล็กทรอนิกส์ได้ และปริมาณการขายก็จะเป็นที่น่าประทับใจ
“ที่ฉันเรียกทุกคนมาครั้งนี้ ก็เพราะอยากจะนั่งหารือด้วยกันว่าจะผลิตอิเล็กทรอนิกส์ที่มีคุณภาพสูงในรูปแบบใด” เธอกล่าวอธิบายอย่างนุ่มนวล
ได้ยินเธอกล่าวเช่นนี้ ทุกคนก็ยิ่งมึนงง และก็แสดงความคิดในใจออกมา
“ตอนนี้พวกเรายังแข่งขันเสนอราคาไม่สำเร็จ ดังนั้นจึงยังเร็วเกินไปที่จะทำการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ และแผนกของเรายังมีงานอื่นๆ อีก จึงแทบจะไม่มีเวลาว่างมาสร้างทีมเล็กเพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่”
“อีกอย่างพวกเราไม่สามารถที่จะส่งงบประมาณผลิตภัณฑ์ใหม่ให้กับแผนกการเงินในขณะนี้ได้ การจัดสรรเงินและเบิกเงินเป็นอะไรที่ไม่สะดวกสุดๆ พวกเราไม่มีเงินทุนเริ่มต้นที่เพียงพอต่อการวิจัยและพัฒนาโครงการใหม่”
“การให้เงินทุนแก่โครงการที่ไม่มีสัญญานั้น บริษัทไม่เคยมีแบบอย่างเช่นนี้ แผนกการเงินจะต้องไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน”
สีหน้าของญาธิดาก็เผยความลังเลออกมาเช่นกัน เธอเคาะอยู่บนผิวโต๊ะเบาๆ ด้วยปลายนิ้ว ท่าทางดูกังวลมาก ราวกับเธอไม่เคยคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้
หลังจากเงียบไปสักพัก เธอฝืนเงยหน้าขึ้นแล้วเอ่ยปาก มองไปทางชมพู่จากนั้นกำชับ “เอาอย่างนี้แล้วกัน เธอช่วยไปค้นหาสำเนาข้อมูลผลิตภัณฑ์ของบริษัทอิเล็กทรอนิกส์หน่อย แล้วรีบส่งมาให้โดยเร็วที่สุด”
“ธิดา ทำแบบนี้จะได้ผลเหรอ” เธอถามด้วยความสงสัย
ญาธิดาขยิบตาให้เธอทันที และกล่าวอธิบายด้วยโทนเสียงเบาๆ “จะต้องหาเหตุผลเพื่อที่จะถ่วงเวลา เธอคงไม่อยากเห็นฉันอับอายหรอกนะ”
ชมพู่ได้ยินดังนั้นก็เข้าใจในทัน และเดินออกจากห้องประชุมไป ขณะที่กำลังตรวจสอบข้อมูลอยู่นั้น โทรศัพท์ก็ดังครืดๆ อีกครั้ง เมื่อเห็นเนื้อหาบนหน้าจอ มือของเธอก็สั่นขึ้นทันที จนเกือบจะทำโทรศัพท์ตกลงพื้น
หมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่คุ้นเคยนั้นส่งข้อความมาหาเธออีกครั้ง “ตรวจสอบชัดเจนหรือยัง ญาธิดาต้องการชิปนั่นเพื่ออะไร”
“ไม่แน่ใจ วันนี้เธอนำชิปมาแล้วเรียกแผนกR&D มารวมกัน บอกว่าต้องการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ตัวใหม่”
ข้อมูลของอีกฝ่ายได้ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วอีกครั้ง คั่นด้วยหน้าจอก็สามารถมองเห็นคำแดกดันที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ “การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้ว เห็นทีว่าเธอจะต้องเอาชนะการแข่งขันเสนอราคาครั้งนี้ให้ได้”
ชมพู่รีบตอบกลับทันที “บริษัทไม่สามารถที่จะจัดสรรเงินให้กับเธอได้ ดังนั้นเธอก็ตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ฉันกำลังตรวจสอบผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ให้กับเธอ ตอนนี้ยังไม่รู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของเธอคืออะไร”
“ช่วยฉันจับตาดูเธอให้ดี มีเหตุการณ์อะไรก็ให้รายงานฉันทันที หากฉันรู้ว่าเธอแอบช่วยญาธิดานังตัวดีนั่น ฉันก็จะกำจัดเธอเป็นคนแรก ถึงยังไงเธอก็มีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่วันแล้วนี่”
ชมพู่มองดูข้อความในโทรศัพท์แล้วสีหน้าก็ขาวซีด จากนั้นรีบลบข้อความทันทีด้วยมือที่สั่นเทา
ในห้องประชุม ญาธิดามั่นใจว่าชมพู่ได้จากไปแล้ว สีหน้าที่ลังเลลำบากใจก็หายไปในทันที และเข้ามาแทนที่ด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม
“ข้อสงสัยทั้งหมดของทุกท่านฉันได้ไตร่ตรองแล้ว ฉันจะสื่อสารกับแผนกการเงินล่วงหน้าและ
ปล่อยเงินให้กับทุกท่านโดยตรง รับรองว่าทุกท่านสามารถวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้อย่างราบรื่นแน่นอน”
เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้นก็รีบรวมตัวกระซิบกระซาบกันทันที ไม่มีใครคิดว่าเธอจะตัดสินใจอย่างกล้าหาญอย่างนี้ การกระทำของเธอแบบนี้ไม่เคยมีมาก่อนใน STN Group
ญาธิดากระแอมเส้นเสียงเพื่อขัดจังหวะการสนทนาของทุกคน และกล่าวเตรียมการอย่างจริงจัง “ตอนนี้ขอให้ทุกแผนกวางงานที่อยู่ในมือทั้งหมดลง และเลือกทีมเล็กหนึ่งทีมที่ดีที่สุดเพื่อเร่งการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ฉันขอให้ทำแผนภายในสองวัน ส่งผลิตภัณฑ์ตัวอย่างมาหนึ่งชิ้นด้วยเวลาที่สั้นที่สุด”
“นอกจากนี้ฉันจะส่งรายการผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัทให้กับทุกท่านในอีกสักครู่ ผลิตภัณฑ์ตัวอย่างในครั้งนี้จะต้องมีส่วนประกอบที่มีอยู่ในรายการด้วย” คำพูดของเธอเพิ่งจะจบลง ชมพู่ก็กลับมาที่สำนักงานพร้อมกับเอกสารข้อมูล
ญาธิดารับเอกสารมาแล้วแจกให้กับแผนกต่างๆ อ่านกันหนึ่งรอบ จากนั้นก็แจ้งทุกคนปิดการประชุม
จนกระทั่งในห้องทำงานเหลือเพียงพวกเธอสองคน ญาธิดาถึงได้ดึงมือของเธอมา แล้วกล่าวอย่างอ่อนโยน “ชมพู่ นี่เป็นโครงการสำคัญโครงการแรกที่ฉันรับช่วงต่อหลังจากกลับมาที่บริษัท ฉันสามารถเชื่อใจเธอได้ไหม”
แววตาของเธอสว่างใสสะกดใจคน ที่เผยให้เห็นถึงความจริงใจ
ดวงตาของชมพู่เป็นประกายเล็กน้อย และรอยยิ้มดูแย่อย่างเห็นได้ชัด แต่ยังคงตอบกลับด้วยเสียงบางเบา “เธอเชื่อใจฉันได้อย่างแน่นอน ฉันยินดีที่จะยืนเคียงข้างเธอเสมอ ฉันทำงานกับเธอมาหลายปีขนาดนี้ ไม่มีทางเปลี่ยนความตั้งใจเดิมของฉันไปง่ายๆ ได้หรอก”
ญาธิดาจ้องมองเธอตาไม่กะพริบ เห็นรอยยิ้มของเธอที่ค่อนข้างฝืน หัวใจของเธอก็ค่อยๆ จมดิ่งลงไป แต่น้ำเสียงกลับเต็มไปด้วยความเชื่อใจ
“ฉันคิดที่จะแอบโยกย้ายเงินจากแผนกการเงินมาวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ตัวใหม่……”
“อะไรนะ!” สีหน้าชมพู่เปลี่ยน รีบกุมมือเธอขึ้นและกล่าวห้ามปรามทันที “นี่เป็นเรื่องที่บริษัทห้ามอย่างชัดเจน ต่อให้คุณภวินท์เห็นด้วย ถ้าหุ้นส่วนของบริษัทรู้เข้าก็ไม่มีปล่อยเธอไปแน่ เธอบ้าไปแล้วเหรอ”
“ฉันไม่มีเวลามาสนใจอย่างอื่นแล้ว ทั้งบริษัทฉันเชื่อใจเธอมากที่สุด ดังนั้นฉันจึงทำได้เพียงร่วมมือกับเธอเพื่อทำเรื่องนี้ เธอจะไม่ทำให้ฉันผิดหวังใช่ไหม”
ชมพู่ได้ยินดังนั้นดวงตาแดงก่ำ และหัวใจของเธอก็ค่อยๆ ผุดความรู้สึกผิดขึ้น หลังจากผ่านไปสักพัก ในที่สุดเธอก็พยักหน้าอย่างแรงๆ “ได้ ฉันจะช่วยเธอ”
“ฉันได้ให้แผนกต่างๆ จัดคนมาตั้งเป็นทีมเล็กๆ เธอช่วยจัดสำนักงานพิเศษให้กับพวกเขา และรวมคนทั้งหมดในโครงการมาอยู่ด้วยกัน”
ชมพู่ถอนหายใจเบาๆ และเดินออกจากห้องประชุมไป จากนั้นก็ส่งข้อความไปหาหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่คุ้นเคยอีกครั้ง
ตามด้วยน้ำหนักของฝีเท้าที่ค่อยๆ ไกลออกไป สำนักงานที่ขนาดใหญ่ก็ตกอยู่ในความเงียบงันอีกครั้ง คู่ดวงตาของญาธิดาหรี่ลงเล็กน้อย ปลายนิ้วของเธอค่อยๆ กำแน่นขึ้น